613 - เทพในตำหนักเต๋า
613 - เทพในตำหนักเต๋า
เย่ฟ่านตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ฝ่ายตรงข้ามถืออาวุธที่เชื่อมโยงกับกฎของสวรรค์และปัฐพี มันทรงพลังยิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของผู้สูงสุดด้วยซ้ำ
"บูม!”
ในขณะที่เย่ฟ่านกำลังรับศึกอยู่กับชายร่างยักษ์ ชายหนุ่มที่มีผมสีม่วงพลิ้วไหวราวกับเทพปีศาจก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าและโจมตีเขาจากด้านข้างด้วยเจดีย์ทองแดงที่มีกลิ่นอายน่ากลัว
“แดง!”
เย่ฟ่านต่อสู้กับอาวุธหนักชิ้นนี้ด้วยมือเปล่า มือสีทองของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียงการปะทะดังขึ้นราวกับระฆังสวรรค์ที่ถูกตีอย่างรุนแรง
"พวกมันมีถึงงคน” เย่ฟ่านตกใจเล็กน้อย
"บูม! “
ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดอะไรมากกว่านี้ รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวเส้นที่สามก็ตกมาถึง
ผู้ที่ลงมือโจมตีในครั้งนี้คือหญิงสาวที่มีอวตารเป็นดวงจันทร์ดวงเล็กๆอยู่ทางด้านหลัง มือเรียวเล็กของนางคอยควบคุมแสงจันทร์ให้โจมตีเย่ฟ่านเพื่อเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มทั้งสอง
เย่ฟ่านเยาะเย้ยอยู่ในใจ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา แต่มันก็เป็นเพียงความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่ในอาณาจักรลึกลับสี่สุดขั้วเท่านั้น
คนพวกนี้ไม่สามารถสร้างภัยคุกคามให้เขาได้
"มาดูกันว่าเจ้าแข็งแกร่งสมคำร่ำลือหรือไม่!”
ทันใดนั้นหญิงสาวที่มีอวตารเป็นดวงจันทร์ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าอวตารของนางไม่สามารถแสดงต่อหน้าเย่ฟ่านได้
ตอนนี้นางจึงเปลี่ยนมาเป็นการโจมตีด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ และอาวุธของนางคือขวดโหลรูปปีศาจที่มีลักษณะคล้ายกับของตู้เฟย
“แย่แล้ว!”
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสองคนก็หยิบขวดโหลที่มีลักษณะเดียวกันออกมา
“หม้ออสูรกลืนสวรรค์จำลอง!”
เย่ฟ่านตกใจมาก หม้อทั้งสามใบนี้เห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่าหม้อของตู้เฟยด้วยซ้ำ
“ร่างเซียนโบราณแข็งแกร่งจริงๆ!”
การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ยอดฝีมือมากมายที่อยู่ในเมืองเอี๋ยนตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าศัตรูของเย่ฟ่านเป็นใคร แต่พลังที่ถูกแสดงออกมานั้นดูเหมือนจะไม่เป็นรองบุตรศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆเลย
“...ติ๊ง”
ชายร่างสูงสง่าฟาดง้าวแห่งความโกลาหลเข้าหาเย่ฟ่านตรงๆในทุกการโจมตี การที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มผมสีม่วงทำการโจมตีแบบฉกฉวย
ในขณะที่หญิงสาวอีกคนก็คอยก่อกวนอยู่ด้านข้างในทุกโอกาสที่เอื้ออำนวย!
เสียงการปะทะกันระหว่างง้าวแห่งความโกลาหลและกำปั้นสีทองของเย่ฟ่านสะเทือนไปทั้งสวรรค์และปฐพี ผู้ที่มีระดับบ่มเพาะต่ำต้อยต่างก็หนีตายออกจากเมืองด้วยความหวาดกลัว
“บูม!
ชายผมสีม่วงคนนั้นมีลักษณะเหมือนเทพอสูรผู้ยิ่งใหญ่ ผิวของเขาขาวนวลราวกับหยกขาว ดวงตาของเขาน่ากลัวราวกับขุมนรก และร่างกายของเขาปลดปล่อยควันสีม่วงออกมาไม่หยุด
เขาควบคุมเจดีย์โบราณเก้าชั้นซึ่งเต็มไปด้วยลวดลายอักขระเต๋างดงามและทำร้ายเย่ฟ่านได้หลายครั้ง
"บูม”
หลุมลึกปรากฏขึ้นในดิน เมืองโบราณแห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่คล้ายกับจะแตกออกได้ตลอดเวลา
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของชายหนุ่มและหญิงสาวเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพียงแต่หม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่คอยควบคุมสนามรบอยู่บนท้องฟ้ากลับสร้างความกดดันให้เขาอย่างยิ่ง
"บูม! "
มือซ้ายของเขากลายเป็นกำปั้นเหล็กสีทอง และมือขวาของเขาได้ปลดปล่อยดวงอาทิตย์เล็กๆเข้าหาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ในทันที
การต่อสู้ครั้งนี้เย่ฟ่านรู้สึกแปลกๆอยู่เล็กน้อย เขาค่อนข้างมั่นใจว่าหากไม่จัดการหม้ออสูรกลืนสวรรค์ทั้งสามที่อยู่บนฟ้า สุดท้ายมันจะสร้างภัยพิบัติให้เขาอย่างที่ไม่อาจจินตนาการได้
“ร่างเซียนนั้นทรงพลังเกินไป เนื้อหนังเปรียบได้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เขาอยู่ยงคงกระพันในรุ่นเดียวกัน จะมีผู้ใดสามารถปราบปรามเขาได้?”
ไม่ไกลจากสนามประลอง ยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดหลายคนต่างก็พูดคุยกันด้วยสีหน้าจริงจัง
โชคดีที่เย่ฟ่านเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงได้แต่ลอบสังหารเย่ฟ่านและสุดท้ายก็จะกลายเป็นศัตรูกับราชาสวรรค์ผู้เฒ่า!
ในขณะเดียวกันต้นกำเนิดของคนสามคนนี้ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ละคนเป็นศัตรูตัวฉกาจ และพวกเขาทั้งหมดสามารถเปรียบเทียบได้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ผู้อาวุโสเหล่านั้นกลับไม่สามารถมองออกว่าทักษะที่พวกเขาใช้มาจากมหาอำนาจกลุ่มใดกันแน่?
“วืบ!”
ทันใดนั้น แสงสีทองพุ่งออกมาจากกึ่งกลางคิ้วของเย่ฟ่าน ทะเลสีทองนั้นเหมือนมหาสมุทรสีทองที่อัดแน่นไปด้วยพลังจิตวิญญาณ
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นทรงพลังเทียบเท่ากับผู้สูงสุด มันเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งสามไม่สามารถจินตนาการถึงพลังชนิดนี้ได้และทำให้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แม้แต่คู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามทั้งสามต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง แต่หว่างคิ้วของพวกเขาก็สั่นไหวอย่างน่ากลัว ทันใดนั้นอาวุธหน้าตาแปลกๆคล้ายดาบโค้งก็ปรากฏออกมาจากหว่างคิ้วของพวกเขา
“เฮอะ!”
หญิงสาวที่งดงามคนนั้นแค่นเสียงอย่างเย็นชาก่อนที่นางจะดึงหม้ออสูรกลืนสวรรค์ของตัวเองกดเข้าหาเย่ฟ่าน แทบจะในเวลาเดียวกันหม้ออสูรกลืนสวรรค์จำลองของนางก็ปลดปล่อยเสียงหัวเราะและร้องไห้ออกมาพร้อมกัน
“ฮะฮะ...ฮ่าฮ่า...”
เสียงอันน่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาทำให้ผู้คนมากมายในเมืองโบราณสยิวกายอย่างหนาวเหน็บ เสียงอันน่ากลัวนั้นแม้แต่ใบหน้าของผู้สูงสุดก็ยังเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
นี่คือเสียงของชายผู้โหดเหี้ยมคนนั้นหรือ? โชคดีที่หม้ออสูรกลืนสวรรค์ใบนี้เป็นเพียงอาวุธจำลองเท่านั้น ด้วยเหตุนี้มันจึงทำได้เพียงบันทึกเสียงที่น่ากลัวโดยไม่สามารถคัดลอกเต๋าสุดชั่วร้ายของชายคนนั้นมาด้วย!
