บทที่ 31 ที่แท้เซียวหลีก็ช่วยคนนี่เอง
บทที่ 31
ที่แท้เซียวหลีก็ช่วยคนนี่เอง
“สวรรค์!”
แล้วผู้คนก็ได้พากันฮือฮาขึ้นมาทันที เซียวหลีเป็นนังร่านที่ทำบัดสีกลางแจ้งเช่นนี้เลยเหรอ?
“ดึงนางออกมา....” นางหยางก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ มีบางคนในฝูงคนที่จะที่พร้อมจะลงมือ แต่ดวงตาที่หนาวเย็นของเซียวหลีก็ได้กวาดสายตามาแล้วคำราม “ถอยออกไป!”
และผู้คนในหมู่บ้านก็ได้พากันนึกถึงเซียวต้าโหย่วและเซียวต้าฟู่ที่เข้าไปทำร้ายเซียวหลีในวันนั้นต้องบาดเจ็บกันหมด จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่ลุกจากเตียงเลย พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไป
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครที่อาสาจะช่วยลูกของนาง นางหยางก็ได้ลุกขึ้นมาลงมือด้วยตัวเอง แต่เซียวหลีก็ยังไม่ยอมหยุดผายปอดให้เอ้อหู่เลยไม่ว่านางจะถูกทำร้ายหรือฉีกกระชากยังไงก็ตาม
เซียวชื่อหลินก็ได้ปลุกผู้ใหญ่บ้านให้ฟื้นขึ้นมา เมื่อผู้ใหญ่บ้านฟื้นแล้วเขาก็เห็นนางหยางที่กำลังดึงกระชาก เซียวหลีหยู่ และเซียวหลีที่กำลังจูบเอ้อหู่จื่อ หลังจากที่จูบเสร็จก็ได้ไปบีบหน้าอกของเอ้อหู่ต่อ
“หยุดนะ หยุด....” ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ตกใจและตะโกนออกมาเพื่อที่จะดุและแยกย้ายออกมา แต่เซียวชื่อหลินก็ได้ห้ามเขาไว้เสียก่อน “เดี๋ยวก่อนผู้ใหญ่บ้าน บางทีเอ้อหู่อาจจะยังช่วยได้ก็ได้”
เซียวชื่อหลินนั้นไม่รู้ว่าทำไม แต่อย่างไรก็ดีเขาคิดว่าการกระทำของเซียวหลีนั้นมันดูแปลกๆก็จริง แต่เขาก็คิดว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้อย่างบอกไม่ถูก
ในเวลานี้เอง ที่เอ้อหู่ก็ได้สำลักเอาน้ำออกมาเต็มปาก แล้วทุกคนที่เห็นเอ้อหู่ต่างก็พากันขมวดคิ้ว
“ขยับ? เมื่อกี้เขาขยับใช่ไหม?”
“ดูเหมือนจะขยับจริงๆด้วย”
นางหยางที่อยู่ข้างๆเซียวหลีนั้นก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว นางเองก็คิ้วขมวดเมื่อเห็นเอ้อหู่สำลักน้ำออกมา
“เอ้อหู่ ลูกแม่....” นางหยางก็ได้ตะโกนและคิดที่จะไปอุ้มเขา แต่เซียวหลีก็ได้ห้ามเอาไว้ “ถ้าเจ้ายังอยากที่จะให้ลูกชายตัวเองรอด ก็อย่าได้มาขวางข้าเวลาช่วยคน”
ตอนแรกนางหยางนั้นอยากที่จะหั่นเซียวหลีออกเป็น 5 ส่วน แต่พอนางเห็นเอ้อหู่ขยับได้ นางก็ได้ถอยห่างออกจาก เซียวหลี แล้วในเวลานี้เองที่เซียวหลีก็ได้จับขาของเอ้อหู่ยกขึ้นมาแล้วนำมาพาดไว้ที่หลังของนางแล้วเขย่าตัว แล้วผู้คนก็ได้พากันถอยออกห่างจากนางทันที ทุกคนต่างก็กลัวว่าจะไปขวางทางนางเข้าและทำให้การช่วยชีวิตเอ้อหู่ต้องล่าช้าออกไป
“แค่ก....แค่ก....” แล้วคนที่อยู่ข้างหลังเซียวหลีก็ได้ไอออกมาและสำลักเอาน้ำจำนวนมากออกมา เซียวหลีจึงได้วาง เอ้อหู่ไว้กับพื้นหญ้า
“เป็นอย่างไรบ้างเอ้อหู่?” เซียวหลีก็ได้ถาม ส่วนเอ้อหู่ก็ได้เปิดปากออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกเจ็บคอมาก
“ลูกแม่....”
“เอ้อหู่จือ....”
“พี่....”
นางหยาง, ผู้ใหญ่บ้านและหลานฮวาต่างก็พากันวิ่งมาหาเอ้อหู่จือ
“ท่านแม่.....” เอ้อหู่นั้นอยากที่จะเรียกท่านปู่และ หลานฮวาด้วย แต่คอของเขานั้นเจ็บเกินกว่าจะพูดออกไปได้
“รอดแล้ว....”
“สวรรค์ รอดจริงๆด้วย ที่แท้เซียวหลีก็ช่วยคนนี่เอง”
“ใช่ พวกเราเข้าใจนางผิดไปจริงๆ”
“เข้าใจผิด? เข้าใจผิดอะไรกัน? ถ้าลูกชายข้าไม่ได้ถูกเรียกออกมาโดยเซียวเป่าเอ๋อ เขาก็คงไม่ต้องโชคร้ายและเกือบตายเช่นนี้หรอก?” นางหยางที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นก็ได้แสดงความไม่พอใจทั้งหมดไปยังเซียวหลีและเซียวเป่าเอ๋อ
เมื่อเห็นเอ้อหู่ฟื้นขึ้นมา เซียวเป่าก็ได้ถือโอกาสนี้เดินไปหาเซียวหลีและกอดต้นขาของนางแน่น เขานั้นรู้ตัวว่าตัวเขาได้ก่อปัญหาให้กับที่บ้านอีกแล้ว
เซียวหลีก็ได้ตบไหล่ปลอบเซียวเป่าเอ๋อเบาๆ แล้วพาเซียวเป่าเอ๋อเดินจากไป
เอ้อหู่ก็ได้มองดูแผ่นหลังของเซียวหลีและเซียวเป่าเอ๋อ ทำให้เขาทนไม่ไหวและฝืนพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด “ท่านแม่ ข้าเป็นคนชวนเซียวเป่าเอ๋อให้มาเล่นที่ริมแม่น้ำเอง แต่ต่อมา เซียวเหวินเจี๋ยกับพรรคพวกก็ได้โผล่มา พวกเขารุมรังแก เซียวเป่าเอ๋อ ข้าจึงได้เข้าไปสู้กับพวกเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าใครที่ผลักข้าลงน้ำ พวกเขาต่างพากันหนีไปหมดเหลือเพียงเซียวเป่าเอ๋อที่ไปตามคนมาช่วยข้า”
นางหยางก็ได้เช็ดน้ำตาของนางแล้วกล่าว “ลูกแม่หยุดพูด แม่รู้สึกแย่มากพอแล้ว ต่อจากนี้ไปก็อยู่ให้ห่างๆพวกตัวซวยเอาไว้”
ผู้ใหญ่บ้านเองก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาอย่างมาก โชคยังดีที่เอ้อหู่ถูกช่วยเอาไว้ได้ ซึ่งเขาเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเซียวหลีเลย เอ้อหู่เองก็พูดออกมาแล้วว่ามีคนที่ผลักเขาลงไป
แล้วเขาก็ได้มองหาเซียวเหวินเจี๋ย แต่กลับพบเด็กแค่ไม่กี่คนเท่านั้น เขาจึงได้ถามพวกเด็กที่ยังอยู่ที่นี่ “พวกเจ้ามีใครเห็นบ้างไหมว่า ใครเป็นคนที่ผลักเอ้อหู่จือลงน้ำ?”
