CD บทที่ 20 เพื่อนร่วมงานแสนอับโชค
หลังจากช่วงบ่ายของการออกสืบสวน จางจิงเฟิงและเหลียงฮวนพยายามคิดหาคำตอบว่าทำไมไม่สามารถจับภาพคนขับรถ BMW คันนั้นได้เลย
หลังจากที่ทางแผนกนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็สามารถระบุได้ว่า ภายในกระจกหน้ารถคันนั้นถูกติดอะไรบางอย่างเอาไว้ จากการทดสอบก็พบเศษซากกาวทิ้งเอาไว้บ้างส่วน
ผู้เชี่ยวชาญจึงตั้งข้อสงสัยว่า คนร้ายน่าจะทำอะไรบางอย่างกับกระจกหน้ารถในวันที่เกิดเหตุ บางทีคนร้ายอาจใช้กระจกเงาแปะทับกับกระจกหน้ารถ ทำให้สามารถมองออกมาจากภายในตัวรถได้ แต่บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเข้าไปได้
เนื่องจากตัวกระจกเงาสะท้อนกับตัวฟิล์มกระจกรถราคาแพงที่มีคุณสมบัติที่คล้าย ๆ กัน แต่ก็ไม่มีทางจะทำให้ทึบแสงจนไม่สามารถมองเห็นคนขับรถได้เท่าในวันนั้น ดังนั้นคนร้ายจะต้องใช้อะไรที่พิเศษมากแน่ ๆ
หลังจากการทำงานที่ไม่จบไม่สิ้นของแผนกนิติวิทยาศาสตร์ ในที่สุดพวกเขาก็พบฟิล์มอันหนึ่งเข้าอย่างคาดไม่ถึง ฟิล์มประเภทนี้เป็นชนิดเดียวกันกับที่เหล่านักมายากลใช้ในการแสดงโชว์มายากล พวกเขานำมาใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของการสร้างภาพมายาหลอกตาคนดู มันเป็นวัสดุที่ค่อนข้างพิเศษอย่างมาก
ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตฟิล์มนี้ขึ้นในจีน หากต้องการใช้ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
“ถ้าถามฉันแล้วล่ะก็” เหลียงฮวนเห็นว่าคนในห้องมีจำนวนไม่มากเท่าไหร่นัก เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบก่อนจะกล่าวต่อ
“คดีมือที่หายไปได้รับการไขคดีลงแล้วเรียบร้อย พวกรุ่นพี่บอกกับพวกเรามาว่า ยิ่งคนร้ายสร้างความพยายามในการก่อเหตุอาชญากรรมนี้ให้สมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ คนร้ายก็จะยิ่งหลงเหลือร่องรอยหลักฐานไว้มากขึ้นเท่านั้น”
“ทำไมล่ะ?” จ้าวหยู่รู้สึกไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่นัก
“ก็ถ้าวัสดุที่คนร้ายใช้เป็นชนิดพิเศษที่ต้องสั่งนำเข้ามาจริง เมื่อเราสามารถค้นหาแหล่งที่มาได้ ไม่ว่าจะเป็นจากการซื้อแบบออนไลน์หรือรับซื้อจากคนขายโดยตรง เราก็สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยทันที!” เหลียงฮวนพ่นควันออกเป็นรูปวงแหวน
“จ้าวหยู่ ฉันว่านะ ไอ้ไวท์บอร์ดของนายมันมีแต่เรื่องไร้สาระที่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้นแหละ”
“อืม...” จ้าวหยู่คิดตามอย่างระมัดระวัง
ดูเหมือนว่าอาชญากรรมที่ถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่น่าจะมาตายน้ำตื้นได้ง่าย ๆ แบบนี้ หากไม่คิดอะไรให้รอบคอบมากกว่านี้ ข้อผิดพลาดที่ตามมาก็อาจจะมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวก็เป็นได้
ถ้าคนร้ายถูกจับเพียงเพราะฟิล์มกระจกรถง่าย ๆ แบบนี้ เขาคงจะเสียใจเป็นอย่างมากแน่ ทางด้านคูปิงเองก็คงรู้เรื่องหลักฐานชิ้นนี้แล้วเช่นกัน
“เอาล่ะ ฉันจะลองตรวจสอบพวกนั้นดูอีกทีและจะเคลื่อนไหวทันทีที่เป้าหมายปรากฏตัวออกมา”
ณ ตอนนี้ จางจิงเฟิงและเหลียงฮวนทำความสะอาดโต๊ะทำงานของตัวเองและหยิบเอกสารบางส่วนออกมา สวมเสื้อแจ็คเก็ตเพื่อเตรียมพร้อมออกทันที!
“อะไรกัน? ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนี่” จ้าวหยู่มองไปยังนาฬิกาแล้วพบว่าเหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน
เหลียงฮวนหันมายิ้มให้เบา ๆ “ถ้าไม่มีคำสั่งใด ๆ จากหัวหน้าคูปิง พวกเราก็จะกลับบ้านแล้ว!”
“จ้าวหยู่” จางจิงเฟิงตบเบา ๆ ไปที่ไหล่ของจ้าวหยู่ “อย่าทำงานให้หนักนักเลย แม้ว่าพวกเราจะพยายามทำงานอย่างหนักไปก็เท่านั้น
ท้ายที่สุดรางวัลทั้งหมดก็ตกอยู่กับหัวหน้าทีมคูปิงและทีม Bเหมือนเดิมอยู่ดี ปล่อยวางเถอะ เอาแบบนี้เป็นไง ทำไมพวกเราไม่พักผ่อนโดยการออกไปว่ายน้ำกันสักหน่อยล่ะ?”
จ้าวหยู่มองบุคคลที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาทั้งสองคนนี้และมีความที่รู้สึก
ขัดแย้งกันอยู่นิดหน่อย ดูเหมือนว่าพวกตำรวจเองก็ไม่ได้เหมือนกันไปซะหมด อย่างน้อย ๆ พวกเขาทั้งสองตรงหน้าเขาก็ดูท่าจะไม่มีพิษมีภัยต่อตัวเขาแต่อย่างใดและคงเป็นประเภทที่ไม่ซีเรียสกับงานด้วยเช่นกัน ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ทั้งสองจะถูกเบื้องบนโยกย้ายให้มาอยู่ในแผนกคดีแช่แข็งอย่างนี้
“ไม่เป็นไร ไปเถอะ ผมมีบางอย่างที่ต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนน่ะ” จ้าวหยู่กำลังยุ่ง ๆ กับคดีมือที่หายไปนี่อยู่ เขาจะเอาพลังงานที่ไหนไปเหลือเล่นน้ำกัน
“ก็ตามใจนายแล้วกัน” จางจิงเฟิงเอียงศีรษะรับคำตอบของจ้าวหยู่
“เอาล่ะ พวกเราขอตัวไปก่อน ถ้าพวกเราถูกย้ายไปแผนกจราจรเข้าจริง ๆ คงจะไม่มีเวลามากพอให้ทำอะไรแบบนี้ได้อีกแน่”
ทั้งสองคนเก็บข้าวของของตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะออกไปในทันที
“เดี๋ยวก่อน!” จ้าวหยู่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และเอ่ยถามขึ้น
“แล้วคดีเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นอย่างไรบ้าง พวกพี่ตามหาตัวฆาตกรเจอมั้ย? แล้วได้พบกับภรรยาของผู้ตายหรือเปล่า?”
เหลียงฮวนถอนหายใจอย่างหนัก “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย!”
เมื่อถูกย้อนไปถึงเรื่องคดีที่ต้องรับผิดชอบก่อนหน้านี้เหลียงฮวนก็จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบมาอีกครั้ง
“ก็ไม่มีอะไรมาก เราพบตัวภรรยาของผู้ตายก็จริงแต่จางจิงเฟิงเกือบจะถูกสามีคนปัจจุบันของเธอฆ่าให้เนี่ยสิ”
“ห๊ะ? หมายความว่ายังไง?” จ้าวหยู่เริ่มสนใจ
แต่ทันใดนั้น มีเจ้าหน้าที่หญิงเดินผ่านมาทางนี้เข้าพอดี เมื่อเธอเห็นการกระทำของเหลียงฮวนก็เริ่มตะโกนว่าออกมา
“เหลียงฮวน! นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย! ดับบุหรี่ลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“โอเค โอเค ใจเย็น ๆ เดี๋ยวฉันดับเดี๋ยวนี้แหละ” เหลียงฮวนรีบดับบุหรี่ของตัวเองลงทันทีแล้วพึมพากับตัวเอง “ยัยหมาบ้าเอ๊ย!”
“นี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำคดีแบบนี้เลยแหละ” จางจิงเฟิงพูดต่อ “การที่ภรรยาผู้ตายสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข สร้างครอบครัวใหม่ขึ้นมาและมีลูกที่น่ารัก ๆ จนกระทั่งพวกเราเข้าไปพบและตอกย้ำถึงอดีตที่โหดร้ายเหมือนเป็นการสาดเกลือใส่แผลสด ทำให้เธอเจ็บช้ำอีกรอบแบบนี้”
“อย่างนี้นี่เอง” จ้าวหยู่ส่ายหัว “ดังนั้นก็หมายความว่า พวกพี่ถูกเตะออกจากบ้านหลังนั้นก่อนจะได้สอบถามอะไรอย่างงั้นสินะ?”
“ก็ไม่เชิง” เหลียงฮวนพูดต่อ “เราก็อ้างไปว่าเรามาทำหน้าที่เพื่อประชาชน เราโน้มน้าวใจพวกเขาจนได้รับข้อมูลบางอย่างมาแต่ตัวภรรยาเองก็บอกมาเหมือนเดิม ว่าผู้ตายมีปัญหากับการเข้าสังคม
อาจจะสร้างศัตรูเป็นจำนวนมากไว้ก็ได้ ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต ผู้ตายเองก็เคยประสบปัญหา เช่น มีคนมาทำลายหน้าต่างที่บ้านพวกเขา ทาสีประตูบ้านจนเละเทะ พวกเราไม่ได้รับข้อมูลอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมสักเท่าไหร่”
“จริง ๆ แล้ว จากคำให้การของเพื่อนบ้านด้วย ตัวผู้ตายเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีอารมณ์ที่รุนแรงและมักตบตีภรรยาตัวเองเสมอเมื่อตอนที่เขาเกิดโมโหขึ้นมา”
“ถ้าฉันเป็นภรรยาเขาล่ะก็ ฉันก็จะแช่งให้ตายอยู่ทุกวันแน่นอน”
“แล้ว...สามีใหม่ของตัวภรรยาล่ะ เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นเขา?” จ้าวหยู่เอ่ยถาม เขาต้องการทราบว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องบ้างหรือไม่
“ไม่มีทางแน่นอน!” เหลียงฮวนตอบอย่างชัดเจน “เราได้อ่านสำนวนบันทึกคดีหมดแล้วเรียบร้อยและได้ไปพบพยานบางคนด้วย ตัว
ภรรยาของผู้ตายเองมักถูกผู้ตายทารุณกรรมเกือบทุกวัน จนเธอกลัวที่จะออกจากบ้านไปใช้ชีวิตข้างนอก เธอพึ่งมาพบกับสามีคนปัจจุบันเมื่อสองปีก่อนหน้านี้เอง ก่อนหน้านั้นเธออยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด”
“นอกเหนือจากเรื่องของศัตรู เราก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมเลย สุดท้ายโชคชะตาของพวกเราคงจะหนีไม่พ้นวานแผนกจราจรอยู่ดี!”
“จำไว้นะจ้าวหยู่” จางจิงเฟิงหันมาพูดความรู้สึกกับเขา “ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม พยายามหนีออกมาจากทีมนี้ให้ได้ พื้นที่ตรงนี้เหมือนกับหลุมที่ว่างเปล่ามีแต่จมลงไป ไม่มีทางให้โชว์ผลงานอะไรออกมาได้ทั้งนั้น ดูแลตัวเองให้ดีด้วย พวกเราไปก่อนล่ะ”
จางจิงเฟิงโบกมือลา เหลียงฮวนเดินตามคู่หูออกไปในทันที โชคยังดีที่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังได้อยู่เคียงข้างกัน
จ้าวหยู่มองดูพวกเขาทั้งคู่เดินออกไปจนลับสายตา หลังจากนี้
ไม่กี่ปี ชีวิตของเขาจะจบลงแบบนี้หรือเปล่า?
“ไม่มีทาง!!” จ้าวหยู่ดันหลังตัวมานั่งตรงให้ตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องเป็นคนที่ปิดคดีมือที่หายไปนี้ให้ได้!!