บทที่ 35 ก็แค่การสืบทอดทายาท
บทที่ 35
ก็แค่การสืบทอดทายาท
“คิดจะหนีเหรอ?”
“พี่ชาย ฉีกปากของนังนั่นแล้วทำให้เสียโฉมเสีย” เซียวอิงอิงก็ได้รีบตะโกนออกมา ถึงแม้ว่าเซียวหลีนั้นจะตัวผอมบาง แต่นางยังก็สวยงามอยู่ ไม่อย่างนั้นเซียวเหวินไฉคงไม่หมกมุ่นอยู่กับการแต่งงานกับนางแน่?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็รู้สึกเหมือนอกหักและอยากจะฆ่าเซียวหลีขึ้นมา
เซียงจิ้งถิงเองก็คิดที่จะฆ่านางเพื่อชดใช้ให้กับงานที่เสียไปของเขา แต่จะเล่นสนุกกับมันสักหน่อยก็คงไม่เป็นอะไร เขาจึงได้กำหมัดแน่นแล้วซัดเข้าไปที่หน้าของเซียวหลี
มีหรือที่เซียวหลีจะยอมแพ้ง่ายๆ นางก็ได้หมุนตัวเตะกลับหลังเพื่อปัดมือของเซียวจิ้งถิง แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของนางนั้นอ่อนแอเกินไปและการเคลื่อนไหวก็ช้าลงไปด้วย เซียวจิ้งถิงจึงได้อาศัยจุดบอดแล้วคว้าเอาขาของนางเอาไว้ ทำให้ทั้งตัวของนางห้อยต่องแต่งราวกับลูกหมาตัวน้อยๆ
“พี่ชาย ขว้างนางออกไปเลย” เซียวอิงอิงนั้นกำลังตื่นเต้นมาก นางคิดเช่นไรในใจก็ได้ตะโกนออกไปเช่นนั้น
“ให้ข้าลองขว้างแม่นางออกไปบ้างดีไหม?” มีเสียงที่ดังลั่นตัดผ่านฟ้าขึ้นมา เยี่ยเหลียงเฉินได้พุ่งตัวมาแล้วยกตัวเซียงอิงอิงลอยขึ้นมาทันที
“โอ๊ย พี่ชายช่วยข้าด้วย...”
“อิงอิง....”
เซียวจิ้งถิงก็ได้หยุดและยกเซียวหลีไว้เหนือหัวของเขาเช่นกัน “เจ้าเป็นใคร? วางน้องสาวของข้าลงเดี๋ยวนี้”
“เจ้าต่างหากที่ต้องปล่อยแม่ของข้าลงก่อน” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ตะโกนอยู่ไม่ไกล เขานั้นไม่นึกว่าเยี่ยเหลียงเฉินนั้นกำลังให้ม้าเล็มหญ้าอยู่ใกล้ๆนี่พอดี ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้
ในเวลานี้เซียวอิงอิงกำลังหวาดกลัวจนใบหน้าซีดเผือดและตะโกนเรียกเซียวจิ้งถิงให้ช่วยนาง
มองไปที่เซียวอิงอิงที่กำลังร้องไห้เหมือนดอกสาลี่ต้องหยาดฝนแล้ว เซียวเป่าเอ๋อก็ไม่ลืมที่จะไว้หน้านางบ้างแล้วตบมือและตะโกน “ว้าว ท่านลุงเยี่ยสุดยอดไปเลย”
“ข้าก็แค่เล่นกับน้องหลีของข้าเท่านั้นเอง ขอท่านอย่าได้จริงจังมากนักเลย” เซียวจิ้งถิงนั้นเป็นประเภทที่ทนไม่ได้หากมีทรายมาเข้าตาของเขา เขานั้นเกลียดการถูกข่มขู่โดยผู้อื่นมาก โดยเฉพาะใช้เซียวอิงอิงมาขู่เขา
ในเวลานี้เซียวอิงอิงนั้นกำลังเป็นที่สนใจของทั้งครอบครัว จะปล่อยให้มีอะไรผิดพลาดไม่ได้
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้ยิ้มออกมาและเป็นรอยยิ้มที่สนุกสนานด้วย “ข้าเองก็เล่นกับแม่นางคนนี้ด้วยเช่นกัน”
“ถ้าเช่นกันเราก็ไม่ปล่อยพวกนางลงพร้อมกันเถอะ” เซียวจิ้งถิงเสนอ
“ก็ดี”
ต่างคนต่างก็จ้องมองกัน แล้วทั้งคู่ก็ได้ค่อยๆปล่อยตัวประกันลงพร้อมๆกัน
เมื่อเซียวหลีได้โอกาส นางก็ได้กลับตัวและลงมือยืนอย่างนุ่มนวล ส่วนเซียวจิ้งถิงนั้นกลัวว่าเยี่ยเหลียงเฉินนั้นจะเล่นตุกติก เขาจึงได้รีบพุ่งเข้าไปหาเยี่ยเหลียงเฉินและปะทะกันทันที แล้วทั้งสองหมัดก็ได้ปะทะกัน แต่ทว่าหลังจากที่ผ่านไปได้สองกระบวน เซียวจิ้งถิงก็เริ่มเสียเปรียบ
ส่วนเยี่ยเหลียงเฉินนั้นไม่ต้องการที่จะผิดคำพูด เขาจึงได้ใช้โอกาสนี้ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการและถอยห่างออกมา
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ข้าไม่เป็นไร”
เซียวอิงอิงก็ได้ตอบอย่างสั่นๆ หลังจากที่ตั้งสติได้นางก็ได้มองไปที่รูปโฉมของเยี่ยเหลียงเฉินอย่างชัดเจน
เป็นคิ้วที่งดงามมากแต่เพราะรอยแผลเป็นที่คิ้วซ้ายทำให้ลดความงดงามของมันลงไปเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี”
“ท่านคงจะมีความสัมพันธ์อันดีกับนางสินะ” เซียวจิ้งถิงก็ได้จ้องไปที่เยี่ยเหลียงเฉิน ไม่แปลกใจเลยที่จนป่านนี้ครอบครัวของเขาก็ยังไม่หายดี
เยี่ยเหลียงเฉินนั้นคิดที่จะอธิบาย แต่ใครจะรู้จู่ๆเซียวหลีก็หัวเราะขึ้นมา “ขอบคุณพี่จิ้งถิงด้วยสำหรับคำชม”
“เจ้านี่ช่างไร้ยางอายจริงๆ” เซียงอิงอิงก็ได้หน้าแดงและหัวใจเต้นเร็ว นางนั้นไม่รู้จริงๆว่าจู่ๆเซียวหลีนั้นไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน แม้แต่เยี่ยเหลียงเฉินเองก็ยังต้องหน้าแดงถึงหูเพราะคำพูดของเซียวหลี
“เจ้าไม่กลัวโดนจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำบ้างรึยังไง?”
“จับใส่กรงหมูถ่วงน้ำ? ทำไม?” เซียวหลีก็ได้มองไปที่เซียวอิงอิงไปตรงๆ “เจ้ามีหลักฐานงั้นเหรอ?”
“ก็เจ้าพูดออกมาเองเมื่อกี้”
“แล้วเจ้าบันทึกเอาไว้เหรอ?”
เซียวอิงอิงก็ได้มีสีหน้างุนงง แต่เซียวหลีกลับยิ้มอย่างใจเย็น “อย่างที่มีคนว่าเอาไว้หากคิดที่จะจับโจรก็ต้องจับของกลางให้ได้ หากคิดที่จะจับว่ามีชู้ก็ต้องจับชู้มาให้ได้” แล้วนางก็ได้เอนตัวของนางไปที่ไหล่ของเยี่ยเหลียงเฉินแล้วกล่าว “พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เจ้าไม่เชื่อข้าเหรอ?”
