CD บทที่ 35 คุณจะแทงพลูกี่รอบ
ที่แผนกสืบสวนคดีมีกฎอยู่บางอย่าง นั่นก็คือเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องมีระบบติดตามที่โทรศัพท์ของตัวเองทุกคนเพื่อให้หัวหน้าของแต่ละคนสามารถทราบตำแหน่งได้ทุกเมื่อและด้วยวิธีนี้เอง ถ้าหากพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายระหว่างการสืบสวน หัวหน้าทีมจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
จางจิงเฟิงก็ไม่ได้รับข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน หลี่เบ่ยหนีใช้เวลาไม่นานก็สามารถตรวจสอบที่อยู่ของจางจิงเฟิงได้ เขาไม่ได้อยู่ที่บ้านอย่างที่บอกไว้แต่อยู่ที่พูลบาร์ต่างหาก!
‘ไอ้คนทรยศ! ทำเป็นเออออว่าจะช่วยเหลือเรื่องสืบคดีนี้อย่างเต็มใจ แต่กลับทำตัวสบาย ๆ อยู่ที่พูลบาร์ในเวลานี้เนี่ยนะ!’
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้เอง” จ้าวหยู่บอกกับหลี่เบ่ยหนี “เธอไปตรวจสอบเรื่อง หลี่ฉินฮัวและหลักฐานใหม่ ๆ พวกนั้นก่อน หากมีคืบหน้าอะไรก็รีบโทรหาฉันทันที เข้าใจนะ!”
“รุ่นพี่จะทำอะไรกับจางจิงเฟิงเหรอคะ?” หลี่เบ่ยหนีเอ่ยถามไปอย่างกังวล “เขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกแผนกสืบสวนนะคะ คุณอย่าทำอะไรรุนแรงกับเขานะคะ ลองคิดดูดี ๆ อีกครั้งเถอะค่ะ”
“รุ่นพี่ของเธอไม่ได้เป็นคนโง่ขนาดนั้นหรอกน่า ไม่ต้องห่วง!” จ้าวหยู่หัวเราะ “อย่ากังวลไปเลย ยังไงหมอนั่นก็จะยอมช่วยเราตรวจสอบข้อมูลให้แน่ ไม่ว่าจะเจอหรือไม่เจอก็ตาม ทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ฉันเท่านั้นหรอกนะ!”
เมื่อจ้าวหยู่แจกจ่ายงานกับหลี่เบ่ยหนีเสร็จ เขารีบตรงไปพูลบาร์ทันที ตอนนี้เป็น เวลาเที่ยงตรงพอดี คนมาใช้บริการจึงไม่เยอะเท่าไหร่นัก มีเพียงสองจากแปดโต๊ะเท่านั้นที่ถูกใช้งานเท่านั้น
จ้าวหยู่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง มองดูใครบางคนกำลังใช้ชอล์กก้อนเล็ก ๆ ถูปลายไม้คิวเพื่อเตรียมยิงช่วงต่อไปของตัวเอง คู่ต่อสู้ของจางจิงเฟิงไม่ใช่เหลียงฮวนคู่หูของเขาแต่เป็นใครบางคนที่เจ้าวหยู่ก็รู้จักเหมือนกัน เขาเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มในกรมตำรวจที่เห็นได้ชัดว่ามีทักษะการเล่นพลูของเขายอดเยี่ยมมาก
เมื่อสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนยืนอยู่ใกล้ ๆ จางจิงเฟิงยกศีรษะขึ้นมาจากโต๊ะพูลเพื่อมองดูว่าเป็นใคร ทันทีที่เห็นว่าเป็นจ้าวหยู่ เขาก็ชะงักไปแปปหนึ่ง ปากของเขาอ้าออกเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา
“อะไรกัน เสี่ยวจ้าวนี่เอง ลมอะไรพานายมาที่นี่ได้?”
ชายคนนี้ช่างไร้ยางอายจริง ๆ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ตัวเองตกลงจะช่วยจ้าวหยู่เอาไว้เลย
“ลมพาฉันมาที่นี่ไม่ได้หรอก...นอกเสียจากไฟ!” จ้าวหยู่ส่งยิ้มกลับไปเบา ๆ พลางชี้ไปที่หน้ำอกตัวเองบริเวณหัวใจที่แสดงให้เห็นว่าเขำกำลังโกรธชายตรงหน้าอยู่
“ฮ่า ๆ มาเรื่องธุระอันนั้นสินะ? มีเรื่องเร่งรีบอะไรกัน?” จางจิงเฟิงยังคงยิ้มไปด้วยขณะที่เขากำลังพูด “ไม่ว่าไฟจะใหญ่ขนาดไหน มันก็ไม่สามารถทำอะไรนายได้หรอก จริงไหม? ฮ่าๆ”
เมื่อเห็นจางจิงเฟิงกำลังหัวเราะ ตำรวจหนุ่มอีกคนก็เริ่มหัวเราะตาม
“จาง...” จ้าวหยู่หุบยิ้มและเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกก็รู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไม แค่คำเดียวจะช่วยหรือไม่ช่วย พูดมาตรง ๆ!” จ้าวหยู่รู้ว่าจางจิงเฟิงกำลังรอให้เขายื่นข้อเสนอให้แต่เขาเลือกปฏิเสธที่จะยกเรื่องนั้นขึ้นมาพูด
รอยยิ้มของจางจิงเฟิงเริ่มจางหายไป เขาดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง จากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจอะไรได้และเริ่มหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“จ้าวหยู่! ดูนายสิ ช่วยไม่ช่วยอะไรกัน เราต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เอาน่า อย่าเพิ่งมาคุยปัญหาอะไรกันที่นี่เลย มาเล่นเกมกันสักตาสองตากัน!”
เห็นได้ชัดว่าจางจิงเฟิงไม่เต็มใจที่จะช่วยจ้าวหยู่ ถ้ำเขำไม่ได้ยินเรื่องข้อเสนอใด ๆ เขาก็จะบ่ายเบี่ยงจ้าวหยู่ไปเรื่อย ๆ แบบนี้
เมื่อเห็นท่าทีที่ชัดเจน จ้าวหยู่ไม่สามารถอดกลั้นความโมโหของตัวเองไว้ได้มากนัก เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย จากนั้นก็เหลือบมองกลับไปที่โต๊ะพลูนี้และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“พวกคุณเล่นกันคนละเท่าไหร่?”
“ฮิฮิ” จางจิงเฟิงหัวเราะ“ฉันบอกไม่ได้หรอกนะพวกแต่เห็นได้ชัดว่านายเองก็มีทักษะด้านนี้เหมือนกันนี่ นายรู้ว่าพวกเราทำงานหาเงินได้แบบเดือนชนเดือนตลอด ดังนั้นมันก็ไม่มีอะไรมาก แทงครั้งละห้าสิบ แบบนี้เป็นไง?”
“แทงครั้งละห้าสิบ?” จ้าวหยู่แกล้งถามอย่างสนใจ “แล้วฉันจะสามารถแทงได้กี่ครั้ง?”
“นายกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?” ดวงตาของจางจิงเฟิงเบิกกว้าง “แทงกี่รอบก็ได้ตามใจนายเลย โอ้ นี่นำยกำลังจะบอกว่าทักษะของตัวเองดีอยู่อย่างนั้นสิ? นี่นายกำลังข่มขวัญฉันอยู่หรือไง? ฮ่า ๆ” จางจิงเฟิงหัวเราะอย่างดังด้วยความขบขัน เขาเองก็มีทักษะการเล่นพลูที่ค่อนข้างจะเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหาคู่แข่งที่สูสีกับเขาได้
“ได้! แกพูดเองนะ!” จ้าวหยู่ชี้ไปที่ตัวจางจิงเฟิง “แทงครั้งละห้าสิบและจะแทงกี่ครั้งก็ได้สินะ?”
“อย่างนั้นเลยพวก!” จางจิงเฟิงได้หันไปตะโกนที่เคาเตอร์ “เถ้าแก่เตรียมโต๊ะให้พวกเราด้วย วันนี้น้องชาย ฉันจะมาร่วมวงด้วย!”
เมื่อเถ้าแก่ที่มีร่ำงกายกำยำได้ยินเสียงเรียก เขาก็รีบเข้ามาจัดการเซ็ตลูกที่โต๊ะให้ทันที แต่ทว่า จ้าวหยู่ก็ขวางชายคนนั้นและแย่งไม้คิวไปจากมือ ภายใต้การจ้องมองที่น่าตกใจของทุกคน จ้าวหยู่กระแทกไม้คิวลงอย่างแรงตรงบริเวณต้นขาเรียว ๆ ของตัวเอง ไม้คิวแตกหักไปเกือบครึ่งพร้อมเสียงร้องที่ดังลั่น!
*เปรี๊ยง!!*
“ห้าสิบ!” จ้าวหยู่ตะโกนเสียงดัง เขาคว้าไม้คิวอีกอันแล้วเหวี่ยงไปในอากาศราวกับกำลังวาดสัญลักษณ์อะไรสักอย่ำง จากนั้นเขาก็ทำมันหักอีกครั้ง
“หนึ่งร้อย!”
*เปรี้ยง!!*
“หนึ่งร้อยห้าสิบ!!”
จ้าวหยู่เริ่มรู้สึกถึงอาการเจ็บที่ต้นขาของตัวเอง เขาวางไม้คิวลงข้าง ๆ โต๊ะพลู ก่อนจะใช้ศอกตัวเองกระแทกจนไม้มันหักเป็นสองส่วน
“สองร้อย!!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนว่า ‘สองร้อย’ หนึ่งในเหล่ากลุ่มคนที่กำลังตกตะลึงก็พูดขึ้นมาว่า
“นี่แกอยากตายหรือไง!” เถ้าแก่ตะโกนใส่จ้าวหยู่
ก่อนจะรีบเข้าไปหยุดการกระทำอันดิบเถื่อนนี้แต่จ้าวหยู่พลิกตัวไปด้านข้างและชกไปที่ชายคนนั้น พลังของหมัดนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแรง แรงกระแทกบนใบหน้ำราวกับเสียงฟ้าผ่า ชายร่างกำยำเริ่มโซเซ จากนั้นศีรษะของเขากระแทกกับโต๊ะพลู ด้วยแรงกระแทกทำให้เขาพลิกตัวไปด้านข้างด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงแน่นิ่งอยู่บนพื้นโดยหงายหน้าขึ้นมองเพดาน
จางจิงเฟิงและตำรวจหนุ่มคนนั้นกำลังอยู่ในอาการตกใจ แม้แต่จะขยับเท้ายังทำไม่ได้เลย
จ้าวหยู่หายใจออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับเขาแค่กำลังวิ่งออกกลังอยู่เฉย ๆ เท่านั้น สำหรับตัวเขาเองมันก็ผ่านมาสักระยะแล้วเช่นกันที่ไม่ได้ออกแรงมากมายขนาดนี้
“จาง!!” จ้าวหยู่หันไปมองคนที่เขำเอ่ยชื่อ “แทงลูกจริง ๆ มันไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ว่างั้นไหม? เราจะแทงลูกกลม ๆ นี่กันเฉย ๆ ทำไม?”
ขณะที่เขาพูด เขาหยิบลูกพลูขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มให้ “ลูกละยี่สิบ แกคิดว่าไง?”
“ว่าไงนะ!!”
ไม่รอช้ำ จ้าวหยู่รีบทำตามสิ่งที่เขาพูดทันที จ้าวหยู่ขยับไหล่ไปด้านหลังเล็กน้อยลาปาลูกพูลขึ้นไปด้านบนตรง ๆ จนไปโดนกับโคมระย้าเข้า เสียงกระทบที่ดังลั่นส่งผลให้เศษแก้วกระจัดกระจายค่อย ๆ ตกลงสู่พื้นพร้อมกับความหวาดกลัวของทุกคน
“ไปเลย!!”
จ้าวหยู่เริ่มปาลูกพูลไปเรื่อย ๆ รอบนี้เขาพยายามปาไปตรงหน้าต่าง แล้วเสียงกระจกแตกก็ดังขึ้นอีกครั้ง รอบถัดไป เขาตั้งใจจะโยนไปทางจางจิงเฟิง ทำให้จางจิงเฟิงเผลอเดินถอยหลังไปด้วยความกลัว ขาของเขาพันกันไปหมดจนทำให้เขาล้มลงไปกองบนพื้น
จ้าวหยู่แค่แกล้งทำท่าเฉย ๆ เท่านั้น เขาไม่ได้มีเจตนาจะโยนลูกให้ไปโดนจางจิงเฟิง แต่เมื่อเห็นจางจิงเฟิงสะดุดขาล้มลงไป เขาก็หัวเราะออกมาพร้อมกับปาบอลไปทางอื่นต่อ มันเฉียดหูของจางจิงเฟิงไปนิดเดียว เสียงลมที่ผ่านหูเขาไปทำให้จางจิงเฟิงขนลุกทั้งตัวไปด้วยความกลัว
*หวู่ม!!*
จ้าวหยู่ยังคงปาบอลไปทางจางจิงเฟิงอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีลูกไหนที่จ้าวหยู่ตั้งใจจะให้โดนตัวเขา แค่ทำให้เขาตกใจกลัวเท่านั้น
“พอแล้ว พอได้แล้ว!!”
ในที่สุดจางจิงเฟิงก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขายกมือขึ้นเหนือหัวขอยอมแพ้
“ฉันจะไปดูเรื่องนั้นให้เอง ฉันจะไปสืบมันให้ นายพอใจยัง!?”