ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 17
ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 17
หลังจากนั้นผู้อาวุโสหลิวก็ส่งเสียงหัวเราะแปลกๆก่อนจะล้มลงไปกับพื้น
ขณะที่คางคกไม้มะเกลือตกลงบนพรม หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว เธอรีบวิ่งเข้าไปประคองปู่ของเธอไว้ แต่หญิงสาวร่างแบบบางเช่นเธอย่อมไม่อาจรับน้ำหนักตัวของบุรุษที่แข็งแรงไหว ดังนั้นเธอจึงวางร่างปู่ของเธอลงบนพรมอย่างช่วยไม่ได้
ตามผิวหนังของผู้อาวุโสหลิวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขี้เถ้าอย่างน่าตกใจ
"เซี่ยเยี่ยนพูดถูก! มีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว!" หลิวเสวี่ยเอ่อร์พลันนึกถึงคำแนะนำของเซี่ยเยี่ยน
................
หนึ่งชั่วโมงต่อมา พ่อแม่ของหลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็รีบมาที่โรงพยาบาล ตามมาด้วยลูกชายและลูกสาวอีกสองคนของผู้อาวุโสหลิว ตลอดจนครอบครัวของพวกเขา
แม้ว่าผู้อาวุโสหลิวจะเกษียณอายุออกจากราชการแล้ว แต่เขาก็ยังมีอำนาจบารมีอยู่ไม่น้อย แม้แต่ข้าราชการระดับสูงของมณฑลซีเหอก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อเขาในฐานะรุ่นน้อง ที่ตระกูลหลิวเติบโตมาได้ถึงขั้นนี้ก้ด้วยเพราะเส้นสายของผู้อาวุโสหลิว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้อาวุโสหลิว ตระกูลหลิวคงได้รับผลกระทบอย่างหนักถึงขั้นเสื่อมทรุดลง ดังนั้นสมาชิกทั้งหมดจึงรู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก
"เสวี่ยเอ๋อร์ ปู่ของลูกกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าเมื่อเช้าก่อนที่พ่อจะออกมาปู่ยังดีๆอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หลิวซานรู้สึกกังวลมากขณะมองไปทางห้องไอซียู แต่ถึงจะอย่างนั้นน้ำเสียงที่ใช้พูดกับลูกสาวก็ยังอ่อนโยน
"ปู่กำลังเล่นกับคางคกไม้มะเกลือก่อนที่จู่ๆจะกลายเป็นแบบนี้ เพียงแต่พ่อ หนูสงสัยว่ามัน....." เสวี่ยเอ๋อร์ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เกิดความลังเล
"อะไรลูก?" หลิวซานเลิกคิ้วขณะถามขึ้น
"หนูสงสัยว่าปู่จะถูกผีสิง พ่อก็รู้ว่าช่วงนี้ปู่เขามักจะฝันร้ายอยู่บ่อยๆ....หนูบังเอิญได้เจอกับคนคนนึงที่ตลาดสะพานซ่งเซียนเมื่อเช้านี้...แต่ปู่ไล่เขากลับไป....เขาได้เตือนปู่ว่าอย่าเข้าไปใกล้มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของห้องรับแขก แต่ปู่ไม่ฟังคำแนะนำเลยกลายเป็นแบบนี้!”
หลิวเสวี่ยเอ๋อร์อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้หลิวซานฟัง ตั้งแต่เริ่มพบเจอกับเซี่ยเยี่ยนจนกระทั่งถึงตอนที่ปู่ของเธอหมดสติไป หลังจากได้ฟังแล้วใบหน้าของหลิวซานก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม คิ้วของเขาขมวดมุ่นเป็นปม
"ลูกบอกว่านักศึกษาที่ชื่อเซี่ยเยี่ยนคนนั้นเตือนปู่ของลูกว่าอย่าเข้าใกล้มุมตะวันออกเฉียงใต้ของห้องรับแขก?" หลิวซานถามขึ้นอีกครั้ง
"ค่ะ เขาบอกอย่างชัดเจนแล้ว แต่ปู่ไม่ยอมฟัง"
"หรือจะเป็นฝึมือของเขา?" ชายหนุ่มที่อายุราวยี่สิบพลันโพล่งออกมา
"เอ้อเปี่ยวเกอ นายจะไปใส่ร้ายคนอื่นๆมั่วๆแบบนี้ได้ที่ไหนกัน?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้ว เธอไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อญาติหนุ่มผู้นี้ของเธอสักเท่าไร ชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายของป้าเธอ ต่งฉวน
"ไม่ใช่ว่าเขาบอกเอาไว้เหรอว่าถ้าจะซื้อของของเขา....หินเรคงเรควี่ยมอะไรนั่นอีก ราคาจะไม่ใช่แค่ห้าพัน? เป็นไปได้มากว่าเขาจะลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ปู่กลายเป็นเหยื่อ และตอนนี้พวกเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจ่ายตามราคาที่เขาเรียกร้องมา!"
คำพูดของเขามีเหตุผลอยู่ไม่น้อย แม้แต่หลิวซานก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย
"ไม่น่าเป็นไปได้!" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่สัญชาตญาณของเธอบอกว่าเซี่ยเยี่ยนไม่ใช่คนแบบนั้น เธอใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
"เอ้อเปี่ยวเกอ นายคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการวางแผนของเซี่ยเยี่ยนงั้นเหรอ?"
"ใช่ เพราะเขารู้ว่าตระกูลหลิวของพวกเรามีทรัพย์สมบัติมากมาย เขาจงใจมาหาเธอเอง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนแต่อยู่ในแผนการของเขา!" ต่งฉวนสรุปอย่างมั่นใจ หลังจากเห็นว่าน้าของเขาเห็นด้วย เขาก็ยิ่งมั่นใจกว่าเดิม สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเขาเมื่อเขาเข้าแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งผู้บริหารในเครือตระกูลหลิว
"ต่งฉวนพอได้แล้ว!" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์โกรธมากจนไม่ได้เรียกเขาว่าเอ้อเปี่ยวเกออีก
"เซี่ยเยี่ยนเพียงแค่ตั้งแผงขายขายอยู่ที่ตลาดสะพานซ่งเซียน และฉันก็เป็นคนเดินไปหยุดอยู่หน้าแผงของเขาเอง อีกทั้งยังไม่เคยมีใครเอ่ยชื่อของเขาให้ฉันฟังทั้งนั้น พวกเขาย่อมไม่มีทางรู้ว่าฉันจะบังเอิญอยากจะซื้อสร้อยไล่ผี ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องบังเอิญ ทีนี้บอกมาซิต่งฉวน มีใครที่วางแผนจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ได้?" หลิวเสวี่ยเอ๋อร์โมโหมาก เธอขึ้นเสียงใส่ต่งฉวนอย่างไม่ไว้หน้า
ต่งฉวนนิ่งอึ้งเมื่อถูกลูกพี่ลูกน้องระเบิดอารมณ์ใส่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าตอแยองค์หญิงที่ตระกูลหลิวทั้งตระกูลเฝ้าทะนุถนอมผู้นี้
"หลังจากที่รับเงินไปแล้ว เซี่ยเยี่ยนก็กำลังจะเก็บแผงกลับบ้าน แต่เป็นฉันเองที่ดื้อดึงจะให้เขามากับฉันให้ได้...."
"บางทีเขาอาจจะเล่นตัวเพื่อให้...." ต่งฉวนพยายามแก้ตัว
"เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้ว มารอฟังกันว่าหมอจะสรุปอาการอย่างไร หากว่ามีคนวางยาจริงๆ อย่างนั้นเซี่ยเยี่ยนคนนั้นก็น่าสงสัยที่สุด!" หลิวซานกล่าวขัด ตอนแรกเขาปักใจเชื่อไปแล้วว่ามีคนวางแผนคิดจะหลอกตบทรัพย์สมบัติของตระกูลสิน แต่หลังจากฟังคำพูดของลูกสาวแล้ว เรื่องราวก็ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนี้ที่หลงเหลืออยู่ก็คือความงุนงง
หลังจากที่รออยู่เนิ่นนาน หมอสูงอายุคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องไอซียู สมาชิกตระกูลหลิวทั้งหมดต่างก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหมอคนนั้น หลิวซานรีบถามขึ้นด้วยความกังวล "หมอหวัง พ่อของผมท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"
"สถานการณ์ของผู้อาวุโสหลิวค่อนข้างแปลกประหลาดอยู่บ้าง....." หมอหวังหยุดพูดก่อนจะยกมือปาดเหงื่อ
"คุณหมอพูดออกมาได้เลย!" หลิวซานเครียดกว่าเดิมมีเห็นท่าทางของหมอหวัง
"ในสมองของผู้อาวุโสหลิวมีเงาดำอยู่....." หมอหวังสงบอารมณ์ลงก่อนจะพูดออกมา
"เนื้องอก?" หลิวซานถามขึ้นทันที 'ถ้าเกิดว่าเป็นเนื้องอก แบบนั้นพ่อก็อยู่ในอันตรายแล้ว'
"ที่แปลกก็คือตรงนี้...เงาดำนั้นมีชีวิต!" หมอหวังลดเสียงลง ขณะที่พูดออกไปแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกยากจะทำใจเชื่อ
"คะ..คุณหมอหมายความว่ายังไง?" คำพูดของหมอหวังทำให้หลิวซานตกตะลึง