ราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 7 : สี่มหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่
ตอนที่ 7 : สี่มหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่
“พ่อคะ หนูมาคิดดูดีๆแล้ว”
“หนูไม่อยากอยู่ในหอพักมหาลัยแล้ว…. หนูขอย้ายกลับมาอยู่บ้านได้ไหมคะ” โซฟีถามอย่างลังเล
มีจังหวะที่เกิดความเงียบขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างคู่พ่อลูก ซึ่งมันทำให้หัวใจของเธอเริ่มเต้นตุบๆ อย่างกังวลใจ เจ้าของร่างคนเก่าตัดสินใจที่จะไปอยู่ที่หอพักเพื่อจะพิสูจน์ประเด็นต่างๆ แต่โซฟีคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเธอได้กลับไปอยู่ที่บ้านของครอบครัวและรับความช่วยเหลือในการฝึกฝนเพื่อประเมินชั้นเรียน
“ได้สิลูกรัก พ่อยินดีต้อนรับลูกเสมอ !” พ่อของเธอตอบอย่างเฉียบขาด
น้ำตาของโซฟีไหลคลอออกมาเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่อยู่เคียงข้างเธอเสมอ และเธอก็โง่มากที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของเขา การประเมินชั้นเรียนถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะสามารถกำหนดเส้นทางในอนาคตของนักเรียนได้เลยทีเดียว
มีมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาระดับสูงหลายแห่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วสหพันธ์โลก แต่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำเพียงสี่แห่งที่โดดเด่นกว่าที่อื่น
มหาวิทยาลัยทั้งสี่แห่งต่างก็ตั้งอยู่บนดาวเคราะห์หลักของทั้งสี่เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไปของสหพันธ์ตามลำดับ นักศึกษาจากทุกเชื้อชาติสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหนึ่งในสี่แห่งนี้ได้ แต่ถึงกระนั้น ก็จะมีกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวดซึ่งจะคัดผู้สมัครออกไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
การที่จะเข้ามหาวิทยาลัยหนึ่งในสี่แห่งนี้ได้นั้น ก็เหมือนกับมีการรับประกันว่าจะมีเส้นทางไปสู่การเป็นนายทหารชั้นยอดของกองทัพจักรวรรดิได้อย่างแน่นอน ทรัพยากรด้านการฝึกฝน การฝึกอบรม และเทคนิคของความแข็งแกร่งที่เหนือจินตนาการได้จัดทำขึ้นสำหรับนักเรียนอย่างไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
แต่ละมหาวิทยาลัยนั้นก็จะมีสถานที่ฝึกอบรมลับที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ในชีวิตจริงเพื่อฝึกฝนสัญชาตญาณในการต่อสู้ที่มีความเป็นและความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง
ต่างจากสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ที่รับนักเรียนตอนอายุสิบแปดปี มหาวิทยาลัยทั้งสี่แห่งนี้เริ่มรับนักเรียนตั้งแต่อายุสิบหกปีขึ้นไป
อันที่จริง ไม่น่าเป็นไปได้เลยหากว่าในอนาคตมีนักเรียนที่อายุเกินสิบเก้าปีจะได้รับการยอมรับเข้าเรียน เนื่องจากจะถือว่าพวกเขาไม่มีศักยภาพมากพอ
การทดสอบครั้งแรกเริ่มต้นด้วยการคัดเลือกเหล่าเมล็ดพันธุ์ชั้นดี และแต่ละมหาวิทยาลัยบนดาวเคราะห์ดวงนี้จะได้รับมอบหมายให้โควตาของนักเรียนเพื่อเสนอชื่อสำหรับการทดสอบรอบที่สอง จากนั้นนักเรียนจะถูกสุ่มเลือกเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ซึ่งจะมีการจำลองการต่อสู้เกิดขึ้นที่นั่น
นักเรียนแต่ละคนจะถูกตัดสินโดยระดับการฝึกฝน ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ และการเอาชีวิตรอด มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่กล้าเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก เนื่องจากการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้ในระหว่างการทดสอบแบบจำลอง
นอกจากนี้ยังมีการทดสอบรอบที่สาม แต่ว่ารายละเอียดทั่วไปเกี่ยวกับการทดสอบในรอบนี้นั้นยังคงเป็นปริศนาและแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี
การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ในรอยัล อคาเดมี ถูกกำหนดโดยจะเป็นการแข่งขันระหว่างนักเรียนชั้นปีที่สองทุกคน
ผู้เข้าร่วมยี่สิบอันดับแรกจะได้รับโอกาสในการเข้าไปทำการทดสอบครั้งที่สอง
ในขณะที่พ่อของเธอกล่าวไว้ว่า เขาจะภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยใดๆ ก็ตามที่เธอจะเข้าเรียนในอนาคต
แต่ซุย เหมิงผู้เป็นคนที่มีการแข่งขันสูง และไม่ต้องการที่จะยอมรับสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการได้เป็นที่หนึ่งในการแข่งขันเท่านั้น
โซฟีไม่ได้ต้องการที่จะอยู่ใต้ร่มเงาความสำเร็จของพ่อ เธอต้องการที่จะสร้างมรดกของเธอเอง เพื่อตอบแทนความรักและความเมตตาที่เธอได้รับจากครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอ
“มีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นที่มหาลัยหรือเปล่าลูก ?” ความกังวลส่งผ่านเสียงของดยุคและโซฟีก็ถูกเรียกสติคืนกลับมาจากความงุนงงของเธอ
“เปล่าหรอกค่ะ...หนูก็แค่ตัดสินใจว่าอยากมีส่วนร่วมในการประเมินชั้นเรียน และคว้าตำแหน่งต้นกล้าของมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่ง” โซฟีพึมพำเบาๆ
“นี่ลูกจะบ้าเหรอ !” เสียงของพ่อดังกึกก้องไปทั่วห้อง
โซฟีตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อของเธอขึ้นเสียงใส่เธอด้วยความโมโห
เสียงของเขายังคงดำเนินต่อไปด้วยน้ำเสียงน่ากลัวเหมือนพายุ
" ลูกรู้ไหมว่าคนประเภทไหนที่ลูกจะต้องต่อสู้ในการจำลอง "
“ ขุนนางที่เติบโตมาเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกฝนมาแต่กำเนิด
และได้รับการฝึกฝนเพื่อขจัดภัยคุกคามทันทีที่มันปรากฏขึ้น ”
" สัตว์ประหลาดจากธรรมชาติที่มาจากครอบครัวทั่วๆไป และมีความสามารถในการฝึกฝนที่สูงมากๆ "
“ระดับพลังชี่โดยเฉลี่ยของผู้ที่เข้ามหาวิทยาลัยจริงๆ คือ จิตวิญญาณชี่ขั้นที่สอง หากแม้ได้รับการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากหนึ่งในนักศึกษาพวกนั้น ลูกอาจจะตายก่อนที่เกราะป้องกันจะเข้าไปช่วยคุ้มกันเสียอีก”
โซฟีก็รู้สึกโกรธจัดเช่นกันและได้โต้กลับพ่ออย่างเฉียบขาดในใจ ของเธอก่อนที่จะรู้ตัวว่าพ่อของเธอไม่ได้กำลังสั่งสอนเธอด้วยความโกรธ แต่เป็นเพราะพ่อกำลังกังวลและเป็นห่วงเธอมาก
ในระดับปัจจุบันของเธอนั้น แทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่เธอจะมีคุณสมบัติตั้งแต่ด่านแรก แต่ถึงแม้ว่าเธอจะทำมันได้ ชีวิตของเธอก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดีจากผู้เข้าร่วมคนอื่นๆที่แข็งแกร่งกว่า
( ณ ขณะเดียวกันในคฤหาสน์ปีเตอร์เลอร์ )
“นายท่าน ได้โปรดใจเย็นลงก่อน” เสียงเย็นเยียบดังก้องอยู่ด้านหลังดยุค
โรแกนระงับความโมโหลงและมองไปรอบๆ ห้องค้นคว้าของเขา ซึ่งตอนนี้มีหนังสือวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง และมีรอยร้าวขนาดยักษ์ที่มองเห็นได้ชัดเจนวิ่งไปตามพื้นซึ่งเป็นเพราะพลังบางส่วนของเขานั้นรั่วไหลออกมา
บัตเลอร์ชราที่อยู่ข้างๆเขา ได้ให้สาวใช้ทำความสะอาดห้องอยู่ทางด้านหลังเขา เพื่อไม่ให้พวกเขาโดนลูกหลงหากเขาสูญเสียการควบคุมพลัง
ขณะนี้ ดยุคไม่ได้อยู่ในกรอบความคิดที่ถูกต้องที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดๆ เนื่องจากตอนนี้สภาพจิตใจของเขานั้นอยู่ในสภาวะตกตะลึงขั้นสุด
ลูกสาวสุดที่รักของเขายังต้องการที่จะเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิอีกด้วย !
และเธอยังตั้งเป้าไปที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่แม้แต่อัจฉริยะด้านการฝึกฝนก็ยังมีโอกาสเข้าได้น้อยมาก ดยุคถอนหายใจช้า ๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย และสั่งให้คนใช้ออกจากห้อง
ใจหนึ่งเขาก็ต้องการโน้มน้าวห้ามลูกสาวของเขาจากการเข้าร่วมการแข่งขันนี้ แต่อีกใจหนึ่ง เขาก็จำร่างของหญิงสาวผู้สง่างามที่กำจัดศัตรูของเธอได้
ดยุคหัวเราะอย่างสนุกสนาน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ฝึกตนขั้นเทพที่ทรงพลังที่สุดในสหพันธ์ อย่างไรก็ตาม แต่กับผู้หญิงคนนั้นเขากลายเป็นคนไม่มีกำลังในทันที มันเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลท่ีว่าทำไมเขาถึงไม่เคยเชื่อเลยว่าลูกสาวของเขาจะไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝน แม้ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม
แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีลูกหลานที่ไม่มีพรสวรรค์ก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ปีศาจที่เก่งกาจอย่างเธอจะไม่สามารถผลิตลูกที่ดุดันออกมาได้
เมื่อคิดถึงความจริงข้อนี้ เขาก็สงบลงและพูดผ่านอุปกรณ์สื่อสารด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลลงกว่าเดิมมาก
“การแข่งขันจะเกิดขึ้นในอีกประมาณสองเดือน ดังนั้นพ่อจะทำเรื่องขอกับทางมหาวิทยาลัยให้ลูกออกจากมหาวิทยาลัยชั่วคราว ลูกจะต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อฝึกซ้อม และถ้าลูกผ่านการทดสอบของพ่อในตอนสุดท้าย พ่อจะไม่คัดค้านการเข้าร่วมของลูก”