CD บทที่ 8 ด้านได้อายอด
เห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงตรงหน้าเขาแลกเปลี่ยน USB กับชายผมบลอนด์คนนั้น ใน USB นั้นมีข้อมูลบัญชีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ใช้ในการล็อกอินเข้าเกมสองเกมที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้
‘มันก็แค่การขโมยบัญชีเกมเท่านั้นสินะ’ จ้าวหยู่เขาคิด
จ้าวหยู่แอบโล่งใจเบา ๆ ที่เขาไม่ได้เล่นใหญ่ติดต่อไปสถานีตำรวจทันทีที่เห็นการติดต่อซื้อขาย ถ้าคนในหน่วยตามออกมาแล้วรู้ว่าเป็นเพียงการโจรกรรมบัญชีเกมเท่านั้น เขาคงอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแต่เขาก็ยังติดใจอยู่ว่าแค่บัญชีเกมสองเกม
มันจะได้เงินมากมายขนาดนี้เชียวหรือ จากคำให้การของเด็กหญิง เงินในซองนั้นมีถึง 10,000หยวน นั้นแทบจะเท่ากับเงินเดือน เดือนถัดไปของเขาเชียวนะ!
“คุณตำรวจคะ หนูพูดจริง ๆ นะว่าหนูเพิ่งทำมันเป็นครั้งแรก ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ เงินนี่หนูไม่เอามันแล้วก็ได้” เด็กน้อยยังคงกล่าวขอโอกาสทั้งน้ำตาของเธอต่อไป “คุณตำรวจ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูขอร้อง”
“ให้ตายสิ” จ้าวหยู่พูดออกมาอย่างหัวเสีย “เพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรกแต่ท่าทางเธอกับเด็กคนนั้นดูไม่ตื่นเต้นตกใจหรือตะกุกตะกักแบบพวกมือใหม่ด้วยซ้ำ ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี”
“หนู...” เด็กหญิงตรงหน้าไม่สามารถพูดตอบโต้อะไรออกไปได้
“ถ้าเป็นเพียงแค่การขโมยบัญชีเกม ทำไมถึงต้องมาแลกเปลี่ยนเงินสดอะไรกันแบบนี้ด้วย มันจะไม่ง่ายกว่าหรือไงถ้าโอนเงินเข้าบัญชีน่ะ” จ้าวหยู่ยังซักไซ้ต่อด้วยความอยากรู้
“คุณตำรวจ…” เด็กหญิงเริ่มตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา “หนูยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนพอให้เปิดบัญชีเองได้ แล้วอีกอย่าง การทำธุรกรรมแบบนั้นมันง่ายที่จะตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของเงินอีกด้วย”
“โอ้?” จ้าวหยู่รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย “เธอไม่ได้เป็นมือโปรในการเจาะแก้ไขข้อมูลระบบหรืออย่างไรกัน งั้นบอกมาสิว่าเงินที่ได้มาจะเอาไปทำอะไร ซื้อไอเทมใหม่ ๆ ไว้เล่นเกมเท่านั้นหรอ?”
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่!” เด็กน้อยรีบตอบทันควัน เธอหยุดร้องไห้แล้วและพยายามตอบคำถามออกไปอย่างจริงใจ
“เงินนี้หนูจะเอาไปรักษาแม่ค่ะ แม่หนูไม่สบาย มีอาการไตวายเรื้อรัง แม่หนูต้องฟอกเลือดแทบทุกวัน”
“หืม” เห็นได้ชัดว่าจ้าวหยู่ไม่อาจเชื่อคำโกหกของมือสมัครเล่นแบบนี้ได้
“หนูพูดจริงนะคะ” เด็กหญิงคนนั้นเริ่มแสดงท่าทีที่จริงจังขึ้น “แค่เพียงรายได้จากการขายผลไม้ของพ่อหนูไม่เพียงพอต่อการรักษาตัวของแม่ ท่านเป็นกังวลมาก ท่านต้องการปล่อยเช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งในบ้านเราเพื่อหารายได้เพิ่มมารักษาแม่”
“เดี๋ยวนะ” จากคำบอกเล่าจากเด็กหญิงตรงหน้าทำจ้าวหยู่ชะงักไปชั่วครู่ เขาเริ่มไตร่ตรองหน้าตาเด็กหญิงอย่างพิถีพิถัน พบว่าหน้าตาเด็กคนนี้ก็ดูคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย
“เธอชื่ออะไร แล้วก็พูดความจริงด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะโทรหาพ่อของเธอแน่!”
