ตอนที่ 53 อวดภูมิหลัง
ด้านนอกวังเขา กู่ฉางเกอยืนขึ้นเอามือไพล่หลัง มองเด็กสาวในชุดม่วงตรงหน้าด้วยใบหน้าราบเรียบ
นางมีใบหน้าเกลี้ยงเกลา ขาวเนียนเหมือนหยกขาว หุ่นเพรียว ขายาวและดูเย็นชา นางดูเหมือนจะอายุไม่เกิน 18
ดวงตานางต่างจากมนุษย์ทั่วไป มันดูไม่ต่างอะไรจากผลึกหลากสีที่ทำให้คนมองดูก็รู้ว่านางไม่ใช่เผ่ามนุษย์
กู่ฉางเกออดชมนางในใจไม่ได้
เย่เฉินผู้นี้สมกับเป็นคนที่เกินมาโชคสูงยิ่งนัก แถม ตอนกู่ฉางเกอตรวจสอบค่าโชคของเย่หลิวลี่ เขาก็เห็นค่าโชคที่เกิน 800!
โชคของนางยังสูงกว่าเย่เฉินซะอีก!
แน่นอน มันไม่ได้หลุดความคาดหมายของกู่ฉางเกอ สาวงามผู้นี้ต้องกลายเป็นผู้หนุนหลังที่ยิ่งใหญ่สุดของเย่เฉินแน่
สำหรับวิธีจัดการกับนาง?กู่ฉางเกอได้วางแผนไว้แล้ว
พวกเขาเป็นหวานใจวัยเด็กกันใช่ไหม?ดี
นางก็แค่เด็กสาวอายุ 17-18 ผู้ที่เขาสามารถเล่นได้ง่ายๆ เหนือสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดอย่างหยานจีก็ยังโดนเขาปั่นหัว นับประสาอะไรกับนาง?
สีหน้าของเขาแสดงความไม่แยแสและพูดอะไรสักคำ กู่ฉางเกอไม่รีบอยู่แล้ว
ขณะที่กู่ฉางเกอกำลังมองเย่หลิวลี่ เย่หลิวลี่ ป้าเสวี่ยกับคนอื่นเองก็มองเขาเช่นกัน
ความคิดของป้าเสวี่ยยิ่งหนักแน่นหลังนางจ้องกู่ฉางเกอ และตระหนักว่าการคาดเดาของนางไม่ไกลเกินจริง
หน้าตาของกู่ฉางเกออย่างเดียวก็เกินพรรณา เขาสวมชุดดำ ชุดคลุมยาวที่ช่วยขับเน้นร่างสูงและหล่อเหลาของเขา กลิ่นอายของเขาดูสูงส่ง มีเมตตาและยังมีอำนาจบารมี
นาไง่มแปลกใจเลยว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางต้องเป็นบุตรสวรรค์แน่ๆ
พวกตัวเอกของอาณาจักรเบื้องล่างนั้นไม่ต่างอะไรจากแมลงวันต่อหน้าดวงจันทร์สดใสหากเทียบกับอัจฉริยะชั้นนำของอาณาจักรเบื้องบน พูดให้ถูก พวกเขาไม่มีสิทธิ์จะใช้ลมหายใจร่วมกัน!
สำหรับเย่เฉิน?เขาเหมือนขยะต่อหน้ามังกรสวรรค์ผู้นี้ที่จุติลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า
“เจ้าคือคุณชายกู่?”
สุดท้าย เย่หลิวลี่ก็ขมวดคิ้วและถามเสียงดัง นางรู้คำตอบของคำถามดี แต่นางไม่รู้ว่าจะทำลายความเงียบงันนี้ยังไง ในเวลาเดียกวัน นางก็รู้สึกถึงแรงกดดันน่ากลัวจากคุณชายตรงหน้านาง
เขายืนอยู่ด้วยรอยยิ้มขี้เล่น และเอาแต่ก้มมองนางราวกับกำลังมองมด มันทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ
นางไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนายังไง
ตอนพวกนางเข้ามาข้างใน ป้าเสวี่ยก็ได้แจ้งนางว่า’ก่อนอื่น ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ได้แก่ไปกว่านาง สอง ป้าเสวี่ยจะไม่แทรกแซงเว้นแต่ชีวิตนางจะตกอยู่ในอันตราย สาม นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแม้จะด้วยฐานบ่มเพาะกึ่งเซียนศักดิ์สิทธิ์ของนาง!’
นางมาอย่างดุดัน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนตัวเองโง่ นี่ทำให้นางอับอาย!
