บทที่ 38 เป็นสาวใช้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
บทที่ 38
เป็นสาวใช้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
เมื่อนึกว่ามีผู้หญิงที่จูบผู้ชายไม่เลือกหน้าเช่นนี้แล้ว ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ
แล้วเยี่ยเหลียงเฉินก็ตกตะลึง “เอ๋? นางจูบท่านเหรอ?”
การตอบสนองของหรงสวินนั้นผิดปกติมาก ทำให้ เยี่ยเหลียงเฉินรู้สึกสงสัยขึ้นมา
หรงสวินก็ได้กล่าว “เหลวไหล!” ด้วยเสียงอันดังซึ่งดูแล้วผิดปกติมาก หลังจากที่สงบใจลงได้เขาก็ได้กล่าว “มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ถ้านางกล้าทำข้าจะฉีกปากนาง”
ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง เซียวหลีก็ได้จามออกมาและคิดว่าคงมีคนที่กำลังคิดถึงนางอยู่อย่างมีความสุข
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้อย่างสงสัยอยู่ดี “ผู้หญิงคนนี้แย่จริงๆแม้กระทั่งลูกชายของนางก็แย่”
หรงสวินนั้นอยากที่จะเปิดหัวของเยี่ยเหลียงเฉินออกดูและอยากที่จะรู้ว่าเขานั้นอยากที่จะพูดอะไรกันแน่ “เจ้านี้ชักจะว้าวุ่นมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ”
“นายท่านต้องระวังตัวให้ดีนะขอรับ เซียวเป่าเอ๋อนั้นกำลังหาสามีให้เซียวหลีอยู่ และเซียวหลีเองก็กำลังมองหาพ่อรวยๆให้เซียวเป่าเอ๋อด้วยเหมือนกันนะขอรับ” เยี่ยเหลียงเฉินที่ไม่อยากจะปั่นป่วนในท้องไปมากกว่านี้แล้วจึงได้พูดออกไปตรงๆ
เมื่อหรงสวินได้ยินเข้า เขาก็ได้รู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆแล้วพูดอย่างดูถูก “เงื่อนไขของนางอยากที่หาผู้ชายรวยๆงั้นเหรอ? ตำหนักของข้ากำลังขาดสาวใช้พอดีเสียด้วยสิ”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้มีสีหน้ามืดดำขึ้นมาแล้วกล่าว “นายท่าน....จากนิสัยของเซียวหลีแล้ว นางคงไม่ยอมที่จะสาวใช้ให้ท่านแน่ๆ”
ในหลายวันมานี้เยี่ยเหลียงเฉินนั้นพบว่าเซียวหลีนั้นไม่ใช่คนธรรมดา นางนั้นรักเงินมากแต่ก็พร้อมที่จะใช้หมดไปทันที นางนั้นดูเหมือนจะเป็นพวกนอกรีตและมีความคิดเป็นของตัวเอง
แล้วเขาก็พบว่านายท่านของเขานั้นปฏิบัติกับเซียวหลีต่างออกไปเขานั้น จึงได้แต่หวังว่าจะไม่ถูกหลอกโดยแม่ลูกสองคนนั้น ปลอดภัยดีกว่าเสียใจทีหลัง เพื่อว่านายท่านของเขาจะตาบอด....
เฮ้อ สุดที่จะพรรณนา สุดที่จะพรรณนาจริงๆ.....
อย่างไรก็ดีชายโสดให้หญิงหม้ายมาบีบนวดให้ทุกคืนเช่นนี้ ต่อให้รับเป็นอนุชายา ตัวตนของนางในตำหนักของหรงสวินนั้นอาจทำเกิดการครหาขึ้นได้ การป้องกันเอาไว้ก่อนนั้นเป็นเรื่องที่สมควรทำนัก
“เจ้าว่าอย่างไร? อย่างนางน่ะเหรอ? ไม่คู่ควรเลยแม้แต่น้อย”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้พูดย้ำ “นายท่าน เป็นเพราะนายท่านมีบรรยากาศของชนชั้นสูงทั้งสองคนนั้นจึงไม่กล้าที่จะอาจเอื้อม ในวันนี้เซียวเป่าเอ๋อจึงได้ถามข้าว่าข้านั้นอยากที่จะแต่งงานกับแม่ของเขาหรือไม่ มันทำให้ข้ารู้สึกกลัว....”