นางกะพริบดวงตากลมโตของนางซึ่งดูแล้วงดงามมาก ทำให้เยี่ยเหลียงเฉินคิดที่จะผลักนางออกไป แต่นางก็กอดเขาไว้แน่นมากทำให้ไม่สามารถผลักนางออกไปได้เลย
“นังหน้าด้าน!” เซียวอิงอิงนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าปากของเซียวหลีนั้นจะจัดขนาดนี้ และนางก็ไม่รู้ว่าด้วยว่าเซียวหลีจะเป็นคนที่ยั่วยวนอย่างนี้ โดยเฉพาะการแนบตัวเข้าหาไหล่ของผู้ชายกลางวันแสกๆเช่นนี้
“ไอ้กฎหมู่บ้านเก่าแก่คร่ำครึอย่างการขังในกรงหมูแล้วถ่วงน้ำเนี่ยมันสมควรที่จะโละทิ้งไปตั้งนานแล้ว แล้วผู้ชายกับผู้หญิงที่มีความรักก็สมควรที่จะได้รักกับคนที่ตัวเองรัก ตราบเท่าที่ทั้งสองคนรักซึ่งกันและกันจริงๆทำไมถึงจะรักกันไม่ได้ แล้วยิ่งไอ้ภรรยาสามอนุสี่น่ะสมควรที่จะยกเลิกมาก”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปาก เซียวอิงอิง, เยี่ยเหลียงเฉินและเซียวเป่าเอ๋อต้องตกตะลึง
“เจ้า....เจ้าเป็นบ้าไปแล้ว ผู้ชายมีภรรยาสามอนุสี่นั้นมันเป็น...มันเป็น....ศีลธรรมที่ปฏิบัติกันมาอย่างเคร่งครัดนะ”
“ศีลธรรมอย่างเคร่งครัดงั้นเหรอ? ดังนั้นเจ้าต้องการที่จะเอาใจช่วยให้คนอื่นมาเป็นอนุภรรยาได้งั้นเหรอ?” เซียวหลีก็ได้ถามกลับไป “ภรรยาสามอนุสี่น่ะมันก็แค่การแสดงออกถึงความสามารถและอำนาจเงินของพวกผู้ชายเท่านั้น มันก็แค่ความใคร่ความหลงใหลและการสืบทอดทายาทเท่านั้นไม่ใช่รึไง?”
เซียวอิงอิงก็ได้รู้สึกอับอายกับคำพูดของเซียวหลีและไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ
เซียวหลีก็ได้ยิ้มและมองไปที่เยี่ยเหลียงเฉิน แต่ เยี่ยเหลียงเฉินก็อับอายเกินกว่าจะมองหน้านาง แต่เซียวจิ้งถิง กลับยิ้มออกมาอย่างสนใจ
“คำพูดนี้มันก็จริงอยู่” เซียวต้าหลี่ก็ได้พูดขึ้นมาหลังจากที่ลืมความเจ็บปวดไปได้
เซียวหลีก็ได้หันหน้ามาแล้วยิ้มให้กับเขา แต่เซียวต้าหลี่ก็กลัวจนต้องหุบปากอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนนี้มีมีดอยู่ในรอยยิ้ม อย่างที่คนว่าเอาไว้ใจผู้หญิงนั้นเปรียบเหมือนเข็มที่อยู่ที่ก้นสมุทรจริงๆ ช่างน่ากลัวมาก
“ความรักที่แท้จริงน่ะควรจะมีแค่คนคนเดียวไปตลอดทั้งชีวิต แม้ยามผมขาวก็จะไม่แยกจากกันด้วย” เซียวหลีกล่าวแล้วก็ลูบหัวน้อยๆของเซียวเป่าเอ๋อ นางกล่าวเช่นนี้ก็เพื่อเซียวเป่าเอ๋อ
“อาหลี เจ้าไม่ใช่อาหลี”
เซียวหลีก็ได้มองไปที่เซียวจิ้งถิงแล้วยักคิ้วขึ้นมาแล้วถาม “แล้วเจ้าคิดว่าข้าเป็นใครล่ะ?”
เซียวจิ้งถิงไม่อาจตอบคำถามนี้ได้ เขาจึงได้จูงมือ เซียวอิงอิงและคว้าเอาเซียวต้าหลี่ที่กองอยู่ที่พื้นกลับไปด้วย
เมื่อทั้งสามคนจากไป เซียวเป่าเอ๋อก็ได้จับมือของ เซียวหลีแล้วถาม “มีคู่ชีวิตเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต นี่ท่านแม่คิดจะหาพ่อให้เป่าเอ๋อจริงๆเหรอขอรับ?”
เซียวหลีก็ได้ทำเสียงอื้มไปโดยไม่ได้คิดอะไร
เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ตื่นเต้นขึ้นมาแล้วเขาก็ได้มองไปที่ เยี่ยเหลียงเฉิง เขาเองก็ไม่เลว มีวรยุทธ์ที่สุดยอดแล้วยังหน้าตาดีอีก เป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยทีเดียว
“เมื่อสักครู่ท่านแม่บอกว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับลุงเยี่ย ก็หมายความว่าจะเป็นคู่ชีวิตของลุงเยี่ยไปตลอดชีวิต? ท่านแม่จะให้ท่านลุงเยี่ยเป็นพ่อของเป่าเอ๋อใช่ไหมขอรับ?”
“พุ่ฟ....”
เยี่ยเหลียงเฉินกับเซียวหลีก็ได้ชะงักแทบจะพร้อมกัน
“เป่าเอ๋อ แม่น่ะเป็นผู้หญิงนะ ต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวอย่าได้ทำตัวเหมือนโจร บอกว่าคนนี้เป็นพ่อคนนั้นเป็นพ่อ ทีหลังอย่าได้พูดเช่นนี้อีกนะรู้ไหม?” เซียวหลีก็ได้สั่งสอนเซียวเป่าเอ๋อ “ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าก็น่าจะรู้ดี คนมีฐานะอย่างท่านลุงเยี่ยน่ะ คงจะมีภรรยาสามอนุสี่อยู่แล้ว ถ้าเกิดแม่แต่งงานกับเขาก็ต้องมารบรากับคนอื่นตลอดทั้งวัน แม่จะเอาเวลาที่ไหนมาคอยดูแลเป่าเอ๋อ?”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้พลันมีใบหน้ามืดดำขึ้นมาทันที “ข้าไม่มีภรรยาสามอนุสี่หรอกนะ” ตัวเขานั้นยังรู้สึกอาย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไร้ยางอายอย่างสุดๆ อย่างที่คิดแม้แต่เขาเองก็ไม่รู้จะสนิทสนมกับนางอย่างไรดี นางเป็นคนที่แปลกประหลาดมากไปแล้ว
“ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าไม่มีภรรยาสามอนุสี่ล่ะขอรับ เป่าเอ๋อคิดว่าท่านลุงเยี่ยก็เป็นคนดีด้วยนะขอรับ”
“อืม แม่ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันนะ”
“หรือแม่ตัดสินใจที่จะแต่งกับท่านลุงเยี่ยแล้ว?”
เซียวหลีก็ได้ส่ายหัวแล้วชี้ไปที่เยี่ยเหลียงเฉินแล้วกล่าว “เจ้าจะต้องถามท่านลุงเยี่ยก่อนนะว่าเขาอยากที่จะแต่งงานกับแม่ไหม?”
เซียวเป่าเอ๋อก็ได้มองไปที่เยี่ยเหลียงเฉินในทันที และถามอย่างจริงจัง “ท่านลุงเยี่ยยังไม่แต่งงานจริงรึเปล่าขอรับ? ถ้าหากว่ายังไม่มีแม้คู่หมั้น ท่านไม่สนใจที่จะแต่งกับแม่ของข้าบ้างเหรอขอรับ แต่งหนึ่งแถมข้าฟรีอีกหนึ่งเลยนะ?”