กู่ฉางเกอได้ยินคำพูดนางและตอบกลับด้วยความเงียบ
สีหน้าของเย่หลิวลี่สลดลงพอเห็นสายตาดูถูกของเขา และนางก็อดกัดฟันขาวไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในภูเขาศักดิ์สิทธิ์หรือโลกภายนอก นางไม่เคยเจอคนที่แสดงความดูถูกต่อนางมากขนาดนี้มาก่อน แถมอีกฝ่ายยังเป็นผู้ชายด้วย!
แต่นางก็ไม่ใช่คนธรรมดา นางจึงสงบอารมณ์ได้อย่างว่องไว
ตอนนี้ ป้าเสวี่ยที่ยืนข้างหลังนางประสานมือและพูดกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“ข้าขอทำความเคารพคุณชายกู่!คุณหนูของข้านั้นชื่อเย่หลิวลี่ และข้าก็คือคนที่คอยทำหน้าที่ปกป้องคุณหนูในอาณาจักรเบื้องล่าง...”
“คุณหนูกับข้าเผลอไปทำให้คุณชายกู่ไม่พอใจโดยไม่รู้ตัว หวังว่าคุณชายจะไม่ถือสา!”
ป้าเสวี่ยพูดอย่างจริงใจ และไม่ได้ยินความปลอมแปลมสักนิดในน้ำเสียง เย่หลิวลี่ที่อยู่ข้างหลังนางอึ้ง และไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไง
“ป้าเสวี่ย..”
เย่หลิวลี่ตกตะลึง และแสดงวคามเหลือเชื่อพอเห็นท่าทีของป้าเสวี่ย สิ่งมีชีวิตของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เบื้องหลังนางยิ่งตกใจกว่า!
พวกเขารู้ดีว่าป้าเสวี่ยทรงอำนาจแค่ไหน นางจะไม่เผยตัวด้วยซ้ำในวันปกติ แต่ตอนนี้ นางกลับแสดงความเคารพเช่นนี้ต่อหน้าใครบางคน?
ต้องรู้ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อแก้แค้น!
“ป้าเสวี่ย ท่านทำเกินไปแล้ว!”
ใบหน้าของเย่หลิวลี่ดำมืดและคำรามใส่หญิงวัยกลางคน เหนือสิ่งอื่นใด ตั้งแต่เมื่อไรที่ป้าเสวี่ย ผู้ติดตามของตระกูลนางมามีอำนาจตัดสินใจอะไรแทนนาง?
“คุณหนู เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่!ทำไมท่านไม่ใช้โอกาสนี้ทำเรื่องราวให้กระจ่างชัดละ?มันคงแย่ถ้าเรารีบสรุปโดยไม่มีหลักฐาน..”
ป้าเสวี่ยรีบพูด นางกำลังทำเพื่อตัวเย่หลิวลี่ เหนือสิ่งอื่นใด นางจะทำร้ายคุณหนูที่นางเลี้ยงมากับมือได้ไง?
“โอ้ งั้นหรือ?ผู้อาวุโส ท่านสุภาพมาก-ข้าขอรู้ได้ไหมว่าข้าสามารถทำอะไรเพื่อท่านได้?”
สุดท้ายกู่ฉางเกอก็พูดขึ้น สีหน้าของเขาทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเขามีความสุขหรือโกรธ
ผู้พิทักษ์ของเย่หลิวลี่ได้กระตุ้นความสนใจเขาและนี่ก็ทำให้เรื่องราวดีขึ้น
“ก่อนข้าจะเริ่ม ข้าขอถามว่าคุณชายกู่มาจากตระกูลกู่โบราณใช่หรือไม่?”
จากนั้น ป้าเสวี่ยก็ประสานมือและพูดด้วยรอยยิ้ม“คุณหนูของข้ามาจากตระกูลเย่โบราณ!พูดก็พูด ตระกูลเราถือว่าสนิทคุ้นเคยกันอย่างมาก”
ป้าเสวี่ยรีบเผยตัวตนของเย่หลิวลี่เพื่อให้กู่ฉางเกอรู้ว่าพวกนางก็ไม่ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะลูกสาวคนเล็กและคนที่ผู้นำรักสุด คุณหนูของนางมีสถานะสูงส่งกว่าศิษย์ทั่วไปของตระกูลเย่
แน่นอน สถานะของกู่ฉางเกอก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน นางอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขามีเสน่ห์ ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นอัจฉริยะชั้นนำในอาณาจักรเบื้องบน
ทั้งสองฝ่ายล้วนมาจากตระกูลโบราณในอาณาจักรเบื้องบน คนหนึ่งมาจากตระกูลกู่ อีกคนมาจากตระกูลเย่ ทั้งคู่ถือเป็นตระกูลใหญ่ที่ครอบครองหลายอาณาเขต!
