ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 20
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 22

เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 21


เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 21

โจโฉหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ กองทัพเสเหลียงล้วนแต่เป็นยอดทหาร ขณะที่ทหารของเขาไล่ตามศัตรูมาตลอดทาง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต เขาก็รีบสั่งให้แฮหัวเอี๋ยนนำทหารเข้าต้านทานศัตรู

ทั่วสนามรบเต็มไปด้วยเสียงการต่อสู้ โจโฉเองก็มีความสามารถในการฝึกทหาร ทหารของเขาย่อมไม่อ่อนแอ ประกอบกับความกล้าหาญที่โจโฉแสดงออกมา ไพร่พลของเขาจึงสู้อย่างสุดใจ ในเวลาอันสั้นยากที่จะตัดสินได้ว่าฝ่ายไหนจะชนะ

ทันใดนั้นที่ฝั่งขวาก็มีเสียงกลองศึกดังขึ้น บังเกิดเสียงโห่ร้องใกล้เข้ามา ผู้ที่นำกำลังมาคือกุยกี เห็นดังนั้น โจโฉก็รีบสั่งให้โจหยินนำกำลังไปต้านทาน

กองทัพของโจโฉถูกโอบล้อมจากสามทิศทาง ยากจะขยับตัว ฮัวหยงนำทัพม้าเหล็กหนึ่งพันบุกฝ่าเข้าไปในทัพของโจโฉด้วยตนเอง ใช้สภาวะและฝีมืออันร้ายกาจทำลายขบวนทัพของโจโฉ มุ่งหน้าสู่ทัพกลางที่โจโฉอยู่

"นายท่าน รีบหนีเร็ว!" โจหยินนำกำลังพยายามตีฝ่าศัตรู

สถานการณ์ในสนามรบเวลานี้ กองทัพของโจโฉกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยากจะพลิกสถานการณ์ได้อีก โจโฉไม่มีทางเลือก ได้แต่สั่งให้ลั่นกลองถอยทัพ

ฮัวหยงนำกำลังเข่นฆ่าไปทั่วสนามรบ ไม่ได้ไล่ตามโจโฉไปแต่อย่างใด

...............

มองดูกองกำลังที่ยับเยินของเขาแล้ว โจโฉก็รู้สึกโศกเศร้า กองกำลังที่เคยมีจำนวนหนึ่งหมื่น บัดนี้หลงเหลือเพียงสามพัน ในใจหวนนึกถึงวันวาน ตัวเขามีปณิธานยิ่งใหญ่ ตั้งใจว่าจะปราบตั๋งโต๊ะ กอบกู้ราชวงศ์ฮั่น นึกไม่ถึงว่าจะมีสภาพเช่นนี้

เมื่อเห็นว่าไพร่พลเหนื่อยล้าจนแทบเดินไม่ไหว ประกอบกับที่ด้านหลังไม่มีศัตรูไล่ตามมา โจโฉจึงสั่งให้ตั้งค่ายหยุดพัก นำหม้อข้าวออกมาหุงหาอาหาร

การต่อสู้นั้นสิ้นเปลืองกำลังอย่างมาก ทหารทุกคนล้วนหิวโซ บางคนนอนแผ่กับพื้น บางคนก็อ้างว่าไปฉี่ก่อนจะลอบหลบหนีไป ไม่เพียงแต่กำลังกายเท่านั้น แม้แต่กำลังใจเวลานี้ก็ตกต่ำถึงขีดสุด

เมื่อได้กลิ่นของข้าวหุงร้อนๆ พวกทหารก็เลียริมปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความหิวโหย

ทันใดนั้น เสียงกลองศึกก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงโห่ร้องฆ่าฟัน ซีเอ๋งนำกำลังที่ดักซุ่มอยู่โถมออกมา

เวลานี้ ไพร่พลของกองทัพโจโฉทั้งเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า และขาดแคลนม้า ประกอบกับท้องที่ว่างเปล่า ย่อมไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้าน หลายคนกระทั่งโยนอาวุธในมือทิ้ง พวกเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะวิ่งหนีแล้ว

โจโฉออกคำสั่งให้ทหารเข้าต้านทาน ขณะที่ตัวเองสู้ไปถอยไป เมื่อซีเอ๋งมองเห็นโจโฉ เขาก็นำธนูออกมายิง ลูกธนูปักใส่หัวไหล่ของโจโฉ โชคดีที่แฮหัวตุ้นมีปฏิกริยาว่องไว รับตัวโจโฉไว้ได้

มองดูไพร่พลสามพันของโจโฉค่อยๆล้มตาย ที่มุมปากของซีเอ๋งก็ปรากฏรอยยิ้ม เขาสั่งให้ทหารม้าไล่ตามโจโฉไป

คืนนี้จะเป็นคืนที่โจโฉลืมไม่ลง และยังทำให้เขาตระหนักถึงความสำคัญของกุนซือที่ปรึกษา

ทางด้านหลังมีทหารม้าไล่ตามเข่นฆ่ามาอย่างไม่ลดละ

"ยังไม่รีบลงจากม้ายอมจำนนอีก!" ซีเอ๋งตะโกนเสียงดัง

เสียงตะโกนนี้ทำให้ทหารของโจโฉสะดุ้งตกใจ หลายคนแอบวิ่งหนีไป คนมีเพียงสองเท้าจะสู้ม้าที่มีสี่ขาได้อย่างไร? ปลายทางมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ แยกย้ายกันหลบหนีย่อมดีกว่า บางทีอาจจะโชคดีรอดไปได้

"ข้าจบสิ้นแล้ว" โจโฉเงยหน้ามองฟ้าพลางถอนหายใจ

"บุก!" ลิโป้เฟิ่งเสียน ชูทวนกรีดนภา นำทหารม้าสองพันโถมเข้าใส่กองกำลังของซีเอ๋ง

ทัพปิงโจวติดตามกองกำลังของโจโฉมาตลอดทาง ประกอบกับการส่งหน่วยสอดแนมออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาจึงมองความตั้งใจของตั๋งโต๊ะออก แต่เขาก็ไม่ได้แจ้งเตือนต่อโจโฉ มีเพียงเวลาที่กองกำลังของโจโฉแตกพ่าย ไม่อาจสู้กับทหารของตั๋งโต๊ะได้อีก เขาที่นำกำลังมาช่วยได้ทันเวลา จะทำให้โจโฉซาบซึ้งใจมิรู้ลืม

สภาวะที่เกิดจากการโถมบุกของทหารม้าสองพันนายทำให้โจโฉที่อยู่กลางสนามรบตกตะลึง ในใจคิดว่าชีวิตน้อยๆของตนเองสามารถเก็บกู้กลับมาได้แล้ว

"นายท่าน นั่นทัพปิงโจว พวกเรารอดแล้ว!" โจงั่งที่โลหิตเปรอะเปื้อนเต็มชุดเกราะชี้ไปยังธงของกองกำลังที่บุกมาด้วยความประหลาดใจ

"เป็นทัพปิงโจวจริงๆ" โจหยินพึมพำ ทั่วร่างของเขามีบาดแผลน้อยใหญ่อยู่เกลื่อนกลาด

"บุก!" เมื่อเห็นมีทัพหนุนมา โจโฉก็ชักกระบี่ตะโกนสั่งการ

ทหารม้าปิงโจวพุ่งเข้าปะทะทหารม้าเสเหลียงอย่างรวดเร็ว ทหารม้าสองฝ่ายพึ่งพาความสามารถของตน ต่อสู้หักหาญเอาชัย

เมื่อเผชิญกับทัพม้าปิงโจวที่ติดตั้งโกลนม้า ทหารม้าเสเหลียงก็พบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขาพบว่าทักษะการขี่ม้าของศัตรูนั้นเหนือกว่ามาก ยากจะสู้ด้วยได้

เมื่อเห็นทหารฝั่งตัวเองถูกทหารม้าอีกฝ่ายเข่นฆ่าล้มตายอย่างรวดเร็ว ซีเอ๋งก็รู้สึกขมขื่น คิดว่าการเข่นฆ่าก่อนหน้านี้จะเป็นความดีความชอบชิ้นใหญ่แล้ว นึกไม่ถึงว่าพริบตาถัดมา ความสำเร็จของเขาก็ถูกทหารม้าปิงโจวทำลายเสียไม่มีชิ้นดี

"ถอย!" ซีเอ๋งออกคำสั่ง ทหารของเขาที่ต้องการจะถอยตั้งนานแล้วก็รีบเตลิดเปิดหนีไปทุกทิศทุกทาง ไร้ซึ่งรูปขบวนโดยสิ้นเชิง

ทหารทัพปิงโจวติดตามเข่นฆ่าไประยะหนึ่ง กระทั่งเมื่อไม่มีศัตรูเหลืออยู่ในระยะสายตา ทหารทั้งหมดก็กลับมารวมพล ทั้งยังไม่ได้กลับมามือเปล่า ยังจับม้าศึกมาได้อีกร้อยกว่าตัว

"ขอบคุณแม่ทัพลิ" โจโฉที่ได้รับการประคองจากโจงั่งกล่าวด้วยใบหน้าขาวซีด ดูเหมือนลูกธนูของซีเอ๋งจะปักเข้าไปค่อนข้างลึกทีเดียว

"เมิ่งเต๋อสุภาพไปแล้ว โจรตั๋งกระทำการต่ำช้า ผู้คนล้วนต้องการฆ่า แต่อาการบาดเจ็บของพี่เมิ่งเต๋อต้องได้รับการรักษา" ลิโป้กุหมัดตอบ

"พี่เฟิ่งเสียนถนอมตัว พระคุณช่วยชีวิต จะขอทดแทนในภายหน้า!" หลังจากพ่ายแพ้ครั้งนี้ โจโฉก็สูญเสียความมั่นใจไที่จะไล่ตามต่อ และแน่นอนว่าเขาย่อมต้องโกรธแค้นอ้วนเสี้ยวและเหล่าเจ้าเมืองคนอื่นๆ

"เมิ่งเต๋อถนอมตัว" ลิโป้เมื่อเห็นว่าโจเส็งและโกซุ่นจัดกำลังพลเรียบร้อยแล้วก็นำทัพเคลื่อนกำลังต่อ

"เฟิ่งเสียนช่างเป็นคนที่มีคุณธรรมนัก!" โจโฉไม่ได้ระแวงสงสัยอะไร เพียงคิดว่าลิโป้นึกเป็นห่วงเขา จึงนำกำลังมาช่วยเหลือ อย่างไรเสียก็เคยมีกรณีซุนเกี๋ยนเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว

"นายท่าน พวกเรากลับไปรวมกำลังก่อนดีหรือไม่?" โจหยินเสนอ

"กลับลั่วหยาง อ้วนเสี้ยวและคนอื่นๆช่างไม่รู้จักหลักการศึก รู้จักแต่ยกยอปอปั้น" โจโฉแค่นเสียง

........

"เรียนท่านผู้นำ แม่ทัพโจกลับมาแล้วขอรับ"

"รีบเชิญเร็วเข้า" อ้วนเสี้ยวรีบบอก

วันต่อมา อ้วนเสี้ยวเชิญบรรดาเจ้าเมืองมาร่วมงานเลี้ยงปลอบขวัญโจโฉที่พ่ายแพ้กลับมา โจโฉคล้ายหวนนึกได้ถึงความทรงจำอันเลวร้ายอีกครั้ง จึงถอนหายใจกล่าวว่า "ข้าติดตามท่านผู้นำ ชูธงคุณธรรม กำจัดขุนนางโฉดเพื่อบ้านเมือง พวกท่านทั้งหลายมาที่นี่ก็ด้วยคุณธรรม ตอนแรก ข้าบอกให้ส่งกำลังไปเฝ้ายุทธศาสตร์สำคัญอย่างเมิ่งจิน ซวานเจ่า เฉิงเกา โอ๋ชางและพื้นที่สำคัญแห่งอื่นๆ ทั้งหมดนี้มีคูน้ำลึก กำแพงสูง ให้คอยหลีกเลี่ยงการปะทะกับโจรตั๋ง ให้พวกโจรตั๋งเห็นว่ากำลังฝ่ายเรามีความเคลื่อนไหว สร้างความกดดันให้กับพวกมัน จากนั้นบุกเข้าลั่วหยาง ประหารโจรกบฏ คืนสันติสุขแก่แผ่นดิน หากแต่ท่านก็ลังเล ทำให้ผู้คนผิดหวัง ช่างน่าละอายนัก"

อ้วนเสี้ยวและเจ้าเมืองคนอื่นๆต่างพูดไม่ออก ในใจทุกคนล้วนมีความคิดแอบแฝง สำหรับเจ้าเมืองบางคน ที่ยกชูคุณธรรมก็เพื่อชื่อเสียงและอำนาจ ไม่ได้มีความคิดช่วยเหลือชาติบ้านเมืองตั้งแต่ต้น

งานเลี้ยงจบลงอย่างไม่ค่อยดีนัก และโจโฉก็มองเห็นว่าเจ้าเมืองเหล่านี้ไม่อาจสำเร็จงานใหญ่ ดังนั้นจึงนำทหารของเขาถอนตัว กองซุนจ้านก็เป็นอีกคนที่ถอนตัวตามไป

อันที่จริง ที่โจโฉกลับมาที่ลั่วหยางนั้น ก็เพราะหวังว่าเหล่าเจ้าเมืองจะจัดส่งกำลังไล่ตามตั๋งโต๊ะไป แต่สุดท้าย พวกเจ้าเมืองล้วนแต่นิ่งเฉย ไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้น

เล่าต้ายเจ้าเมืองอิวจิ๋วไปขอหยิบยืมเสบียงจากเตียวโป้เจ้าเมืองตองกุ๋น เพราะกองทัพของเขาขาดแคลนหญ้าเสบียง การหยิบยืมเสบียงนั้นถือเป็นเรื่องปกติในหมู่เจ้าเมือง อีกทั้งพวกเขาทั้งสองยังเป็นเจ้าเมืองในแคว้นกุนจิ๋วเหมือนกัน นับตั้งแต่เปิดศึกกับตั๋งโต๊ะมาจนถึงตอนนี้ กองทัพพันธมิตรก็ขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก การแจกจ่ายเสบียงในแต่ละวันจึงถูกจำกัดจำเขี่ย

เตียวโป้ตอบปฏิเสธ เพราะกองทัพของเขาเองก็ขาดแคลนเสบียงเช่นกัน ได้ฟังคำตอบแล้ว เล่าต้ายก็โมโห นำทหารบุกไปที่ค่ายของเตียวโป้ สังหารเตียวโป้ลง ยึดเอาไพร่พลของอีกฝ่ายมาเป็นของตน

เรื่องนี้ทำให้เหล่าเจ้าเมืองตื่นตระหนก หันมาหวาดระแวงต่อกัน

..............

ทางด้านซุนเกี๋ยนที่นำกำลังมาดับไฟในลั่วหยาง เขาได้ส่งทหารออกไปเก็บกวาดซากปรักหักพังของพระราชวัง ส่งทหารไปซ่อมแซมสุสานที่ถูกตั๋งโต๊ะสั่งขุดขึ้นมา ขณะทอดตามองดูลั่วหยางที่หลงเหลือเพียงซาก เขาก็ทอดถอนใจ "ในอดีต ตอนที่แม่ทัพผู้นี้มายังลั่วหยาง เคยได้เห็นภาพอันตระการตาของเมืองแห่งนี้ ไม่คิดเลยว่า ผ่านไปไม่นาน ที่นี่จะกลายเป็นกองหินไปเสียแล้ว"

"เรียนนายท่าน เวลานี้กลุ่มพันธมิตรกำลังระส่ำระส่าย เล่าต้ายฆ่าเตียวโป้ โจโฉนำกำลังไล่ตามตั๋งโต๊ะ แต่พ่ายแพ้ขอรับ" เทียเภารายงาน