ตอนที่ 38 แกล้งตาย
เสียงเท้าด้านนอกเข้ามาใกล้ขึ้น และหลินชิวหานก็ไม่ได้อยู่คนเดียว
ใบหน้าของหลินเทียนยิ่งซีด และตัวของเขาก็สั่นไม่หยุดเนื่องจากความอ่อนแอ หัวใจของเขาเต้นไม่หยุด
เวลาแบบนี้เขาจะไปทำอะไรได้บ้าง?
รีบหนี?ไม่ เขาจะโดนจับคาหนังคาเขา!
เขาอยู่ในสภาพย่ำแย่ แก่นชีวิตเสียหายและก็โดนคำสาปย้อนกลับ
เขาจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อแค่เดินให้ตรงยังยาก?
หลินเทียนอดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้ ความสิ้นหวังไม่ต่างจากสิ่งที่เขารู้สึกตอนเขาทำลายผ่านสวรรค์ พยายามขึ้นอาณาจักรเบื้องบน แต่เจอกับรอยแยกมิติกลางคัน และก็เกือบโดนกำจัด
เขารู้สึกถึงความสิ้นหวังและไร้อำนาจในใจของเขาอีกครั้ง
คืนนี้เขาจะจบจริงเหรอ?เขาไม่สามารถยอมรับได้!หลังสุดท้ายก็ได้รับโอกาสคืนชีพ แทนที่จะไปถึงจุดสูงสุดของชีวิต เขาก็มีแต่จะล้ม
หลินเทียนคำรามในใจอย่างไม่เต็มใจ
แต่ครั้งนี้ มันดูเหมือนราวกับสวรรค์ได้ยินเสียงร้องสิ้นหวังของเขา เขาเห็นแสงสว่างในความมืดของขุมนรกที่เขาตกลงไป และความหวังก็ผุดในหัวหลินเทียน
ถูกต้อง!
เขาสามารถแกล้งตายและหลบหนีจากหายนะนี้ได้ หลินเทียนคือคนโหดเหี้ยมที่สามารถทำทุกอย่างได้ถ้าใจต้องการ ทันทีทันใด เขาตัดขั้วหัวใจ และซ่อนวิญญาณเขาไว้ในส่วนลึกสุดของทะเลจิตสำนึกผ่านเคล็ดวิชาลับ
ไม่มีใครควรเห็นผ่านเคล็ดวิชาลับเขาได้
เหนือสิ่งอื่นใด วิญญาณของเจ้าของร่างนี้ได้ดับสูญไปแล้ว และทั้งหมดที่เหลือไว้ก็แค่เปลือกเปล่า และตอนนี้ที่เขาตัดขั้นหัวใจ และพลังชีวิตทั้งตัวก็หายไป
เคล็ดวิชาลับนี้ทำงานตามดังนี้’หลังผ่านไปสามวัน ผลของมันจะหายไป และเขาจะตื่นขึ้นเองและขั้วหัวใจก็จะซ่อมแซมด้วยตัวมันเอง’
ต่อให้สมาชิกตระกูลหลินจะพบเขา เขาก็สามารถใช้ข้ออ้างความจำเสื่อมได้
หลินเทียนไม่ลังเลที่จะดำเนินการตามแผนทันทีที่เขาคิด เขากู่ร้องเสียงดังและพ่นเลือดออกจากปาก ตาของเขาเหลือกขึ้น และตัวก็สั่นกระตุกลงพื้น
[ปัง!]
ในเวลาเดียวกัน บางคนผลักเปิดประตูลานบ้านเข้ามา
“เสี่ยวเทียน เกิดอะไรขึ้น?!’
“หลินเทียน..”
หลินชิวหานกับคนอื่นตกใจมากตอนเห็นฉากด้านหน้า
..
[วันต่อมาพอฟ้าสว่าง]
การเคลื่อนไหวด้านนอกโถงได้ปลุกกู่ฉางเกอขึ้น
หลังกลืนกินมารสวรรค์ไปจำนวนมากในตอนกลางคืน รวมถึงอายุขัยของหลินเทียน พลังของวิญญาณเขาก็แข็งแกร่งขึ้น ด้วยความที่อายุขัยนี้เป็นของราชาเทพ ต่อให้จะไม่แข็งแกร่งเท่าเดิม มันก็ยังเต็มไปด้วยพลัมหาศาล
หลังกู่ฉางเกอย่อยทุกอย่าง เขาก็หลับ เหนือสิ่งอื่นใด ไม่เหมือนผู้บ่มเพาะคนอื่น เขาไม่ต้องตื่นตลอดเวลาและทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจและเพิ่มฐานบ่มเพาะ ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือแค่เพิ่มค่าสถานะโดยใช้ค่าโชคชะตา ทำไมเขาต้องไปทำให้ตัวเองลำบากเหมือนคนอื่นด้วย?
“คุณชาย มีคนมารอท่านอยู่ด้านนอกเต็มไปหมด”
ซูชิงเกอสวมชุดผ้าไหมนุ่มที่ขับเน้นเรือนร่างนาง ใบหน้าไร้ที่ติและได้รูปของนางดูเป็นประกายภายใต้แสงแดดอ่อน
ขณะคุยกับกู่ฉางเกอ นางก็มองออกไปด้านนอกด้วยความอยากรู้และสงสัย
เกิดอะไรขึ้นตอนที่นางหลับ?
กู่ฉางเกอไม่บอกอะไรนาง นางจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางสสัยว่าทำไมสมาชิกทั้งหมดของตระกูลหลินรวมถึงเฒ่าหมิงถึงยืนอยู่ข้างนอกด้วยความกลัวแบบนั้น?
มันไม่ยากที่จะบอกว่าพวกเขากำลังรอคุณชายของนาง
“ดูเหมือนพวกเขาจะจับหนูได้แล้ว”
กู่ฉางเกอยืดเส้นยืดสายและตอบ นี่ทำให้ซูชิงเกอทนไม่ไหวอีก“ท่านกำลังพูดถึงใคร?”
“ก็ต้องพูดถึงคนที่พยายามลอบสังหารข้านะสิ”
กู่ฉางเกอตอบราวกับมันไม่สำคัญ
ต่อให้หลินเทียนจะกางปีกได้ เขาก็ไม่มีวันรอดพ้นจากเงื้อมมือตระกูลหลินไปได้
“ทำไมเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแต่ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย?”
ซูชิงเกอผงะ เมื่อคืนนางหลับสนิทขนาดนั้นเลยเหรอ?นางหลับโดยไม่รู้เรื่องเลยเนี่ยนะ?
หรือ คุณชายของนางจงใจทำให้ไม่เกิดเสียงเพื่อไม่รบกวนนาง?หัวใจของซูชิงเกอเต้นผิดจังหวะพอนางคิดถึงเรื่องนี้
การกระทำและความเอาใจใส่เล็กน้อยนี้จากเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้นางยิ่งตกลงไปใน’กับดัก’ของเขามากขึ้น
เห็นได้ชัดว่ากู่ฉางเกอไม่รู้ถึงความคิดของซูชิงเกอ เหนือสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งเขาก็ยังไม่กล้าอ้างว่าสามารถอ่านใจผู้หญิงได้เหมือนหลังมือ
แต่ทว่า ระบบได้บอกเขาผ่านการแจ้งเตือนว่าค่าโชคของเขาเพิ่ม นี่ทำให้เขารับรู้ว่าหัวใจของซูชิงเกอยิ่งยอมจำนนต่อเขามากขึ้น
สมแล้วที่เขาว่ากันว่า’น้ำหยดทุกวันหินยังกร่อน’
“เมื่อคืนเจ้าหลับเหมือนหมูตาย เจ้าจะไปรู้เรื่องอะไร?”
กู่ฉางเกอพูดพลางหัวเราะและเดินออกไป ในทางกลับกัน ซูชิงเกอได้แต่ยืนกระทืบเท้าและถามด้วยความอยากรู้“คนที่พยายามโจมตีท่านเมื่อคืนคือเด็กหนุ่มชื่อหลินเทียนใช่ไหม?”
“เจ้ารู้ได้ไง?”
กู่ฉางเกอประหลาดใจ
“ข้ารู้สึกได้ว่าเจ้าขยะนั่นที่ชื่อหลินเทียนมีปัญหาบางอย่างหลังได้ฟังท่านกับหลินชิวหานคุยกัน”
ซูชิงเกออธิบาย
“เจ้าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าเอาใจใส่”
กู่ฉางเกอชม
มันแค่ว่าซูชิงเกอยังมีคำถามบางอย่างที่ทำให้นางสับสน
ทำไมเด็กหนุ่มหลินเทียนนั่นถึงขาดสติและมาโจมตีคุณชายของนาง?
เขาเบื่อชีวิตแล้ว?
บางครั้ง ความอิจฉาก็สามารถส่งคนไปสู่ความตายได้
ไม่ช้า กู่ฉางเกอก็มาถึงด้านนอกและเฝ้ามองใบหน้ามากมายของคนตระกูลหลินที่มารอกัน
“นายน้อย ทาสชราผู้นี้ไม่สามารถสั่งสอนลูกหลานให้ดีได้..โปรดลงโทษข้าด้วย นายน้อย!”
เฒ่าหมิงยืนหน้าเจื่อนอยู่ด้านหน้าสุด ทันทีที่กู่ฉางเกอปรากฏตัว เขาก็รีบเดินไปข้างหน้า คุกเข่าลงเพื่อน้อมรับความผิด
“เจ้าเจอตัวการแล้ว?”
พลังของกู่ฉางเกอพวยพุ่งพอเขาตอบ แต่เขาไม่เคลื่อนไหว ใบหน้าของเขาไม่แยแสตามเดิม และไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาโกรธหรือมีความสุข
เห็นได้ชัดว่าเขารู้คำตอบของคำถามเขาอยู่แล้ว
จะอะไรอีกละ?นี่ไม่ใช่ความผิดของเฒ่าหมิงตั้งแต่ต้น นับประสาอะไรกับเฒ่าหมิง แม้กระทั่งคนของตระกูลหลินโบราณคงยังไม่คิดฝันว่าขยะของตระกูลจะกล้าทำเรื่องอะไรแบบนี้
แต่เขาก็จำต้องปั้นหน้า ตระกูลหลินโบราณไม่มีทางพบความจริงเรื่องวิญญาณที่มายึดร่างหลินเทียน มันต้องเป็นเขาต่างหากที่จะเป็นคนเปิดโปงมัน
“นายน้อย เราพบตัวการแล้ว แต่..”
ความรู้สึกผิดของเฒ่าหมิงเอ่อล้นและเขาก็ไม่สามารถพูดจบได้ คนของตระกูลหลินที่ยืนข้างหลังเขาเองก็ตั่วสั่นกันงกๆ ไม่มีใครที่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
คนที่หน้าซีดสุดและแทบฉี่ราดย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นำตระกูลหลิน เหงื่อเย็นปกคลุมทั้งหน้าผากและแผ่นหลังเขา และเขาก็รู้สึกว่าแข้งขาไร้เรี่ยวแรง
เมื่อคุณชายตรงหน้าเขาโกรธ เขาจะไม่ใช่คนเดียวที่โดนกุดหัว ทั้งตระกูลหินโบราณหรือแม้แต่บรรพชนของพวกเขาก็คงเก็บหัวไว้บนบ่าไม่ได้
ทุกคนในตระกูลหลินโบราณต่างมีอารมณ์คล้ายเขา พวกเขาไม่สามารถระงับความตื่นตระหนกในใจได้ และได้แต่ยืนเขย่งเท้าราวกับกำลังรอการลงโทษจากจักรพรรดิ
หลินชิวหานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ใบหน้าของนางซีด และนางก็ยังไม่ฟื้นจากความตกใจ นางยังทำใจเชื่อไม่ลง
“โอ้?มีเรื่องอะไร?เกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่พยายามลอบสังหารข้างั้นหรือ?”
กู่ฉางเกอถามด้วยความสนใจ เขาอยากรู้ว่าหลินเทียนมีลูกไม้อะไรอีก หรือพวกคนตรงหน้าเขาจะคิดใช้ข้ออ้างว่าเขาหลบหนีไปได้?หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไร?
“คืนก่อน..”
จากนั้น ความรู้สึกผิดก็ถูกเขาฝืนกลืนลงคอไป เฒ่าหมิงเริ่มอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน