ตอนที่แล้ว613 - เทพในตำหนักเต๋า 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป615 - ลำนำทัณฑ์สวรรค์เฟิ่งหวง(หงส์เพลิง) 

614 - บังคับให้เผยตัว 


กำลังโหลดไฟล์

614 - บังคับให้เผยตัว

ใบหน้าของเย่ฟ่านดำมืดเต็มไปด้วยความโกรธ! สามคนนี้ไม่ใช่ร่างจริง พวกเขาเป็นเทพที่อยู่ในตำหนักเต๋าของใครบางคนอย่างแน่ชัด

  

ศัตรูของเขาคือใครกันแน่ แค่เพียงเทพจากตำหนักเต๋าสามตนก็มีความแข็งแกร่งในระดับนี้แล้ว

  

“คนผู้นี้มีความสามารถพิเศษจริงๆ ตามปกติแล้วเทพที่ออกมาจากตำหนักเต๋าจะมีเพศตามสภาพของเจ้าของร่าง แต่คนๆนี้กลับมีเทพถึงสองเพศ มิหนำซ้ำเทพแต่ละคนยังไม่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอีกด้วย”

  

เย่ฟ่านไม่สามารถสงบใจได้ เขาพยายามคิดคำนวณอย่างหนักว่าใครกันแน่ที่เป็นทายาทของมรดกลึกลับ

  

“คล้ายกัน...คล้ายกันนิดหน่อย!”

  

เขายืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานก่อนที่ดวงตาของเขาจะสว่างขึ้น ก่อนหน้านี้ชายร่างใหญ่ที่ถือง้าวแม้ว่าจะมีหน้าตาที่แตกต่าง แต่เสน่ห์ที่เขาปลดปล่อยออกมาเย่ฟ่านกลับรู้สึกคุ้นเคยมาก

เขารู้สึกว่าต้องเคยเห็นคนที่มีลักษณะคล้ายกันนี้มาก่อนอย่างแน่นอน เย่ฟ่านพยายามค้นหาฉากเก่าๆที่เขาเคยประสบพบเจอมาก่อน

  

เมื่ออยู่ในดินแดนทางเหนือตอนที่เขาเพิ่งออกจากเหมืองโบราณต้นกำเนิดเคยมีสิ่งมีชีวิตโบราณออกไล่ล่าตัวเขาไปจนถึงสถานที่ทำเหมืองของทะเลสาบหยก

  

สิ่งที่เย่ฟ่านให้ความสนใจไม่ใช่สัตว์ดึกดำบรรพ์ตัวนั้นแต่เป็นคนที่นำพามันมา ซึ่งเขาสงสัยว่าเป็นใบมีดผุ!

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านมีอาการหนาวสั่นด้วยความตกใจ

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมองเห็นถึงความแตกต่างจนกระทั่งมาตระหนักคิดให้ดีจึงได้รู้ว่าใบมีดผุที่แก่ชราคนนั้นมีกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเหยากวง!

  

"เป็นไปได้หรือไม่ว่าใบมีดผุคือเทพที่อยู่ในตำหนักเต๋าของเหยากวง?"

เมื่อคิดถึงเหยากวงที่สูงส่งสง่างามคนนั้นเย่ฟ่านยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามีโอกาสเป็นไปได้ คนคนนี้มีจิตใจที่ลึกซึ้งชั่วร้ายซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากของชายหนุ่มผู้สง่างามทำให้ผู้อื่นยากที่จะนำเขาไปรวมกับตัวตนอันชั่วร้ายนั้น

  

"ถึงแม้มีความเป็นไปได้เพียงริบหรี่ แต่ก็ยังมีโอกาส..." หัวใจของเย่ฟ่านเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

"เขาได้รับมรดกของคนโหดเหี้ยมหรือไม่?”

เย่ฟ่านขมวดคิ้ว เขาไม่เคยสงสัยบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมาก่อน แต่ตอนนี้เขาต้องป้องกันไว้ คนผู้นี้ต่อให้ไม่ใช่ทายาทของมรดกชั่วร้ายก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งชั่วร้ายที่เปิดเผยไม่ได้อย่างแน่นอน

  

“อย่างไรก็ตาม ข้ารู้สึกว่าคนคนนั้นต้องเป็นคนอื่น!”

  

เย่ฟ่านนึกถึงฮั่วอวิ๋นเฟย หากเขาไม่เคยได้ยินการสนทนาของฮั่วอวิ๋นเฟยกับชายเสื้อป่านในอาณาเขตเพลิงเขาคงไม่มีทางนำชายหนุ่มผู้งดงามคนนั้นมาผูกรวมกับทายาทของมรดกชั่วร้าย

  

แต่น้ำเสียงของฮั่วอวิ๋นเฟยที่พูดกับชายที่สวมเสื้อป่านนั้นเย่ฟ่านไม่มีทางลืมได้!

ในขณะเดียวกันชายที่สวมเสื้อป่านก็เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวกันกับชายชราร่างผอมที่ถูกหลี่รั่วหยูสังหารมีกี่วันก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

  

เหตุการณ์ความวุ่นวายนั้นเกิดขึ้นที่ภาคเหนือ ในขณะที่ฮั่วอวิ๋นเฟยกลับพยายามทำตัวไร้ตัวตนอยู่ในภาคใต้ทำให้ผู้คนยากที่จะผูกโยงเขากับมรดกอันชั่วร้าย นี่เป็นแผนการที่น่ากลัวจริงๆ!

  

ฮั่วอวิ๋นเฟยมีชื่อเสียงราวกับผู้อมตะที่ถูกเนรเทศ เขาสง่างามและสูงส่งแต่กลับพยายามหลีกเลี่ยงการทำตัวมีชื่อเสียง

เหตุการณ์ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของคนหมู่มากก็คือตอนที่เขาต่อสู้กับจี้ฮ่าวเยว่อย่างดุเดือดเป็นเวลาสามวันสามคืน ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับความเคารพจากผู้คนมากมาย!

  

“ไม่ว่าเขาจะรับมรดกชั่วร้ายหรือไม่ก็ตาม ในเมื่อเขาต้องการที่จะฆ่าข้าและเอาแก่นแท้ของจี้จื่อเยว่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องตายอยู่ดีๆ”

เย่ฟ่านมีสีหน้าเย็นชา เขาตั้งใจแล้วว่าเมื่อฮั่วอวิ๋นเฟยปรากฏตัวขึ้นเขาจะทำการลงมือทันที!

  

"สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยากวงคือความสับสนและมีความเป็นไปได้เท่านั้น ส่วนเด็กน้อยฮั่ว เขาไม่อาจปฏิเสธความเกี่ยวข้องเรื่องนี้ได้”

  

ไอสังหารของเย่ฟ่านถูกปลดปล่อยออกมา มันเพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าเขากับฮั่วอวิ๋นเฟยไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

  

วันรุ่งขึ้นฮั่วอวิ๋นเฟยและหลี่เสี่ยวม่านเดินทางเข้ามาในเมืองด้วยกัน แต่ร้อยคำนวณพันคำนวณฮั่วอวิ๋นเฟยก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่รอเขาอยู่จะเป็นท่าสังหารอันทรงพลังของเย่ฟ่าน

 

"พี่เย่เหตุไฉนเจ้าจึงทำเช่นนี้?”

ฮั่วอวิ๋นเฟยถูกห่อหุ้มด้วยพลังโลหิตสีทองอันสง่างาม และการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก  

“เย่ฟ่านทำไมเจ้าจึงเป็นคนอกตัญญูแบบนี้?”

ข้างเขาหลี่เสี่ยวม่านก็อุทานด้วยความโกรธ เขาไม่เพียงไม่ตอบแทนฮั่วอวิ๋นเฟยที่มอบเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ให้ เขากลับคิดจะเอาชีวิตของฮั่วอวิ๋นเฟยอีกด้วย!

ราชาอมตะเก้าสวรรค์ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าในขณะที่แผนภูมิเต๋าก็ซ้อนทับอยู่บนศีรษะของเขาอีกต่อหนึ่ง

  

“บูม!”

  

ฮั่วอวิ๋นเฟยไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้ ดาวดวงหนึ่งพุ่งออกมาจากคิ้วของเขา และแสงที่งดงามก็ปกคลุมท้องฟ้าเพื่อป้องกันการโจมตีจากราชาอมตะเก้าสวรรค์

“ร่างเซียนต่อสู้กับฮั่วอวิ๋นเฟยแห่งนิกายไท่ซวนได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกันหรือ?” ผู้บ่มเพาะทั้งหมดต่างประหลาดใจและงงงวย

  

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นศิษย์พี่ฮั่วก็มอบยาศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะเป็นคน?” ใบหน้าของหลี่เสี่ยวม่านเปลี่ยนสี

  

“ยาศักดิ์สิทธิ์?”

เย่ฟ่านยิ้มอย่างดูถูก เขารู้สึกรำคาญทุกครั้งที่หญิงสาวคนนี้ปรากฏขึ้นและเขาเลิกสนใจความคิดของนางมานานแล้ว

ตอนนี้เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อฆ่าฮั่วอวิ๋นเฟย เมื่อเขาลงมือมันจะไม่มีทางเลิกราอย่างแน่นอน

เย่ฟ่านตั้งใจจะฆ่าฮั่วอวิ๋นเฟยโดยปราศจากคำพูดใดๆที่ไม่จำเป็น มือสีทองขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้าและแผ่นดิน ความกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมาบดขยี้ความว่างเปล่าให้แหลกเป็นชิ้นๆเหมือนกระจกแตก

  

ในทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ผสานกับราชาอมตะเก้าสวรรค์ ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาพุ่งทะยานขึ้นหลายเท่า!

  

ทุกครั้งที่เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้า ท้องฟ้าและแผ่นดินจะเกิดแรงสั่นสะเทือนด้วยจังหวะเต๋าที่น่าสะพรึงกลัว

เขาเป็นเหมือนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ห่อหุ้มด้วยทองคำ ร่างกายของเขาเปล่งประกายสดใส เลือดสีทองพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และมือขนาดใหญ่ของเขาก็เคลื่อนผ่านความว่างเปล่าบดขยี้เข้าหาฮั่วอวิ๋นเฟย

  

ตามปกติแล้วฮั่วอวิ๋นเฟยมักจะแสดงออกอย่างเฉยชา อารมณ์สุนทรีย์ภาพของเขากลมกลืนไปกับธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงเขาคือหนึ่งในยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!

  

พลังศักดิ์สิทธิ์สีครามของเขาระเบิดขึ้นสู่ท้องฟ้า อักขระเต๋ามากมายไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา เขาสามารถหลีกเลี่ยงอวตารของราชาอมตะเก้าสวรรค์ และตัดผ่านมือสีทองขนาดใหญ่ตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยง

  

“บูม”

  

เย่ฟ่านเยาะเย้ย อวตารดอกบัวสีครามแห่งความโกลาหลได้ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า ก่อนที่ฮั่วอวิ๋นเฟยจะมีโอกาสตั้งหลักได้ใบบัวขนาดใหญ่ก็ฟาดเข้าหาเขายังเป็นแรง!

  

"เฉียง"

  

ในช่วงเวลาวิกฤตดวงดาวที่งดงามสดใสได้โผล่ออกมาจากคิ้วของฮั่วอวิ๋นเฟย มันปิดกั้นการโจมตีจากดอกบัวสีเขียวก่อนที่ฮั่วอวิ๋นเฟยจะผสานร่างกายของตัวเองเข้าสู่ความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

  

“เจ้าต้องการหนี? มันเป็นไปไม่ได้!”

เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชา แผนภูมิหยินหยางบนศีรษะของราชาอมตะเก้าสวรรค์ตกลงมาจากท้องฟ้าด้วยน้ำหนักที่มากมายมหาศาลราวกับดวงดาวดวงใหญ่!

  

“บูม!”

  

หยินหยางอันทรงพลังผนึกสวรรค์และปัฐพีไว้ และต้องการดึงวิญญาณของฮั่วอวิ๋นเฟยเข้าไปในค่ายกล

  

“ติง!”

  

ด้วยเสียงที่แผ่วเบา ยังคงเป็นดาวดวงเดิมที่บินออกมาจากหว่างคิ้วของฮั่วอวิ๋นเฟย มันกระแทกแผนภูมิเต๋าหยินและหยางด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันก่อนที่ฮั่วอวิ๋นเฟยจะบินออกจากเมืองอย่างเด็ดขาด

  

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ผู้คนมากมายไม่สามารถมองตามความเร็วของทั้งสองคนได้ทัน พวกเขามองเห็นเพียงแสงสีฟ้าและแสงสีทองม้วนพันเข้าหากันราวกับสายฟ้าสองเส้น

  

“บูม!”

  

เย่ฟ่านปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า ฝ่ามือของเขาบีบศีรษะของฮั่วอวิ๋นเฟยเข้าหากันอย่างรุนแรงและมุมปากของเขามีรอยยิ้มเยาะเย้ยที่ไร้ความปราณี

  

ดวงดาวของฮั่วอวิ๋นเฟยเป็นประกายระยิบระยับ พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาแผดเผาราวกับดวงอาทิตย์ส่องสว่างไปทั่วเมืองเล็กๆทำให้ผู้คนไม่สามารถลืมตามองการต่อสู้อันดุเดือดได้

  

เขาพยายามต่อต้านพลังการโจมตีจากแผนภูมิเต๋าหยินหยางอย่างดุเดือด แต่ไม่ว่าอย่างไรศีรษะของเขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการโจมตีของเย่ฟ่าน

  

"แดง"

  

มือใหญ่ของเย่ฟ่านบีบเข้าหากันอย่างรุนแรง ฮั่วอวิ๋นเฟยหลีกเลี่ยงไม่ได้เขาทำได้เพียงปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดออกมาป้องกันทะเลวิญญาณของตัวเองเท่านั้น!

  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด