บทที่ 16 เรื่องของพี่สาว
บทที่ 16
เรื่องของพี่สาว
“ท่านแม่ จริงๆแล้วเป่าเอ๋อเคยพูดเรื่องแต่งงานของท่านแม่กับท่านลุงหรงแล้ว ท่านลุงหรงนั้นมีคู่หมั้นแล้วล่ะขอรับ ท่านแม่ตัดใจจากเขาเถอะขอรับ” เซียวเป่าเอ๋อพูดอย่างติดตลก
เซียวหลีก็ได้ยักไหล่ไม่สนใจ
“เขาก็แค่หน้าตาดีเท่านั้น แม่ไม่ได้บอกว่าแม่จะแต่งงานกับเขาเสียหน่อย กับคนที่ทั้งดื้อด้านและเลือดเย็นอย่างเขาน่ะมีอะไรให้น่าสนใจนอกจากหน้าตาดีเท่านั้นแหละ? หึ....อย่างเขาน่ะไม่เหมาะสมที่จะแต่งงานกับแม่ของเจ้าเลยสักนิด” เมื่อเซียวหลีนึกถึงหรงสวินขึ้นมาก็ทำเอาขนลุกซู่ไปหมด นางใช้นิ้วชี้ไปที่หน้าผากของเซียวเป่าเอ๋อแล้วก็ดีดหน้าผากของเขาเบาๆ “แล้วก็เจ้าตัวแสบ ใครใช้ให้เจ้ามาหาสามีให้แม่ของเจ้าไม่ทราบ?”
“สามี?”
“สามี”
“ใช่สิ....แล้วใครกันนะที่ทำให้ข้าต้องกังวลเรื่องนี้? เพราะท่านแม่ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับใครเลย ในขณะที่เป่าเอ๋อนั้น อยากที่จะมีพ่อทุกวัน เป่าเอ๋อนั้นไม่อยากที่จะเป็นไอ้ลูกไม่มีพ่อจากปากของใครต่อใคร....”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เซียวเป่าเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขา
เซียวหลีก็ได้ปลอบเขา มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กในวัยนี้จะต้องการพ่อ
“ไม่ต้องกังวล แม่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ แม่จะต้องเลือกสามีดีๆมาเป็นพ่อของเป่าเอ๋อให้แน่ๆ”
“เอาเถอะ ได้ยินท่านแม่พูดเช่นนี้เป่าเอ๋อก็โล่งอก ถ้าเป็นเมื่อก่อนท่านแม่ไม่แม้แต่จะให้เป่าเอ๋อพูดถึงด้วยซ้ำ ทันทีที่ข้าพูดถึงเรื่องพ่อท่านแม่ก็จะร้องไห้ ตอนนี้ไข้ใจของเป่าเอ๋อในที่สุดก็ได้หายไปหนึ่งอย่างแล้ว”
เซียวหลีก็ได้ผงกหัว ในโลกที่แปลกประหลาดนี้เมื่อนางได้เลือกที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว นางจะต้องไม่ตาบอด นางจะไม่เลือกผู้ชายที่เอาแต่ยุ่งวุ่นวายและแต่งงานภรรยาสามสนมสี่เด็ดขาด
“แต่ท่านแม่ ในเมื่อท่านไม่ได้ชอบท่านลุงเหวินไฉ ท่านแม่ก็ต้องทำความสะอาดตัวเองให้ดีๆนะ แล้วไปหาผู้ชายรวยๆมีอำนาจมาให้ได้นะขอรับ ถ้าเกิดว่าท่านแม่ขายได้ราคางามๆ เป่าเอ๋อก็จะได้สุขสบายในอนาคตนะขอรับท่านแม่” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้พูดอย่างใสซื่อมากและรอให้เซียวหลีตอบกลับมา
เซียวหลีก็ได้ยกมือขึ้นมาตั้งท่าตี ซึ่งได้ขู่ให้ เซียวเป่าเอ๋อกลัวและหนีออกจากห้องไป
“ไม่นะ ท่านแม่กำลังจะฆ่าลูกของตัวเองแล้ว....”
ในห้องข้างๆ นางหวังที่ได้ฟังความจริงเรื่องนี้ ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วในตอนที่เซียวหลีได้เล่าถึงความคิดของเซียวเหวินไฉแล้ว นางเองก็แอบคาดหวังให้เซียวหลียอมตกลงเช่นกัน อย่างไรเสียผู้หญิงก็ควรที่จะออกเรือนไป เพื่อที่ว่าในอนาคตนางตายไป เซียวหลีก็ยังมีบ้านและครอบครัวอยู่
“เซียวหลี!”
จู่ๆก็มีเสียงดังลั่นขึ้นมา จนเซียวเป่าเอ๋อก็เกือบที่จะยืนไม่ติดพื้น จนเขาลืมไปว่าตัวเขานั้นกำลังวิ่งหนีอยู่แล้วก็รีบวิ่งกลับไปหาอ้อมแขนของเซียวหลีโดยไว
“ท่านป้าเป็นอะไรไปนะ? นางทำเสียงเหมือนกำลังจะกินคนยังไงอย่างงั้น”
ทันทีที่เขาพูดจบ เซียวเยี่ยนก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าบ้านขณะที่ยืนกอดอกอยู่ และดวงตาของนางก็ได้ลุกไหม้เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
“เซียวหลี เจ้ากล้าดียังไงมายุ่งกับปิ่นปักผมเงินของข้า ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าของทุกอย่างของข้าทุกคนจับต้องได้ยกเว้นปิ่นปักผมเงินของข้าน่ะ”
เซี่ยวเยี่ยนก็ได้ทำแก้มป่องและถือปิ่นปักผมเงินไว้ในมือของนาง ซึ่งแน่นอนว่านางจำปิ่นปักผมเงินเหล่านี้ได้ เพราะเมื่อวานนี้นางเพิ่งใช้พวกมันฝังเข็มให้กับหลงสวิน
เมื่อเซียวเยี่ยนตะโกนใส่เช่นนี้ เซียวหลีก็ได้นึกได้ขึ้นมาในหัว ครั้งหนึ่งนางเคยหยิบเอามาใช้เองครั้งหนึ่งแล้วก็ถูกดุอย่างรุนแรง
เมื่อมองไปที่ท่าทางของนางแล้ว ก็พบว่าเซียวเยี่ยนนั้นกำลังโมโหมาก
“เจ้าเป็นใบ้งั้นเหรอ? คำพูดของข้ามันเข้าหัวของเจ้าบ้างไหม หรือเป็นข้าเองที่มีปัญหาในการพูด? ถ้าไม่ใช่เพราะข้า เจ้าก็คงอดอยากจนตายนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”
เซียวเยี่ยนก็ได้เดินเข้ามาในบ้านแล้วมองหาเก้าอี้นั่งลง นางได้หยิบเอาเข็มเงินเหล่านี้ออกมาจากในกล่องที่ดูเลิศหรูอย่างระมัดระวัง เซียวหลีเองก็เห็นกำไลหยกอย่างดีอยู่ในนั้นด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นหยกจักรพรรดิเขียว
“เจ้ากำลังมองดูอะไรอยู่? รึเจ้าคิดอยากที่จะเอาปิ่นปักผมข้าไปอีก?” เซียวเยี่ยนก็ได้รีบเอามือปิดกำไลหยกและปิ่นปักผมเงินด้วยฝากล่อง “นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าหากว่าข้าเห็นอีก ก็อย่ามาโทษข้าว่าไม่เห็นเจ้าเป็นน้องสาว”
“อาเยี่ยน เจ้ากับน้องสาวควรจะค่อยๆพูดดีๆกันนะ”
นางหวังก็ได้ออกมาจากห้อง เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ทักทายนางแล้วพานางมานั่งที่เก้าอี้
“ท่านแม่ ทั้งความเยาว์ของข้าและทุกสิ่งทุกอย่างข้าก็ได้เสียสละให้ครอบครัวนี้ไปหมดแล้ว ขอเพียงของเหล่านี้เท่านั้นไม่ใช่แค่เซียวหลีแต่ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง คราวหน้าถ้าหากใครแตะต้องอีกข้าจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”
เมื่อเซียวเยี่ยนพูดเช่นนี้จบ ก็ได้มีแสงที่ดุดันอยู่ในดวงตาของนางรวมถึงน้ำตา
เซียวหลีนั้นรู้ดีว่านางนำของเหล่านี้กลับมาจากหอไป่ฮวาด้วย แม้ว่านางจะไม่มีกินนางก็ไม่เคยยอมขายปิ่นปักผมเหล่านี้เลย
แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำไลหยกในกล่องเมื่อสักครู่นี้ซึ่งเพียงแค่มองผ่านๆก็พบว่ามันเป็นของที่มีค่ามาก ถ้าหากนำไปขายครอบครัวนี้ก็คงจะอยู่ได้อย่างสบายๆไปตลอดชีวิต
แม้เซียวเยี่ยนนั้นจะติดการพนันแต่นางก็ไม่เคยพนันด้วยของเหล่านี้เลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าของเหล่านี้มันสำคัญกับนางมากเพียงใด!
เซียวเป่าเอ๋อเองก็รู้ดีว่าของเหล่านี้ไม่ใช่ของที่ไม่มีราคาค่างวดอะไร มันสามารถใช้แก้ไขปัญหาเรื่องเงินและเสื้อผ้าของครอบครัวได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงเป็นของที่มีค่ากับท่านป้ามากๆ
“อาเยี่ยน ทำไมเจ้าถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้” ไม้เท้าในมือของนางหวังก็ได้สั่นอย่างกระวนกระวาย แล้วน้ำตาของนางก็ได้ไหลลงมา “น้องสาวของเจ้านั้นลำบากนัก เจ้าก็ควรที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และคอยช่วยเหลือแม่”
“แล้วทำไมข้าจะต้องพูดดีๆกับอาหลีด้วย? ข้าพบของเหล่านี้ถูกทิ้งอยู่ข้างเตียงราวกับเป็นขยะ อาหลีใช้พวกมันฝังเข็มชายคนนั้น ถ้าเกิดมันหักขึ้นมาข้าคงไม่ยกโทษให้ตัวเองและไม่ยกโทษให้นางด้วยเช่นกัน ของพวกนี้เป็นของที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของข้า ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง”
เซียวเยี่ยนกล่าวอย่างมีอารมณ์ แล้วน้ำตาของนางก็ได้ไหลออกมา เมื่อนางพูดจบนางก็ได้ลุกขึ้นยืน นางมองไปที่ เซียวหลีด้วยดวงตาที่มีน้ำตาและแฝงด้วยความไม่ปรานีอย่างชัดเจน “อาหลี เห็นแก่เจ้าเป็นน้องข้า ข้าจะให้โอกาสครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายอย่าแตะต้องข้าวของของข้าอีก”
เซียวหลีก็ได้ปิดปากและผายมือของนางออก แต่นางก็พูดอะไรไม่ออก
จนกระทั่งเซียวเยี่ยนเดินไปที่ประตู เซียวหลีก็ได้สั่งให้เซียวเป่าเอ๋อให้ยานางหวังแล้วเดินตามนางออกไป
“ท่านพี่”
เซียวเยี่ยนก็ได้หยุดเมื่อได้ยินเสียงแล้วหันกลับมามองเซียวหลี “อะไร? เจ้าไม่พอใจรึยังไง?”
“ท่านพี่ ครั้งนี้มันเป็นความผิดของข้าเองที่ไปแตะต้องสมบัติของท่าน แต่ข้าได้ใช้มันเพื่อช่วยคุณชายที่มีค่าของท่านนะ”
“ต่อให้เขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่คุณชายของข้า”
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ, ความชิงชังและความหลงใหล โดยไม่รู้ว่าความไม่พอใจนั้นมาจากเซียวหลีหรือสมบัติเหล่านั้น
หรงสวินนั้นจะต้องเป็นคนที่มีภูมิหลังเป็นแน่
“ก็ได้ ต่อจากนี้ไปข้าจะไม่แตะต้องข้าวของท่านพี่อีก....แต่ท่านพี่เดี๋ยวก่อน เมื่อก่อนข้าเคยคิดว่าท่านเกลียดข้ามาก่อน เพราะดูเหมือนท่านพี่จะไม่ได้คุยกับข้ามานานแล้ว ท่านพี่ยังคงรักข้าเหมือนที่ข้ารักท่านหรือไม่?”
เมื่อเห็นว่าเซียวเยี่ยนนั้นกำลังจะเดินกลับไป เซียวหลีก็ได้รีบรั้งนางเอาไว้
เซียวเยี่ยนก็ได้หันกลับมามองเซียวหลีแล้วกล่าว “มันก็เป็นเหมือนแต่ก่อนนั่นแหละ”
“มองเข้าไปในดวงตาที่พร่ามัวของนาง ไม่ว่าจริงหรือเท็จเซียวหลีก็ไม่สามารถมองออกได้อย่างชัดเจน
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอพูดจริงจัง ในตอนกลางวันน้องเห็นท่านพี่ดูอาการไม่ค่อยดี น้องนั้นมีความสามารถด้านการแพทย์มากอยู่และเก็บสมุนไพรบางส่วนมา บางทีข้าอาจจะช่วยรักษาอาการของท่านก็ได้ ท่านพี่พอจะเชื่อข้าได้ไหม?”
เซียวเยี่ยนก็ได้มองไปที่เซียวหลีด้วยความโกรธ “ในตอนนั้น ท่านพ่อได้พาข้าไป แล้วก็ขายข้าให้กับ.....”
“ท่านพี่เชื่อข้าเถอะนะ”
เซียวเยี่ยนก็ได้ส่ายหัวของนางแล้วหันหลังเดินหนีไป แม้หมอที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในแผ่นดินก็ยังไม่สามารถรักษานางได้ แล้วอย่างเซียวหลีจะทำอะไรได้? อย่างนางมีหรือจะไม่รู้ว่า เซียวหลีนั้นมีความสามารถแค่ไหน?