ตอนที่แล้วCD บทที่ 12 อูฐ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 14 ท่วงทำนองสุดคลาสสิค

CD บทที่ 13 คันเบรกอยู่ที่ไหน?


แม้ชีวิตจะเต็มได้ขวากหนามแต่หากดอกกุหลาบแห่งรักแย้มบานอยู่เบื้องหน้า ความเจ็บปวดเหล่านั้นจะค่อย ๆ ทุเลาลงไป

 

ในโลกเก่าของจ้าวหยู่ เขาได้พบเจอกับความรักสุดถวิลหา ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปี ได้ตกหลุมรักหญิงสาว อายุ 18 ปี เช่นเดียวกัน เธอมีชื่อว่าเหยาเจีย

เหยาเจียเป็นคนสวยและไม่เหมือนใคร เธอเปรียบดั่งกับเทพธิดาผู้สูงส่ง เธอมีผมสีดำขลับชวนให้น่าหลงใหล นั่นทำให้จ้าวหยู่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

ในช่วงวัยหนุ่มสาว ทั้งสองคนตกอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งรัก พวกเขาสร้างความทรงจำที่สวยงามให้แก่กันและกันแต่ชีวิตก็เหมือนกับละครน้ำเน่าหลังข่าว เรื่องน่าเศร้าที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้ก็เกิดขึ้น

ในขณะนั้น จ้าวหยู่เป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีนิสัยค่อนข้างใจร้อน มีเขาทะเลาะวิวาทแทบทุกวัน หนึ่งในการต่อสู้ที่รุนแรงนั้น ทำให้ขาของเหยาเจียได้รับบาดเจ็บและท้ายที่สุดเธอเดินไม่ได้ตลอดชีวิต

พ่อแม่ของเหยาเจียโกรธจ้าวหยู่เป็นอย่างมาก พวกท่านมองจ้าวหยู่อย่างเกลียดชัง ก่อนที่พวกท่านจะพาลูกสาวของพวกเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่เมืองอื่น แล้วทั้งสองคนก็ไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย

แม้กระทั่งตอนที่จ้าวหยู่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นักโทษและกำลังจะตายด้วยยาพิษอย่างช้า ๆ เขาได้พูดถึงชื่อของเธอในวาระสุดท้าย

แม้ความตายจะพรากจากกันแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาสามารถเลิกรักเธอได้

 

จ้าวหยู่ไม่คาดคิดว่าเขาจะพบเหยาเจียอีกครั้ง เธอคือเจ้าของกระเป๋าที่ถูกขโมยไป!

การได้เห็นคนที่เขารักมากที่สุดอีกครั้ง ทำให้เขารู้สึกราวกับมีชีวิตขึ้นมาในทันที (แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม)

เหยาเจียมาหยุดอยู่ข้าง ๆ จ้าวหยู่ เธอสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีชมพู ผมของเธอถูกมัดเป็นทรงหางม้า แม้ว่าตอนนี้เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากความทรงจำล่าสุดแต่เธอก็ยังคงสวยสง่าไม่เปลี่ยนแปลง

แม้กระเป๋าของเธอจะถูกขโมยไปแต่ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเธอยังคงความสุภาพอ่อนโยนชวนดึงดูดสายตาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

“ขโมย!! คุณคะช่วยจับขโมยให้หน่อยได้มั้ยคะ!?”

เหยาเจียรู้สึกกระวนกระวายใจ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่จ้าวหยู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างแต่เธอก็ไม่ได้มองตรงไปแต่อย่างใด ลึก ๆ ภายในใจเธอ เธอไม่ได้คาดหวังว่าจ้าวหยู่จะสามารถช่วยจับโจรให้เธอได้

“หา?” จ้าวหยู่กลับสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง “ถ้าเป็นกระเป๋าของเหยาเจียถูกขโมยไปล่ะก็ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง! ฉันมัวยืนอยู่ทำไมกันเนี่ย!”

