บทที่ 29 ข้าคิดว่าท่านเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ยากจริงๆ
บทที่ 29
ข้าคิดว่าท่านเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ยากจริงๆ
ที่บ้านของเซียวเยี่ยน หรงสวินกับเยี่ยเหลียงเฉินนั้นก็พูดคุยอะไรกันอยู่ไม่รู้ เมื่อพวกเขาเห็นเซียวหลีเดินเข้ามา เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้ขานรับ“ขอรับ”แล้วเดินจากไป
“พวกท่านวางแผนการใหญ่อะไรกันอยู่ไม่ทราบ?” เซียวหลีก็ได้จ้องไปที่แผ่นหลังของเยี่ยเหลียงเฉินแล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก
หรงสวินก็ได้ยิ้มแล้วเคาะนิ้วตรงที่วางแขนรถเข็นแล้วกล่าว “เจ้าสนใจเหรอ?”
เซียวหลีก็ได้ตอบอย่างไม่สนใจ “ไม่เลย”
หรงสวินก็ได้หัวเราะเบาๆแล้วมองไปที่เซียวหลีที่ไร้ซึ่งความกลัว และไม่ถ่อมตัวหรืออวดดีเกินไป
“แต่ข้าว่าหากเทียบกันแล้ว ตัวแม่นางเซียวหลียังน่าสงสัยเสียกว่าอีก” หรงสวินก็ได้มองไปที่นาง “เจ้าดูไม่เหมือนคนที่เติบโตที่บ้านนอกคอกนาเช่นนี้เอาเสียเลย”
สีหน้าของนางนั้นยังคงไม่สั่นไหวและไม่มีเผยจุดอ่อนใดๆเลย
“อะไรกัน? นี่ท่านสงสัยข้าอย่างนั้นเหรอคุณชายหรง? กุนซือโหย่วอวิ๋นเคยกล่าวเอาไว้”จะใช้คนก็อย่าระแวง หากระแวงใครก็อย่าใช้เขา“ถ้าหากท่านไม่เชื่อข้า ก็เชิญท่านเก็บข้าวของแล้วออกไปตอนนี้เลยก็ได้นะ”
เซียวหลีรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ ชายเลือดเย็นคนนี้มีท่าทีที่เข้าใจได้ยากนัก ราวกับว่าตัวเขานั้นคอยสงสัยนางอยู่ตลอดเวลา
ตัวนางนั้นชื่นชอบเงินทองก็จริง แต่นางนั้นไม่ชอบคนที่อันที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะขี้สงสัยเช่นนี้ ตัวนางนั้นรังเกียจอย่างที่สุดแล้ว
“ไม่เลว รู้จักคำพูดของกุนซือโหย่วอวิ๋นเสียด้วย”
ผู้หญิงทั่วไปนั้นไม่เหมือนนางเลยแม้แต่น้อย หรงสวินก็ได้มองไปที่สีหน้าที่หงุดหงิดของเซียวหลีอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ซึ่งไม่ว่าตัวตนที่แท้จริงของนางจะเป็นใครแต่เขาก็ไม่กลัวเลย
“มานี่สิ”
ด้วยเสียงเรียกเบาๆ ตัวเขาก็ได้หยิบเอากล่องไม้สานออกมาจากช่องของรถเข็นแล้วกล่าว “เรามาเริ่มกันเลยเถอะ”
เซียวหลีก็ได้จ้องไปที่เขาแล้วจ้องไปที่เข็มเงินนั้นโดยไม่สนใจเรื่องเมื่อสักครู่แล้ว
เตรียมการมาอย่างดีจริงๆ อีกทั้งยังมีขวดเหล้าขาวติดมาด้วย ถึงแม้ว่ามันจะใช้ฆ่าเชื้อได้ไม่ดีเท่าแอลกอฮอล์แต่ก็ยังดีว่าไม่มีเลย
“นอกจากเรื่องของกระดูกหักแล้ว ขาของท่านยังมีการคั่งของโลหิตอีกด้วยทำให้ขาขาดเลือดกับพลังชี่มานานหลายปี ถ้าท่านอยากที่จะหายเป็นปกติท่านจำเป็นต้องได้รับการฝังเข็มและได้รับยาเป็นเวลา 100 วันเพื่อให้เลือดได้เข้าไปไหลเวียนแล้วขับเอาลิ่มเลือดออกและขุดลอกเส้นชีพจร จากนั้นก็ต้องบีบนวดทุกวันอีกเป็นเวลาครึ่งปี” เซียวหลีก็ได้อธิบายอาการของเขาให้ฟัง ซึ่งลำพังวิชาการฝังเข็มของนางสามเดือนก็ทำแค่ให้เขาเดินได้ก็จริงอยู่ แต่เขาก็ยังมีอาการกระดูกหักอีก.....
ซึ่งครึ่งปีที่นางบอกไปนั้นก็เป็นแค่เวลาคร่าวๆเท่านั้น
“ข้าก็หวังเช่นนั้น”
หรงสวินก็ได้ผงกหัวและไม่ถามอะไรให้มากความ
ที่นางพูดมาก็ถูก เขาไม่ควรสงสัยคนอื่น
อย่างไรเสียนางก็เป็นคนคนเดียวกันกับที่ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ นางคงไม่ช่วยชีวิตเขาเพื่อมาทำร้ายเขาอีกหนแน่
หรงสวินก็ได้หมุนล้อรถเข็นเข้าไปในห้องด้วยตัวเอง แต่เซียวหลีกลับจับตัวเขานอนลง แล้วจากนั้นก็ได้ดึงเอาชายเสื้อขึ้นแล้วดึงเอากางเกงลงมาแล้วสัมผัสโดยตรง
แม้ว่าหรงสวินจะเริ่มเคยชินกับท่าทีที่ไร้มารยาทของนางแล้ว แต่เขาก็ยังตกใจอยู่ดี
“ท่านไม่จำเป็นต้องอายเรื่องของชายกับหญิงต่อหน้าหมอก็ได้....แต่ถ้าหากท่านรู้สึกอายขึ้นมาจริงๆ ก็ให้คิดซะว่าข้าเป็นหนึ่งในสามภรรยาสี่อนุภรรยาของท่านก็ได้ ท่านจะได้ไม่รู้สึกเสียหายอะไร”
หรงสวินก็ได้อ้าปากค้าง ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะใจกล้าแล้วยังไร้ยางอายอีกด้วย”
แต่ทำไมเขาถึงรังเกียจนางไม่ลงกันนะ?
นางได้ทำการฆ่าเชื้อเข็มเงินแล้วก็เริ่มทำการฝังเข็มทันที ใบหน้าของนางนั้นแม้จะผอมบางแต่ก็มีแก้มป่องนุ่มซึ่งเป็นอะไรที่ขัดกันสุด และผิวของนางก็เหลืองเล็กน้อย แต่ดวงตาของนางกลับสวยงามมากโดยเฉพาะยามที่นางขยับขนตายาวๆของนางนั้น
หลังจากที่ฝังเข็มที่ขาของเขาเสร็จ เซียวหลีก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรงสวิน แล้วนางก็พบสายตาที่เร่าร้อนของเขา แล้วนางก็ได้ยิ้มตอบ “อะไรกัน? ท่านรังเกียจข้าเหรอ?”
“ไม่....ไม่ใช่”
“ฮะๆๆ....ผู้ชายในยุคสมัยนี้ก็น่ารักดีนะ?” เซียวหลีก็ได้ยิ้มและใจเต้นตึกตักขึ้นมา นางนั้นชื่นชอบผู้ชายงดงามอยู่แล้ว แต่ทว่าในเวลานี้เขาได้หลบสายตาของนาง และรู้สึกได้ว่าตัวเขานั้นอยากที่จะหนีไปอย่างเร่งรีบ
“น่ารัก....” หรงสวินนั้นรู้สึกตกตะลึงแล้วกล่าว “ไร้ยางอาย” ถ้าไม่ใช่เพราะนางรักษาขาของเขาได้ เขาก็คงจะจับนางโยนออกไปข้างนอกแล้ว
ถ้าหากเป็นในยุคปัจจุบัน พวกผู้ชายจะต้องดีใจแน่ที่ได้ยินคนอื่นบอกว่าตัวเขาหน้าตาดีใช่ไหม?
“ข้าคิดว่าท่านเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ยากจริงๆ” เซียวหลีได้กล่าวอย่างขอไปที แล้วกดเข่าซ้ายของเขาแล้วจากนั้นก็ได้บีบนวดทั้งข้างหน้าข้างหลัง แล้วพบว่าขานั้นมีอาการบวมหน่อยๆราวกับติ่มซำ และเพราะความไร้เรี่ยวแรงและอาการบาดเจ็บ ในเวลานี้จึงได้ดูเหมือนนางกำลังลวนลามเขาอยู่
“เจ้า แค่ฝังเข็มอย่างเดียวไม่ได้รึไง?” หรงสวินก็ได้ปัดมือของนางออกไป ใบหน้าของเขานั้นไม่ดีนัก ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บปวดเล็กน้อยจากการบีบนวด แต่มันกลับทำให้รู้สึกดีอย่างแปลกๆขึ้นมา ซึ่งมันเป็นความแตกต่างระหว่างเพศชายกับเพศหญิงอยู่ดี
เซียวหลีที่เห็นเขากำลังครุ่นคิดบางอย่างจึงได้กล่าว “ก็ได้ แต่ถ้าท่านอยากที่จะหายแล้วล่ะก็ ท่านให้ภรรยาหรืออนุภรรยาของท่านมาเรียนรู้จากข้า ไม่อย่างนั้นข้าก็ต้องลงมือด้วยเองอย่างนี้แหละ และการนวดนี่ก็คิดค่ารักษาเพิ่มด้วย ฮึๆเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่เลวใช่ไหมล่ะ?”
“ข้าไม่มีภรรยา”
เซียวหลีก็ได้กล่าว “ข้าคิดว่าพี่เยี่ยเองก็ไม่เลวนะ”
“หุบปาก....โอ๊ย”
เซียวหลีก็ได้ออกแรงหนักขึ้น จนทำให้เขาต้องร้องด้วยความเจ็บปวด
จากเขาที่ไม่รู้สึกอะไรเลยที่ขามาเป็นหลายปีแล้ว
“ช่วยสุภาพกับข้าหน่อย ข้าเป็นเพียงคนเดียวในแผ่นดินนี้ที่สามารถรักษาอาการที่ขาของท่านได้นะ”
หรงสวินก็ได้จ้องไปที่นาง เขานั้นทำอะไรผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เขาจะทำให้นางหุบปากน้อยๆนั้นอย่างไรดี?
“จ้องข้าไปก็เปล่าประโยชน์ ท่านไม่เคยได้ยินรึไง? คนที่ยิ่งมากความสามารถมากเท่าไรก็ยิ่งมีคนแปลกๆมากเท่านั้น ง้อข้าหน่อยสิถ้าเกิดข้าโมโหแล้วไม่สนใจท่านขึ้นมา ท่านจะทำอย่างไร?” นางได้เข้าไปใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆแล้วจับจ้องมาที่เขาราวกับจะกินเขาเสียให้ได้
จริงๆแล้วเซียวหลีก็แค่ชอบมองคนหล่อเท่านั้น
แต่ก็แค่มองและไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น
ในยุคนี้ ถ้าหากว่าอายุ 16 แล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน ก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าภาษีด้วย
อ๊ะ.....
จ่ายค่าภาษี...
นางแล้วกับเซียวเยี่ยนนั้นจะต้องจ่ายค่าภาษีในแต่ละปี ซึ่งเซียวเยี่ยนนั้นได้จ่ายให้คนละ 500 อีแปะ สองคนก็ 1 ตำลึงเงิน
ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเยี่ยนแล้ว ครอบครัวนี้คงไม่สามารถอยู่ได้โดยอาศัยแค่การเก็บสมุนไพรขายจากเจ้าของร่างแน่ๆ อย่างไรเสียนางคงไม่กล้าเข้าไปในป่าไร้ผู้คนอย่างเซียวหลีตอนนี้แน่ๆ
หรงสวินก็ได้มองไปที่นางที่กำลังครุ่นคิดแล้วไม่รู้ว่านางนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่ต้องมาคิดอะไรไม่ซื่อเลยนะ ถ้าหากเจ้ารักษาข้าไม่ได้ เจ้าอย่าได้คิดว่าจะได้อยู่อย่างสบายๆล่ะ”
“เป็นคนใหญ่คนโตรึไง?”
หรงสวินไม่ตอบคำถาม แต่จากสีหน้าที่ดูถูกของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่ใช่พ่อค้าหน้าเลือดที่ไร้ศีลธรรมแล้ว เขาก็ต้องเป็นพวกขุนนางตำแหน่งสูงๆเป็นแน่
“ช่างเถอะ ข้าจะอดทนกับท่าทีฉุนเฉียวของท่านก็ได้ เห็นแก่ความหน้าตาดีและเงินของท่าน ฮะๆ....” นางก็แค่อยากจะแกล้งเขาเท่านั้น เพื่อให้เขาลืมอาการที่ขาและเท้าของเขา
หรงสวินเองก็เห็นว่านางมีความสามารถด้านการรักษาที่ไม่ธรรมดาแล้ว จึงได้ไม่ถือสาปากของนางเช่นกัน ไม่ช้าหรือเร็วเขาจะต้องหาวิธีการมาอุดปากของนางได้แน่ๆ
ผู้หญิงคนนี้ก็ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีลูกโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน และทำให้ผู้คนในหมู่บ้านนี้พากันไม่ชอบนาง
เซียวเยี่ยนที่ทำความสะอาดห้องครัวเสร็จก็ได้กลับเข้ามาในบ้านก็มองเห็นเซียวหลีที่กำลังจู๋จี๋อยู่กับหรงสวินนั้นทำให้นางต้องตกตะลึง รู้สึกเหมือนน้องสาวของนางได้กลายเป็นคนอื่นหลังจากที่นางได้รับบาดเจ็บ
เดิมทีเซียวเยี่ยนคิดว่าเซียวหลีตายไปแล้ว แต่ก็กลับรู้สึกว่าการตายของเซียวหลีนั้นทำให้นางรู้สึกโล่งอกและไม่รู้สึกเสียใจแต่อย่างไร แต่ในเวลานี้นางกลับมีชีวิตอยู่ตรงหน้า และเปลี่ยนไปจากคนขี้ขลาดเมื่อก่อนทำให้นางต้องมองดูน้องสาวด้วยความรู้สึกที่ชื่นชม
“ท่านพี่?”
เซียวหลีก็ได้มองไปที่เซียวเยี่ยนที่กำลังตกตะลึงแล้วตะโกนเรียก เซียวเยี่ยนก็ได้มีอาการตกใจขึ้นมา แล้วหลังจากนั้นสักพักเซียวเยี่ยนก็ได้สติคืนกลับมา
“แม่นางเซียวเยี่ยน จากนี้ไปท่านช่วยไปอยู่ที่บ้านของนางได้ไหม ข้าจะขอเช่าที่นี่ทั้งหมด” หรงสวินก็ได้กล่าวแล้วหยิบเอาตำลึงทองออกมาจากในช่องเก็บของรถเข็นแล้วโยนให้ เซียวเยี่ยน เซียวเยี่ยนก็ได้รีบรับมาและดวงตาของนางก็ได้ส่องแสงออกมา
นางนั้นรู้ดีว่ามีไข่มุกอยู่ตรงหน้าของนางจริงๆ คุณชายท่านนี้เป็นผู้สูงศักดิ์จริงๆด้วย
“ได้เจ้าค่ะ จะย้ายเดี๋ยวนี้ล่ะเจ้าค่ะ” ทันทีที่นางกล่าว นางก็ได้ส่ายสะโพกของนางราวกับงูแล้วกลับเข้าห้องของนางแล้วจัดเก็บข้าวของ
เซียวหลีก็ได้มองไปที่นางอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัวของนาง ท่าทีเช่นนี้ช่างดูไม่ได้เลยจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ความรักในเงินของพวกเขาช่างเหมือนกันจริงๆ