ตอนที่ 37 ความหวาดกลัวของเหล่ามาร
[เวลานี้ ในส่วนที่พักของกู่ฉางเกอ]
กู่ฉางเกอลืมตาด้วยใบหน้าสงบและไม่แยแส เขารู้สึกถึงความผันผวนในมิติรอบตัวเขาทันทีที่หลินเทียนนึกถึงเขา เขาสามารถได้ยินเสียงพายุ ราวกับมีม้านับพันกำลังวิ่งมาทางเขา
หลังจากนั้น ระลอกคลื่นพลังชั่วร้ายและดำมืดก็ปรากฏรอบเขา และเขาก็รู้สึกถึงลมหายใจของมาร
‘ดูเหมือนเขาจะทำในสิ่งที่ข้าคิดไว้ มันแค่ว่าวิชาต้องห้ามนี้กระจอกไป..’
กู่ฉางเกอยิ้มชั่วร้าย
[ฮึ่ม!]
แสงสีดำส่องผ่านรูม่านตาเขา
จิตเทพบรรพกาลภายในทะเลจิตสำนึกของเขาลืมตาที่ลึกล้ำและไม่แย่แสขึ้น!พลังปราณสีดำสนิทพวยพุ่งออกจากตัวเขาเหมือนหมอกดำหนา
“กล้าใช้วิชามารต่อหน้าข้า เจ้ายังไร้เดียงสาไปสำหรับผู้แข็งแกร่งที่กลับชาติมาเกิด”
รอยยิ้มบนหน้ากู่ฉางเกอหายไปและความไม่แยแสก็ครอบงำ
เขาไม่ต้องพึ่งพา[ใจมาร]ของเขาด้วยซ้ำ! [วิหารจิตเทพบรรพกาล]เพียงอย่างเดียวก็เหยียบย่ำได้หมดแล้ว และหลังเขาครอบงำ[จิตเทพบรรพกาล]ของเขาด้วยพลังมารของเขาแล้ว มันก็กลายเป็นไม่กลัวเกรงอะไรอีก
พูดง่ายๆ’มารระดับนี้ไม่ต่างอะไรจากซุปให้วิญญาณเขากิน’
“พวกมาร...”
ใบหน้าของกู่ฉางเกอเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่ไม่ช้าเขาก็เหลือบมองซูชิงเกอที่นอนหลับอยู่ข้างเขา เขาไม่อยากรบกวนนาง
วินาทีต่อมา แสงสีดำก็ปกคลุมฝ่ามือเขาและพลังมารน่ากลัวก็ปรากฏในฝ่ามือเขา มันราวกับมารไร้ผู้ต้านกำลังคืนชีพ อยากกลืนกินทุกอย่างในการตื่นขึ้นของมัน
กู่ฉางเกอสะบัดฝ่ามือใส่ความว่างเปล่า อากาศเย็นพวยพุ่งออกไปและเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของมารบางตัว วินาทีต่อมา เขาก็ดึงเส้นควันดำที่สั่นด้วยความกลัวกลับมา
จิตเทพบรรพกาลของกู่ฉางเกอก้าวไปข้างหน้าและสูดหายใจ สูดเอาควันเข้าไปราวกับกำลังลิ้มรสชาติ
[กรอบ!แกรบ!]
ไม่ช้า เสียงของคนกำลังกัดกินอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น มารจำนวนมากกรีดร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว แต่พวกมันไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมของการถูกกลืนลงท้องของเทพบรรพกาลได้
กู่ฉางเกอรู้สึกสึกว่าจิตเทพของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
ยังมีร่องรอยของพลังชีวิตของหลินเทียนด้วย ในชั่วพริบตา ทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบสุข
ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
[ติ้ง อายุขัยของหลินเทียนลดลงอย่างมาก ค่าโชคของเขาลดลง 150 แต้มและค่าโชคชะตาของท่านก็เพิ่มขึ้น 750 แต้ม]
ตอนนี้ เสียงแจ้งเตือนของระบบดังในหัวกู่ฉางเกอ
แต่เขาไม่สนใจ
“ข้าแค่อยู่เฉยๆ เขาก็เลือกทำลายตัวเองซะแล้ว บุตรฟ้าประทานคนใหม่นี้พยายามฆ่าตัวตายชัดๆ”
“ข้ายังไม่ทันได้ทำอะไรมันเลย”
“นายน้อย โปรดอภัยให้แก่ความผิดของข้าด้วย ทาสชราไม่แข็งแกร่งพอจะปกป้องท่าน โปรดลงโทษข้าน้อยด้วย”
ด้านนอกโถงหลัก เฒ่าหมิงเองก็สัมผัสได้ถึงพลังน่ากลัวในห้วงมิติเป็นครั้งแรกและรีบเร่งมา
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด และยังกลัวกับตื่นตระหนกอีกด้วย
เขาไม่คิดฝันว่าจะมีใครอยากลอบสังหารนายน้อยตอนกลางคืน แถมยังใช้วิธีการที่ชั่วช้าขนาดนี้
เรื่องแบบนี้ดันเกิดในตระกูลที่เขาก่อตั้ง ทำให้หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ถ้าเกิดนายน้อยเป็นอะไรขึ้นมาละก็...
เฒ่าหมิงไม่สามารถจินตนาการถึงผลที่จะตามมาได้ เกรงว่าต่อให้เขาตายนับพันครั้งก็ยังไม่สามารถดับความพิโรธของตระกูลกู่ได้
ฮึ่ม!
กู่ฉางเกอก้าวไปข้างหน้าและปรากฏตัวด้านนอกโถงด้วยใบหน้าสงบ
“ไม่จำเป็น คำสาประดับนี้ทำร้ายข้าไม่ได้หรอก ข้าอยากรู้ว่ามันเป็นฝีมือใครซะมากกว่า ใครกันที่มีวิธีการเช่นนี้ในอาณาจักรเบื้องล่าง”เขาพูดอย่างสงบ
กู่ฉางเกอพูดอ้อมๆ ไม่บอกตรงๆว่ามันคือฝีมือของหลินเทียน
เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากหลินชิวหาน เขาไม่ควรจะรู้จักคนของตระกูลหลินคนไหน
มันจะประโจ่งประแจ้งไปถ้าเขาบอกว่ามันเป็นฝีมือใคร
แน่นอน แผนหลักของกู่ฉางเกอคือปล่อยให้ตระกูลหลินหาตัวการเอง
ตอนนี้หลินเทียนโดนคำสาปสะท้อนกลับ เขาคงหนีไปไหนไม่ได้
เขาแค่ต้องรอดูฉากละครน้ำเน่า
เขาคิดว่าบุตรฟ้าประทานจะสามารถอยู่เล่นกับเขาได้นานกว่านี้ ไม่คิดเลยว่ามันจะจบลงในชั่วพริบตา
กู่ฉางเกอรู้สึกเบื่อเล็กน้อย
มันเพราะเขาแข็งแกร่งเกินไปและบุตรฟ้าประทานเหล่านี้ก็อ่อนแอเกินไป
ตอนนี้ที่เขาไม่โดนโชคยับยั้งไว้อีก เขาจึงสามารถบดขยี้พวกบุตรฟ้าประทานได้เหมือนมด
“คำสาปโดนทำลาย คนที่ส่งคำสาปมาต้องโดนพลังคำสาปสะท้อนกลับแน่”
“ทาสชราจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ข้าจะหาตัวการและหาคำอธิบายมาให้นายน้อยเอง”
พอเห็นว่านายน้อยไม่ตำหนิเขา เฒ่าหมิงก็ตื้นตันใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
กู่ฉางเกอพยักหน้าและกลับโถง
“คุณชาย เกิดอะไรขึ้น?”
ซูชิงเกอสับสนเล็กน้อย นางกำลังหลับอยู่ดีๆ แต่ก็มีเสียงดังทำให้นางตื่น
“แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่เป็นไรแล้ว นอนต่อไปเถอะ”
กู่ฉางเกอพูด
หลังจากนั้น เฒ่าหมิงก็รีบไปเรียกรวมสมาชิกตระกูลหลินทั้งหมด และแทบทั้งตระกูลหลินก็สั่นสะเทือน
ทุกคนหวาดกลัวมาก
เหล่าผู้อาวุโสกับผู้นำตระกูลหลินยิ่งกลัวกว่า ใบหน้าพวกเขาขาวซีด
ทุกคนเริ่มค้นหาไปทั่ว ไม่มีใครคิดนอนหลับพอเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้นกับคุณชายกู่
คำสาปไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะควบคุมได้
เฒ่าหมิงชัดเจนดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาได้แต่ภาวนาว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่หนึ่งในลูกหลานของเขากระทำ ไม่งั้นทั้งตระกูลคงไม่อาจรับผลที่ตามมาได้!
...
ภายใต้แสงจันทร์สลัว หลินเทียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันทีที่เขารู้สึกว่าการเชื่อมต่อระหว่างเขากับมารสวรรค์หายไป
“ไม่ดีแล้ว...”
“เกิดอะไรขึ้น?
“คำสาปย้อนกลับ!มันคือคำสาปย้อนกลับ!เกิดอะไรขึ้น?”
หลินเทียนหน้าซีดด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเลย
ใบหน้าของเขาขาวซีดจนไร้สีเลือด และจากนั้นก็พ่นเลือดออกมาเป็นฝอย ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทา และผิวหนังก็เหี่ยวย่น ราวกับเขาแก่ตัวเป็นสิบปี
เขากลายเป็นอ่อนแอมาก เหมือนแค่โดนลมพัดก็พร้อมปลิว
วินาทีที่การเชื่อมต่อระหว่างมารสวรรค์กับเขาถูกตัด หลินเทียนก็สัมผัสได้ถึงความกลัวของกลุ่มมารสวรรค์
มันเป็นความกลัวอย่างมาก ราวกับพวกมันเจอกับจอมมาร จักรพรรดิมารหรือผู้บงการหมู่มาร
และกู่ฉางเกอก็คือสิ่งที่ทำให้พวกมันกลัว
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เจ้าสารเลวแซ่กู่นั่นยังไม่เป็นอะไร ข้าไม่สามารถอยู่ในตระกูลหลินได้อีก ถ้าพวกมันเจอข้าในสภาพนี้..”
สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก วินาทีก่อน เขาคือเด็กวัยรุ่น แต่ตอนนี้ เขาเปลี่ยนเป็นชายชรา ใครก็สามารถเห็นได้ถึงความผิดปกติ
ครั้งนี้ วิชาลับปลอมแปลงไม่อาจได้ผล ผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลินย่อมรู้ว่าแก่นชีวิตเขาเสียหายจากแค่มอง
ไม่ช้า สีหน้าของหลินเทียนก็กลายเป็นน่าเกลียด
เขาได้ยินเสียงเท้าด้านนอก และทั้งตระกูลหลินก็วุ่นวายไปทั่ว
มันวุ่นวายเสียจนเมืองโบราณที่ตระกูลหลินตั้งอยู่โดนปิดตาย
ผู้บ่มเพาะจำนวนมากปรากฏตัวบนฟ้า ปกคลุมไปทุกทิศทาง หาตัวผู้ต้องสงสัย
หลินเทียนรู้สึกแย่ และทั้งตัวก็รู้สึกเย็นเยียบ ครั้งนี้ เขาตื่นตระหนกจริงๆ
“หรือว่า ข้าราชาเทพจะต้องมาจบสิ้นแค่นี้?”
“ข้าเป็นแค่คนพิการของตระกูลหลิน ไม่ควรจะมีใครมาสงสัยข้าหรอก.”
เขาปลอบตัวเอง
ตอนนี้ เสียงวิตกกังวลของหลินชิวหานดังขึ้นด้านนอกลานบ้านเขา“เสี่ยวเทียน คืนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว เจ้ารีบออกมาเร็ว ท่านพ่อกำลังเรียกรวมสมาชิกตระกูลทุกคน..”
หัวใจของหลินเทียนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม