เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 136
ตอนที่ 136
ก่อนที่หลินซวนจะได้โต้ตอบใดๆ เขาก็ค้นพบว่าสตรีสกุลหลินที่มีระดับการบ่มเพาะน้อยกว่าร้อยปีทั้งหลายได้ก้าวออกมามาจากด้านหลังของเขา
พวกนางมีด้วยกันราวหนึ่งร้อยคน และดูดุดันยิ่งนักในเวลานี้ ยิ่งกว่านั้น แม่นางทั้งหลายยังสวมใส่ชุดเกราะและอาวุธรวมถึงสมบัติวิเศษหลากหลายชิ้น
“ต่อให้ระดับการบ่มเพาะของพวกเราน้อยนิดจะมิอาจจะต่อกรกับคนจากราชวงศ์อมตะได้ แต่อย่างน้อยก็ให้พวกเราได้จัดการกับพวกหน้าหนาไร้ยางอายแสนอ่อนแอพวกนั้นเถิดเจ้าค่ะ!” หญิงสาวท่าทางองอาจผู้หนึ่งที่เป็นผู้นำกลุ่มสตรีดึงกระบี่เล่มยาวของนางออกมาพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คราวที่แล้วข้าถูกบังคับให้ต้องจากไปอย่างมิเต็มใจ ครานี้ข้าจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว!” ดรุณีน้อยรวบผมทรงหางม้านางหนึ่งกล่าวอย่างดื้อดึง
แรกเริ่มเดิมที หลินซวนเอกก็ประหลาดใจมิใช่น้อย มันเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะให้หญิงสาวตระกูลหลินเหล่านี้ซึ่งไม่ได้มีระดับลมปราณที่สูงนักออกไปเผชิญหน้ากับศัตรู อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินซวนได้ยินคำพูดของพวกนาง กระทั่งเขาเองยังอดจะรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมามิได้ เขาจึงม้วนแขนเสื้อของตนขึ้นพลางเอ่ยออกมา
“เช่นนั้นก็ไปสังหารพวกมันให้หมดสิ้นเถิด! ให้พวกมันรู้ว่าตระกูลหลินมิใช่สิ่งที่พวกมันจะดูถูกได้!” หลินซวนโบกมือน้อยๆ ของเขาไปมา
“ใช่แล้ว พวกเราล้วนเป็นคนแซ่หลิน ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไม่สนับสนุนตระกูลหลิน!”
“ถูกแล้ว! พวกเราเองก็ย่อมต้องช่วยเหลือผู้อื่นในตระกูลด้วยเช่นกัน!”
“โดยเฉพาะพวกลูกเต่าแซ่หวัง พวกเราจะไม่ยอมปล่อยให้พวกมันมีชีวิตรอดไปได้ พวกมันกล้าส่งคนมาลอบสังหารซวนเอ๋อร์ของพวกเรา พวกมันรนหาที่ตาย!”
หลินซวนมองไปยังสตรีกลุ่มนั้น อันที่จริงแล้วระดับการบ่มเพาะของพวกนางมิได้แข็งแกร่งกว่าหลินซวนแต่อย่างใด แต่สิ่งที่พวกนางกระทำกลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่นในใจยิ่งนัก
“ไป! ทำให้พวกมันรู้ว่าสกุลหลินใช่สิ่งที่พวกมันจะมาเหยียดหยามได้!”
สตรีสกุลหลินพุ่งออกไปพร้อมด้วยจิตสังหารแรงกล้า พวกนางต่างควบขี่สมบัติแล้วเหาะตรงไปยังเหล่าจารชนของตระกูลต่างๆ ที่ถูกเปิดเผยตัวตนด้วยค่ายกล!
นอกเมืองต้าหยานมีภูเขาสลับซับซ้อนมากมายที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบ บัดนี้ ศัตรูทั้งหลายต่างซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเหล่านั้น และกำลังพยายามจะศึกษาว่าค่ายกลของสกุลหลินในครานี้นั้นมีที่มาแล้วพลังอำนาจเช่นใด ในอนาคต เมื่อราชวงศ์อมตะมาถึง พวกมันจะได้สามารถนำทางได้อย่างถูกต้อง
ในตอนนั้นเอง พวกมันกลับนิ่งค้างไป ด้วยเหตุผลบางประการ สตรีแซ่หลินจำนวนหนึ่งต่างพุ่งเข้ามาโจมตีพวกมัน ฉากเบื้องหน้านี้ทำเอาพวกมันอดมิได้ที่จะรู้สึกสยองขวัญอยู่บ้าง คราแรก พวกมันโจมตีกลับด้วยสมบัติในมือของตนก่อนจะหันหลังกลับและหนีไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลหลิน และราชวงศ์อมตะที่ต้องการจะบดขยี้สกุลหลินก็ยังมาไม่ถึง อีกทั้งพวกมันเพียงมาเพื่อตรวจสอบค่ายกลเพื่อจะได้เสนอหน้ารับความดีความชอบจากราชวงศ์อมตะเท่านั้น พวกมันจึงเลือกที่จะหลบหนีมากกว่าปะทะกับคนตระกูลหลินซึ่งๆ หน้า
หรือให้กล่าวอีกอย่างหนึ่ง พวกมันเพียงมาอาศัยจังหวะจับปลาตอนน้ำขุ่น ทว่ามิได้ต้องการจะเผชิญกับตระกูลหลินโดยตรง ขืนพวกมันเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ คงนับว่าเป็นหายนะแก่ตระกูลของพวกมันแล้ว
ทางด้านหลินซวน เขาพุ่งตัวมาอยู่ด้านหน้าและม้วนแขนเสื้อของตน กลายเป็นผู้นำของกลุ่มสตรีสกุลหลินที่กำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารแรงกล้า เพียงโบกมือครั้งหนึ่ง ประกายสายฟ้าก็ปรากฏขึ้น หนุนเสริมด้วยพลังจากค่ายกลแล้ว ผู้คนที่กำลังหลบหนีอยู่เบื้องหน้าของเขาบางส่วนถูกสายฟ้าเผาจนเป็นเถ้าธุลี!