ความแตกต่างเดียวระหว่างพวกเขาคือตระกูลกู่โบราณสืบเชื้อสายจากมนุษย์ แส่วนตระกูลเย่โบราณนั้นมีหลายเผ่าพันธุ์และเป็นที่รู้จักในฐานะตระกูลหลายเผ่า
แถม ทั้งสองตระกูลยังสนิทกัน
นางพูดเช่นนี้ก็เพราะนางอยากยืนยันตัวตนของกู่ฉางเกอ
พอได้ยินคำพูดของป้าเสวี่ย สิ่งมีชีวิตจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณก็อดหลั่งเหงื่อเย็นไม่ได้ สีหน้าพวกเขาสลดและใบหน้าก็ขาวซีด ถ้ากู่ฉางเกอมีภูมิหลังเช่นนั้นจริง....
พวกเขาอดตัวสั่นไม่ได้ และแขนขาก็เย็นเฉียบ
ทำไมไม่บอกแต่แรกก่อนจะพาพวกเขามา?ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้?!
พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างมาก!
พวกเขาไม่สามารถตอแยตระกูลเย่ได้ และก็ไม่สามารถตอแยตระกูลกู่ได้ พวกเขาอยู่ระหว่างเสือและหมาป่า
เย่หลิวลี่อยากพูดบางสิ่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเปิดปากยังไง
“เป็นตระกูลเย่โบราณนี่เอง!ไม่น่าแปลกที่คุณหนูเย่หลิวลี่จะไร้ความกลัวและมาเคาะประตูข้าอย่างไร้มารยาท”
กู่ฉางเกอพูดขึ้นหลังได้ยินคำพูดนางและไม่ปฏิเสธความคิดนาง“พ่อของข้าเคยพบปะกับผู้นำตระกูลเย่บ่อยครั้งในอดีต ผู้อาวุโสควรรู้ดีว่าขะจะเป็นผู้ที่ปกครองทั้งตระกูลในอนาคต!”
เขาพูดด้วยรอยยิ้มเยาะ หากเป็นการเปรียบเทียบภูมิหลัง ไม่มีใครจะแข่งขันกับเขาได้ สำหรับป้าเสวี่ย?นางเข้าใจคำใบ้ในคำพูดของกู่ฉางเกอ
ไม่เพียงเขาจะมาจากตระกูลกู่ แต่เขายังเป็นลูกชายของผู้นำตระกูลกู่!เหนือสิ่งอื่นใด มีแค่คนระดับเดียวกับผู้นำตระกูลเย่ถึงสามารถจัดการกับเขาได้
คนระดับนั้นล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเหยียบอาณาจักรเบื้องบนให้สั่นคลอนและทำให้โลกวุ่นวายไปหลายยุคสมัย พวกเขาคือสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด!
ที่แย่ไปกว่านั้น นางได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลกู่นั้นมีทายาทเพียงหนึ่งเดียว!
ตราบเท่าที่ชายหนุ่มตรงหน้านางไม่ตายก่อนกาล งั้นเขาจะต้องเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่สุดของอาณาจักรเบื้องบนในอนาคต!
เขาอาจเป็นแม้แต่ผู้นำตระกูลกู่ถ้าทุกอย่างราบรื่น!
พอความคิดเหล่านี้แวบผ่านหัวป้าเสวี่ย รอยยิ้มบนหน้านางก็หายไปและใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคารพกว่าเดิม นางรู้สึกดีใจมาก การที่กู่ฉางเกอเรียกนางว่า’ผู้อาวุโส’ถือเป็นเกียรติอย่างสูงแล้วสำหรับนาง!
ในเวลาเดียวกัน เย่หลิวลี่ก็รู้สึกว่าหัวนางว่างเปล่าและใบหน้าก็ขาวซีด เรื่องนี้ไปไกลเกินจินตนาการของนางแล้ว!
[ปัง!]
สิ่งมีชีวิตจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์รู้สึกว่าเลือดตัวเองแข็งตัวและทั้งหมดก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัว
“ท่าน...ชิวเทียนทำให้ท่านไม่พอใจ แต่นั่นไม่ใช่ความผิดเรา เราหวังว่าท่านจะแสดงความใจกว้างและให้อภัยแก่เรา..”
เสียงพวกเขาสั่นเครือและก็แทบฉี่ราด