เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 131
ตอนที่ 131
“พี่ชาย ท่านได้ช่วยเหลือตระกูลหลินอย่างดียิ่งในวันนี้ สกุลหลินของข้าจะจดจำบุญคุณเอาไว้ และต้องขออภัยสำหรับเรื่องทั้งหลายก่อนหน้านี้” ในระหว่างที่กำลังจิบชา คนของตระกูลตรงข้ามก็ได้มอบของทั้งหมดที่ตระกูลหลินต้องการออกมา ถึงกระนั้น ศิษย์น้อยแซ่หลินก็ยังคงรู้สึกอับอายอยู่บ้าง
“ไม่ ไม่ นี่นับว่าเป็นโชคดีของพวกเราแล้วที่ได้ช่วยเหลือตระกูลหลิน! ในคราวนี้ราชวงศ์อมตะนั้นทำตัวชั่วร้ายเกินไป หากมิใช่เพราะพวกเราเองก็ไม่ได้มีกำลังพอช่วยเหลือพวกท่าน พวกเราคงเข้าร่วมสงครามด้วยแล้ว!” ผู้นำตระกูลเฉินใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาเกลียดตัวเองยิ่งนักที่ไม่มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ
“พี่ชาย! ความหวังดีของท่านพวกเราขอรับไว้! ข้าจะนำสายลมทะเลหมื่นปีกับศิลาอัสนีกลับไป!”
“รักษาตัวด้วย ข้าคงไม่ไปส่ง!” ผู้นำตระกูลเฉินหัวเราะออกมา ทว่าในใจเขากลับท่วมไปด้วยเลือด
‘บัดซบ! ตระกูลหลินและราชวงศ์อมตะบัดนี้เป็นศัตรูกันแล้ว พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย แล้วเหตุใดยังต้องการมาแตะต้องทรัพย์สมบัติของผู้อื่นเช่นนี้อีก?’
ภายในเวลาไม่กี่วัน ราชวงศ์อมตะก็จะมาเยือนถึงหน้าประตูบ้านของพวกเขาแล้ว การก่อสร้างค่ายกลในครั้งนี้จะมีประโยชน์อันใด?
จำนวนของสมบัติล้ำค่าที่ถูกใช้ไปในการกระตุ้นค่ายกลยักษ์ในครั้งนี้มากมายมหาศาลนัก กระทั่งหลินซวนเองยังอดชะงักค้างมิได้เมื่อรู้จำนวนทั้งหมด
กล่าวได้เพียงว่ามันคุ้มค่าแล้วกับเมื่อเทียบกับค่ายกลที่บันทึกอยู่ในสมบัติจากสมัยปฐมกาล แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชิ้นส่วน ทว่าความน่าเกรงขามก็มากล้น สิ่งที่ใช้เป็นทรัพยากรทั้งหมดกล่าวได้ว่ามากมายราวกับมหาสมุทร
ตั้งแต่ตระกูลหลินถูกก่อตั้งขึ้น สมบัติล้ำค่าที่พวกเขาเก็บสะสมเอาไว้มาตลอดนับหมื่นปียังมิเพียงพอในการกระตุ้นค่ายกลนั้นเสียด้วยซ้ำไป
เพื่อการกระตุ้นค่ายกลปฐมกาลนี้อย่างสมบูรณ์ ผู้บ่มเพาะทั้งหมดในตระกูลหลินที่ไม่ได้มีหน้าที่สำคัญใดถูกส่งออกไปเสาะหาสมบัติเพื่อมาใช้กับค่ายกล
บัดนี้ ไม่เพียงตระกูลหลินเท่านั้นที่เจ็บปวดกับสมบัติที่ถูกใช้ออก กระทั่งตระกูลอื่นๆ ในอาณาจักรฉีซานเองก็ขมขื่นมิต่างกัน พวกเขาอยากสาปแช่งออกมาดังๆ
“บัดซบ!! ครั้งนี้ตระกูลหลินเสียสติไปแล้วหรือ? มันสมองของพวกมันกลายเป็นเพียงของเหลวแล้วหรืออย่างไร? ศัตรูกำลังใกล้เข้ามา การจะก่อร่างค่ายกลในตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว”
“ข้ามิอาจสัมผัสได้ถึงประโยชน์ของค่ายกลนั้นเสียด้วยซ้ำ!”
“ข้าคิดว่าพวกมันเพียงก่อกวนไปทั่วเพื่อให้ตนเองสบายใจเท่านั้น ข้ามิเชื่อว่าจะมีค่ายกลวิเศษอันใดที่สามารถจะหยุดยั้งกองทัพนับล้านและกองทหารเกราะขนนกดำนับหมื่นได้!”
เมื่อเหล่ากองกำลังและตระกูลต่างๆ ในฉีซานเห็นสมบัติทั้งหลายของตนถูกใช้ไปราวกับเทน้ำทิ้งเช่นนี้ พวกเขาต่างเต้นเป็นเจ้าเข้า อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าตระกูลหลินแล้ว พวกเขาทำได้เพียงเก็บกลืนความโกรธของตนลงไปเท่านั้น!
นี่มิใช่เพียงแค่เพราะตระกูลหลินทรงพลังอย่างยิ่งเท่านั้น ด้วยตัวตนของผู้บ่มเพาะชนชั้นแดนปราณก่อตั้งจิตอย่างบรรพชนหลินแล้ว ยังเป็นเพราะตระกูลหลินในตอนนี้อยู่ในห้วงของสถานการณ์เป็นตายเท่ากัน อีกทั้ง พวกเขาจะเกรงกลัวว่าจะต้องมีเรื่องมีราวกับตระกูลหลินหากมิยอมยกสมบัติเหล่านั้นให้ และพวกเขาจะต้องพบกับหายนะจากตระกูลหลินเป็นแน่แท้
ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่พวกเขารู้ว่าค่ายกลนี้ของตระกูลหลินยังมาจากทารกน้อยหลินซวน พวกเขาเกรี้ยวกราดจนมิอาจจะเอ่ยเป็นคำพูดได้!
“เจ้าเด็กน้อยผู้นั้นมีวัยเพียงครึ่งปี แล้วมันจะสามารถสร้างค่ายกลขึ้นมาได้อย่างไร? อีกทั้งสมบัติจำนวนมหาศาลเช่นนี้ไม่มากเกินไปหรือ?”
“ต่อให้เจ้าเป็นอัจฉริยะแล้วอย่างไร? ราชวงศ์อมตะส่งกองทัพและผู้บ่มเพาะชั้นยอดมามากมาย เพียงค่ายกลจะไปทำสิ่งใดได้?”
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ตระกูลทั้งหลายต่างก็สับสนยิ่งนัก มิใช่ว่าเซียนน้อยสกุลหลินถูกราชวงศ์อมตะใช้เป็นเครื่องสังเวยไปแล้วหรือ? เหตุใดเขาจึงยังมีชีวิตอยู่?
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ตระกูลทั้งหลายในอาณาจักรอื่นๆ ของอาณาเขตเหนือครามได้รู้เรื่องนี้ พวกเขาก็เพียงแค่นเสียงและเยาะเย้ยอยู่ในใจ
ค่ายกลแบบใดกันจะสามารถก่อสร้างได้รวดเร็วถึงเพียงนี้? และมันจะหยุดกองทัพของราชวงศ์อมตะได้อย่างไร? ช่างเป็นความฝันที่โง่เขลายิ่งนัก!
ทว่า นอกเหนือจากคนเหล่านั้น ทางด้านของตระกูลที่ถูกสังเวยอัจฉริยะของตนและโดนราชวงศ์ทำร้ายจนสาหัส กลับใช้จ่ายทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาลในเงามืด พวกเขาส่งสมบัติล้ำค่ามากมายอย่างลับๆ ออกมาให้ตระกูลหลินผ่านหลากหลายช่องทางด้วยกัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าโจมตีราชวงศ์อมตะด้วยตนเอง แต่โทสะในหัวใจของพวกเขาก็คงอยู่ พวกเขาทำได้เพียงใช้การช่วยเหลือนี้เพื่อสนับสนุนตระกูลหลินในการต่อต้านราชวงศ์เพียงเท่านั้น
หลังจากที่ตระกูลหลินได้รับรู้ถึงความช่วยเหลือของตระกูลเหล่านั้น พวกเขาก็ปลาบปลื้มในใจยิ่งนัก
ทว่า ในยามที่ราชวงศ์อมตะได้รู้การกระทำของตระกูลหลินแล้ว พวกมันเพียงหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน
ตระกูลหลินเตรียมค่ายกลเอาไว้? พวกเขาต้องการจะต่อสู้กับกองทัพนับล้านนาย? นี่มันเป็นเรื่องน่าขันยิ่งนัก!
กองทหารเกราะขนนกดำเป็นยอดฝีมือของราชวงศ์ในการล่าสังหารมาเนิ่นนาน พวกมันเป็นผู้บ่มเพาะทรงพลังที่ต่อสู้มาแล้วทั่วทุกทิศในใต้หล้า เพียงคนเดียวก็นับได้ว่ามิใช่ผู้ฝึกตนระดับสามัญ!
ยังไม่กล่าวถึงกองทหารนับล้านและผู้บ่มเพาะแดนอาณาเขตม่วงและแก่นทองคำในชุดสีขาวทองรวมกันอีกนับร้อยคน!
ยิ่งกว่านั้น ราชวงศ์อมตะยังไม่ได้มีความต้องการจะ “ละเว้น” ตระกูลหลินในแต่อย่างใด และราชวงศ์ยังตระหนักได้ถึงการที่บรรพชนสกุลหลินก้าวขึ้นสู่แดนปราณก่อตั้งจิต จึงได้ส่งผู้บ่มเพาะชนชั้นก่อตั้งจิตมาเป็นแม่ทัพด้วยในครานี้ ราชวงศ์ย่อมต้องสามารถทวงคืนหม้อสามขาทมิฬกลับมาได้สำเร็จอย่างแน่นอน!
เพียงค่ายกลธรรมดาจะสามารถหยุดยั้งมิให้กองทัพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้บดขยี้ตระกูลหลินจะมิเหลือซากได้อย่างไรกัน?
กล่าวตามตรง เพื่อจุดประสงค์ในการจัดการกับตระกูลหลินในครั้งนี้ ราชวงศ์อมตะใช้ทรัพยากรออกมาเป็นจำนวนมาก
ทั้งกองทหารเกราะขนนกดำนับหมื่น ผู้บ่มเพาะชนชั้นอาณาเขตม่วงนับร้อย ยอดฝีมือระดับแก่นทองคำนับสิบ และยอดคนแดนปราณก่อตั้งจิต!
ด้วยกองทัพเช่นนี้สามารถกล่าวได้ว่าย่อมมีชัยเหนือกองกำลังใดๆ ก็ตามในอาณาเขตเหนือครามทั้งหมด!
ทว่า ราชวงศ์อมตะนั้นอาศัยอยู่ในอาณาจักรเซี่ยเต๋า ในขณะที่ตระกูลหลินอยู่ในอาณาจักรฉีซาน ระยะทางระหว่างทั้งสองสถานที่นั้นไกลนับล้านลี้ การเดินทัพระยะไกลเช่นนี้สูบเอาทรัพยากรไปมากมาย
ก่อนหน้านั้น ราชวงศ์อมตะใช้หินวิญญาณไปนับไม่ถ้วนเพื่อกระตุ้นสมบัติชั้นยอดชิ้นหนึ่งที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลในการลดทอนค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเพื่อการเดินทัพนี้ลง
สมบัติชิ้นนั้นราวกับเป็นประตูแห่งโลกใบนี้ กองทัพของราชวงศ์อมตะใช้เวลาเพียงสามถึงสี่วันเท่านั้นในการเดินทางไปจนถึงอาณาจักรฉีซาน
“กล่าวตามตรง ข้าเองก็ประหลาดใจไม่น้อยที่หลินซวนผู้นั้นสามารถจะกลับไปยังอาณาจักรฉีซานได้แบบที่ยังมีลมหายใจ ในกรณีนี้ ข้าเกรงว่าหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะอยู่ในมือของตระกูลหลินจริงๆ!” ผู้บ่มเพาะแดนก่อตั้งจิตของราชวงศ์อมตะเอ่ยออกมาอย่างเฉยชา
“พวกเรามิจำเป็นต้องคิดให้มากความ มันก็เพียงข่าวลือเท่านั้น เร่งเดินทางกันต่อเถิด”
ในขณะเดียวกัน ผู้คนทั้งหมดของตระกูลหลินก็ยุ่งอยู่กับการจารึกค่ายกล
แม้ว่าศิษย์รุ่นเยาว์จำนวนมากจะไม่เชื่อว่าค่ายกลนี้จะมีผลจริงๆ ทว่าพวกเขาก็มิได้มีทางเลือกเหลือมากนักในการต่อกรกับกองทัพของราชวงศ์อมตะ... พวกเขาทำได้เพียงพยายามเร่งมืออย่างถึงที่สุดในการสลักอักขระของค่ายกลเพียงเท่านั้น