บทที่ 26 หมอในหมู่บ้านเก่งมาขนาดนั้นเลยเหรอ?
บทที่ 26
หมอในหมู่บ้านเก่งมาขนาดนั้นเลยเหรอ?
ที่บ้านร้างแห่งนั้นทั้งคู่ก็ได้พากันแยกย้ายออกไป เซียวเยี่ยนนั้นไม่มีเงินพอที่จะนั่งเกวียนวัวกลับบ้าน นางนั้นคิดว่าจะมาเสี่ยงดวงให้ได้เงินเป็นสองเท่าแท้ๆ แต่กลับเจอไอ้สารเลวเซียวจิ้งถิงเสียได้
สุดท้ายเซียวเยี่ยนจึงต้องฝากความหวังเอาไว้ที่โรงหมอจี้หมิน แต่น่าเสียดายที่ท่านหมอเฉียนได้บอกอย่างชัดเจนว่าหรงสวินนั้นไม่ได้อยู่ที่ร้านแล้ว
เมื่อคิดว่าในวันนี้เป็นวันที่โชคร้ายสุดๆแล้ว นางจึงได้ไม่คิดที่จะไปที่ย่านหอคณิกาแล้วตัดสินใจกัดฟันเดินกลับบ้าน
“แม่นางเซียว ได้โปรดอยู่ก่อน”
มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา แต่ในเวลาเช่นนี้ด้วยประสบการณ์ของนางแล้ว เซียวเยี่ยนก็ได้ออกวิ่ง
“แม่นางเซียว ได้โปรดอยู่ก่อน” หลังจากที่สิ้นเสียง ชายคนนั้นก็ได้วิ่งมาขวางทางของเซียวเยี่ยนเอาไว
“ท่านยอดยุทธ์ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าได้ขโมยหรือเอาอะไรไปจากข้าอีกเลย ข้าเป็นแค่คนธรรมดาตาดำๆเท่านั้น” เซียวเยี่ยนนั้นรู้สึกกลัวและร้องขอความเมตตา แต่หลังจากที่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้านางแล้วนางก็ได้รู้สึกตกใจ “มันเป็นท่าน ท่านคือ....”
เมื่อนางเห็นรอยแผลเป็นที่คิ้วซ้ายของเขาแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาได้มาพร้อมกับท่านหมอเฉียนเพื่อมารับหรงสวินไปในวันนั้น
แต่ในเวลานี้เขาไม่ได้แต่งตัวดีเหมือนกับในวันนั้น เขาได้แต่งตัวราวกับแสร้งเป็นชาวนา ใส่เสื้อผ้าปอนๆ
“แม่นางเซียว ได้โปรดตามข้าเยี่ยเหลียงเฉินมาด้วย นายท่านของข้าได้เชิญให้แม่นางไปพบ”
หรงสวิน?
หรงสวินยังจำนางได้ เซียวเยี่ยนนั้นตกใจมาก แต่ดวงตาของนางก็ไม่ได้เบิกกว้างเมื่อนึกถึงทองสีเหลืองและเงินสีขาวแล้ว
หรือว่าชีวิตของนางจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว?
ณ โรงเตี๊ยมจวี้เฟิง
เซียวเยี่ยนก็ได้ถูกเชิญมาที่นี่ให้มานั่งกินและดื่มอย่างเต็มที่ แต่นางก็ยังไม่ได้พบหน้าของหรงสวิน
“คุณชายเยี่ย นายท่านของท่านต้องการอะไรกันแน่? เมื่อไรเขาถึงจะมาพบข้าล่ะ?”
ในยามค่ำคืน เซียวเยี่ยนนั้นได้ทานอาหารจนเต็มอิ่ม ทำให้ความง่วงเข้าควบคุมหนังตาของนาง แล้วนางก็ได้เอนตัวลงบนโต๊ะแล้วถามอย่างเฉื่อยชา ตัวนางนั้นไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานมากขนาดไหนแล้ว
ไม่ว่านางจะทำตัวออดอ้อนเหมือนเด็กน้อยหรือยั่วยวนยังไง เยี่ยเหลียงเฉินนั้นก็มีทีท่าเหมือนกับไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย แต่แล้วเขาก็ได้พูดออกมา “นายท่านจะมาพบท่านในภายหลัง”
“ไม่เอา ข้าอยากที่จะกลับแล้ว”
“ขออภัยด้วย แต่แม่นางคงยังกลับไม่ได้”
.......
