ตอนที่ 713+714 นั่งสิ
ตอนที่ 713 นั่งสิ
หากไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น ลู่ชิงสีก็อยากให้ผู้หญิงของเขามีมือที่นุ่มนวลและอ่อนโยนแบบนี้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ น่าเสียดายที่ในความเป็นจริง ถ้าเขาแข็งแกร่ง เจียงเหยาก็ต้องแข็งแกร่งไปด้วย
ลู่ชิงสีไม่กล้าถามเจียงเหยาว่ามันยากหรือไม่ เพราะเขากลัวว่าเธอจะบอกเขาว่าถ้าเธอแต่งงานกับคนธรรมดา ชีวิตที่เหลือในตอนนี้ของเธอก็คงจะเรียบง่ายและแสนจะธรรมดา
คุณเซียวจินที่อยู่ข้างหน้าแพ้อีกสองสามตา ตอนนั้นเองที่เขาจำได้ว่าคารุดูเหมือนจะพาใครมา หลังจากแพ้พนัน เขาก็หมดความอดทนที่จะเล่นต่อ จากนั้นเขาก็ผลักคนรอบข้างออกไปและมองหาพวกเขา
“คารุ นายบอกว่ามีคนต้องการซื้อเหมืองเหรอ? ใครกัน? สองคนนี้เหรอ?” นายเซียวจินเดินอย่างไม่มั่นคง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ออกกำลังกายเลย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเดินได้อย่างมั่นคง
“นี่คือคุณลู่ และนี่ภรรยาของเขา” คารุแนะนำให้คุณเซียวจินรู้จัก
“แต่นี่ไม่ใช่คนที่อยากจะซื้อเหมืองของคุณหรอก คุณไค่ที่อยู่ข้างในต่างหากที่สนใจ ผมให้พวกเขาเข้าไปดูก่อน ผมจะรออยู่ที่นี่”
การระเบิดเหมืองของตระกูลจูส่งผลกระทบต่อด้านที่ใกล้ที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เขายืนอยู่ที่นั่นและพูดคุยกับลู่ชิงสีและคนอื่น ๆ
“สองคนนี้เป็นแขกของนายด้วยเหรอ” เซียวจินมองดูเจียงเหยาตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเขาขุ่นมัว รอยยิ้มของเขาดูแล้วน่าขยะแขยง “ผู้หญิงคนนี้สวยจริง ๆ !ผิวพรรณสวย เธอดูแตกต่างไปจากผู้หญิงทางฝั่งของเรา..”
ก่อนที่คุณเซียวจินจะพูดจบ คารุก็รีบขัดจังหวะเขา “คุณเซียวจิน คุณลู่เขาพูดภาษา YN ได้นะครับ”
นายเซียวจินจึงหยุดสิ่งที่เขาไม่ได้พูดอย่างเขินอาย เขามองไปที่ลู่ชิงสีและรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นด้วยได้ ดังนั้นเขาจึงหันไปพูดกับคารุต่อ “คุณชายลู่เป็นเพื่อนของหร่วนหยงจุนเหรอ? เขาเป็นทหารด้วยใช่ไหม ลูกของตระกูลหร่วนกลับมาจากกองทัพแล้วนี่ เพื่อนของเขาที่อยู่ข้างนอกก็เป็นทหารด้วยเช่นกัน!”
“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าพาผู้หญิงมาที่นี่เพียงลำพัง”
คุณเซียวจินคิดว่าคู่สามีภรรยาอีกฝ่ายไม่ได้ยินที่เขาพูด ดังนั้นเขาจึงถามคารุต่อว่า “พวกเขาชอบเหมืองแบบไหน?”
“ยังไงก็ไม่ใช่เหมืองของคุณเซียวจินหรอกครับ” คารุตอบด้วยรอยยิ้มจอมปลอม จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่อง เป็นการต่อรองราคา โดยพยายามขอลดราคากับทางเซียวจิน
คารุไม่แม้แต่จะคิดว่าราคา 100 ล้านเมื่อวานจะเพิ่มเป็นสองเท่าในวันนี้
“200 ล้าน! คุณเซียวจิน คุณไม่เคยพูดแบบนี้มากก่อนเลยนะครับ!” คารุโกรธเล็กน้อย
“เมื่อวานก็ส่วนเมื่อวาน วันนี้ก็ส่วนวันนี้” คุณเซียวจินยิ้มอย่างไร้ยางอาย
“นายก็รู้เรื่องตรงข้ามกับเหมืองฉันใช่ไหมล่ะ?”
“เมื่อวาน ที่เหมืองระเบิด เหมืองของฉันอยู่ใกล้กับเหมืองนั้นมาก แม้แต่หญ้าและต้นไม้ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ฉันเจอของดีเข้าน่ะสิ วันนี้ราคาก็ต้องปรับขึ้นเป็นธรรมดา”
“บอกลูกค้าของนายให้รีบตัดสินใจถ้าอยากจะซื้อ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้อาจขึ้นเป็น 300 ล้านก็ได้นะ”
แม้ว่าคารุจะอายุไม่มาก แค่เขาอยู่ในธุรกิจนายหน้ามาเกือบสิบปีแล้ว จากพ่อค้าคนกลางของหินหยาบขนาดเล็ก ๆ จนถึงนายหน้าซื้อขายเหมือง ในแวดวงทั้งหมด ใครไม่รู้จักชื่อเสียงของเขาบ้าง?
นี่เป็นครั้งแรกที่คารุได้พบกับคนอย่างเซียวจิน ที่ขึ้นราคาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้!
อันที่จริง ในฐานะนักธุรกิจ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะติดตามข่าว เมื่อเห็นว่ามีคนต่อสู้กันที่เหมืองฝั่งตรงข้าม คุณเซียวจินจึงอยากจะขึ้นราคาที่นี่ คารุรู้สึกว่านี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา
__
ตอนที่ 714 เกรงว่าคนอื่นจะสังเกตเห็น
แต่เขาไม่เคยพบใครที่ไม่แจ้งเขาล่วงหน้าเช่นนี้ เมื่อเขาพาแขกมาที่นี่ คุณเซียวจินกล่าวว่าราคาเปลี่ยน ทำให้คารุเสียหน้าต่อแขกของเขา
ลู่ชิงสีเป็นทหาร ทักษะการได้ยินและการสังเกตของเขาเหนือกว่าคนทั่วไป เขาฟังทุกคำพูดของข้อถกเถียงระหว่างนายเซียวจินกับคารุ
เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของคารุไม่กังวล เขาจับมือเจียงเหยาและเดินเข้าไปเรียกรุ่นพี่ไค่และคนอื่น ๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” รุ่นพี่ไค่วิ่งออกมาพร้อมกับสหายของเขา เพราะพวกเขากำลังวิ่งอย่างเร่งรีบ พวกเขาจึงหอบอย่างหนัก
“ไปกันเถอะ ราคาของเหมืองนี้เพิ่มเป็นสองร้อยล้าน บางทีพรุ่งนี้อาจเป็นสามร้อยล้าน” ลู่ชิงสีขดมุมริมฝีปากของเขา “เจ้าของเหมืองตัวร้าย ทำให้คารุโกรธมาก”
รุ่นพี่ไค่สำลัก เขาเพียงมาดูเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่เขากลับไปบอกเจ้านายเรื่องนี้ ก็คงต้องใช้เวลาสองสามวัน มันจะไม่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งพันล้านเลยหรือ?
นี่มันปล้นกันชัด ๆ ไม่ใช่วิธีที่จะทำธุรกิจแล้ว
กลุ่มคนออกจากเหมืองทันที พวกเขาขึ้นรถเอสยูวีและกลับสู่เมืองที่สะอาด
หลังจากที่คารุกลับมา เขาก็จากไปทันที เขากำลังยุ่งกับการเจรจาราคาเหมืองให้ลู่ชิงสี
เมื่อลู่ชิงสีกลับมาถึงบ้านของหร่วนหยงจุน สิ่งแรกที่เขาของให้หร่วนหยงจุนทำคือการให้เขาช่วยต้มน้ำ จากนั้นเขาก็หยิบรองเท้าของเจียงเหยาและเดินไปยังสระน้ำ เขาช่วยเธอทำความสะอาด
สระว่ายน้ำอยู่ที่ลานบนชั้นหนึ่ง เจียงเหยากำลังสวมรองเท้าแตะ เธอก้มลงที่ทางเดินบนชั้นสองและมองดูลู่ชิงสีที่อยู่ในลานภายใต้แสงระเรื่อ เธอกำลังทำความสะอาดเท้าของเธออย่างจริงจัง
เท้าของเจียงเหยาไม่ใหญ่ หลังจากที่เช็ดเสร็จแล้ว เขาก็จับรองเท้าของเธอวางไว้ในฝ่ามือ เขามองดูพวกมันและเปรียบเทียบกับเท้าของตัวเอง ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นมุมปากของเขากระตุกราวกับว่าเขากำลังยิ้ม จากนั้นเขาก็นำรองเท้าของเธอไปด้วย
ตลอดทางไม่มีห้องน้ำหรือห้องสุขาแยกต่างหาก เมื่อเจียงเหยากำลังอาบน้ำในห้องน้ำรวม ลู่ชิงสีจึงยืนเฝ้าอยู่นอกประตูตลอดเวลา ฟังเสียงน้ำที่สาดอยู่ภายในห้อง เขาก็ฟุ้งซ่าน
“ฉันเหลือน้ำไว้ให้คุณ คุณเองก็อาบน้ำหน่อยเถอะ ฝุ่นเยอะ ไป เข้าไปอาบน้ำเถอะค่ะ” ขณะที่เจียงเหยาพูด เธอผลักลู่ชิงสีเข้าไปข้างใน “ฉันจะยืนเฝ้าที่ประตูให้คุณ”
“นี่ ผมเหมือนคนที่กลัวคนมาแอบดูเหรอ?” ลู่ชิงสียืนอยู่ที่ประตูไม่ขยับ ไม่ว่าเจียงเหยาจะออกแรงผลักเขาอย่างไร “กลับห้องไปเถอะ...”
หลังจากหยุดชั่วคราว เขาก็เปลี่ยนคำพูดของเขา “เอาเสื้อผ้ามาให้ผมที”
เมื่อเจียงเหยารับปากและกลับไปที่ห้องของเธอ ลู่ชิงสียืนอยู่ที่ประตูและเฝ้าดูโดยไม่กะพริบตา เขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าเขาประมาท
เมื่อเจียงเหยากลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าของเขา เขาลากเธอเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับล็อกประตู
“ผมไม่สบายใจถ้าไม่เห็นคุณ คุณรออยู่ในนี้ก็แล้วกัน” ลู่ชิงสีกล่าวขณะที่เขารีบถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายตนเอง
เจียงเหยาถูกเขาจับโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อถึงเวลาที่เธอได้สติคืนกลับมา ลู่ชิงสีก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกหมดแล้ว เธอร้องอุทานและฝังใบหน้าของเธอลงกับเสื้อผ้าที่เธอเพิ่งนำมาให้เขา
“คุณ...!” เจียงเหยาโกรธเขาจนกัดฟันกรอด “จริงจังสักครั้งไม่ได้หรือไง!”
“ถ้าผมไม่จริงจัง ผมจะไม่ยอมให้คุณมายืนดูอยู่ตรงนี้หรอก” ลู่ชิงสีหัวเราะคิกคักและมองน้องชายของตนที่เพิ่งตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าเขาไม่จริงจัง เขาคงกดเธอลงและทำร้ายเธอไปแล้ว