“ในตอนนั้น นอกจากเซียวเป่าเอ๋อกับเอ้อหู่สองพี่น้องแล้ว ก็มีเพียงเซียวเหวินเจี๋ยกับเซียวเหวินหมิงสองพี่น้องอยู่ที่นั่นด้วย”
“ตอนนี้พวกเขาหนีกลับบ้านไปหมดแล้ว”
ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับหลานทั้งสองคนของบ้านเซียวต้าโหย่วเป็นแน่ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน
“เอ้าแยกย้ายกันได้แล้ว” ผู้ใหญ่บ้านก็ได้อุ้มเอ้อหู่แล้วรีบกลับบ้าน “ต่อจากนี้ก็อย่าได้มาเล่นที่ริมแม่น้ำอีกนะ”
เอ้อหู่ก็ได้ผงกหัวแล้วกล่าว “ท่านปู่อย่าโทษเป่าเอ๋อนะขอรับ”
“ปู่รู้”
นางหยางก็ได้เดินตามหลังไปและเช็ดน้ำตาของนาง เมื่อสักครู่นั้นนางนั้นตกใจมากแต่ตอนนี้นางใจเย็นลงขึ้นมาแล้ว ซึ่งทำให้นางรู้แจ้งว่าเซียวหลีนั้นทำเพื่อช่วยเอ้อหู่จริงๆ แต่นางก็ยังคงเชื่อและตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้เอ้อหู่กับหลานฮวามายุ่งกับเซียวเป่าเอ๋ออีก อย่างไรเสียครอบครัวของพวกนางนั้นเป็นตัวซวยซึ่งน่ากลัวมาก
จากที่ไกลๆ เยี่ยเหลียงเฉินที่กำลังเข็นรถให้หรงสวินอยู่นั้นก็ได้เข็นรถกลับ ซึ่งพวกเขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ช่วยชีวิตของเซียวหลีหมดแล้ว
“ช่างเป็นวิธีการปฐมพยาบาลที่แปลกประหลาดจริงๆ เซียวหลีนั้นมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาจริงด้วย” เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“ไม่เพียงแต่จะไม่ธรรมดาแล้ว แต่ยัง....” หรงสวินนั้นเดิมทีอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากกับการที่ผู้หญิงในแผ่นดินนี้จะแตะต้องใบหน้าของผู้ชายโดยไร้ซึ่งใบหน้าแดงและหัวใจเต้นแรง
ในขณะที่คิดเช่นนี้อยู่ หัวใจของหรงสวินก็ได้เต้นแรง โดยเฉพาะดวงตาที่เจ้าเล่ห์ของนาง เขาพยายามที่จะไม่นึกถึง แต่ภาพของนางที่ชื่นชอบเงินก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
แต่ทว่าแค่เพียงวิชาแพทย์ของผู้หญิงคนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าวิชาแพทย์ของนางนั้นไม่ธรรมดาอย่างที่ท่านหมอเฉียนคาดเอาไว้
“เจ้าบอกว่าเซียวเยี่ยนนั้นเป็นโสเภณีที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงอย่างนั้นเหรอ?” แม้หรงสวินนั้นจะไม่คิดที่จะสอบปากคำและตามสืบครอบครัวของเซียวหลี แต่ท่าทีของเซียวหลีนั้นก็ได้ทำให้เขาสงสัยอย่างมากอยู่ดี
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้กล่าว “ขอรับ ในปีเดียวกันกับที่นายท่านถูกเล่นงานอยู่นั้น เซียวหลีก็ได้เข้าไปในเมืองหลวงเพื่อไปรับเซียวเยี่ยน ที่โดนขับไล่ออกมาจากหอไป่ฮวา และเดินทางกลับมาที่นี่ขอรับ”
“5 ปีก่อนอย่างนั้นเหรอ....” หรงสวินก็ได้ครุ่นคิดถึงบทเรียนที่แสนเจ็บปวดและต้องจ่ายด้วยเลือด
“จากการตามสืบพบว่าเซียวเยี่ยนนั้นได้ถูกขายให้กับหอไป่ฮวาโดยเซียวหังพ่อของนางเองขอรับ” เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้กล่าวต่อ
“เสือที่ว่าร้ายก็ยังไม่ร้ายกับลูกตัวเองเลย คนคนนั้นช่างเลวร้ายจริงๆ แล้วตอนนี้คนคนนั้นยังอยู่หรือตายไปแล้ว?”