“หนูไม่ได้พูดโกหกอะไรเลยนะคะคุณตำรวจ! หนูชื่อ เจียงเสี่ยวเฉิน” เด็กหญิงตอบ “พ่อหนูชื่อเจียงต้าเฟิง เจ้าของร้านต้าเฟิงเกอตรงถนนชุนเฟิง ที่นั่นคือบ้านของหนูเอง”
‘โอ้ พระเจ้า ไม่มีทาง!!’
ในหัวของจ้าวหยู่มีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด เขาไม่คิดว่าโลกใบนี้จะสร้างความบังเอิญให้แก่เขาอีกครั้งเขาเพิ่งทะเลาะกับเจ้าของร้านต้าเฟิงเกอไปเมื่อกี๊ แล้วตอนนี้เขาดันมาจับตัวลูกสาวของชายคนนั้นจากการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายได้ เรื่องมันชักจะบังเอิญเกินไปแล้ว!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระบบปาฏิหาริย์ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ ๆ
“คุณตำรวจคะ…” เด็กสาวเห็นจ้าวหยู่เริ่มถอยห่างออกจากตัวเธอไปหน่อยแต่เธอก็กลัวเกินกว่าจะวิ่งหนีไป “คุณจะปล่อยหนูไปได้ไหมคะ” เด็กหญิงเอ่ยถามด้วยน้ำแผ่วเบา “ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ แล้วก็เงินนั้น หนูไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ”
“โอ้ อะไรนะ” จ้าวหยู่กลับสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง เขามองไปที่ซองจดหมายนั้น
ก่อนจะยัดมันกลับไปที่มือของเจียงเสี่ยวเฉินอย่างมีนัยยะบางอย่าง
“หมายความยังไงกันที่ไม่ต้องการน่ะ เธอจำเป็นต้องใช้มันไม่ใช่หรือ ฉันรู้จักกับพ่อของเธอดี ไม่เป็นไร เก็บเอาไว้เถอะ”
“คุณตำรวจรู้จักพ่อหนูด้วยหรือคะ?” เด็กหญิงแสดงอาการตกใจไม่น้อย “ใช่แล้ว ฉันเพิ่งเป็นคนเช่าบ้านหลังนั้นไปนี่เอง ยิ่งรู้ถึงสถานการณ์ภายในบ้านของเธอแบบนี้ ฉันจะแกล้งทำตาบอดไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน”
“จริง ๆ นะคะ!” เด็กหญิงลุกขึ้นยืนตกตะลึงด้วยความดีใจ โลกของเธอกลับมาสดใสจากความกลัวอีกครั้ง “คุณตำรวจไม่ได้ล้อหนูเล่นใช่ไหมคะ?”
“ฉันพูดเหมือนล้อเล่นหรืออย่างไรกัน” จ้าวหยู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “อย่างที่เธอเห็น ฉันเองก็รู้จักพื้นที่แถวนี้เป็นอย่างดี ถ้าเธอมีปัญหาในภายหลังขึ้นมาล่ะก็ เรียกหาฉันได้เสมอเลยนะ แค่ต้องทำแบบนี้…” จ้าวหยู่ชี้ไปที่ซองจดหมายในมือเด็กสาวตรงหน้า “เข้าใจใช่ไหม?”
“โอ้” เด็กหญิงคนนั้นสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าจ้าวหยู่ต้องการจะสื่ออะไร “คุณหมายถึง เงินค่าคุ้มครองน่ะเหรอคะ”
“เอ๊ะ!” จ้าวหยู่รีบเอามือขึ้นมาปิดปากของเด็กหญิงอย่างร้อนรน “ค่าคุ้มครองอะไรกัน ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เสียเลย มันก็แค่ธุรกิจน่ะ เธอกับฉันเรามาร่วมมือกัน เธอก็แค่ทำหน้าที่ของเธอไป ฉันก็จะจัดการกับเงินพวกนั้นให้ เห็นไหมว่ามันคือการทำธุรกิจร่วมกันเฉย ๆ”
“คุณคะ หนูว่ามัน…” เด็กหญิงทำ ท่ากระอักกระอ่วนใจ “จะให้หนูทำแบบนั้นต่อไปน่ะเหรอคะ?”
“อะไรนะ” จ้าวหยู่ย่นคิ้วสงสัย
“ไม่ค่ะ ไม่มีอะไร แค่คุณไม่จับตัวหนูเข้าโรงพักไปก็ดีแล้วแหละค่ะ แล้วคุณตำรวจ ต้องการส่วนแบ่งเท่าไหร่เหรอคะ?”
“ฉัน 70 เธอ 30 เป็นไง” จ้าวหยู่เริ่มเจรจาต่อรอง “แต่เนื่องจากฉันรับรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของบ้านเธอ ฉันจะใจดีให้เธอ 40 ฉันเอาแค่60พอ แบบนี้ดีมั้ย”
“หา…อะไรกัน” เด็กหญิงเริ่มโต้แย้งออกมา “แม่ฉันต้องการใช้เงินจริง ๆ จำนวนแค่นั้นมันไม่พอหรอกนะคะ!”