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของเย่ฟ่านก็ไม่ได้ดีแม้แต่น้อย ร่างกายของเขาถูกดูดกลืนเข้าหาหม้ออสูรกลืนสวรรค์อย่างช้าๆ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากแรงดึงดูดนี้ได้
"อ๊า!!!”
แต่ก่อนที่เย่ฟ่านจะถูกดูดเข้าไปในหม้อ แส้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไม่ทราบว่าปรากฏออกมาตั้งแต่ตอนไหนก็ได้แทงเข้าไปบริเวณหว่างคิ้วของใบหน้าปีศาจที่อยู่บนพื้นผิวของหม้อท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน!
ใบหน้าปีศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและมันส่งผลกระทบต่อหม้ออีกสองใบด้วยเช่นกัน
เมื่อพบเจอกับโอกาสที่หาได้ยากเย่ฟ่านก็ไม่คิดจะปล่อยให้มันล่วงเลยไปอย่างเปล่าประโยชน์ ทะเลที่เกิดจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาโหมกระหน่ำเข้าหาคู่ต่อสู้ทั้งสาม
เขาไม่ต้องการใช้กลอุบายเพื่อจัดการทีละคน แต่เขาคิดจะฆ่าคนทั้งสามในเวลาเดียวกันไปเลย!
“ตาย!”
มือของเย่ฟ่านประสานอินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแผนภูมิเต๋าข้อตกลงมาจากท้องฟ้า แผนที่อันยิ่งใหญ่ของทะเลแห่งดวงดาวล้อมรอบคู่ต่อสู้ทั้งสามก่อนจะย่อขนาดลงโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกเขามีโอกาสดิ้นรนได้!
“บูม!”
ในขณะที่ทุกคนต่างคิดว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้ว เจดีย์ทองแดงก็ฉีกความว่างเปล่าจากกันก่อนที่มันจะสร้างเป็นทางเดินมิติให้กับยอดฝีมือทั้งสามได้หลบหนีออกจากการปิดผนึกของแผนภูมิเต๋า!
"คนพวกนี้มาจากไหน ยอดฝีมือระดับนี้จะเป็นผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนามได้อย่างไร” ผู้ชมรู้สึกหนาวสั่นในใจ
“สามคนนี้ล้วนมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของบรรดาเด็กรุ่นหลังในดินแดนรกร้างตะวันออกทั้งหมด พวกเขาถูกมหาอำนาจแห่งใดเลี้ยงดูขึ้นมา?” เรื่องนี้สร้างความสับสนให้กับผู้คนจำนวนมาก
เย่ฟ่านยืนอยู่ที่นั่น ใบหน้าของเขาสงบ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้งเขาตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าคนเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้!
"ร่างเซียนโบราณแข็งแกร่งสมคำร่ำลือ วันนี้พวกเราต้องขอตัวก่อน"
ชายผู้ถือง้าวเผยรอยยิ้มเย็นชาก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะพุ่งออกจากเมืองหลวงเอี๋ยนแทบจะในเวลาเดียวกัน
“ในเมื่อพวกเจ้ามาแล้วก็อย่าหมายจะหนีไปได้!” เย่ฟ่านเปลี่ยนเป็นกระแสงและติดตามพวกเขาไปทันที
“พี่ชาย ดูเหมือนว่าร่างกายของเจ้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากบาดแผลของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่เลย” หญิงสาวที่กำลังหลบหนีคนนั้นส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
เย่ฟ่านจิตใจสั่นสะเทือนยากที่จะสงบลงได้ ฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่ามาเพื่อทดสอบอาการบาดเจ็บของเขา คนที่มีอำนาจเพียงพอจะสั่งการพวกเขาให้ทำเช่นนี้คือใครกันแน่?
เย่ฟ่านพยายามไล่ตามบุคคลทั้งสามด้วยสีหน้าร้อนรน แต่ทันทีที่พวกเขาออกจากเมืองคนพวกนั้นกลับเปลี่ยนเป็นละอองแสงก่อนจะค่อยๆสลายไปต่อหน้าตอบตาของเขา
"เทพที่ออกมาจากตำหนักเต๋า?" ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ที่ไล่ตามการต่อสู้ออกมาตกตะลึงอย่างถึงที่สุด