แม้ว่านางจะเดินไปที่ประตู แต่ก็พบว่าที่ประตูมีคนเฝ้าอยู่ นางจึงได้ทักท้วงออกไป “นี่ข้าเป็นผู้มีพระคุณของคุณชายหรงของท่านนะ นี่ท่านคิดที่จะกักบริเวณข้าอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้ามันเป็นการกักบริเวณจริง ข้าเกรงว่ามันคงเป็นอะไรที่หลายคนบนแผ่นดินนี้ต้องการนะ”
เซียวเยี่ยนจึงทำได้แค่อยู่อย่างเงียบๆ, กินอย่างเบื่อหน่าย และจากนั้นก็ได้หลับอย่างเบื่อหน่าย นางนั้นไม่รู้เลยว่าตัวนางนอนไปนานมากขนาดไหนแล้ว
“แม่นางตื่นได้แล้วล่ะ นายท่านของข้าอยากที่จะถามไถ่อะไรท่านสักหน่อย”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้ตบไหล่ของเซียวเยี่ยนเบาๆทำให้ เซียวเยี่ยนสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตอนแรกนางนั้นคิดว่าเจอพวกอันธพาลมาปล้นอีกแล้ว นางจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งแต่ก็พบว่าเป็น เยี่ยเหลียงเฉิน นางจึงได้รู้สึกโล่งอก
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้ยิ้มแล้วถอยห่างออกมา เซียวเยี่ยนจึงได้มองเห็นหรงสวิน
“คุณชายหรง”
เซียวเยี่ยนที่เห็นหรงสวินก็ได้เดินไปหาเขา แต่เดินไปได้แค่สองก้าวหรงสวินก็ได้ยกมือขึ้นมาเป็นการบอกไม่ให้นางเดินเข้ามามากกว่านี้ “ในเวลานี้ข้ามาแค่พบเจ้าเท่านั้น แต่ไม่ต้องการที่จะฟังเจ้าพล่ามอะไรไปมากกว่านั้น ในเวลานี้ข้าอยากจะถามเจ้าว่าน้องสาวของเจ้าเซียวหลี คนที่สอนวิชาแพทย์ให้นางคือใครและอยู่ที่ไหน?”
หรงสวินนั้นแสดงท่าทีรังเกียจนางอย่างชัดเจน เซียวเยี่ยนนั้นก็รู้สึกลำบากใจอย่างมาก แต่นางก็รู้สึกกลัวสายตาที่หนาวเย็นของเขานัก
ถึงแม้ว่านางจะจากเมืองหลวงมาเป็นเวลาหลายปี แต่เซียวเยี่ยนก็รู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านางนั้นไม่ได้มีดีแค่รวยอย่างเดียวแน่ๆ
อย่างไรก็ดีโรงหมอจี้หมินนั้นได้พัฒนาจนกลายมาเป็นโรงหมอที่มีสาขามากมายไปทั่วแผ่นดินโดยใช้เวลาแค่ 5 ปีนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอาศัยแค่กำลังทรัพย์เพียงอย่างเดียว
“ดูเหมือนว่าในตอนที่พวกข้ายังเด็กๆ พวกข้าจะเคยไปเก็บสมุนไพรกับหมอในหมู่บ้านมาก่อน”
หรงสวินก็ได้เอามือจับหน้าผากและคิ้วก็ได้ขมวดเล็กน้อย “หมอประจำหมู่บ้านเจ้ามีความสามารถมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เซียวเยี่ยนก็ได้ยิ้มและตอบ “ความสามารถของหมอประจำหมู่บ้านจะไปเก่งขนาดนั้นได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ?”
หรงสวินก็ได้ครุ่นคิดแล้วเอานิ้วมือเคาะไปที่ที่วางแขนรถเข็น “แต่นางบอกว่านางสามารถรักษาอาการของเราได้”
“นางจะทำได้อย่าง....ให้นางลองดูก็ได้เจ้าค่ะ!” เดิมทีเซียวเยี่ยนนั้นอยากที่จะโต้แย้ง แต่นางก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าหากนางนำพระพุทธรูปยักษ์ที่ชื่อหรงสวินมาตั้งที่บ้านแล้ว ก็จะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับที่บ้านของนางอีกเป็นแน่ นางจึงได้รีบเปลี่ยนคำพูดกลางคัน
อย่างไรเสียของแบบนี้ใครมือยาวสาวได้สาวเอา
แม้ว่านางจะไม่สามารถแต่งกับใครได้ แต่นางก็สามารถอาศัยอยู่ใต้ชายคาได้ อย่างน้อยๆนางก็เป็นผู้มีพระคุณของเขา
“เจ้าแน่ใจจริงๆเหรอ?” หรงสวินรู้สึกสงสัยขึ้นมา แต่พอเขานึกถึงที่ท่านหมอเฉียนกล่าวแล้ว เขาก็ได้รู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อย
“แน่ใจเจ้าค่ะ” แม้เซียวเยี่ยนจะรู้สึกผิด แต่นางก็ได้แอบขอพรเทพเซียนบนสวรรค์ให้อวยพรให้เซียวหลีนั้นใช้ยาได้ถูกต้องและรักษาคุณชายได้ เพื่อที่ว่าตัวนางจะได้กลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะต้องให้เซียวหลียอมเอาตัวเข้าแลกก็ต้องทำ?
แล้วเซียวเยี่ยนก็ได้ฝันหวานแล้วยิ้มราวกับคนหมกมุ่นโดยที่นางไม่รู้ตัว
“เป็นนางจริงๆสินะ”
ท่านหมอเฉียนนั้นเคยเป็นแพทย์ทหารที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง เขาได้กลับมายังบ้านเกิดของเขาหลังจากที่เกษียณแล้ว แล้วก็มาคอยดูแลโรงหมอจี้หมินแห่งนี้ ซึ่งเขาได้บอกว่าการทำแผลและการฝังเข็มของเซียวหลีนั้นไม่ธรรมดาเลย ต่อให้เป็นเขาก็อาจจะไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้
มันเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ
แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเซียวหลีเคยบอกว่านางสามารถรักษาขาของเขาได้ และทำให้เขาสามารถกลับมาเดินเหมือนคนปกติได้ บางทีนะ.....
ตัวเขานั้นไม่กล้าที่จะคิดไปไกลขนาดนั้น ในเวลานี้หรงสวินได้ตัดสินใจที่จะรักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น ลองดูสักตั้ง!
“เหลียงเฉิน เจ้าไปบอกตาเฒ่านั่น ในเวลานี้สถานการณ์ย่ำแย่มากให้คนพวกนั้นหยุดก่อน ส่วนข้าจะอยู่รักษาตัวที่นี่จะปลอดภัยกว่า” หรงสวินกล่าวแล้วก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างออกได้ “พวกเจ้าทั้งหมดกลับไปกันก่อน แล้วช่วยบอกโรงหมอให้เด็กฝึกหัดสักคนตามข้าไปที่หมู่บ้านเซียวด้วย”
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้เต็มไปด้วยความวิตกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วกล่าวด้วยความกังวล “นายท่านจะเสี่ยงไปมากกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว ข้าไม่อาจปล่อยท่านอยู่ตามลำพังได้” หลังจากที่คิดอยู่สักครู่หนึ่ง เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้กล่าว
“ให้อู่อานกับพรรคพวกสามคนกลับไปกันก่อน ส่วนข้าจะอยู่ที่นี่คอยดูแลและคุ้มครองท่านเอง”
จนกระทั่งเวลานี้ ตัวเขาก็ยังต้องการที่จะอยู่คนเดียวและให้คนอื่นคอยปกป้องเขาอีก มันทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งนัก
หรงสวินก็ได้ยอมตกลงแล้วกล่าว “ไปเตรียมรถม้าให้เรา จะออกไปกันคืนนี้เลย”
ออกไปตอนนี้? แล้วไปที่ไหนกัน? เซียวเยี่ยนรู้สึกเหมือนหูหนวกตาบอดไปชั่วขณะ
“คุณชาย ท่านจะไปที่ไหนเหรอเจ้าคะ? ข้า.....”
หรงสวินก็ได้จ้องไปที่เซียวเยี่ยน ซึ่งนางก็ได้หยุดพูดโดยทันที
เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้พาหรงสวินออกมาข้างนอก ซึ่งในขณะที่เขาเดินผ่านเซียวเยี่ยน เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้พูดออกมาเบาๆแต่ก็เพียงพอที่ให้ทุกคนในห้องนั้นได้ยิน “นายท่านได้กล่าวเอาไว้แล้ว แม่นางเยี่ยนอย่าได้พูดอะไรมากความ เพราะถ้าหากนายท่านไม่ชอบอะไรแล้วนายท่านจะไม่พอใจขึ้นมา แล้วถ้านายท่านไม่พอใจเมื่อไรเขาอาจจะ....ฆ่าคนก็ได้”
ช่วงที่เขาหยุดพูด เขาก็ได้เอามือปาดที่คอของเขา เซียวเยี่ยนก็ได้ตกใจและรีบซ่อนคอของนางโดยไว
แล้วเยี่ยเหลียงเฉินก็ได้สั่งการอู่อานกับพรรคพวก แล้วตัวเขาควบม้าไปในยามค่ำคืนพร้อมกับรถม้า
บนรถม้า หรงสวินนั้นดูสูงส่งและไม่อาจเข้าใกล้ได้
ปากของเซียวเยี่ยนก็ได้เงียบอย่างเชื่อฟัง
แล้วนางก็ได้อยู่ในภวังค์และนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนนั้น เขาคนนั้นได้นั่งรถม้ามาและรับนางออกมาจากหอไป่ฮวาแล้วพานางไปรอบๆเมืองหลวงด้วยรถม้า
นางจำได้ว่าเขาคนนั้นยังเคยใช้เกี้ยวที่สวยงามแบกไปที่บ้านของเขา และยังจำได้ว่าเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่าสักวันเขาจะไถ่ตัวนางไปเป็นอนุชายา....
แล้วน้ำตาก็ได้เริ่มไหลออกมา หลายปีผ่านมานางได้แต่เฝ้าภาวนาขอให้ตัวนางนั้นหายจากอาการป่วยและได้พบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง แต่วันนั้นก็ไม่มาถึงนางตามที่ปรารถนาเสียที และโรคของนางก็รักษาไม่หาย
รถม้าขับไปอย่างช้าๆ แล้วจากนั้นก็ได้ถึงที่หมายโดยที่ท้องฟ้ายังไม่ทันแจ้งเลย
เซียวเยี่ยนก็ได้ถือโอกาสเชิญหรงสวินไปที่บ้านของนาง นางนั้นมีห้องที่เคยเตรียมไว้ให้นางหวังและเซียวหลีกับ เซียวเป่าเอ๋อแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้อยู่ ห้องจึงถูกทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ ในเวลานี้นางได้จัดการทำความสะอาดและใช้เป็นห้องรับแขกสำหรับหรงสวิน
“คุณชาย ถ้าหากท่านต้องการอะไรก็บอกข้าได้ทุกเมื่อ แล้วข้าจะจัดการให้”
“อย่าไปเล่นพนันสามวันสามคืนก็พอ เข้าใจไหม?”
เซียวเยี่ยนก็ได้ยิ้มอย่างอายๆแล้วกล่าว “ไม่แล้วเจ้าค่ะ”
ด้วยพระพุทธรูปองค์โตนี้ นางอยากจะรู้นักว่าจะมีใครมากล้าก่อกวนพวกนางอีกไหม?
“เหลียงเฉิง.....” หรงสวินก็ได้เรียกเยี่ยเหลียงเฉินให้มาหาเขาแล้วกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
เยี่ยเหลียงเฉินที่ได้รับคำสั่ง ก็ได้หยิบเอาตำลึงทองออกมาแล้วกวัดแกว่งตรงหน้าเซียวเยี่ยน เมื่อเห็นทองตาของ เซียวเยี่ยนก็ได้เป็นประกายขึ้นมาทันที แต่เยี่ยเหลียงเฉินก็ไม่ได้ให้นางไปง่ายๆ