632 - พาหนะจากต่างโลก
632 - พาหนะจากต่างโลก
เสียงของพวกเขาต่ำมาก คนธรรมดาไม่มีทางได้ยินคำพูดของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่มีหรือที่จะหลบซ่อนจากประสาทสัมผัสของพวกเย่ฟ่านได้
"ตอนที่เจ้าอยู่ภาคเหนือมันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญจริงๆที่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลเฟิง” ผังป๋อหัวเราะ
“ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาข้าก็แค่ไปเยี่ยมพวกเขานะจ่ายต้นกำเนิดสามล้านจินคืนเท่านั้น” เย่ฟ่านยิ้มและส่ายหัว
“อย่าใส่ใจเลยเรื่องพวกนี้พวกเราได้ยินตลอดเส้นทางอยู่แล้ว กำหนดครึ่งปีกำลังจะมาถึง สุดท้ายเมื่อพวกเขามองเห็นกว่าเจ้ายังไม่ตาย ใครอยากรู้จริงๆว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร” หลี่เหอซุยหัวเราะ
ทันใดมีคนกรีดร้องและโรงน้ำชาหลายแห่งก็มีผู้คนหลั่งไหลออกไปและเริ่มมองดูท้องฟ้า
"สมบัติ!”
“สมบัติจากฟากฟ้า!” "
ใช่ มันพุ่งลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว! หลายคนโห่ร้องด้วยความตกใจ
ผู้คนมากมายที่นี่ล้วนเป็นผู้บ่มเพาะ สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจได้หากไม่ใช่ของวิเศษอันยิ่งใหญ่ยังจะเป็นอะไรได้อีก
เมืองหวังกงโบราณช่างน่าตื่นตา มีแม้กระทั่งขุมทรัพย์ที่ลอยลงมาจากนอกโลก
ในอดีตอันไกลโพ้นผู้คนย่อมไม่รู้ว่าสมบัติที่ตกลงมามีค่ามากแค่ไหน แต่ผู้คนไม่น้อยที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยได้ยินเรื่องที่ร่างเซียนโบราณมาจากอีกฟากหนึ่งของทะเลแห่งดวงดาว ดังนั้นความตื่นเต้นของพวกเขาจึงถูกปลุกขึ้นอย่างสูงสุด
ดวงตาของสุนัขตัวใหญ่สีดำเบิกกว้างและกล่าวเบาๆว่า
“บ้าจริง ข้าเคยได้ยินว่าอีกฟากหนึ่งของทะเลแห่งดวงดาวมีผู้คนอาศัยอยู่ สมบัตินี้จะมาจากที่นั่นหรือไม่!”
สิ่งที่ตกลงมานั้นดูเหมือนจะเป็นแผ่นจานขนาดใหญ่ที่ส่องแสงระยิบระยับ มันดูเหมือนทองคำบริสุทธิ์แต่ก็มีประกายสีน้ำเงินอมขาวที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นมงคล
“อันตราย!”
ทันทีที่ผู้ฝึกตนคนแรกบินขึ้นสู่ท้องฟ้าร่างกายของเขาก็ถูกแผ่นจานนั้นเผาไหม้จนแหลกละเอียดกลายเป็นผุยผง
"นี่เป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ เพียงพลังของมันก็น่ากลัวอย่างถึงที่สุดแล้ว พวกเราต้องจับให้ได้!"
ผู้บ่มเพาะคุ้มคลั่งมากยิ่งขึ้น ผู้บ่มเพาะที่ตายไปเมื่อสักครู่นี้มีพลังแค่ไหนพวกเขาทราบดี ดังนั้นคนที่พุ่งทะยานไล่ตามแผ่นจารไปล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงทั้งสิ้น
“บูม!”
อย่างไรก็ตามแผ่นจานนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง และลำแสงที่ปล่อยออกมาได้ทำลายล้างความว่างเปล่า ทำให้ผู้บ่มเพาะที่มีความแข็งแกร่งมากมายร่างกายถูกแยกเป็นชิ้นๆกลายเป็นเนื้อบดในทันที
“ปัง…”
แสงสีเงินกะพริบและตกลงบนแท่นสังเกตการณ์ แสงที่ถูกปลดปล่อยออกมายังคงรีบและงดงามอยู่ตรงนั้น
แม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะทำให้ผู้คนมากมายต้องตาย แต่นี่คือสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย และมีคนไม่น้อยที่ยังคงพุ่งเข้าหามันด้วยความโล�
เย่ฟ่านและผังป๋อมองหน้ากัน ปากของทั้งคู่ตกตะลึง พวกเขาพบว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากจานบินที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้น!
“พวกเราต้องแย่งมาให้ได้ บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่พาเรากลับบ้าน!” ผังป๋ออุทาน
“จักรวาลอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ขอบเขต ซ่อนความลับไว้มากมาย ในโลกนี้ผู้บ่มเพาะสามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ บางทีที่อยู่ไม่ไกลอาจจะมีอารยธรรมอื่นด้วย!”
เย่ฟ่านและผังป๋อตื่นเต้นมาก ในตอนแรกพวกเขาคิดแต่เพียงว่าจะฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งเพื่อเปิดเส้นทางกลับบ้าน แต่เมื่อมองเห็นจานบินที่อยู่ตรงหน้าบางทีพวกเขาอาจสามารถใช้เส้นทางใหม่
เส้นผ่านศูนย์กลางของแผ่นจานที่ทำจากทองคำสีน้ำเงินมีความกว้างใหญ่หลายร้อยวา ความแวววาวของโลหะทำให้พวกเขาเกิดความมั่นใจที่จะมีโอกาสได้กลับบ้านอีกครั้ง
ผู้คนมากมายล้อมรอบการบินแต่ไม่มีผู้ใดกล้าสัมผัสมันอีกแล้ว เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของพวกเขา มันทำให้พวกเขาไม่กล้าทำโดยประมาท
“ข้าไม่เคยเห็นวัตถุที่ตกลงมาจากท้องฟ้ามีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน บางทีพวกเราจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้สูงสุด”
“นี่เป็นสมบัติ แต่น่าเสียดายที่พวกเราทำได้เพียงมองดูเท่านั้น หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปจับมันและได้รับอันตรายคงเป็นเรื่องที่โง่เง่าอย่างยิ่ง”
ผู้บ่มเพาะหลายคนพูดถึงเรื่องนี้แต่ไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้า บทเรียนเลือดพวกเขามองเห็นได้ด้วยตาของตัวเอง ไม่มีใครกล้าที่จะใช้ชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอย่างแน่นอน
“มันเป็นอาวุธหรือไม่ ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกว่ามันเป็นอาวุธเลย?” สุนัขดำตัวใหญ่กำลังสงสัย
เย่ฟ่านและผังป๋อแอบคุยกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วในขณะเดียวกันก็สำรวจการบินนี้ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาพยายามสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายใน
"บูม!
น่าเสียดายที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ และรัศมีที่นุ่มนวลปกคลุมด้านนอกของแผ่นจานสีน้ำเงินทองก็ปิดกั้นทุกสิ่งอย่างรุนแรง
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ทำให้ทั้งสองคนเกิดความไม่พอใจเล็กน้อย
“เร็ว รีบรายงานเรื่องนี้ให้ผู้อาวุโสทราบ!”
หลายคนวิ่งออกไปและข่าวเรื่องนี้ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีขาวก็บินเข้ามาในทิศทางนี้ด้วยใบหน้าถมึงทึง
“ผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลซานเหอมาถึงแล้ว!”
ผู้บ่มเพาะที่เป็นมนุษย์หลายคนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตระกูลซานเหอของเผ่าพันธุ์อสูรอาศัยอยู่ในเมืองนี้ ในเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาแล้วโอกาสของคนอื่นคงหมลงอย่างสิ้นเชิง
ในดินแดนของภาคกลางนี้แทบจะมีผู้บ่มเพาะพันธุ์อสูรอยู่ครึ่งต่อครึ่งกับมนุษย์ การที่ตระกูลซานเหอ(นกกระเรียน)จะมาถึงที่นี่ก่อนคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“พวกเจ้าถอยออกไป เราผู้เฒ่าจะดูเองว่าของสิ่งนี้คืออะไร”
ดวงตาอันเย็นชาของผู้อาวุโสตระกูลซานเหอฉายแสงเป็นประกายเล็กน้อย และเขาพยักหน้าไม่หยุด
แผ่นจานสีน้ำเงินทองดูเหมือนจะมีวิญญาณ และมันสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เป็นอันตราย ในทันใดนั้นแสงสีขาวก็ถูกปลดปล่อยออกมาปกคลุมจานบินอีกฉันอย่างรวดเร็ว
“ของวิเศษจากต่างโลก ให้ชายชราคนนี้ดูหน่อยว่าเจ้ามีความพิเศษอย่างไร!” ผู้เฒ่าแห่งตระกูลซานเหอยื่นมือขนาดใหญ่ของเขาเข้าหาจานบินโดยตรง
“ผู้อาวุโสระวังด้วย มันสามารถทำลายความว่างเปล่าได้โดยตรง!” มีผู้คนมากมายจากตระกูลซานเหอก็อยู่ที่นี่ เมื่อพวกเขาเห็นฉากที่น่าสยดสยองในตอนนี้ ทุกคนก็อ้าปากเตือนพวกเขา
“บูม!”
แผ่นจานสีน้ำเงินทองสั่นสะท้านฉายแสงเป็นประกาย แยกรอยแยกขนาดใหญ่ในความว่างเปล่าแผ่ขยายไปในท้องฟ้า
ผู้เฒ่าแห่งตระกูลซานเหอยืนนิ่งปล่อยให้ความว่างเปล่ารอบ ๆ พังทลายลง เช่นเดียวกับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ได้พินาศ แต่เขาก็ยังขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ธรรมดาจริงๆ!”
แผ่นจานสีน้ำเงินทองสั่น และยิงแสงสดใสออกมาทำลายความว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าผู้อาวุโสแห่งตระกูลซานเหอจะมีความแข็งแกร่งแต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปิดกั้นความเคลื่อนไหวของจานบินสีน้ำเงินทองนี้
“บูม!”
ความว่างเปล่าถูกทำลาย และจานบินลึกลับก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าคล้ายกับจะหนีออกจากโลกใบนี้
“จะไปไหน!”
ผู้เฒ่าแห่งตระกูลซานเหอแค่นเสียงเบา ๆ และมือขนาดใหญ่ของเขาก็ฉีกผ่านความว่างเปล่าและเคลื่อนเข้าหาจานบินนั้นอย่างรุนแรง
“สหายเฒ่า ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!” เสียงคำรามดังกึกก้องในทันใดนั้นยอดฝีมือมากมายก็ปรากฏตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า
คนที่มาถึงก่อนคือชายชราที่มีแสงสีทองปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นราชาเผิงสวรรค์ผู้เฒ่านั่นเอง
“ปัง
นกเผิงสีทองตัวใหญ่ยื่นกรงเล็บเข้าหาจานบินอย่างรวดเร็วโดยตั้งใจจะคว้ามันมาเป็นสมบัติของตัวเอง แต่ก่อนที่การลงมือของเขาจะประสบผลการโจมตีจากผู้เฒ่าตระกูลซานเหอก็มาถึง
“เฒ่าเผิงเจ้าคิดจะมาช่วยหรือมาขโมยกันแน่?”
“พวกเราต่างก็เป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าใครได้ไปก็ต้องแบ่งปันอีกคนอยู่แล้ว เรื่องนี้เจ้าจะขัดแย้งกันไปทำไม!” เฒ่าเผิงหัวเราะในขณะที่ร่างกายของเขาเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
“อย่าผิดคำพูดซะล่ะ”
ผู้เฒ่าซานเหอส่ายหัวก่อนจะลงมือช่วยเหลือเผิงสวรรค์ปีกทองเพื่อจัดการจานบินนี้