เยี่ยเหลียงเฉินที่รู้สึกได้ถึงปัญหาขึ้นมานิดหน่อยจึงได้รีบกล่าว “เรียนนายท่าน ตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่องนี้ขอรับ”
หรงสวินก็ได้ครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วกล่าว “ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไร”
เยี่ยเหลียงเฉินที่รู้สึกไม่สบายใจก็ได้กล่าวขึ้นมา “แต่ทว่าพี่ชายของท่านเหมือนจะเป็นลูกค้าประจำของเซียวเยี่ยนขอรับ เรื่องของพวกเขานั้นได้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในเวลานั้น”
หรงสวินก็ได้ยกมือขึ้นมา “ข่าวใหญ่? ถ้าเช่นนั้นทำไมพี่ใหญ่ถึงไม่ไถ่ตัวนางล่ะ? หรือมันจะเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้นางอยู่และตายในสถานที่เช่นนั้น? ไม่งั้นก็คงจะแค่ทำเป็นเล่นๆเหมือนทุกครา ไม่อย่างนั้นเซียวเยี่ยนก็คงไม่ต้องเป็นอย่างทุกวันนี้? พี่ชายของเขานั้นที่เป็นผู้ชายมากรักอยู่ตลอดนั้นจะชอบใครคนใดคนหนึ่งได้จริงๆงั้นเหรอ? มันรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่ ทำไมนางถึงได้ช่วยข้าไว้ในตอนแรก? ช่างเป็นการทำอะไรเกินควรจริงๆ”
“ที่นายท่านกล่าวนั้นถูกต้องแล้วขอรับ” เยี่ยเหลียงเฉินนั้นไม่ได้โต้แย้งใดๆ เพราะมันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ
ในคืนนั้นดวงดาวได้พากันสว่างไสว ในขณะที่พวกนางกำลังจัดเตรียมยกอาหารเย็นกันอยู่นั้น ผู้ใหญ่บ้านก็ได้เข้ามาข้างในอย่างช้าๆ
“โอ้ กำลังกินอาหารเย็นกันอยู่เหรอ? ดูเหมือนว่าข้าจะมาได้ถูกเวลาจริงๆ” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอย่างลำบากใจนิดหน่อย อย่างไรเสียจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เหมือนเป็นหายนะสำหรับเขาถ้าไม่ได้เซียวหลี
“ท่านปู่ทวด....” เซียวเป่าเอ๋อตกใจ เมื่อเขามองไปที่ด้านหลังก็พบแต่ผู้ใหญ่บ้านมาคนเดียว
“ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้าน เชิญนั่งลงก่อนเจ้าค่ะ พวกเรากำลังจะกินมื้อค่ำกันพอดี”
เซียวหลีก็ได้รีบนำชาม, ตะเกียบและเก้าอี้มาเพิ่ม ผู้ใหญ่บ้านก็ได้นั่งลงโดยไม่เกรงใจ “วันนี้ข้าช่างรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ มองดูอาหารอย่างดีบนโต๊ะแล้ว ข้าไม่นึกเลยว่าอาหลีจะมีฝีมือขนาดนี้” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวแล้วมองไปที่เยี่ยเหลียงเฉินกับหรงสวิน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวธรรมดาๆ แต่ก็ไม่อาจที่จะปิดบังบรรยากาศความเป็นชนชั้นสูงของพวกเขาได้
“อาหลี เจ้ายังมีแขกอยู่อีกรึ?” ผู้ใหญ่บ้านนั้นยังจำใบหน้าของผู้ชายคนที่เซียวหลีช่วยเอาไว้ได้
หรงสวินกับเยี่ยเหลียงเฉินก็ได้คำนับ “ข้าขอคารวะผู้อาวุโส”
ถึงแม้ว่าหลงสวินนั้นจะเป็นคนเย็นชา แต่เขาก็ยังให้ความเคารพและให้เกียรติผู้อาวุโส, คนอ่อนแอ, คนป่วยและคนพิการ แน่นอนว่าคนอ่อนแอนั้นไม่นับรวมเซียวหลีอยู่ด้วย
อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นนางหวังหรือเซียวเป่าเอ๋อ หรงสวินก็ทำดีด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนเขาจะปฏิบัติกับนางและเซียวเยี่ยนต่างออกไป
มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะไม่ดูแคลนผู้หญิงที่ท้องก่อนแต่ง, คนที่มีชื่อเสียงไม่ดีและคนที่เคยมีอดีตไม่ดีมาก่อน จะให้เขาไม่ดูแคลนพวกนางได้เช่นไร?