“ทำไมเขาถึงชอบเจ้า?” หรงสวินนั้นตกใจ มีผู้คนมากมายบนแผ่นดินนี้ที่มีรูปโฉมเทียบกับเขาไม่ได้เลย? แต่ทำไมเขาถึงได้แพ้เยี่ยเหลียงเฉินที่เป็นชายผิวคล้ำร่างใหญ่ได้?
ไม่สิ ผิวคล้ำนั้นเป็นสีที่ทำให้ดูเข้มและยังคงไว้ซึ่งความงามอีกด้วย “ต่อจากนี้ไปข้าไม่อนุญาตให้เจ้าสวมชุดสีสว่างแล้ว
“อะไรนะขอรับ?” เยี่ยเหลียงเฉินตกตะลึง
“สีดำเหมาะสมกับเจ้า” สีดำนั้นจะทำให้เยี่ยเหลียงเฉินดูมืดมนมากขึ้นไปอีก
เซียวเป่าเอ๋อมีสายตามองคนหรือเปล่าเนี่ย? ไม่ว่าจะทั้งความแข็งแกร่งหรือภาพลักษณ์ ตัวเขานั้นล้วนแล้วแต่เหนือกว่าเยี่ยเหลียงเฉินอย่างชัดเจนแท้ๆ
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้รู้สึกพูดอะไรไม่ออก “นายท่านเปลี่ยนไปจริงๆนะขอรับ”
“ออกไปได้แล้ว!” หรงสวินกล่าวอย่างโมโห “ไปตามนางมาให้ข้าได้แล้ว แล้วหลังจากนั้นข้าขอสั่งให้เจ้าไปนอนสำนึกความผิดเสีย”
เยี่ยเหลียงเฉิงก็ได้รู้สึกงุนงงขึ้นมาในใจของเขา เขาได้ทำอะไรผิดไปล่วงเกินอะไรนายท่านกันแน่นะ? แต่ตอนนี้เขาต้องทำตามคำสั่งก่อน
ที่บ้านเก่าๆ ห้องนอนของเซียวหลี
“อู๊ย...ตรงนี้....ตรงนี้....”
หลังจากที่ทานมื้อค่ำเสร็จ เซียวหลีก็ได้รู้สึกปวดไปทั้งมือ, เท้าและสะโพกของนาง เซียวเป่าเอ๋อจึงได้วางตำราพิชัยยุทธ์ลงแล้วไปนวดให้นาง
เซียวหลีก็ได้พูดอย่างมีความสุข “ลูกชายข้าช่างกตัญญูจริงๆ เมื่อคิดว่าพอเขาโตขึ้นมา เขาก็จะไปหาภรรยาสวยๆแล้วคอยเอาอกเอาใจผู้หญิงคนอื่นแล้ว แม่แก่ๆคนนี้ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเป่าเอ๋อก็จะไม่หาภรรยาในอนาคต”
“เจ้าจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?” แม่ของเจ้าน่ะจะอยู่กับเจ้าไปได้อย่างมากก็แค่ครึ่งชีวิตของเจ้าเท่านั้น แล้วลูกของเจ้าก็จะแต่งงานแล้วก็ออกไปไกลจากสายตาของเจ้าเช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีแต่ภรรยาของเจ้าเท่านั้นที่จะคอยอยู่เคียงข้างเจ้าไปจนแก่เฒ่า ดังนั้นเมื่อเจ้าโตขึ้นมาเจ้าห้ามมีภรรยาสามอนุสี่นะรู้ไหม? เพราะมันจะไปทำร้ายจิตใจของภรรยาและลูกของเจ้าเอง
แต่แม่น่ะจะให้ตัวเจ้าเองเป็นคนเลือกคนที่เจ้ารักและเป็นคู่ชีวิตของเจ้า ไม่ว่านางจะมีฐานะอะไรตราบเท่าที่พวกเจ้าต่างรักซึ่งกันและกัน แม่จะทำให้เจ้าเองสมหวังเอง นี่ก็เป็นความหมายของคู่กันไปตลอดชีวิตเช่นกัน”
เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ตกตะลึงไปชั่วขณะ “ท่านแม่ไม่กลัวว่าข้าจะแต่งงานกับผู้หญิงที่สวยกว่าท่านแม่อย่างนั้นเหรอ?”
เซียวหลีก็ได้จ้องไปที่เขาแล้วกล่าว “ไม้ผุนี่แกะสลักยากจริงๆ เอาเป็นว่าเจ้ายังเล็กนัก เอาไว้เราค่อยพูดเรื่องนี้ทีหลังละกัน”
เซียวหลีนั้นคิดว่าเมื่อลูกชายของนางโตขึ้นมากกว่านี้ นางจะต้องรีบหาเงินมาซ่อมบ้านแล้วให้เขานอนแยกกันได้แล้ว
“ข้าจะเชื่อท่านแม่ขอรับ” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ยิ้มอย่างร่าเริงและมือเล็กๆของเขาก็ได้ทุบไปที่หลังของเซียวหลีเบาๆ
ที่หน้าประตู เยี่ยเหลียงเฉินนั้นได้ฟังบทสนทนาของสองแม่ลูกเมื่อสักครู่แล้ว เขาก็ได้รู้สึกชื่นชมเซียวหลีถึงวิสัยทัศน์ของนาง และก่อนที่เขาจะรู้ตัวเขาก็มองเซียวหลีสูงขึ้นมาในใจของเขา
ก๊อกๆๆ......
“แม่นางเซียวนายท่านได้เชิญแม่นางให้ไปพบ” อย่างไรนางก็ยังไม่ได้แต่งงาน เขาจึงจำต้องเรียกนางเช่นนี้
“วันนี้ข้าไม่ไปไม่ได้เหรอ?”
เซียวหลีนั้นรู้สึกง่วงและเหนื่อย อีกทั้งยังปวดเอวปวดขาไปหมด นางจึงอยากที่พักผ่อน
เยี่ยเหลียงเฉินนั้นรู้ว่าหรงสวินนั้นกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี ถ้าหากในเวลานี้นางไม่ไป เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นบ้างแล้วมันก็จะมาส่งผลกับเขาภายหลัง “ไม่ได้”
“มันไม่จำเป็นต้องตรวจรักษาทุกวันก็ได้น่า”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้สะอึกกับคำพูดของเซียวหลี จากเมื่อสักครู่ที่เขามองเซียวหลีดีขึ้นมาแล้ว ก็ได้ถูกตบตกกลับลงไปเหมือนเดิมแล้ว
หยาบคาย, ไร้ความอดทน, และยังดื้อรั้นอีกต่างหาก
เซียวหลีก็ได้รู้สึกไม่พอใจ เมื่อนางนึกถึงใบหน้าของชายเลือดเย็นคนนั้นขึ้นมา นางก็ได้ลุกจากเตียงแล้วแต่งตัวอย่างกระตือรือร้นราวกับฉีดเลือดไก่เข้าไป
“ถ้าหากเจ้ากลัว จะไปนอนกับท่านยายก็ได้นะลูก”
“เป่าเอ๋อไม่กลัวหรอกขอรับ ท่านยายก็นอนไปแล้วด้วย ข้าไม่รบกวนท่านยายหรอกขอรับ”
เซียวหลีก็ได้หยิกแก้มน้อยๆของเขาแล้วกล่าว “เด็กดี”
“ท่านแม่ ข้าพูดจริงๆนะข้าน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว” ถึง เซียวเป่าเอ๋อนั้นจะชอบที่เซียวหลีนั้นคอยโอ๋เขา แต่มันก็ยังมีเสียงในใจที่คอยเตือนเขาว่าตัวเขาจะต้องทะนงตนและไม่ทำอะไรอ่อนแอ
“ก็ได้ ผู้ใหญ่ตัวน้อย” นางกล่าวแล้วก็จูบไปที่แก้มของเขา “เนื้อน้อยๆของเจ้าที่ช่างน่าอร่อยจริงๆ”
เซียวเป่าเอ๋อก็ได้เอามือปิดปากของเขาแล้วมองด้วยรังเกียจ แต่ในใจของเขาก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา
บ้านของเซียวเยี่ยน ห้องของหรงสวิน
เซียวหลีที่มาถึงก็ได้ม้วนแขนเสื้ออย่างชำนาญ แล้วจากนั้นก็ได้ลงมือนวดตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเอาเข็มเงินออกมาเตรียมฝัง แต่ก็ถูกเขาคว้าข้อมือของนางเอาไว้
“ท่านคิดที่จะทำอะไรน่ะ?” เซียวหลีถามอย่างเฉื่อยชา “นี่พ่อคนเลือดเย็น ท่านไม่เห็นหรือไงว่าตอนนี้ข้าง่วงมากน่ะ?”
แน่นอนว่าหรงสวินนั้นเห็นอย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังตั้งใจทำเช่นนี้ “วันนี้เจ้าทำลวกๆมาก ข้ายังปวดตรงนี้และหัวของข้าก็ยังวิงเวียนอยู่เลย”
“ท่านลุง ท่านน่ะง่วงนอนแล้วและร่างกายของท่านก็ต้องการพักผ่อน รีบๆทำให้เสร็จแล้วก็แยกย้ายไปนอนกันเถอะ” เซียวหลีกล่าวแล้วก็ดึงเอากางเกงของเขาลงมา แต่หรงสวิน ปฏิเสธ
“ท่านนี่ช่างเรื่องมากเสียจริง” ถึงเซียวหลีนั้นจะรักเงินเยี่ยงชีวิต แต่เงินก็ยังไม่สำคัญเท่าชีวิตอยู่ดี นางจึงได้ลุกขึ้นยืนและเตรียมจากไป
“ตำลึงทอง....”
หรงสวินนั้นเหมือนกับลิง ที่หยิบเอาตำลึงทองออกมาโยนเล่นแล้วจากนั้นก็เก็บกลับไป “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต้องการสามีรวยๆงั้นเหรอ?” เขานั้นต้องการจะหยอกนาง แต่เขาก็รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ถึงได้อยากที่จะแกล้งนางขึ้นมา
เมื่อเห็นเงินเซียวหลีก็ได้ก้าวขาไม่ออก อย่างไรก็ดีชีวิตของนางในเวลานี้ถึงยังปลอดภัยอยู่ แต่นางก็ยังขาดเงินมากมายอยู่ ถ้าหากไม่มีเงินมากๆแล้วล่ะก็นางคงไม่มีหนทางเอาตัวรอดได้แน่
“เยี่ยเหลียงเฉินบอกเหรอ?” เซียวหลีนั้นแทบไม่ต้องคิดเลยว่าเขานั้นได้ยินมาจากใคร
หรงสวินไม่ตอบแต่ทำสีหน้านิ่งเฉย
“ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นสาวใช้ข้างห้องได้นะ อย่างไรเสียเจ้าก็มีลูกแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเป็นภรรยาข้า จะให้เป็นอนุภรรยาเจ้าก็สวยไม่พออีก....เอาเป็นว่าได้เป็นสาวใช้ข้างห้องก็ดีถมถืดแล้ว”
“พูดอะไรเหลวไหลออกมาน่ะ? สายตาของท่านคิดว่าข้าเป็นได้แค่สาวใช้หรือยังไง? ข้าจะบอกให้ยังมีผู้ชายอีกมากที่ชอบข้า เจ้าน่ะควรจะลืมตาแล้วมองมาที่ดวงตาที่กลมโตของข้าและผิวที่ขาว....เอาเถอะ ถึงข้าจะผอมบางไปหน่อย แต่เมื่อใดที่ขาวและมีน้ำมีนวลขึ้นมาแล้ว คงได้หัวกระไดไม่แห้งแน่นอน”
หรงสวินก็ได้ตกตะลึงแล้วเมื่อมองดูนางใกล้ๆแล้วเขาก็ได้พลันหัวเราะออกมา “คนโง่อย่างเจ้าก็ฝันเป็นด้วย”
“ท่านหัวเราะแล้วนี่? ขอบคุณสำหรับรางวัลนะเจ้าคะ!” เซียวหลีก็ได้หยิบเอาตำลึงทองในมือของเขามา “เจ้าสิ่งนี้จะได้ถูกใช้เป็นค่าใช้จ่ายดำรงชีพ”