ตอนที่แล้วบทที่ 2 เจ้าตัวแสบตัวน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 ผู้ชายผู้หญิงแตะต้องกันไม่ได้

บทที่ 3 น้องสาวเจ้ายังไม่ตาย


บทที่ 3

น้องสาวเจ้ายังไม่ตาย

จากที่เซียวเป่าเอ๋อร์เล่ามา เซียวหลีก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเซียวหังคิดจะพาตัวพวกนางสองพี่น้องไป แต่แม่ของนางหวังได้ปฏิเสธแทบเป็นแทบตาย สุดท้ายเซียวหังบอกให้เลี้ยงตัวนางให้โตกว่านี้อีกสักปีสองปี แต่แล้วก็ไม่ได้ข่าวคราวของเซียวหังอีกเลยหลังจากที่เขาจากไป

ตอนนั้นเองที่นางหวังร้องไห้จนตาบอดไป แล้วในขณะที่นางคิดว่าพวกนางสองแม่ลูกกำลังจะอดตาย ตอนต้นของฤดูใบไม้ผลิพวกนางก็ได้รับจดหมายมาจากเซียวเยี่ยนพร้อมกับเงินทองจำนวนหนึ่ง และบอกว่าตัวนางสามารถหาเงินมาได้จากการเป็นข้ารับใช้ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง และมีเพียงแค่ช่วงเวลานั้นที่นางหวังกับเจ้าของร่างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แต่ทว่าเมื่อ 5 ปีก่อนก็ได้ข่าวว่าเซียวเยี่ยนเป็นนางคณิกาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง เดิมทีนางหวังกับเจ้าของร่างก็ไม่เชื่อพวกนางจึงแอบไปเมืองหลวงโดยไม่บอกใคร

และในช่วงเวลานี้เองที่เจ้าของร่างตั้งท้องเซียวเป่าเอ๋อร์ ซึ่งอย่าว่าแต่เซียวหลีในปัจจุบันเลย แม้แต่เจ้าของร่างเองก็ยังไม่มีความทรงจำในช่วงนั้นด้วยซ้ำ

ความทุกข์ยากซ้ำซ้อนเป็นฝนตกบ้านน้ำรั่วไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกเศร้าและคิดว่าชีวิตเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเจ้าของร่างเลย

เซียวหัง

พ่อแท้ ๆ ของนางเป็นคนอย่างไรกันแน่นะ?

ภายในบ้านของเซียวเยี่ยนมีเสียงที่นุ่มนวลดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับสายธารที่ไหลรินทีละเล็กละน้อย ฟังดูแล้วน่าหลงใหลยิ่งนัก

เซียวหลีกับเซียวเป่าเอ๋อร์เข้ามาข้างในแล้วมองไปที่เอวบาง ๆ ของเซียวเยี่ยนโยกย้ายไปมาพร้อมกับสะบัดแขนเสื้อของนางอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของนางแทบจะเรียกได้ว่า ‘ทิวทัศน์อันงดงาม’ ยิ่งนัก

แต่ไม่ว่าจะปกปิดใบหน้าด้วยแป้งมากเพียงใด ก็ไม่อาจปิดบังความเหน็ดเหนื่อยบนใบหน้าของนางเพราะสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ได้

มองไปที่อีกด้านหนึ่งก็พบชายหนุ่มอายุประมาณ 24 - 25 ที่กำลังหลับตาอยู่ คิ้วกระบี่ของเขาขมวดเล็กน้อย ริมฝีปากแห้งเผือดของเขาบิดเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอาการเจ็บของเขาจะทำให้เขารู้สึกทนไม่ไหว

“ท่านป้า ดูเหมือนท่านลุงที่ป่วยอยู่นี่จะไม่ได้อยากฟังท่านร้องหรืออยากดูท่านเต้นรำเท่าไรเลยนะขอรับ”

เซียวเป่าเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขัดเซียวเยี่ยนที่เหมือนกำลังเป็นบ้า แล้วจูงมือพาเซียวหลีไปใกล้ ๆ ชายคนนั้นพลางมองดูอย่างตั้งใจ

ชายคนนั้นรู้สึกโล่งอก ในที่สุดก็มีคนอื่นนอกจากนางมายังบ้านผีสิงแห่งนี้

ดวงตาสี่คู่มองสบกัน ชายหนุ่มแอบคิดในใจ ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ดูเหมือนกับคนคน นั้น?

“ท่านลุง ถ้าเกิดว่าท่านไม่เป็นอะไรแล้ว ท่านจะไปก็ได้นะ ท่านป้าของข้าจะได้ไม่ต้องร้องเพลงและเต้นรำให้ท่านจนเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้” ถึงเซียวเป่าเอ๋อร์จะพูดว่าไม่ต้องการให้เซียวเยี่ยนเหนื่อย แต่การที่นางร้องเพลงและเต้นรำเช่นนี้คงไม่มีใครที่อยากจะดูนางหรอก

เซียวเยี่ยนรู้สึกไม่พอใจแล้วดึงเซียวเป่าเอ๋อร์มาไว้ข้างหลังนาง แล้วกล่าวกับชายคนนั้นด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่หรง ท่านอย่าเข้าใจผิด เด็กนี่โง่เขลาเลยพูดจาเหลวไหล ข้าไม่เหนื่อยแม้แต่นิดเดียว”

“ข้าพูดเหลวไหลงั้นเหรอ? มีแต่ท่านป้านี่แหละที่ทำอะไรเหลวไหลมาตลอดหลายปีมานี้?”

“เอ๊ะ เจ้าเด็กนี่” เซียวเยี่ยนโกรธและคิดที่จะปิดปากของเซียวเป่าเอ๋อร์ แต่แล้วนางก็ต้องตกใจที่พบเซียวหลียืนอยู่ใกล้ ๆ เป่าเอ๋อร์ แล้วจากนั้นก็ได้พูดขึ้นมา “น้องสาว ดีจริง ๆ ที่เจ้ายังไม่ตาย ดูแลเป่าเอ๋อร์หน่อยสิ เจ้าเด็กนี่พูดล้อเล่นกับข้าต่อหน้าคนนอกเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ากำลังพูดเรื่องน่าหัวเราะให้คนอื่นฟังงั้นเหรอ?”

หรงสวินยิ้มเยาะ ชุดสาวคณิกาของผู้หญิงคนนั้นดูเก่ามากแล้ว แต่นางก็ยังอุตส่าห์สวมชุดนั้นออกมาอีก นี่ต่างหากที่เป็นการล้อกันเล่นน่ะ ถ้าหากนางไม่ได้บอกว่าเป็นคนที่ช่วยเขา เขาคงจะตบหน้านางไปสักฉาดแล้ว

มองไปที่หญิงสาวอีกคนด้านหลังเด็กคนนั้นและกำลังยืนกอดอกอยู่ หัวของนางดูเหมือนจะขาดสารอาหารและดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บอยู่ อย่างไรเสียผ้าพันแผลที่พันรอบหัวของนางก็ดูชัดเจนซะขนาดนั้น แต่นางกลับกำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาจองหองเช่นนั้น ราวกับว่านางกำลังมองดูโลกใบนี้อยู่อย่างไรอย่างนั้น?

กระดูกปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตัวบางและผิวที่ซีดเซียว แต่ดวงตาสีขาวและดำที่กลมโตของนางกลับดูเป็นประกายงดงาม แต่เขากลับมองอารมณ์ของมันไม่ออก

ในขณะเดียวกัน เซียวหลีเองก็มองมาที่เขาเช่นกัน ชุดผ้าปักสีม่วงอย่างดี ผมที่ยาวสลวยและมีรูปโฉมที่คล้ายผู้หญิงราวกับเป็นภาพมายา ดวงตาสีดำของเขาเหมือนบ่อน้ำลึกไร้ก้นและแหลมคมราวกับเหยี่ยว ทำให้ผู้คนยากที่จะมองออกได้

ทั้งสองคนจ้องหน้ากันเองโดยไม่มีใครที่หันหน้าหนีก่อน

ดูเหมือนว่าบ้านนอกกลางป่ากลางเขาเช่นนี้ มีพี่สาวคนโตที่เป็นสาวนางโลม มีเด็กน้อยที่ฉลาดมาก และยังมีสาวบ้านนาที่ดูจองหองและเย็นชาอีก ช่างดูผิดที่ผิดทางเสียจริง

“เป่าเอ๋อร์พูดถูกแล้วนี่” เซียวหลีปล่อยบรรยากาศกดดันแล้วจ้องไปที่อีกฝ่ายเป็นครั้งแรก ทำให้เซียวเยี่ยนรู้สึกได้ว่าสีหน้าที่จริงจังของนางนั้นเป็นอันตรายมาก และนางก็ได้แกะ     เซียวเป่าเอ๋อร์ออกจากมือของเซียวเยี่ยนให้เป็นอิสระแล้วกล่าวต่อ “คุณชายที่ตกคูน้ำท่านนี้ไม่ได้สำนึกบุญคุณที่พี่สาวช่วยเขาเลย ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรไปจากบุญคุณของน้องที่พี่ไม่นึกขอบคุณบ้างเลย?”

เซียวเยี่ยนคนนี้ คนที่เจ้าของร่างเดิมต้องตายเพื่อปกป้องนาง แต่นางกลับพูดแค่ว่า “น้องสาว เจ้ายังไม่ตาย” แค่นั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซียวเป่าเอ๋อร์จะพูดเช่นนั้นกับนาง

แล้วตอนนี้นางยังมามัวพยายามเอาใจชายแปลกหน้าด้วยการสวมชุดแปลก ๆ พวกนี้ ดูเหมือนว่าพี่สาวของเจ้าร่างคนนี้ก็เป็นปัญหาที่นางจะต้องจัดการด้วยแล้ว

สำหรับเหล่านางคณิกาทั้งหลายแล้วหากร่วงหล่นลงมาครั้งหนึ่งแล้วก็ยากที่จะเป็นแบบเดิมได้อีก

“หึ” หรงสวินพ่นลมออกทางจมูก “ข้าจะตอบแทนที่ช่วยข้าอย่างแน่นอน แต่ได้โปรดช่วยไปหาเถ้าแก่เฉียนที่โรงหมอ       จี้หมินในเมืองบอกให้เขามาช่วยรักษาขาของข้าให้ที...บอกแค่ว่าข้าคือคุณชายสี่ของตระกูลหรงก็ได้”

ปากของหรงสวินเหยียดยิ้มออกมาอย่างดูถูก แต่ในสายตาของคนอื่นแล้วใบหน้าของเขานั้นน่าหลงใหลมาก แม้ว่าจะซีดเซียวไปสักหน่อย ชายคนนี้คงจะต้องทำร้ายหญิงสาวมานักต่อนักแล้วอย่างแน่นอน เซียวหลีคิดเช่นนั้นอยู่ในใจแล้วก็ได้หันไปมองที่เซียวเยี่ยนที่เป็นเช่นนั้นด้วย...

ถ้าหากนางไม่พยายามทำทีเป็นสงบและสงวนท่าทีไว้ล่ะก็ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่านางโหยหาชายหนุ่มมากแค่ไหน?

สายตาของหรงสวินจับจ้องไปที่เซียวหลีแล้วกล่าว “ข้าจำได้หญิงสาวที่มาช่วยข้าได้นะ เหมือนนางจะใส่ชุดสีเทาดูธรรมดา ๆ นี่นา?”