จ้าวหยู่ทำท่าจะวิ่งตามไปแต่เห็นว่าโจรหนีไปได้ไกลแล้ว ถ้าเพียงแค่เขาวิ่งไล่ตามคงไม่ทันแน่ บนถนนก็เต็มไปด้วยรถมากมาย ไม่มีทางไหนที่เข้าท่าเลยสักทาง เขาควรทำอย่างไรดี?

จ้าวหยู่มองไปรอบ ๆ และเห็นเจ้าอูฐที่อยู่ข้าง ๆ นี่เข้า

“นี่ไง!!”

จ้าวหยู่ไม่คิดอะไรให้มากความ เขารีบคว้าเชือกจากคนจูงแล้วกระโดดขึ้นไปที่หลังอูฐอย่างรวดเร็ว

เขาเคยขี่ม้ามาก่อน เขาบีบขาตัวเองไปที่ลำตัวของอูฐเพื่อหวังให้อูฐออกวิ่งแต่ยิ่งเขาตบขาไปที่ลำตัวเท่าไหร่ อูฐก็ยังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวไปไหนแต่อย่างใด

“คุณผู้ชายคุณจะทำอะไรน่ะ!” เจ้าของอูฐตกใจ “ลงมา ๆ คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”

“หุบปากน่า ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะเว้ย!” จ้าวหยู่ขู่ “ฉันกำลังจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่เห็นหรือไง ตอนนี้ฉันต้องการใช้เจ้าอูฐนี่ บอกมาเร็วว่าทำยังไงให้อูฐมันยอมวิ่ง!”

ด้วยเสียงที่ดังของจ้าวหยู่ทำให้เจ้าของอูฐต้องยอมทำตามที่เขาบอก เขาทำอะไรบางอย่างที่ก้นของอูฐ เมื่ออูฐตอบสนองมันก็ออกวิ่งกระโจนไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง จนเกือบทำให้จ้าวหยู่ตกลงมาจากหลังอูฐ เขารีบคว้าไปที่หนอกของมันจนแน่นและพยายามทรงตัวไม่ให้ตกลงไป การขี่อูฐช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจจริง ๆ ลมที่พัดผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว มันน่าตื่นเต้นกว่าการได้ขับมอเตอร์ไซค์เสียอีก

“รุ่นพี่!!” หลี่เบ่ยหนีตะลึง เธอจ้องมองตามหลังจ้าวหยู่แล้วตะโกนออกมาว่า “ระวังตัวด้วยนะคะ!”

เสียงของหลี่เบ่ยหนีไล่ตามจ้าวหยู่ไปไม่ทัน ความเร็วของอูฐช่วยให้เขาตรงไปข้างหน้าภายในพริบตา

เหยาเจียเองก็อึ้งด้วยอีกคน ทันทีที่เธอหันศีรษะไปมา ก็เห็นว่าเจ้าอูฐถูกจ้าวหยู่ขี่ออกไปซะแล้ว เป็นภาพที่เธอไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่าจะได้พบเจอ

เจ้าอูฐออกวิ่งไปตามทางเท้า แม้จะเป็นทางเท้าที่ค่อนข้างแคบแต่ความยืดหยุ่นของอูฐก็น่าตกใจไม่น้อยเลยทีเดียวแถมความเร็วก็ไม่ลดลงด้วย ในที่สุดก็สามารถไล่ตามหัวขโมยนั้นทัน

ในตอนแรกเจ้าหัวขโมยคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วแน่ ๆ แต่เมื่อหันหลังกลับไปมองก็เห็นมวลฝุ่นขนาดใหญ่กำลังไล่ตามมา สายตาของโจรเต็มไปด้วยความตกใจและพยายามเร่งฝีเท้าให้มากขึ้น

