CD บทที่ 14 ท่วงทำนองสุดคลาสสิค
จ้าวหยู่และอูฐตัวนั้นสร้างความวุ่นวายไว้มากจึงทำให้โจร, จ้าวหยู่, หลี่เบ่ยหนี, เจ้าของกระเป๋าที่โดนขโมย เหยาเจีย, เจ้าของอูฐและตัวอูฐเอง ต่างถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจกันทั้งหมด
ขณะที่พวกเขากำลังลงบันทึกประจำวันกันอยู่ สถานีก็แทบจะระเบิดจากเหล่าพ่อค้า แม่ค้าเข้ามาร้องเรียนที่ถูกทำให้ข้าวของพังเสียหาย
เจ้าของร้านพูดถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่และเรียกร้องให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย
หลี่เบ่ยหนีกำลังเป็นกังวลว่าจ้าวหยู่จะถูกบังคับให้ชดใช้ ค่าเสียหายทั้งหมด เธอพยายามไกล่เกลี่ยอย่างดีที่สุดเพื่อจะแก้ไขสถานการณ์
นี้
ทางด้านจ้าวหยู่ เขาไม่เหลือแรงใด ๆ จะไปสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันทีที่ไปถึงสถานีตำรวจ เขาเอาแต่จ้องมองเหยาเจียโดยตาไม่กระพริบ
เมื่อมีเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำจ้าวหยู่ เขาทำเพียงแค่ดึงป้ายชื่อตำรวจออกมาและโยนไปให้ที่โต๊ะ เจ้าหน้าที่คนนั้นโกรธมาก เขาคิดว่าจ้าวหยู่ที่ทำงานในแผนกสืบสวนกำลังดูถูกเหยียดหยามหน้าที่ของตน
หัวใจของจ้าวหยู่กำลังเต้นรัว หลังจากที่เขาได้เจออดีตคนรักอีกครั้ง
‘ในที่สุดพระเจ้าก็ทรงเมตตา แล้วมอบโอกาสครั้งที่สองมาให้ผมสินะครับ’
หญิงสาวยังคงดูสวยดังเดิมแบบที่เธอเป็นมาตลอด ผิวขาวเนียนใสและใบหน้าที่ชวนให้ใจเต้นยังคงเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ทั้งคู่เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
จ้าวหยู่ต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้วิ่งเข้าไปกอดเธอและสารภาพบาปเกี่ยวกับความผิดที่เขาเคยทำเขาอยากพูดออกไปใจจะขาดว่า
‘ที่รัก! คุณรู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน ผมคิดถึงคุณตลอดทุกช่วงชีวิต ทุกช่วงหายใจ คุณเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีใช่ไหม คุณยังจำผมได้หรือเปล่า’
แต่จิตใต้สำนึกก็สั่งไม่ให้เขาทำมัน เขารู้ตัวว่าเหยาเจียตรงหน้าอาจมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับคนรักของเขาก็จริงแต่ก็อาจจะไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน
และจ้าวหยู่จากโลกก่อนและจ้าวหยู่ในโลกนี้ก็ไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน
‘เธอต้องไม่รู้จักฉันแน่ ๆ ความต่างที่ชัดเจนที่สุดก็คงเป็นการที่ฉันยืนต่อหน้าเธอแบบนี้แต่เธอก็ทำท่าเหมือนไม่รู้จักกันเลย’
จ้าวหยู่จ้องมองเหยาเจียโดยไม่กระพริบตา ขณะที่เธอกำลังให้ปากคำกับตำรวจ แม้แต่ชื่อของเธอก็ยังคงเป็นเหยาเจียแต่ก็เหมือนกับจ้าวหยู่แต่ชีวิตของเธอแตกต่างไปจากเดิมมาก
ตอนนี้เธอเป็นนางพยาบาลอยู่ใจกลางเมือง ผิดกับเหยาเจียคนเก่าที่แค่เห็นเลือดนิดเดียวก็เป็นลมไปทันที ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นนางพยาบาลได้
การจ้องมองของจ้าวหยู่สร้างจุดสนใจเข้าอีกครั้ง แม้แต่เหยาเจียเองก็รู้สึกได้ถึงการถูกจ้องมอง มันค่อนข้างผิดปกติออกไปเสียหน่อย ใบหน้าของเธอเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
หลังสอบปากคำเสร็จ เหยาเจียรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้วเดินตรงไปหาจ้าวหยู่ด้วยท่าทีที่เขินอายเพื่อจะขอบคุณ
“ฉันต้องขอบคุณคุณจริง ๆ นะคะ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะเป็นตำรวจ ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้” เหยาเจียเอียงหน้าไปมองอูฐด้านนอก “ฉันต้องลำบากแน่ ๆ เลยค่ะ”
จ้าวหยู่รู้สึกเหมือนกับคนเมาทันทีที่เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเธอ
เหยาเจียไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป เธอขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับ
“รอเดี๋ยว!” จ้าวหยู่พยายามรั้งเธอเอาไว้ด้วยความหวังที่มี “เหยาเจีย, เจีย, เจีย นี่ผมเอง คุณลองนึกดูดี ๆ สิ คุณจำผมได้ไหมเจีย”
“หา? เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ?” เหยาเจียรู้สึกตกใจ เธอพยายามมองดูจ้าวหยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ก็ส่ายหน้าออกมา
จ้าวหยู่ถอนหายใจแต่เขายังไม่ยอมแพ้แค่นั้น เขาเรียกให้หลี่เบ่ยหนีมาหาเขาข้าง ๆ
“เธอช่วยโทรมาที่มือถือของฉันทีสิ”
“อะไรนะคะ?” ไม่เพียงแค่หลี่เบ่ยหนีเท่านั้นที่มึนงง เหยาเจียเองก็งงไม่ต่างกัน เธอไม่แน่ใจว่าจ้าวหยู่คิดที่จะทำอะไร
“ฉันบอกให้ทำ อะไรก็ทำเถอะน่า รีบโทรมาเร็ว!”
หลังพูดจบจ้าวหยู่วางโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองไปตรงหน้าของเหยาเจีย
หลี่เบ่ยหนีทำตามที่จ้าวหยู่ด้วยความสับสน เธอรีบโทรเข้าเบอร์ของจ้าวหยู่ทันที แล้วเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น มันเป็นหนึ่งในเพลงคลาสสิคยุค80 มันเป็นเพลงประกอบละครจีนกำลังภายใน หงส์ผงาดฟ้า[1] ชื่อเพลง “ทิ้งฉันไว้ในฝันที่แสนหวาน”
“ก้าวผ่านชีวิตทีลำบากด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
อา~ คุณผู้เป็นที่รัก โปรดมากับฉันในความฝัน
คุณผู้เป็นที่รักของฉันสุดหัวใจ โปรดปล่อยฉันไว้ในฝันที่แสนหวานนี้”
เมื่อเพลงเก่าเพลงนี้หยุดลง ที่ทางเข้าหน้าสถานีกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ทุกคนมองที่จ้าวหยู่เหมือนกับคนบ้า
“แล้วแบบนี้ล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง จำอะไรได้บ้างไหม” เขามองไปที่เหยาเจียด้วยความคาดหวัง
“นี่มัน” ดวงตาเหยาเจียขยายใหญ่ขึ้น เธอพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด “นี่มัน เรื่องบ้าอะไรกันคะเนี่ย?”
‘โถ่เว้ย!’ จ้าวหยู่ได้แต่ก่นด่าในใจ
เพลงเก่าเพลงนี้เป็นเพลงโปรดของเหยาเจีย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเขาถึงใช้เสียงเรียกเข้าเป็นเพลงนี้แต่เหยาเจียที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ นั่นหมายความว่าเธอและคนรักเก่าของเขาไม่ได้เป็นคนเดียวกัน ความสนใจและแม้กระทั่งบุคลิกของเธอตอนนี้ก็ต่างไปอย่างสิ้นเชิง
“เอ่อ คือ” ในที่สุดจ้าวหยู่ก็เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้ทั้งหมด การกระทำของเขาคงจะดูแย่มาก เขารีบกลับมาทำท่าทีปกติโดยทันทีและพูดอย่างสุดภาพว่า
“คุณเหยาเจีย ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อของคุณเอาไว้ได้ไหม?”
“เอ่อ” เธอสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เต็มใจจะให้
จ้าวหยู่เห็นท่าทีที่ไม่เต็มใจของเธอเลยพูดขึ้นมาว่า “เผื่อหลังจากนี้ผมได้เข้าโรงพยาบาล ผมอาจจะขอติดต่อไปหาคุณได้”
“ก็ได้ค่ะ” ในที่สุดเหยาเจียก็ยอมให้และรีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ถ้าเป็นวีแชทพอจะได้ไหมคะ? นี่คิวอาร์โค้ดของฉันค่ะ เชิญคุณสแกนได้เลย”
“ได้ครับ”
จ้าวหยู่รีบเปิดโทรศัพท์ขึ้นแต่เขาจำได้ว่าเขายังไม่ได้สร้างข้อมูลใด ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่มีแอพวีแชท จ้าวหยู่แค่เพียงถ่ายคิวอาร์นั้นเก็บไว้แล้วค่อยไปเพิ่มเอาในทีหลัง
“ฉันขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะ เจ้าหน้าที่จ้าว” เหยาเจียถือโอกาสจับไปที่มือของจ้าวหยู่
“ถ้าคุณมีเหตุสุดวิสัยขึ้นมาจริง ๆ ติอต่อฉันมาก็ได้นะคะแต่ฉันเองก็หวังว่าคุณจะไม่ได้เป็นอะไรมาก จนต้องเข้าโรงพยาบาล ฮิฮิ” จากนั้นเหยาเจียหันหลังกลับและเดินออกจากสถานีไป
จ้าวหยู่เฝ้ามองเธอเดินห่างออกไป ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับจากการสัมผัสเมื่อสักครู่นี้ เขายกมือขึ้นมาสัมผัสที่ตรงหัวใจ
ทันใดนั้นเองเขาก็ตัดสินใจได้ว่า ไม่ว่าเหยาเจียจะเป็นคนใหม่หรือคนเก่า ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสถานภาพแบบไหน แต่งงาน มีแฟนแล้วหรืออะไรก็ตาม เขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้เธอมาครอบครองเหมือนเก่าให้ได้!
ทุกคนเห็นความลุ่มหลงในตัวเหยาเจียจากจ้าวหยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้นหลี่เบ่ยหนีกระแทกเท้าของตัวเองอย่างแรง ระหว่างที่มองดูปฏิกิริยาของเขา เธอกอดอกด้วยความโกรธเคือง
[1] หงส์ผงาดฟ้า เป็นชุดนวนิยายกำลังภายในโดยการประพันธ์ของโกวเล้ง เขียนขึ้นในปี ค.ศ.1976 – 1981 ภายหลังได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และรายการทีวี