หลังจากที่ถามเช่นนั้นเขาก็ได้มองไปที่เซียวเยี่ยน หญิงสาวคนนี้แต่งตัวยั่วยวนและฉูดฉาด นางคงไม่ใช่หญิงสาวคนที่เขาเห็นลาง ๆ ในวันนั้นแน่ ๆ

เซียวเยี่ยนฝืนยิ้มออกมา นางรู้สึกกลัวสายตาของชายคนนี้ขึ้นมานิดหน่อย นางรู้สึกว่าชายคนนี้เหมือนนางเคยพบที่ไหนมาก่อน แต่นางจำไม่ได้แล้ว

แต่ทว่าจากสีหน้าที่ดูทะนงตนของเขา และเสื้อผ้าที่ไม่ธรรมดาและใบหน้าหล่อเหลา เขาเป็นชายที่เหล่าหญิงสาวปรารถนา

“มันเป็นน้องสาวของข้าที่ช่วยท่านขึ้นมาจากคูน้ำ ขะ...ข้าเองก็ช่วยท่านนะ แต่ท่านคงไม่เห็นข้า” เซียวเยี่ยนที่เริ่มขาดความมั่นใจหันไปมองให้เซียวหลีช่วยนาง

เซียวหลีเองก็จำอะไรตอนนั้นไม่ได้เช่นกัน นางจึงได้ไม่ปฏิเสธหรือยืนยันอะไร แต่นางคิดจะช่วยเซียวเยี่ยนสักหน่อยละกัน “ท่านพี่ ชีวิตของพวกเรานั้นยากลำบากนัก มันคงจะดีกว่าหากว่าพวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากนี้” เซียวหลีกล่าวขณะยิ้มออกมา นางรู้ดีว่าเจ้าของร่างนี้รักพี่สาวของนางมากเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเยี่ยนเจ้าของร่างนี้กับนางหวังก็คงอดอยากจนตายไปแล้ว และคงไม่มีเด็กฉลาดอย่างเซียวเป่าเอ๋อร์เป็นแน่

เซียวเยี่ยนตกตะลึงและรู้สึกราวกับว่านี่ไม่ใช่เซียวหลีที่นางรู้จักแม้แต่น้อย ในอดีตเซียวหลีจะเชื่อฟังนาง ไม่ว่านางจะบอกให้ทำอะไรก็ตาม อย่างในคราวนี้ก็เช่นกันเซียวหลีนั้นยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องนาง

แต่น้องสาวที่อยู่ตรงหน้าของนางนี้ ทำไมนางถึงได้รู้สึกห่างเหินและแปลกไปเช่นนี้?

“ท่านพี่ ข้าฝากให้ท่านไปที่โรงหมอจี้หมินทีได้ไหม?” นางกล่าวอย่างอ่อนโยนแต่กลับทำให้เซียวเยี่ยนตกใจมากขึ้น เมื่อใดกันที่เซียวหลีสั่งให้นางทำอะไรบางอย่างเช่นนี้

นางที่เป็นเหมือนเสาหลักของบ้านนี้มาโดยตลอด เป็นท้องฟ้าของครอบครัวนี้

แต่ในเวลานี้นางจำเป็นต้องเอาใจหรงสวินก่อน แล้วนางก็ได้กล่าวออกมา “เถ้าแก่เฉียนของโรงหมอจี้หมินใช่ไหม? ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” แต่พอนางเดินไปได้แค่สองก้าว เซียวเยี่ยนก็ได้หันหน้ากลับมา “ขออภัยด้วยพี่ใหญ่หรง ครอบครัวของพวกเรายากจนมาก เถ้าแก่เฉียนอาจจะไม่เชื่อที่ข้าพูดก็ได้ เกรงว่าข้าคงไม่อาจเชิญเขามาที่ได้”

อ้อ เงินสินะ, แล้วหรงสวินก็ได้อดทนต่ออาการปวดแล้วล้วงเข้าไปในแขนเสื้อของเขาแล้วหยิบเอาตำลึงทองออกมาก้อนหนึ่ง “แล้วรีบไปรีบมาล่ะ”

“ตกลง ตกลง” เซียวเยี่ยนมองไปที่เงินแล้วคิดว่านางเดาถูกจริง ๆ  ผู้ชายคนนี้จะต้องร่ำรวยมากแน่ ๆ  นางจูบลงที่ตำลึงทองก้อนนั้น  “ข้าไม่ได้แตะตำลึงทองก้อนใหญ่เช่นนี้มานานแล้วนะเนี่ย” หลังจากนั้นนางก็เดินจากไปอย่างยินดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด