ตอนที่ 39 รอการคืนชีพ
หลังค้นหาไปทั่วเมื่อคืน สุดท้ายพวกเขาก็พบตัวการ มันคือหลินเทียน ลูกชายคนเล็กสุดของผู้นำตระกูลหลิน คนที่ไม่มีใครเหลียวแล เขาถูกมองว่าเป็นขยะของตระกูลหลินที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้
นี่ทำให้ทุกคนตกใจกันอย่างมาก
ตอนพวกเขาพุ่งเข้าไปในลานบ้านของหลินเทียน พวกเขาก็พบหลินเทียนในสภาพแก่นชีวิตเสียหาย ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นคนชรา และเขาก็ล้มจมกองเลือดตัวเอง เขาได้ตัดขั้วหัวใจตัวเองและตายไปแล้ว
มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสืบสาวเอาความอะไรต่อ
พวกเขาจะไปถามอะไรจากคนตายได้?
ทั้งตระกูลหลินสิ้นหวังมาก พวกเขาสิ้นหวังจนอยากหาคนมารับผิดแทน
ทุกคนเกลียดชังหลินเทียนกันอย่างมาก!
“เขาตายแล้ว?”
กู่ฉางเกอผงะตอนเขาได้ยินคำอธิบาย
เขาควรจะแค่หลบหนีไปไม่ใช่เหรอ?
กู่ฉางเกอรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ หลินเทียนไม่มีทางตายจริง เขาต้องแกล้งตาย มีวิชาลับมากมายที่ช่วยให้แกล้งตายได้ในโลก มันไม่ยากที่จะหลอกคนที่ไม่มีความรู้พอ
อะไรอีก?หลินเทียนมีโชคลาภมหาศาลติดตัว เขาจะตายง่ายๆได้ไง?
กู่ฉางเกอไม่แปลกใจที่หลินเทียนใช้วิธีการเช่นนี้เพื่อดึงขนมาปิดบังสายตาทุกคน
เหนือสิ่งอื่นใด วิญญาณที่แก่นชีวิตเสียหายจะหลบหนีจากกายเนื้อไปได้ไง?แค่ลมพัดแผ่วเบาก็มากพอทำให้วิญญาณที่อ่อนแอแบบนั้นสลายตัวแล้ว
นอกจากนี้ บุตรฟ้าประทานจะมาฆ่าตัวตายได้ไง?
หลินเทียนเกลียดเขาจนอยากฆ่าเขา อีกฝ่ายจะยอมฆ่าตัวตายก่อนจะฆ่าเขาได้สำเร็จจริงเหรอ?ถ้าเป็นงั้นจริง งั้นเขาคงทำให้บุตรฟ้าประทานทั้งหมดเสื่อมเสีย
ระบบยังไม่ให้การแจ้งเตือน กู่ฉางเกอมั่นใจว่าหลินเทียนยังไม่ตาย เขาแค่แกล้งตายผ่านการใช้วิชาลับบางอย่าง
หลินเทียนคิดจริงๆหรือว่าเขา กู่ฉางเกอจะมองผ่านลูกไม้ตื้นๆนี้ไม่ออก?
ความคิดต่างๆแวบผ่านหัวของกู่ฉางเกอ สีหน้าของเขาไม่แสดงความเปลี่ยนแปลง หรือไม่ตอบสนองต่อพวกที่ยืนด้านหน้าเขา ความเงียบของเขายิ่งเพิ่มความวิตกของตระกูลหลิน และความเกลียดชังที่มีต่อหลินเทียนก็พุ่งทะยาน
แม้กระทั่งผู้นำตระกูลหลินก็ยังสาปแช่งตัวเองที่ให้กำเนิดขยะแบบนี้
หลายวันที่ผ่านมา เขารู้สึกโล่งใจมากหลังหลินชิวหานมาบอกเขาว่าหลินเทียนเปลี่ยนเป็นคนใหม่ แต่การกระทำของเขาเมื่อคืนก็ทำให้เขาต้องฉี่ราดใส่กางเกง
[ติ้ง!ทุกคนในตระกูลหลินได้พัฒนาความเกลียดชังต่อหลินเทียน หลินเทียนเสียค่าโชค 100แต้ม!ท่านได้รับค่าโชคชะตา 500 แต้ม!]
ตอนนี้เอง การแจ้งเตือนระบบดังในหัวของกู่ฉางเกอ และกู่ฉางเกอก็อดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้
นี่ก็ได้ผลเหรอ?
หลินเทียนเหลือค่าโชคไม่มาก และเขาก็ประเมินว่าไม่ว่ายังไงมันก็คงเพราะความสัมพันธ์ของเขากับหลินชิวหาน
“เราไม่สามารถสั่งสอนเขาให้ดีได้ โปรดลงโทษเราด้วย คุณชาย!”
“หลินเทียนผู้นั้นลอบวางแผนและโจมตีคุณชาย และมันก็เพราะความประมาทของเรา เราเต็มใจรับผิด โปรดลงโทษเราด้วย คุณชาย!”
ทุกคนจากตระกูลหลินคุกเข่าอย่างพร้อมเพรียงและพูดด้วยความจริงใจและกลัว
เฒ่าหมิงอธิบายถึงตำแหน่งกับภูมิหลังของกู่ฉางเกอให้พวกเขาฟังแล้ว ตอนนี้ มันดีกว่าสำหรับพวกเขาที่จะสารภาพผิดและขอการลงโทษตรงๆ ดีกว่าเอาแต่บ่ายเบี่ยง
เหนือสิ่งอื่นใด มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวหรือไม่มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พลังคือทุกสิ่งจริงๆ..”
ซูชิงเกอ ผู้ยืนข้างหลังกู่ฉางเกอเงียบๆตลอดเวลาพลันได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมในใจนาง มันคือวิญญาณอีกดวงของนาง!
แต่สีหน้าของนางก็ยังไม่เปลี่ยน
ตลอดมา นางได้ปลุกความทรงจำมากมายจากวิญญาณอีกดวงของนาง ยังมีความทรงจำเกี่ยวกับอาณาจักรเบื้องบนซึ่งทำให้นางสับสนเล็กน้อย นางจึงชอบอ่านตำราโบราณเพื่อประติดประต่อข้อมูล
ในเวลาเดียวกัน นางค่อยๆเริ่มสืบทอดเคล็ดบ่มเพาะโบราณที่ปรากฏในความทรงจำ
นางยังเก็บความลับนี้ไว้จากกู่ฉางเกอ เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องที่นางมีวิญญาณสองดวงถือเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่สุด นางไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องนี้กับคนอื่นยังไง
“นายน้อย โปรดลงโทษทาสชราผู้นี้ด้วย แม้เราจะไม่รู้สาเหตุเบื้องหลังการกระทำของหลินเทียน แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่าเขาคือลูกหลานของบ่าว บ่าวละอายใจเกินกว่าจะสู้หน้านายน้อยอีกแล้ว..”
เฒ่าหมิงพูดด้วยความรู้สึกผิด
เขาไม่รู้ว่าหลินเทียนเป็นบ้าอะไร หรือไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมขยะอย่างเขาที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้ถึงสามารถใช้วิชาต้องห้ามแสนร้ายกาจแบบนั้นได้
น่าเสียดาย เขาไม่สามารถหาหลักฐานใดเกี่ยวกับคนที่หลอกใช้หลินเทียนมาเล่นงานพวกเขาได้
“เรื่องนี้ประหลาดเกินไป แม่นางชิวหานบอกข้าเกี่ยวกับคนที่ชื่อหลินเทียนมาแล้ว เขาเป็นแค่เด็กขยะธรรมดาที่ไม่ควรมีความสามารถทำร้ายข้า หรือมีความกล้าที่จะทำอะไรแบบนี้”
“แถม อาณาจักรเบื้องบนยังมีเคล็ดวิชาลับมากมายที่สามารถช่วยให้คนยึดครองร่างของคนอื่นได้ และแม้กระทั่งบงการจิตใจ แม้นี่จะเป็นฝีมือของหลินเทียน แต่ข้ารู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับตระกูลหลิน ใครจะไปรู้?บางคนอาจพยายามเล่นงานและใส่ร้ายพวกเจ้าเพราะพวกเจ้าคือลูกหลานของผู้ติดตามข้า และเพราะข้ากำลังอยู่ที่นี่”
“พอแค่นี้เถอะ ข้าไม่ใช่มารร้ายตามืดบอดที่จะเอาผิดในเรื่องที่พวกเจ้าไม่ได้ผิด’
สุดท้าย กู่ฉางเกอก็พูดและตอบเฒ่าหมิงกับคนของตระกูลหลินโบราณ น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ไม่มีใครรู้สึกได้ถึงความผันผวนใดในกลิ่นอายของเขาเลย
เขาพูดออกมาตรงๆว่าเขาไม่โทษตระกูลหลินโบราณ
พูดตามตรง เขาไม่สนใจเลยสักนิด เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้ถึงเรื่องนี้ดีกว่าใคร และทุกอย่างก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
มันไม่ใช่ความผิดของตระกูลหลินที่มีวิญญาณมายึดร่างของขยะหลินเทียน
แต่เขาก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรต่อไปและไว้หน้าตระกูลหลิน แบบนี้ เขาจะสามารถสร้างภาพลักษณ์แสนดีต่อหน้าทุกคนจากตระกูลหลินได้และพิชิตใจพวกเขา
แม้มันจะไม่ช่วยอะไรเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่
เขาสามารถพิจารณาได้ว่ามันถือเป็นการไว้หน้าเฒ่าหมิง และนั่นจะทำให้เฒ่าหมิงถวายทั้งกายและใจเพื่อรับใช้เขาหนักกว่าเดิม
แค่คำพูดให้อภัยนี้ไม่ได้ทำให้เขาลำบากสักนิด แถมยังทำให้เขาได้หน้าด้วย!
“ขอบคุณคุณชายที่เมตตา!”
“คุณชายช่างใจกว้างและเมตตานัก!”
ทุกคนในตระกูลหลิน รวมถึงเฒ่าหมิงต่างถอนหายใจโล่งอกพอได้ยินคำพูดของกู่ฉางเกอ หัวใจของพวกเขาผ่อนคลาย และก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นที่สุมอก
แน่นอน พวกเขายังเดาได้ว่าเหตุผลที่กู่ฉางเกอให้อภัยพวกเขานั้นก็เพราะเขาไม่มองตระกูลหลินไว้ในสายตาเลย นั่น..เพราะเขายืนสูงเกินไป
“ขอบคุณนายน้อย!”
เฒ่าหมิงปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก และพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
เขาอดรู้สึกประทับใจไม่ได้พอเห็นว่าเขา ผู้เป็นทาสได้รับหน้าจากนายน้อยมากขนาดนี้ เขารู้สึกว่าเขาอยากทุ่มเทกายถวายชีวิตให้นายน้อยจนสุดตัว
หลินชิวหานที่ยืนข้างๆผงะพอได้ยินชื่อนางจากปากคุณชายกู่ นางสงสัยว่าคุณชายกู่กำลังช่วยนางเพิ่มสถานะในตระกูลหรือเปล่า?
ใบหน้าของนางเปลี่ยนสี และเริ่มคิดเพ้อฝันไปไกล
ความเศร้าที่นางรู้สึกจากการตายของหลินเทียนพลันหายไปทันที
“คุณชาย โปรดวางใจ ข้าจะสืบเรื่องนี้และให้คำตอบที่ท่านพึงพอใจ!”
ผู้นำตระกูลหลินพูด และถอนหายใจโล่งอกร่วมกับเหล่าผู้อาวุโส หลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มครุ่นคิดว่า
หลินเทียนตายยังไง?
ทำไมเขาถึงปองร้ายคุณชายกู่?
และทำไมขยะอย่างเขาถึงเปลี่ยนเป็นคนละคน?
กู่ฉางเกอพยักหน้าให้พวกเขาเล็กน้อยและจากนั้นก็โบกมือให้พวกเขาไปได้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปล่อยให้ใครฝังหรือเผาศพของหลินเทียน เหนือสิ่งอื่นใด เขายังตั้งตารอวินาทีที่หลินเทียนจะ’ฟื้นคืนชีพ’
ถ้าพวกเขาเผาศพของหลินเทียน งั้นหลินเทียนคงได้ตายจริ
ถ้าฝังเขา งั้นทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนของหลินเทียน
และเนื่องจากกู่ฉางเกอยังไม่ได้บีบเขาจนแห้ง เขาก็จะไม่มีทางปล่อยหลินเทียนไปแบบนั้น!