“เจ้าพวกลูกกำพร้า! กล้ามากที่เสนอหน้ามาที่นี่ พวกเจ้ามิรู้หรือไรว่าราชวงศ์อมตะกำลังจะมาถึงในไม่ช้า?” ชายคนหนึ่งที่มาสอดแนมคำรามด้วยความโกรธ ดวงตาของมันกลายเป็นสีแดง ในกลุ่มคนที่ถูกเผาเป็นจุณก่อนหน้านี้ หนึ่งในนั้นคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมัน มันจึงหันหน้ากลับมาและโจมตีใส่หลินซวน
มันเป็นตัวตนระดับแดนหมุนวนทะเลปราณผู้หนึ่งที่จัดได้ว่าเป็นยอดฝีมือ มันตั้งใจจะเผชิญหน้ากับหลินซวนเพื่อแก้แค้นให้บุตรชาย ทว่ามีดรุณีน้อยผู้หนึ่งพุ่งแซงหน้าหลินซวนออกมาจากด้านหลัง นางเป็นเด็กสาวหน้าตางดงาม อายุเพียงไม่เกินยี่สิบหนาว ผมยาวถูกรวบตึงไว้ด้านหลัง และอยู่ในชุดสีฟ้าสดใส วังวนแห่งพลังดูดกลืนปรากฏขึ้นในฝ่ามือของนาง ก่อนที่นางจะมือของตนขึ้นเพื่อรับการโจมตีจากผู้บ่มเพาะแดนหมุนวนทะเลปราณผู้นั้น
ผู้ฝึกตนชายคนนั้นกุมด้ามกระบี่เอาไว้ในมือ เพียงมันสะบัดคราหนึ่งปราณกระบี่ก็พุ่งออกมา ตามด้วยปราณวิญญาณของมันที่ทะลักราวกับสายน้ำหลาก มันต้องการจะแลกชีวิตอย่างเต็มที่! ทว่า แม่นางน้อยแซ่หลินกลับทำเพียงผลักวังวนดูดกลืนของตนใส่อีกฝ่าย ก่อนที่ปราณกระบี่จะถูกกลืนกินจนหายไปหมดสิ้น จากนั้นดวงตาของนางก็เปล่งประกายเจิดจ้าก่อนยิงลำแสงออกมา กระทบถูกกระบี่ในมือของอีกฝ่ายจนมันแตกกระจาย และเจ้าของกระบี่ก็ถูกลำแสงกระแทกกระเด็นออกไปไกลก่อนที่ท้ายที่สุดร่างกายของมันระเบิดเป็นชิ้นๆ กลางอากาศ!
“พี่สาวหลินหนาน ข้าไม่คิดเลยว่านางจะเลื่อนขั้นไปจนถึงแดนหมุนวนทะเลปราณแล้วจริงๆ” สตรีสกุลหลินบางส่วนที่อยู่ด้านหลังของหลินซวนอดมิได้ที่จะตกตะลึงอยู่บ้าง ก่อนที่ความตกใจนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความยินดีในทันที
หากไม่นับหลินซวนแล้ว หญิงสาวในชุดสีฟ้าสดใสผู้นั้นคืออัจฉริยะชั้นยอดที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่ารุ่นเยาว์ตระกูลหลินในขณะนี้!
“เจ้าเด็กสวะ! อย่าได้ทำตัวจองหองเกินไปนัก ตระกูลหลินกำลังจะจบสิ้นแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจะถูกล้างบางในไม่ช้า! เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถิด!”
ศัตรูคนหนึ่งคำรามขึ้น และร่างเงาของชายวัยกลางคนสามร่างก็พุ่งขึ้นมาเบื้องหน้า หนึ่งเล็งไปยังหลินหนาน และอีกสองที่เหลือตรงเข้าใส่หลินซวนทันที!
พวกมันนับว่าเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนที่มาสอดส่องค่ายกลทั้งหลาย พวกมันเก็บซ่อนกลิ่นอายของตนไว้อย่างดี และเหตุผลที่พวกมันซ่อนตัวอยู่ในหมู่คนที่กำลังหลบหนีเพราะว่าพวกมันต้องการหาโอกาสในการสังหารหลินซวนและรับความดีความชอบทั้งหมด!
“ไม่ว่าสกุลหลินจะกำลังเจอกับปัญหามากมายเพียงใด พวกเราก็จะไม่อดทนกับความโอหังของเจ้า!” ในตอนนั้นเอง หญิงชราบางส่วนที่อยู่ในกลุ่มสตรีสกุลหลินก็กระโจนออกมาจู่โจม!
ศัตรูทั้งหลายถูกหญิงชราสกุลหลินทุบตีไม่กี่กระบวนท่าก็ทนไม่ไหว และสิ้นชีพลงในที่สุด!
“ตาย!”
สตรีแซ่หลินนับร้อยคนพุ่งออกไปทุกทิศทาง จากนั้นเหล่าสายสืบทั้งหมดก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น!
อย่างไรก็ตาม หลินซวนยังรู้สึกว่าการกระทำในตอนนี้ยังด้อยประสิทธิภาพเกินไป เขาจึงนั่งขัดสมาธิกลางอากาศและกระตุ้นพลังของค่ายกลให้ระบุตำแหน่งสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ก่อนที่เขาจะดึงเหล่าจารชนทั้งหลายที่หลบซ่อนอยู่ออกมาด้วยพลังจากค่ายกลและส่งพวกมันเข้าสู่วังวนของอัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่สามารถหนีรอดไปได้ พวกมันทั้งหมดถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน!
“นี่ช่างน่าผิดหวังนัก ในหมู่พวกมัน คนที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุดยังมีแค่ขั้นที่สิบของแดนหมุนวนทะเลปราณเท่านั้น กระทั่งยอดฝีมือแดนอาณาเขตม่วงสักคนยังไม่ปรากฏ ข้าหวังว่าจะจับได้ปลาตัวใหญ่! ไหนเลยจะคาดคิดว่าเพียงข้ามาปรากฏตัวด้วยตนเองเช่นนี้ กลับไม่มีพวกมันคนใดกล้าพอจะจับกุมข้า ราชวงศ์อมตะกำลังมาถึงแล้ว นี่เป็นโอกาสอันดีในการรับความดีความชอบทั้งหมด แล้วเหตุใดพวกมันถึงไม่สนใจกันนะ?”
หลินซวนยืนขึ้นกลางอากาศพลางยืดบิดเนื้อตัว เขารู้สึกเศร้าเสียใจยิ่งนัก
ประโยคนั้นของทารกน้อยทำเอาเหล่าสตรีทั้งหลายของตระกูลหลินอดมิได้ที่จะรู้สึกไร้คำพูดอยู่บ้าง
เจ้าหนูน้อยไปเรียนรู้วิธีพูดแบบนี้มาจากที่ใดกัน? แม้การกระทำของเขาจะดูน่ารักและไร้พิษภัย ทว่าท้ายที่สุด เขากลับวางอุบายเช่นนี้เพื่อจะจับปลาตัวใหญ่เช่นนั้นหรือ?
“เอาล่ะ”
หลินซวนสะบัดศีรษะไปมา ก่อนจะคำรามขึ้นด้วยเสียงของเด็กทารก
“ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าบุกรุกตระกูลหลินของข้าจะต้องถูกสังหารให้หมดสิ้น ต่อให้พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ไกลเพียงใดก็ตาม!”
เมื่อเหล่าคนทั้งหลายจากตระกูลอื่นได้เห็นหลินซวนน้อยที่ยืนอยู่กลางท้องฟ้า หัวใจของพวกมันต่างสั่นไหว พวกมันต้องการจะจับกุมตัวเจ้าเด็กคนนั้นยิ่งนัก ทว่าฉากที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นนอกจากจะทำให้พวกมันตื่นตระหนกแล้ว พวกมันทั้งหมดยังรีบถอนกำลังออกไปและไม่กล้าจะเข้าไปเหยียบในเมืองต้าหยานอีกเลย
ในขณะเดียวกัน พวกมันต่างก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของกองกำลังตนเองไว้เสียก่อน มิเช่นนั้น หากว่าราชวงศ์อมตะยังมาไม่ถึง และพวกมันพลาดท่าถูกจับได้ พวกมันต้องพบกับหายนะอย่างแน่นอน
“ไม่มีพวกมันคนใดกล้าปรากฏตัวแล้วหรือ? นี่มิใช่ว่าการเอาตัวเข้ามาเป็นเหยื่อล่อในครั้งนี้ของข้าจะล้มเหลวหรอกหรือ?”