“งั้นก็ 50 50 ไม่มีการต่อร้องอีก แค่ทำงานแบบนี้หนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้นก็พอ เอาไว้สอนพวกเด็กติดเกมที่ชอบผลาญเงินของพ่อแม่มาทำอะไรไร้สาระให้รู้จักหลาบจำเป็นบทเรียนไว้ซะบ้าง!”
จ้าวหยู่พยายามพูดโน้มน้าวให้เด็กหญิงมาทำงานด้วยกันโดยอ้างถึงคุณธรรมที่จะต้องการจะสั่งสอนเด็กติดเกมทั้งหลายให้รู้สำนึก คำพูดเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความไร้ยางอาย ระดับที่พระเจ้าก็สู้ไม่ได้
เสี่ยวเฉินเป็นเพียงเด็กน้อยธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ในที่สุดเธอก็ยอมพ่ายแพ้แก่จ้าวหยู่และตอบตกลง
20 นาทีต่อมา จ้าวหยู่ถือเงินห้าพันหยวนตรงกลับไปยังร้านของเจียงต้าเฟิงอีกรอบ เพื่อที่จะทำสัญญาเช่าบ้านแต่เพียงแค่เขาออกไปได้ไม่นานนัก ต้าเฟิงก็หาคนมาเช่าบ้านต่อได้เสียแล้ว
จ้าวหยู่เห็นชายหนุ่มสองคนกำลังทำท่าจ่ายเงินค่าเช่าให้แก่ต้าเฟิงและต้าเฟิลกำลังรับเงินนั้นมาด้วยมืออันอวบอ้วนของเขา
“เฮ้ย!! หยุด หยุดก่อน!” จ้าวหยู่รีบกระโดดเข้าไปขวางทางธุรกิจตรงหน้าทันที
“นี่มัน..อะไรกันเนี่ย ห๊ะ!!” เจียงต้าเฟิงหันหน้ากลับมามองจ้าวหยู่
“ให้ตายเถอะลุง! ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจะเช่าบ้านหลังนี้นะ แค่ขอเวลาออกไปหาเงินมาก่อนแปปเดียว แล้วนี่อะไร จะปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อแล้วเนี่ยนะ นี่แกอยากตายหรือไง!?”
จ้าวหยู่ทำท่าแสดงรุนแรงออกไปหวังจะข่มขู่ให้ชายสองคนที่มาใหม่นั้นหวาดกลัว
“มะไม่ใช่อย่างนั้น” ต้าเฟิงต็มไปด้วยความสับสน “ก็ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าจะไม่เช่าแล้วนี่น่า”
“ไม่ใช่สักหน่อย!” จ้าวหยู่เริ่มทำท่าอวดเก่ง เขาคว้าผลไม้จากหน้าร้านของต้าเฟิงมาไว้กับตัว “จะให้ฉันเช่าห้องหรือให้ฉันพังร้านบ้า ๆ นี่ให้เละล่ะ!” เมื่อจ้าวหยู่พูดจบ เขาหันมาชี้หน้ากับชายหนุ่มสองคนนั้น
“จะพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าใครหน้าไหนกล้ามาเช่าที่นี่ล่ะก็ ฉันจะตามรังควานไปทุกที่ จะคอยจับตาดูทุกฝีก้าวให้ไม่ให้เป็นสุขเลย”
“แก...” เจียงดาฟังเริ่มโมโหกับการกระทำของจ้าวหยู่ “หยุดนะ! ไม่อย่างนั้น ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
จ้าวหยู่ดึงป้ายชื่อของตัวเองออกมาทันที “คิดจะโทรหาตำรวจงั้นรึ ดี! ฉันจะได้รายงานไปว่าที่ร้านนี้ขายแต่ของเน่าเสียให้แก่ลูกค้า แล้วก็ยัง…”
ชายหนุ่มสองคนนั้นรีบคว้าเอาเงินกลับคืนมาจากต้าเฟิงทันทีและรีบวิ่งหายตัวไปก่อนที่จ้าวหยู่จะพูดจบ
เจียงต้าเฟิงยกมือขึ้นขอยอมแพ้ “เฮ้อ เอาล่ะ ๆ นายชนะ ฉันจะให้นายเช่าบ้านก็ได้ โอเคไหม!” ต้าเฟิงถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่
“เจ้าคนบ้า คนไร้ยางอายอย่างแกเนี่ย ช่างดื้อด้านซะจริงให้ตายเถอะ!!!”