626 - สังหารผู้เฒ่าหยินหยาง
626 - สังหารผู้เฒ่าหยินหยาง
ผังป๋อรีบก้าวไปข้างหน้า เส้นทางสายหยินหยางนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ และเขาต้องการช่วยเย่ฟ่านแบ่งภาระเย่ฟ่านโดยใช้เก้าบาดแผลของจักรพรรดิอสูรอย่างเต็มกำลัง
“บูม!”
นี่เป็นการปะทะที่รุนแรงมากแม้ว่าพวกเขาจะทุ่มสุดตัว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปไกลหลายลี้
เลือดของเย่ฟ่านพลุ่งพล่าน แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ในส่วนของผังป๋อที่ฝึกฝนด้วยวิชาของจักรพรรดิอสูรกลับไม่ได้มีสภาพดีอย่างนั้น
เขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่ร่างกายโอนเอนไปมาเกือบจะล้มลง!
ผู้เฒ่าทั้งสองหัวเราะด้วยความยินดี พวกเขาเดินไปข้างหน้าก่อนที่หญิงชราคนนั้นจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หยินหยางเป็นหนึ่งเดียวกัน ความเป็นอมตะถูกสร้างขึ้น เจ้าสองคนจะต้องตายในวันนี้!”
ผู้เฒ่าทั้งสองประสานแขนและตะโกนเพื่อเปิดแผนภูมิหยินหยางอีกครั้ง
ครั้งนี้แผนภูมิหยินหยางมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อก่อนหลายเท่า
เย่ฟ่านและผังป๋อมองหน้ากันก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละทางโดยไม่จำเป็นต้องส่งเสียง
ผู้เฒ่าทั้งสองคนเร่งเร้าแผนภูมิเต๋า เจตนาฆ่าอันแข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้นกว่าเดิม แผนภูมิหยินหยางของพวกเขาขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องและไล่ล่าเย่ฟ่านเข้าไปในความว่างเปล่า
ตามคำบอกเล่าของผู้คนจากจงโจวนั้นเป็นความจริงอย่างแน่นอน หลังจากที่แขนของผู้เฒ่าทั้งสองเชื่อมต่อกัน พลังของพวกเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสี่เท่าด้วยซ้ำ
เส้นทางหยินหยางกลายเป็นแผนภาพขนาดมหึมานั้น พวกมันเป็นเหมือนกับกงล้อของเซียนที่บดขยี้ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรหยุดมันได้
ถ้าเย่ฟ่านไม่ใช่ร่างเซียนเขาคงได้รับบาดเจ็บหนักไปแล้ว
“หยินหยางเป็นหนึ่งเดียวกัน”
เย่ฟ่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระเบิดพลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มเป็นสิบเท่า เลือดสีทองของเขาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ
เขาโบกกระบี่มังกรดำทำให้ท้องฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ แบ่งโลกออกเป็นสองซีก
“บูม!
แผนภูมิหยินหยางถูกทำลายอย่างรุนแรง ผู้เฒ่าทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง
แม้ว่าแผนภูมิหยินหยางจะทรงพลัง แต่เมื่อพลังการต่อสู้ของเย่ฟ่านเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า มันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต้านทานได้ง่ายๆ
เมื่อผู้เฒ่าทั้งสองแยกกันออก พลังที่พวกเขาแสดงออกมาก็ลดน้อยถอยลงไปกว่าแต่ก่อนมาก และผังป๋อก็ช่วงชิงโอกาสนี้ไว้โดยการเข้าพัวพันชายชราที่อยู่ในอาณาจักรแปลงมังกรขั้นห้า
"กวาด"
กระบี่มังกรดำของเย่ฟ่านพุ่งเข้าหาหญิงชราที่ถูกโดดเดี่ยว เขาไม่ต้องการให้ผู้เฒ่าทั้งสองกลับไปรวมพลังกันอีกครั้ง ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงแยกกันโจมตีคนละทาง
"หยินหยางอยู่ยงคงกระพัน เหตุไฉนจึงพ่ายแพ้ได้!"
หญิงชราพึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นราวกับว่ากำลังคิดถึงอะไรบางอย่างได้ ใบหน้าของนางเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงก่อนจะละล่ำละลักด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
"เก้าญาณวิเศษลึกลับ เจ้าฝึกฝนมันสำเร็จได้จริงๆ!"
“เจ้าว่าอะไรนะ!”
ชายชราที่มีรูปร่างเหมือนลิงกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดผังป๋อ เมื่อได้ยินเสียงอุทานของหญิงชราใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนอย่างรุนแรงเช่นกัน
เมื่อหลายปีก่อน บรรพบุรุษของพวกเขาบรรลุตำแหน่งปราชญ์โบราณ เมื่อหยินหยางรวมเป็นหนึ่งเดียวความแข็งแกร่งนี้ทำให้นิกายพวกเขาทะยานขึ้นเป็นหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในจงโจว
แต่สุดท้ายบรรพบุรุษของพวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้ครอบครองเก้าญาณวิเศษลึกลับ
ชายชราที่มีรูปร่างเหมือนลิงรวบรวมสติกลับมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะเยาะเย้ยว่า
“เรารู้ว่าเจ้าใช้ศิลปะศักดิ์สิทธิ์แบบไหน แต่เจ้าไม่สามารถแสดงมันออกมาได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาสิ้นสุดลงเราจะฆ่าเจ้าด้วยพลังแห่งหยินหยาง”
"ส่วนเจ้าคงเป็นทายาทของจักรพรรดิอสูร!" พวกเขามองดูผังป๋ออีกครั้งแล้วกล่าวว่า
"เมื่อเชี่ยวชาญวิชาศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของเผ่าอสูรแล้ว วิชาที่เจ้าใช้ออกก็น่าจะเป็นเก้าบาดแผลแห่งจักรพรรดิอสูรเมื่อหลายหมื่นปีก่อน”
พวกเขาถูกโจมตีอย่างหนัก แม้แต่แผนภาพหยินหยางก็พังทลายลง หากฝ่ายตรงข้ามไม่ใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวมีหรือจะสร้างอันตรายต่อพวกเขาได้
“บูม”
ผู้เฒ่าทั้งสองเคลื่อนไหวเข้าหากันอย่างรวดเร็วโดยหวังจะปลดปล่อยแผนภูมิหยินหยางอีกครั้ง
“น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่มีโอกาสอีกแล้ว” ผังป๋อเยาะเย้ย เขาและเย่ฟ่านถอยกลับด้วยกัน
แผนภูมิหยินหยางทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองคนมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นสามถึงสี่เท่า การต่อสู้ยืดเยื้อมีแต่จะทำให้พวกเขาได้รับอันตรายดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็ว
ผู้เฒ่าทั้งสองกำลังไล่ตามพวกเขา ร่างกายศักดิ์สิทธิ์มีความลับที่ยิ่งใหญ่และผังป๋อก็มีมรดกสูงสุดของจักรพรรดิอสูร ด้วยทั้งสองสิ่งนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นขุมสมบัติเคลื่อนที่ไปโดยปริยาย
“บูม!”
เย่ฟ่านใช้งานเก้าญาณวิเศษลึกลับอีกครั้ง ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง เขาทำหน้าที่รั้งท้ายโดยปล่อยให้ผังป๋อหลบหนีไปข้างหน้า
หญิงชราและชายชราผู้ชั่วร้ายใช้แผนภาพหยินหยางต่อสู้แบบฉาบฉวยโดยต้องการที่จะเผาผลาญพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านให้หมดก่อนจะจับตัวเขาโดยละม่อม
ทั้งสองฝ่ายคุมเชิงกันอยู่ในลักษณะนี้จนกระทั่งพวกเย่ฟ่านหลบหนีออกไปไกลกว่าสามพันลี้
ต้องบอกว่าคนแก่สองคนนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง แม้จะไล่ตามมาเป็นเวลานานแต่พวกเขาก็ไม่ท้อแท้แม้แต่น้อย พวกเขาพยายามเผาผลาญพลังของเย่ฟ่านพร้อมทั้งคอยโจมตีในโอกาสที่เอื้ออำนวย
“ได้เวลาแล้ว” ในทันใดนั้นตู้เฟยและหลี่เหอซุยก็ตะโกนลงมาจากภูเขาเบื้องล่าง
เย่ฟ่านและผังป๋อหัวเราะพร้อมกัน พวกเขาปลดปล่อยความเร็วระดับสูงสุดเพื่อให้หลบหนีจากค่ายกลสังหารที่จักรพรรดิดำติดตั้งไว้
“ไม่!” ผู้เฒ่าทั้งสองตะโกนด้วยความกลัว แต่มันก็สายเกินไป
"บูม"
หมอกสีดำพลุ่งพล่าน จิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วท้องฟ้า โลกถูกปิดผนึก และผู้เฒ่าทั้งสองก็ถูกปิดผนึกอยู่ในค่ายกลธงนับพันผืน
จักรพรรดิดำมีความเชี่ยวชาญในด้านค่ายกลที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์คนหนึ่ง
ด้วยความช่วยเหลือจากเย่ฮุ่ยหลิง ตู้เฟยและหลี่เหอซุย เขาได้จัดวางค่ายกลปิดผนึกขนาดใหญ่เพื่อล้อมสังหารผู้เฒ่าทั้งสองที่นี่!
“ทำลายมันออกไป” หญิงชราออกคำสั่ง สีหน้าของนางร้อนรนเต็มไปด้วยความกลัว
“แยกพวกมันออกจากกันแล้วค่อยฆ่าทีละคน” เย่ฟ่านมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
"ไม่มีปัญหา"
จักรพรรดิดำเหวี่ยงธงหลายสิบผืนและทำการแยกผู้เฒ่าทั้งสองให้อยู่กันคนละฝั่งของฟ้า
เย่ฟ่านและผางป๋อมองหน้ากันและหัวเราะออกมา ผังป๋อเคลื่อนไหวเข้าหาชายชราที่มีรูปร่างเหมือนลิงด้วยรอยยิ้ม
ครั้งนี้แม้ว่าเย่ฟ่านไม่รอช้า เขาใช้เก้าญาณวิเศษลึกลับเพื่อทำการโจมตีหญิงชราภายในค่ายกลและทำลายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางในเวลาไม่ถึงก้านธูป
ผังป๋อเผชิญหน้ากับชายชราผู้ชั่วร้าย แต่เขาไม่ได้เข้าไปภายในค่ายกลเพราะร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเย่ฟ่าน
เขาใช้การโจมตีจากด้านนอกด้วยทักษะเก้าบาดแผลจักรพรรดิอสูรเพื่อทำการถ่วงเวลาให้เย่ฟ่าน
หลังจากที่เย่ฟ่านสังหารหญิงชราเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็กระโดดเข้าไปในค่ายกลอย่างกระหายเลือด!