CD บทที่ 26 อานุภาพทำลายล้าง
จ้าวหยู่ไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถามใด ๆ ของหลี่เบ่ยหนี หลังจากวางสาย เขาก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในกลุ่มผู้ปกครองเพื่อตามหาตัวคุณแม่ขอนชานชานที่เล่นเปียโนเมื่อเช้านี้
“เฮ้! คุณอยู่นี่เอง” จ้าวหยู่ตามหาตัวเธอเจออย่างรวดเร็ว เขารีบถามคำถามเธอไปในทันที “พี่สาว ตอนที่คุณได้เข้าร่วมการแข่งขันเปียโนเมื่อก่อนน่ะ คุณพอจะจำ คนที่ชื่อเกาเทียน หยวนหลีลี่และหลัวเหม่ยนาหรือคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้ได้ไหมครับ”
คุณแม่ของชานชานตัวแข็งทื่อ เธอเดินถอยหลังไปช้า ๆ พร้อมกับส่ายหัวไปมาราวกับกำลังปกปิดอะไรบางอย่างไว้
“ไม่เหรอครับ? ผมรู้ว่ามันก็ผ่านมานานแล้วแต่คุณนึกดูอีกทีได้มั้ยครับ ว่ารู้จักพวกเธอทั้งสามคนมั้ย” จ้าวหยู่ยังคงเร่งเร้าเธอ “พวกเธอเองก็เคยเข้าร่วมการแข่งขันเดียวกันกับคุณเช่นกัน ใช่พวกเธอหรือเปล่าที่คุณเคยแข่งขันด้วย?”
“ฉะฉันจำไม่ได้หรอก!!” แม่ของชานชานท่าตกใจกลัวกับท่าทางของจ้าวหยู่ เธอหันกลับไปมองรอบ ๆ และพยายามหาที่ซ่อนตัวจากเขา
จ้าวหยู่คว้าแขนเธออย่างแรงพร้อมตะโกนว่า “คุณ! คุณกลัวอะไรงั้นหรือครับ? นี่ผมกำลังทำหน้าที่สืบสวนคดีอยู่นะ ให้ความ
ร่วมมือกันหน่อยสิคุณ!”
“นี่คุณ!! คุณผู้ปกครองตรงนั้นน่ะ!” คุณครูท่านหนึ่งไม่สามารถทนมองได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นยืนและตะโกนมาทางจ้าวหยู่ “คุณควรหยุดการกระทำแบบนี้สักที! ไม่เช่นนั้นผมจะแจ้งรปภ.ให้มาพาคุณ
ออกไป!”
“ผมเห็นด้วยครับ!” คุณพ่อท่านหนึ่งม้วนแขนเสื้อขึ้นพร้อมออกความเห็น “คุณไม่เห็นเหรอว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน!”
คำเตือนเหล่านั้นทำให้จ้าวหยู่ต้องทำอะไรสักอย่าง เขารีบดึงป้ายชื่อตำรวจตัวเองออกมาโชว์และตะโกนกลับไป
“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสืบสวนคดี ตอนนี้ผมกำลังทำหน้าที่สืบสวนอยู่และมันอาจจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้ ดังนั้น...” จากนั้น เขาหันกลับไปมองที่คุณแม่ของชานชาน “คุณต้องตอบคำถามผมอย่างตรงไปตรงมาสักทีหรือไม่ก็ไปที่สถานีกับผมตอนนี้เลย!”
เมื่อได้ยินว่าตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของตำรวจเข้า คุณแม่ของชานชานก็หงายหลังเป็นลมลงไป
ผู้ปกครองที่อยู่ใกล้ ๆ เธอ ต่างพากันปฐมพยาบาลให้เธอกลับมามีสติได้อีกครั้ง
“คุณตำรวจ! คุณจะมาสืบสวนอะไรกันที่นี่!” คุณครูต่างพากันวิ่งเข้ามาบ่นจ้าวหยู่ไม่หยุด
“คุณหันไปดูรอบ ๆ สิว่าพวกเรากำลังทำอะไรกัน ที่นี่มันที่โรงเรียนนะคุณ!”
“ใช่ ๆ!”
ผู้ปกครองอื่น ๆ ต่างเริ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์ท่าทางของจ้าวหยู่
“ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินการสืบสวนอะไรที่เกิดจากการประชุมผู้ปกครองแบบนี้เลย! ดูสิว่าคุณกำลังทำให้คนอื่นเขากลัวกันไปหมดแล้ว!”
“คุณเป็นตำรวจจริง ๆ หรือเปล่าเถอะ” ชายคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาทำแบบนี้ได้ไงกัน คุณครูหวังครับ ผมคิดว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าเราไปตรวจสอบป้ายชื่อของเขาเสียก่อนว่าจริงหรือไม่!”
“หุบปากได้แล้ว!” ไม่ต้องรอให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวาย จ้าวหยู่ก็ตะโกนใส่กลับไปในทันที
“ผมจะบอกอะไรพวกคุณให้นะ ว่าคนร้ายมันอาจจะก่อเหตุขึ้นอีกครั้งในวันนี้หรือพรุ่งนี้แล้วก็ได้! หากพวกคุณยังไม่เลิกขัดขวางการทำงานของเจ้าที่แล้วทำให้ คนร้ายมันสามารถก่อเหตุขึ้นมาได้อีกครั้งล่ะก็ พวกคุณเนี่ยแหละจะเป็นตัวการที่ช่วยส่งเสริมคนร้ายก่อคดีสำเร็จ!”
บรรดาผู้ปกครองต่างไม่เคยพบเจอเหตุการณ์และคำขู่แบบนี้ ทุกคนจึงทำท่าสงบลงและไม่กล้าส่งเสียงดังใด ๆ ทั้งสิ้น
“คุณตำรวจคะ เรื่องมันก็ผ่านมาเกือบยี่สิบปีแล้ว” ใบหน้าของคุณแม่ของชานชานยังคงซีดเซียว เธอกล่าวต่ออีกว่า “ฉันจะไปจำชื่อคนแข่งขันคนอื่น ๆ ได้อย่างไรกัน ตอนนั้นฉันเองก็กังวลมากกับการต้องขึ้นไปแสดง ชื่อสามคนนั้นที่คุณเอ่ยมา ฉันสาบานได้ว่าไม่เคย
ได้ยินมาก่อนจริง ๆ ค่ะ!”
จ้าวหยู่เริ่มคิดตามอย่างรวดเร็วถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเหยื่อทั้งสามถึงไม่รู้จักกัน
ข้อแรก อาจเป็นเพราะเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างนานแล้วพอสมควร อย่างที่สองการแข่งขันเปียโนเป็นการแข่งขันและโชว์ความสามารถของตัวเอง คงไม่มีใครอยากมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับคู่แข่งคนอื่น ๆ เข้า
“เดี๋ยวนะ”
จ้าวหยู่นึกอะไรบางอย่างออกมาได้และถามไปยังผู้หญิงตรงหน้า “คุณได้มีส่วนรวมกับการแข่งขันครั้งไหน? อย่างน้อย ๆ คุณก็น่าจะพอจำเรื่องนี้ได้อยู่บ้างใช่ไหม?”
“ฉันเอ่อ ฉันน่าจะพอจำมันได้”
คุณแม่ของชานชานพยายามทำหน้านึกอย่างหนักเพื่อเรียกความทรงจำนั้นกลับมา
“อาจจะเป็นครั้งที่สอง สามหรือสี่นี่แหละค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนที่ฉันเข้าแข่งขัน การประกวดนั้นยังไม่ได้จัดขึ้นมานานเท่าไหร่นัก”
จ้าวหยู่ส่ายหน้าไปมาอย่างหมดหนทาง เหยื่อทุกคนต่างเข้าร่วมการแข่งขันในปีที่สิบทั้งนั้น พวกเธอมีความต่างของเวลากันอยู่หลายปี จึงไม่แปลกที่คุณแม่ของชานชานจะไม่รู้จักชื่อพวกเธอสามคน
ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาคงต้องเริ่มจากบันทึกการแข่งขันในครั้งนั้นเป็นอย่างแรก จ้าวหยู่เชื่อว่าในรายชื่อของผู้แข่งขันในปีนั้นจะต้องมีชื่อคนร้ายอยู่ด้วยแน่นอน!
“เฮ้ ครูที่อยู่ตรงนั้น ขอถามอะไรหน่อย?” จ้าวหยู่หันไปถามคุณครูที่มาบ่นเขาเมื่อกี๊
“ผมต้องการข้อมูลการแข่งขันเปียโนที่จัดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ผมจะหามันได้จากที่ไหนบ้าง?”
“คุณคงต้องไปขอร้องกับท่านรองอาจารย์ใหญ่ ท่านผู้รับผิดชอบในด้านดนตรีแต่เรื่องมันก็ผ่านมานานมาก ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะยังมีข้อมูลบันทึกนั้นไว้อยู่หรือไม่เหมือนกัน”
“แล้วห้องรองอาจารย์คนนั้นอยู่ไหนกัน ผมจะไปที่นั้นได้ยังไง?” จ้าวหยู่เริ่มออกคำสั่ง ตัวคุณครูเองก็ไม่กล้าขัดขืนจ้าวหยู่แต่อย่างใด เขารีบบอกสิ่งที่จ้าวหยู่ต้องการในทันทีและเมื่อได้ข้อมูลมาครบแล้ว เขาก็รีบออกจากล็อบบี้นั้นไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อจ้าวหยู่ออกไปได้ไม่นาน ผู้ปกครองต่างพากันถอนหายใจออกอย่างโล่งอก
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่เงียบงันมานาน ใครคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“คน ๆ นั้น เขาเป็นใครกัน? เขาใช่ผู้ปกครองจริง ๆ หรือ?”
“ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ”
คุณครูผมสีขาวกล่าวอย่างสงสัย “ผมเองก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน เขามาจากหน่วยสืบสวนจริง ๆ อย่างงั้นหรือ? ทำไมดูเหมือนพวกนักเลงอันธพาลมากกว่า ถ้านักเรียนคนใดของเรามีพ่อแบบนี้จริง ๆ นั้นก็คงเป็นความโชคร้ายสุด ๆ ไปเลย!”
“ฉันรู้ค่ะ ฉันรู้!”
ทันใดนั้นเอง มีผู้ปกครองท่านหนึ่งยกมือขึ้นตอบ
“ฉันเห็นเขามากับเสี่ยวเฉินค่ะ ฉันว่าเขาเป็นผู้ปกครองของเสี่ยวเฉินเนี่ยแหละค่ะคุณครู!”
*ตึ่ง!!*
ครูคนนั้นตกใจล้มลงกับพื้นไปในทันที!
...
หลังออกมาจากล็อบบี้อาคารเรียนดนตรี จ้าวหยู่รีบตรงไปยังห้องรองอาจารย์ใหญ่ทันที
หลังจากที่จ้าวหยู่โชว์บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อรองอาจารย์เสร็จ รองอาจารย์ใหญ่ก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี
อย่างไรก็ตาม หลังจากจ้าวหยู่และรองอาจารย์ใหญ่ช่วยกันค้นหาบันทึกการแข่งขันในครั้งนั้นแต่ก็ไม่พบข้อมูล ๆ ที่เกี่ยวกับการแข่งขันครั้งนั้นเลย ไม่มีแม้แต่บทความหรืออะไรก็ตามที่บ่งชี้ถึงการแข่งขันครั้งนั้นได้
รองอาจารย์ใหญ่บอกว่าการแข่งขันในครั้งนั้นเกิดขึ้นมานานมาก และข้อมูลประเภทนั้นก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเก็บรักษาเอาไว้ ทางโรงเรียนเองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายสำนักงานอยู่หลายครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยังหลงเหลือข้อมูลเอาไว้อยู่
หลังจากได้ยินเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จ้าวหยู่รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาขอร้องกับรองอาจารย์ใหญ่ว่าขอให้ช่วยค้นหาข้อมูลต่อไป เผื่ออาจจะเจออะไรเข้า
ทางรองอาจารย์ใหญ่เองก็เข้าใจสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เขาให้สัญญากับจ้าวหยู่ว่าถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรเขาจะรีบติดต่อกลับไปหาในทันที
จ้าวหยู่ปล่อยให้รองอาจารย์ใหญ่ตัวจัดการเรื่องนี้ ทันทีที่เขาออกมาตรงประตูทางเข้าหลักของโรงเรียน ก็มีสายโทรศัพท์จากหลี่เบ่ยหนีเข้ามา
“รุ่นพี่ค่ะ! ฉันมีข่าวดีมาบอกค่ะ! ข้อมูลการแข่งขันเปียโนปีที่สิบของโรงเรียนมัธยมฉินชาน ฉันได้มันมาแล้วค่ะ!”