CD บทที่ 29 กุญแจผี
ณ เวลา 23.30 จ้าวหยู่คลานขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างอิดโรย การวิ่งไปมาตลอดทั้งวันทั้งคืนทำให้แข้งขาของเขาอ่อนแรงไปหมด ไม่ว่าจะเป็นชีวิตเก่าหรือชีวิตใหม่ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการสืบสวนจะเป็นเรื่องที่ยากขนาดนี้
หลักฐานทุก ๆ ชิ้น พยานทุก ๆ คนหรือแม้กระทั่งข้อมูลทุก ๆ อย่าง พวกมันจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียดรอบคอบและต้องยืนยันหลักฐานชิ้นนั้น ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและแม้เขาจะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้ผลแต่เขาก็ต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ไม่แน่ว่าบางที กุญแจสำคัญที่จะสามารถช่วยเขาไขคดีนี้อาจจะอยู่ในหลักฐานที่เขาคาดไม่ถึงก็ได้!
หลังออกมาจากสถานีตำรวจ จ้าวหยู่กับหลี่เบ่ยหนีพุ่งเป้าหมายหลักในการสืบสวนคดีไปที่ผู้เข้าแข่งขันอันดับที่สิบซึ่งดูจากหลักฐานแล้ว เธอเป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุดในคดีนี้!
แต่เมื่อพวกเขาทั้งคู่อ้าปากค้างไปในทันทีที่ได้พบกับเธอ เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันคนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว ท้องของเธอโตเหมือนกับลูกแตงโมขนาดใหญ่ เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้หญิงท้องแก่คนนี้จะเป็นคนร้ายในคดีมือที่หายไปได้
ไหน ๆ ทั้งสองคนก็ได้พบเธอแล้ว พวกเขาทั้งคู่เลยสอบถามเธอเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันเปียโนในครั้งนั้นแต่เธอก็ไม่สามารถจดจำรายละเอียดอะไรได้ชัดเจนมากนัก เธอบอกว่าตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กอายุแค่ 18 ปี ทั้งหมดที่เธอรู้ก็คือการเล่นเปียโน
นอกจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็พร่าเบลอไปหมด เธอจำได้ว่าการแข่งขันครั้งนั้นเป็นงานที่ใหญ่มาก ไม่ใช่แค่ประชาชนในตัวเมืองหรือแถบใกล้เคียงที่มาเข้าชมเท่านั้น แต่พวกเขายังได้เชิญเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันดนตรีชื่อดังมาเป็นกรรมการตัดสินในครั้งนั้นอีกด้วยจึงทำให้มาตรฐานของกรรมการที่ตั้งไว้สูงมาก ทำให้เกณฑ์คะแนนในการแข่งขันครั้งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันเกือบ 300 – 400 คะแนนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ความยากพอ ๆ กับการแข่งขันเปียโนมืออาชีพเลย!
การแข่งขันมีความสำคัญต่อผู้เข้าแข่งขันทุกคนเป็นอย่างมาก สาเหตุมาจากใครก็ตามที่สามารถได้คะแนนสูงสุดจนกลายมาเป็นผู้ชนะได้ มักจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ นั้นหมายถึงทางลัดสู่การเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ นั่นเอง
หลังจากได้ยินแบบนี้ จ้าวหยู่ก็นึกย้อนไปถึงคำพูดของคุณแม่ของชานชานที่ว่าเธอเกือบจะได้รับคัดเลือกซึ่งจะทำให้เธอชีวิตเปลี่ยนไปจากตอนนี้โดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว
จ้าวหยู่กำลังใช้ความคิดอยู่กับตัวเองลำพัง นี่เป็นชีวิตครั้งที่สองของเขาและเป็นชีวิตที่ต่างจากชีวิตเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ในครั้งก่อนเขาได้ทำสิ่งผิดพลาดเอาไว้มากมายดังนั้นเพื่อยุติไม่ให้เกิดเหตุการณ์แย่ ๆ แบบนั้นขึ้นอีก เขาเลยพยายามที่จะทำทุกวิถีทางที่ทำให้ชีวิตนี้ของเขาดีขึ้นให้ได้!
หลังจากได้พูดคุยกับอันดับที่สิบเสร็จและพบว่าเธอไม่สามารถเป็นคนร้ายในคดีนี้ได้อย่างแน่นอน ทำให้จ้าวหยู่และหลี่เบ่ยหนีต้องกลับไปมุ่งเน้นหลักฐานอื่น ๆ ต่อไป
เพื่อนของหลี่เบ่ยหนีได้ส่งข้อความมายืนยันว่าผู้เข้าแข่งขันคนที่แปดไม่ได้กลับมาที่เมืองฉินชานมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ดังนั้นความน่าจะเป็นที่คน ๆ นั้นจะเป็นคนร้ายก็เป็นอันตกไปเช่นกัน
เป็นอีกครั้งที่การสืบสวนต้องมาถึงทางตันเนื่องจากไม่มีผู้ต้องสงสัยลงเหลือในรายชื่ออีกต่อไป
เมื่อไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อไปได้ ทั้งสองเลยแยกกันมองหาผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ แต่เนื่องจากการประกวดในครั้งนั้น ถูกจัดเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว บางคนก็ยากที่จะตามหาตัว บางคนก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้ บางคนเกษียณอายุไปแล้วก็มี บางคนก็ได้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว มันจึงยากที่จะสืบสวนต่อไป
ช่วงเวลาบ่ายทั้งหมดถูกใช้ไปกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมและการศึกษาที่เกษียณงานแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าในการสืบสวนใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นเลย
เจ้าหน้าที่ที่เกษียณงานแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ในการแข่งขันครั้งนั้น ยังคงมีความทรงจำหลงเหลืออยู่บ้าง เขาบอกว่าไม่ใช่แค่เป็นงานแข่งขันขนาดใหญ่เฉพาะในตัวเมืองเท่านั้น แต่รอบ ๆ เมืองฉินชานเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่คือเด็กอายุ 18 – 19 ปี เป็นตัวแทนจากทางโรงเรียนเขตต่าง ๆ ส่งเข้า
ประกวด ในตอนแรกมีผู้เข้าแข่งขันราว ๆ หนึ่งร้อยคน จนในที่สุดก็คัดเลือกเหลือแค่สิบคนสุดท้าย ในรอบการแข่งขันสิบคนสุดท้ายเป็นรอบคัดเลือกที่ยากมากและเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง
มีเพียงคนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเท่านั้นที่จะสามารถเป็นผู้ชนะการแข่งที่ดุเดือดครั้งนั้นไปได้
สามอันดับแรกในการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ
อันดับที่สี่ , ห้า และหก จะได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนในสถาบันระดับจังหวัดและผู้เข้าขันอีกสี่คนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความโชคของแต่ละคน บางคนโชคดีได้เข้าเรียนต่อที่สถาบันระดับเขต แต่ถ้าโชคร้ายก็จะกลายเป็นนักเรียนธรรมดา ๆ ตามปกติ
หลังจากได้ข้อมูลขึ้นมาเพิ่มเติม จ้าวหยู่ก็ยังคงรู้สึกถึงทางตัน บางทีการคาดการณ์ในการสืบสวนของเขาอาจจะไม่ได้ผิดแต่ตัวคนร้ายอาจจะถูกกำจัดให้ออกจากการแข่งขันไปก่อนสิบอันดับแรกก็ได้!
บางทีคนร้ายไม่สามารถผ่านเข้าไปยังรอบสิบคนสุดท้ายได้เลยเกิดความแค้น เลยจงใจแก้แค้นโดยการไล่ตัดมือผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบ!
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จ้าวหยู่ก็ต้องใช้รายชื่อผู้เข้าแข่งขันในครั้งนั้นทั้งหมด แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถค้นหาข้อมูลในครั้งนั้นได้ การสืบสวนของเขาจะดำเนินต่อไปได้อย่างไรกัน?
หลังจากการพิจารณาคดีไปมา หลี่เบ่ยหนีเสนอให้ไปโฟกัสที่จุดอื่น ๆ บ้าง เช่น เหยื่อรายต่อไป
ในวันที่ 26 พวกเขาจะแอบสังเกตการณ์ หลี่ฉินฮัวที่เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนอย่างลับ ๆ
ถ้าเป้าหมายของคนร้ายเป็นเธอจริง ๆ แล้วล่ะก็ บางทีพวกเขาอาจจะได้ข้อมูลบางอย่างกลับมาหรือสามารถเจอตัวคนร้ายด้วยก็ได้!
จ้าวหยู่ได้แต่พนักหน้าตาม ในตอนนี้มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่พวกเขาสามารถทำได้
ภายในใจของเขารู้สึกแย่มากราวกับกำลังจะต้องสูญเสียเงิน 1,800 หยวนไป
หลี่เบ่ยหนีพยายามปลอบใจจ้าวหยู่ ว่าในการสืบสวนคดีมักจะเจอปัญหาแบบนี้อยู่บ่อยครั้งเป็นเรื่องปกติ
ในกรณีแบบนี้ การนอนหลับพักผ่อนสักตื่นอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้น ไม่แน่ว่าหลังจากการตื่นนอน จ้าวหยู่อาจจะได้รับแรงกระตุ้นอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาก็ได้
จ้าวหยู่เลือกที่จะทำตามคำแนะนำของหลี่เบ่ยหนีอย่างว่าง่าย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลับไปพักผ่อนและหยุดพักการสืบคดีนี้ลง แต่การผจญภัยของเขายังคงดำเนินต่อไป
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังอาบน้า เขาก็ได้ยินเสียงสิ้นสุดของระบบดังขึ้นมาในหัว
“การผจญภัยวันนี้เสร็จสิ้น อัตราความสำเร็จอยู่ที่ 88%
ขอแสดงความยินดี คุณได้รับเครื่องมือหนึ่งรายการ โปรดทำการยอมรับ!”
“ว่าไงนะ!!” จ้าวหยู่ตกใจมากกับอัตราความสำเร็จและไม่ใช่แค่สูงขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น ยังสูงเกินกว่า 80% ด้วย! เป็นเลขนำโชคเลยก็ว่าได้!!
‘ฉันไปทำอะไรถึงอัตราความสำเร็จถึงสูงขนาดนี้?’ เขาหยุดอาบน้ำและเริ่มตรวจสอบเครื่องมือที่เขาได้รับมาในทันที
“กุญแจผี”
ระบบกำลังแนะนำเครื่องมือ
“สามารถใช้งานได้หนึ่งครั้ง หลังจากการใช้งาน มันจะสามารถเปิดประตูแบบไหนก็ได้และสามารถฝ่าระบบการป้องกันประตูได้ถึงระดับ 15 และจะไม่ทิ้งร่อยรอยหลักฐานใด ๆ ไว้หลังจากการใช้งาน”
‘สุดยอดไปเลยนี่!’ จ้าวหยู่คิด
กุญแจผีล่องหนเป็นของรางวัลที่น่าทึ้งจริง ๆ มันคุ้มค่ามากกับอัตราความสำเร็จที่สูงถึง 88% แต่เขายังคงสงสัยอยู่ว่าทำไมอัตราความสำเร็จของเขาในครั้งนี้ถึงได้สูงมากขนาดนี้กัน?
เขาไม่สามารถไขคดีนี้ได้หรือจับกุมคนร้ายได้แต่อย่างใด แล้วการผจญภัยในวันนี้ของเขาคืออะไร?
หลังจากที่จ้าวหยู่อาบน้ำเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี
จ้าวหยู่รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย เขาตัดสินใจที่จะเปิดระบบปาฏิหาริย์ในวันนี้ทันที
ขณะที่เขากำลังจุดบุหรี่สูบ เขาภาวนาอยู่ในใจว่า
“ระบบที่รัก ได้โปรดมอบทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยให้ฉันไขคดีนี้ได้เร็วขึ้นทีเถอะ!”
“แค่ก แค่ก!!”
“Gen(ภูเขา) Kan(น้ำ)!” ระบบได้เปิดการทำงาน “คีรีกับวารี ณ ภูเขาอันสวยงามกับหยดน้ำตระการตา เมื่อยามทิวาสาดแสงทองส่องมา นั่นคือช่วงเวลาที่โชคของคุณจะถึงจุดสูงสุด”
และระบบเงียบลงไปอีกครั้ง
คราวนี้จ้าวหยู่สามารถจดจำคำพูดได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่หลังจากการวิเคราะห์ที่ยาวนาน แม้กระทั่งใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าช่วยแปลข้อมูลก็แล้ว เขาก็ยังไม่สามารถตีความจากคำทำนายของระบบได้
เขาเลยตัดสินที่จะนอนหลับพักผ่อน แต่คืนนั้นเขาไม่สามารถหลับสนิทได้ เนื่องจากจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความฝันที่แปลกประหลาด เขาฝันว่าเขากำลังใช้มีดทำครัวเพื่อตัดมือใครบางคนอยู่!