ทางด้านเจ้าอูฐไล่จับขโมยเรื่อย ๆ ตอนที่โจรพยายามจะหลบเข้ามุมและหนีไปในซอย จ้าวหยู่ดึงเชือกอูฐขึ้นและหักเลี้ยวตามเข้าไป ตรงตรอกซอยเต็มไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ มากมายกำลังวางขายของกันอยู่

โจรคนนั้นสามารถวิ่งข้ามผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ทว่าอูฐตัวใหญ่ตัวนี้ไม่สามารถวิ่งไปไหนได้ตามใจชอบ มันวิ่งฝ่าไปเหมือนไม่มีอะไรขว้างกันเอาไว้

ภายในไม่กี่วินาทีต่อมา ข้าวของพังกระจาย โต๊ะ แก้ว กระถางแตกทั้งหมด แม้แต่หมอดูตาบอดก็ยังขยับหนีออกไปจนชิดกำแพง

ทั้งซอยเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่อย่างไรก็ตามความเร็วของอูฐไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายเจ้าอูฐก็วิ่งตามไปจนทัน

จ้าวหยู่พยายามที่จะจับโจร แต่ทว่าเหมือนเขากำลังพบกับปัญหาใหญ่เข้า เขาไม่รู้วิธีที่จะสามารถหยุดเจ้าอูฐนี่ได้!

“ทำไงเนี่ย หยุด หยุดนะ หยุดสิโว้ยย!!”

จ้าวหยู่ลองทำทุกวิธีแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดอูฐตัวนี้ได้ มันยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วเท่าเดิม

ในช่วงเวลานั้นโจรเงยหน้าขึ้นมาและเห็นว่าจ้าวหยู่ไม่ได้พยายามที่จะจับตัวเอง เขามองไปรอบ ๆ และพยายามจะวิ่งหนีไปอีกทางแต่เขาไม่สามารถทำได้เพราะเจ้าตัวเหนื่อยเกินกว่าจะวิ่งหนีไปไหน

แต่เขาไม่อยากถูกจับเข้าคุก เขากัดฟันฝืนวิ่งไปอีกทางในที่สุด

“เวรเอ๊ย!!” จ้าวหยู่รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น ในช่วงที่หมดหนทางเขาพยายามรั้งสายเชือกจูงนั้นอย่างแรง ทำให้เจ้าอูฐหันหน้ามาด้านข้างและเปลี่ยนเส้นทางตามโจรดังเดิม

“ไม่นะ!!”

โจรคนนั้นรู้สึกอยากตาย เขาพยายามกัดฟันและออกวิ่งอีกครั้งแต่คราวนี้จ้าวหยู่ไม่ให้โอกาสโจรได้วิ่งหนีอีกต่อไป เมื่ออูฐสามารถกลับมาประชิดตัวของโจรไว้ได้

จ้าวหยู่ก็กระโดดลงกลางอากาศทับไปที่ตัวของโจรคนนั้นได้อย่างสวยงาม

หลังจากการไล่ล่าสิ้นสุดลง โจรยกมือของยอมแพ้

จ้าวหยู่ยังคงโกรธและไม่สนใจท่าทีขอยอมแพ้ของโจรเลยสักนิด เขาตรงเข้าไปชกที่เบ้าตาของโจรคนนั้น ทำให้เบ้าตาช้ำและเลือดกำเดาไหลออกมา

“แกกล้าดียังไงถึงวิ่งหนีฉัน ห๊ะ!!” จ้าวหยู่ตบไปที่หน้าของโจรอีกที โจรทรุดตัวลงไปกับพื้นราวกับร่างทั้งกำลังจะแตกออกไปเป็นเสี่ยง ๆ

เจ้าอูฐตัวนี้ฉลาดมาก เมื่อมันรู้สึกได้ว่าน้ำหนักที่หลังของตัวเองเบาลง มันก็หยุดวิ่งโดยทันทีและเดินกลับมาหาจ้าวหยู่ จ้าวหยู่หันไปมองและยกนิ้วโป้งชูให้

“ขอบใจมากเจ้าอูฐ!”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด