CD บทที่ 24 เปียโน
“เหลือเวลาอีกแค่ 53 วัน ผมรู้ดีว่าผู้ปกครองทุก ๆ ท่าน คงรู้กันอยู่แล้วว่าเลข 53 นี้ มีความสำคัญต่อเด็ก ๆ ของพวกเราอย่างไร”
บนเวทีมีชายวันกลางคน ผมสีขาวอยู่คนหนึ่ง กำลังใช้นิ้วชี้ของตัวเองเคาะลงไปที่โต๊ะระหว่างกล่าวเริ่มการประชุม
“วัตถุประสงค์ของการจัดงานประชุมผู้ปกครองในวันนี้ก็เพื่อที่เราจะได้มีการหารือกับบรรดาผู้ปกครองให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานของท่านกันอย่างถูกวิธี ช่วยกันทำให้พวกเขาไม่รู้สึกเคร่งเครียดจากการอ่านหนังสือจนเกินไป โดยส่วนตัว
ผมคิดว่า…”
คนที่ที่กำลังพูดอยู่นี้ คือคุณครูประจำชั้นของเสี่ยวเฉิน เขากำลังจดจ่อกับการอธิบายให้พ่อแม่ทุก ๆ คนทราบถึงสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนจะเริ่มการสอบกลางภาคเร็ว ๆ นี้
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่อย่างขะมักเขม้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่งในกลุ่มผู้ฟังด้านล่าง
“อา~ คุณผู้เป็นที่รัก โปรดมากับฉันในความฝัน”
ทำให้บรรดาผู้ปกครองที่กำลังฟังคำอธิบายกันอย่างตั้งใจต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังมาก แม้แต่คุณครูบนเวทีเองก็ต้องหยุดพูดลงโดยอัตโนมัติ
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นยิ่งไม่น่าเชื่อสายตาไปกันใหญ่ นอกจากเจ้าของเสียงโทรศัพท์คนนั้นจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวใด ๆ แล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุยราวกับไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ตัวอีกด้วย
“ว่าไง?” เขาเงยหน้าและตอบรับสาย สายตาแทบทุกคู่จ้องมองไปที่เขาคนนั้น
ขณะที่เขากำลังตั้งใจฟังคู่สายสนทนาอย่างตั้งใจจู่ ๆ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างโดยไม่สนสายตาใด ๆ ที่กำลังมองมา
บรรดาผู้ปกครองคนอื่น ๆ ต่างมองมาด้วยความสับสน ตัวคุณครูเองก็มองมาอย่างอึดอัดใจเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอธิบายต่อไปดีหรือไม่ และคนที่กำลังคุยตอบโทรศัพท์อยู่ตรงนี้ ดูท่าจะเป็นคนที่ทุกข์ร้อนน้อยที่สุดด้วย
ขณะที่เขากำลังฟังคู่สายสนทนาอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจว่า
“อะไรนะ!? เธอแน่ใจจริง ๆ ใช่ไหม! มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
ในช่วงเวลานั้น ผู้ปกครองทุกคนที่อยู่ภายในล็อบบี้นี้เหมือนโดนสะกดให้กลายเป็นหิน แม้แต่ฝุ่นในอากาศเองก็ดูเหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวไปด้วย
“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ!” เขายังคงส่งเสียงไร้ความยางอายออกมาและลุกจากที่นั่งตัวเองออกไปอย่างไม่สนใจใคร
ขณะที่เขาเดินออกไป เขายังคงตะโกนคุยกับคนในโทรศัพท์ของเขาว่า
“รอก่อน อย่าเพิ่ง! ขอฉันจดรายละเอียดพวกนั้นก่อน”
หลังจากที่คน ๆ นั้นเดินออกไป บรรดาผู้ปกครองก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เสียงอึกทึกโกลาหลก็ตามมา
“เขาเป็นพ่อของใครกันนะ” ใครบางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
“เขาเห็นที่นี่เป็นตลาดสดหรืออย่างไร”
“เหอะ แค่เห็นพ่อเป็นแบบนี้ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าลูกของเขาคงจะเป็นเด็กท้ายแถวแน่ ๆ”
คนอื่น ๆ เริ่มพูดจากันอย่างดูถูกด้วยใบหน้าที่แสดงความรังเกียจ
“ฉันคิดว่าลูกของฉันจะอยู่อันดับท้าย ๆ แล้วนะ อ้าว แม่น้องเสี่ยวยูเป็นอะไรไปคะ ทำไมหน้าซีดเซียวแบบนี้”
ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ กันตัวสั่นค้านคำสบประมาณเมื่อสักครู่ เธอพูดว่า
“ไม่นะ เป็นไปได้ยังไงกัน? ฉันเห็นว่าคนที่โทรศัพท์เมื่อกี้นี้มาพร้อมกับเสี่ยวเฉินหรือว่าเขาจะเป็น...”
“เสี่ยวเฉิน? ใช่ นักเรียนเรียนดีติดอันดับคนนั้นน่ะหรือคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้หรอก คุณคงจำผิดคนแล้วแหละค่ะ เด็กอย่างเสี่ยวเฉินจะมีพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ทุก ๆ ท่าน โปรดอยู่ในความสงบ!”
เมื่อคุณครูเห็นว่าบรรยากาศเริ่มมีความตึงเครียดสูงขึ้น เขาเคาะโพเดียมเพื่อเรียกความสนใจกลับมาอีกครั้ง
“ให้ผม เอ่อ ผมขอพูดต่อจากเมื่อกี้นะครับ”
คนที่ถูกกลุ่มผู้ปกครองคนนั้นนินทาคงจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากจ้าวหยู่!
นอกเหนือจากเขาแล้วจะมีใครอีกกันที่ไม่สนใจโลกได้ขนาดนี้
เมื่อออกมาจากตัวล็อบบี้ จ้าวหยู่ก็พบโต๊ะตัวหนึ่ง เขาหยิบสมุดโน้ตเล็ก ๆ ออกมาและจดบันทึกข้อมูลที่หลี่เบ่ยหนีได้ไปรวบรวมหามาให้ ในขณะที่กำลังจดบันทึกอยู่นั้น ความรู้สึกของจ้าวหยู่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกได้ว่าเลือดลมในตัวเขากำลังสูบเลือดอยู่ภายใน
‘หึหึ ไอ้คนร้าย ในที่สุดฉันก็จะจับตัวแกได้แล้ว!’ เขาคิดกับตัวเขาเอง
“หลิวชางฮู คูปิง แหกตารอดูได้เลย ฉันคนนี้แหละที่จะเป็นคนจับคนร้ายของคดีมือที่หายไปเอง!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ตีไปที่หัวตัวเองอย่างแรงแต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
“ไอ้ระบบปาฏิหาริย์ แกนี่มันสุดยอดจริง ๆ จะไม่ให้ฉันรักแกได้ยังไงกัน!”
เหตุผลที่จ้าวหยู่รู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้และทำท่าราวกับคนที่เสียสติ นั่นเป็นเพราะเขาได้พบเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องกับคดีและเป็นเบาะแสที่ทุกคนมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง!
ตามความเป็นจริงแล้ว ตอนที่เขาเห็นคุณแม่ของชานชานกำลังเล่นเปียโนอยู่บนเวที
จ้าวหยู่ได้มีความคิดบางอย่างที่ค่อนข้างจะเป็นความคิดที่นอกกรอบไปสักหน่อย
คนร้ายที่ตัดมือเหยื่อในคดีนี้ นอกจากจะเลือกเหยื่อที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้แล้วยังมีเหตุผลอื่นมาส่งเสริมอีกหรือไม่? เช่นการเล่นเปียโน?
เมื่อคนร้ายเห็นว่ามีคนที่เล่นเปียโนได้ดีกว่าตัวเอง เลยตัดมือเหยื่อ เหล่านั้นออกด้วยความอิจฉา?
ในขณะที่เขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือเหยื่อ
รายที่สองในคดีนี้อย่าง หยวนหลีลี่ เธอเป็นครูสอนวิชาดนตรีในวิทยาลัย แน่นอนว่าเธอจะต้องมีทักษะการเล่นที่ค่อนข้างสูงมาก
ทีเดียวและเมื่อเขาคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหยื่อรายอื่น ๆ เช่นเหยื่อรายแรก เกาเทียน ในวันที่เกิดเหตุ เกาเทียนได้ไปร่วมงานแสดงคอนเสิร์ตที่สนามกีฬา เขาจำได้ว่าไม่ใช่การแสดงคอนเสิร์ตแบบนักร้องปกติทั่วไป แต่เป็นคอนเสิร์ตที่แสดงเกี่ยวกับดนตรี ดูเหมือนว่ามันเกี่ยวข้องกับเปียโนด้วย!
และด้วยความคิดนี้ จ้าวหยู่จึงรีบโทรหาหลี่เบ่ยหนีทันที
วันนี้หลี่เบ่ยหนีมาทำงานแล้วเรียบร้อย เธอรีบตรวจสอบข้อมูลตามที่จ้าวหยู่ขอความช่วยเหลือมาและเธอรีบโทรกลับอย่างไวเพื่อจะบอกว่า คอนเสิร์ตที่เกาเทียนไปดูวันนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากการทัวร์พิเศษของเจ้าชายวงการเปียโนประเทศเยอรมัน เคลเดอร์แมน!
“เจ้าชายวงการเปียโน?”
เกาเทียนมาจากพื้นที่อื่นเพื่อมาร่วมดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอมีความชอบเกี่ยวกับเปียโนอย่างมาก
“เปียโนอีกแล้ว! แล้วคนที่สามล่ะ หลัวเหม่ยนามีความเกี่ยวข้องกับเปียโนบ้างไหม?”
จ้าวหยู่รีบถามหลี่เบ่ยหนีเพื่อให้เธอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้โดยทันที ระหว่างที่กำลังรอการตรวจสอบ เขากำลังคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวคนร้าย เหยื่อและเปียโนเข้าด้วยกัน
การจะตัดมือคน ๆ หนึ่งเพียงเพราะเรื่องเปียโนมันคงจะดูไร้สาระเกินไปแต่จ้าวหยู่มั่นใจในลางสังหรณ์ตัวเขาเองว่าเปียโนเนี่ยแหละคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยเขาไขคดีนี้ได้!
เมื่อถึงเวลาที่ผู้ปกครองต้องพบครูประจำชั้น จ้าวหยู่ทำได้แค่เพียงแกล้ง ๆ ฟังไปอย่างนั้น ภายในใจเขากำลังรอการตอบกลับมาของหลี่เบ่ยหนีจนไม่สามารถควบคุมอาการตื่นเต้นออกมาได้
หลี่เบ่ยหนีไม่สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้จ้าวหยู่อยู่ที่ไหนแต่เมื่อเธอสามารถรวบรวมหลักฐานตามที่จ้าวหยู่ขอมาได้แล้ว เธอรีบโทรหาเขาในทันที เธอบอกถึงข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดและน่าเชื่อถือได้
ผลออกมาว่าเหยื่อในคดีมือที่ไปหายทั้งสามคนนั้น เมื่อสมัยที่พวกเธอยังเป็นเด็ก ๆ พวกเธอต่างได้รับการรับรองมาตรฐานการเล่นเปียโนถึงระดับสิบ!
เมื่อได้ฟังข่าวที่น่าตกใจ จ้าวหยู่ยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน
ที่ด้านนอกล็อบบี้ขณะที่เขากำลังจดบันทึกอยู่นั้น จ้าวหยู่สัมผัสได้ว่ามือของตัวเองกำลังสั่นเทา
นับตั้งแต่ตอนที่เขาได้มีส่วนร่วมกับคดีมือที่หายไป จ้าวหยู่รู้สึกได้ว่าคนร้ายกำลังทำการแก้แค้นพวกเธอทั้งสามคน
หลังจากออกตามหาเบาะแสที่ยาวนานและพบแต่ความไร้ประโยชน์ แต่คราวนี้เรื่องของเปียโนมันต่างออกไป!
นับตั้งแต่ที่เบาะแสเรื่องเปียโนปรากฏออกมา เหยื่อทั้งสามคนต่างถูกเปียโนเชื่อมโยงกันไว้ทั้งหมด
จ้าวหยู่รู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
“บางทีคำตอบอาจจะอยู่ที่นี่ก็เป็นได้!”