ตอนที่ 30 สั่นสะเทือนทั้งแคว้นกลาง และความโชคร้ายของราชาเทพ
โดยปราศจากความแปลกใจ ข่าวการกลับมาของบรรพชนตระกูลหลินจากอาณาจักรเบื้องบนกระจายไปทั่วเมืองสวรรค์กลางเหมือนไฟป่า แม้คนของตระกูลหลินจะพยายามระงับข่าวสุดความสามารถ มันก็ยังกระจายไปทั่ว
เมืองสวรรค์กลางเหมืองหม้อที่กำลังจะระเบิด!
ขุมอำนาจกับผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนตกใจ บรรพชนตระกูลหลินเป็นตัวตนแบบใด?เขาคือยอดฝีมืออาณาจักรเทพเสมือนที่ทำลายห้วงมิติ และทะยานขึ้นอาณาจักรเบื้องบนไปเมื่อสามหมื่นปีก่อน
แต่ตอนนี้ เขากลับมาแล้ว?
ใครก็สามารถจินตนาการได้ว่าข่าวนี้น่ากลัวแค่ไหน คนนับไม่ถ้วนนั่งไม่ติดก้น โดยเฉพาะพวกขุมอำนาจใหย่ของแคว้นกลางที่รีบส่งสายไปสืบความจริงของเรื่อง
เรื่องนี้เดิมถูกระงับไว้เพราะไม่ช้าเมืองจะจัดงานถกเถียงเต๋าของอัจฉริยะ มีขุมอำนาจมากมายคอยจับจ้องงานนี้ พวกเขาจึงตัดสินใจไม่ยึดติดกับเรื่องนี้นาน แต่การกระทำต่อมาของสมาชิกตระกูลหลินก็ได้ยืนยันความจริงของข่าวนี้ต่อโลก
สมาชิกตระกูลหลินที่ถูกส่งออกไปด้านนอกตระกูลรีบกลับมา ราวกับกำลังรอการต้อนรับบรรพชน หลายคนคอยสังเกตการณ์ และไม่ช้าพวกเขาก็นึกถึงข่าวลือที่กระจายจากแดนบูรพาเกี่ยวกับการลงมาของคุณชายที่มาจากอาณาจักรเบื้องบน
หลายคนพิจารณาว่ามันไม่มีอะไรนอกจากข่าวลือ..แต่ตอนนี้?มันสั่นคลอนจิตใจของพวกเขา หรือบรรพชนของตระกูลหลินจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?
แม้กระทั่งผู้เป็นใหญ่อย่างราชวงศ์เซี่ย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจียโหลว กับดินแดนศักดิ์สิทธเหยินหยางก็ยังส่งคนไปตระกูลหลินโบราณเพื่อขอเข้าพบบรรพชนพวกเขา พวกเขายังเป็นขุมอำนาจที่บรรพชนตัวเองทะยานขึ้นไปอาณาจักรเบื้องบนเหมือนกัน
ชั่วขณะนั้น ทั้งแคว้นกลางพลันจมอยู่ใต้กระแสมืด
ในเวลาเดียวกันนั้น เรือบินหรูหราก็แล่นผ่านท้องฟ้าและไม่ช้าก็มาถึงเมืองสวรรค์กลาง มีคนจากแคว้นกลางที่มารอรับอัจฉริยะของแดนบูรพาเพื่องานประชุมเต๋าอยู่แล้ว
ในทางกลับกัน กู่ฉางเกอกับซูชิงเกอได้ตรงไปตระกูลที่เฒ่าหมิงสร้าง
...
“บรรพชนที่กลับมาจากอาณาจักรเบื้องบน?”
“ตระกูลหลินโบราณ?’
“นี่สามารถเป็นสถานที่ให้ข้าได้..”
“น่าเสียดาย..”
[ในเมืองโบราณของแคว้นกลาง]
ชายหนุ่มหน้าตาเย็นชาและสวมแหวนทองแดงบนนิ้วหยุดเดิมตอนได้ยินข่าว แต่ไม่ช้า ดวงตาของเขาก็แสดงความเกลียดชัง
คนหนุ่มนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเย่เฉินที่เดินทางมาแคว้นกลางหลังออกแดนบูรพา
ตลอดทาง ไม่เพียงเขาจะไม่ลำบาก แต่เขายังได้รับโอกาสและโชคจำนวนมาก ฐานบ่มเพาะของเขาทะลวงผ่าน ไปถึงอาณาจักรปรมาจารย์วิญญาณ
นอกจากนั้น เขายังเจอกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจียโหลว และทั้งสองก็กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน
พูดได้ว่าเขาได้ล้างความอัปยศในแดนบูรพาไปแล้ว
“ตระกูลหลินโบราณมีมรดกหยั่งรากลึก แต่เจ้ามีความลับมากมายที่ต้องปกป้อง ไม่งั้นบางคนจะพบความผิดปกตินั้นและเจ้าจะตกเป็นเป้า!”
เสียงเย็นชาดังจากแหวน เตือนเย่เฉิน
หยานจียังสวมชุดแดงเสมอ นางนั่งสมาธิในอากาศ และชี้แนะสิ่งที่ขัดต่อความคิดของเย่เฉิน
แม้รอยร้าวจะปรากฏระหว่างนางกับเย่เฉินเนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้า นางก็ยังใจอ่อนและให้อภัยเย่เฉินหลังเขาขอโทษ
แต่ไม่ว่ายังไง นางก็ยังคอยโน้มน้าวเย่เฉินให้ปล่อยวางเรื่องของเขากับกู่ฉางเกอ แต่เขาไม่ฟังและคิดว่านางมีแรงจูงใจเบื้องหลัง
หยานจีรู้สึกหน่ายใจ
“อาจารย์ ไม่ต้องห่วง!ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ข้าจะไม่ไปตระกูลหลินโบราณแน่!”
เย่เฉินตอบขณะก้มมองสมบัติโบราณที่พังในมือ มันคือสมบัติโบราณที่เขาบังเอิญได้รับมาจากแผงลอย และมันดูเหมือนจะบันทึกเส้นทางไปสู่วิหารโบราณ
หลังผ่านการแกะรอยมาหลายวัน เขาก็พบว่าวิหารโบราณนั้นอยู่ไม่ไกลจากเมืองที่เขาอยู่
“ไม่มีใครเคยพบซากโบราณเหล่านี้มาก่อน มันต้องมีโอกาสมากมายที่นั่น ตอนข้าทะลวงผ่านเป็นอาณาจักรเซียน ข้าจะสามารถสู้กับอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้!พอถึงเวลานั้น กู่ฉางเกอกับซูชิงเกอ พวกเจ้า....ฮี่ๆ!”
เย่เฉินหัวเราะเหมือนคนบ้าพอคิดถึงอนาคต ในความคิดเขา กู่ฉางเกอเป็นได้แค่อาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าเขาจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม
เมื่อเขาทะลวงผ่านอาณาจักรเซียน เขาจะสามารถปราบกู่ฉางเกอได้ด้วยพรสวรรค์ของเขา เหนือสิ่งอื่นใด กู่ฉางเกอไม่ต่างอะไรจากนายน้อยที่มีฐานบ่มเพาะสูงส่งผ่านการกินเม็ดยากับสมบัติตั้งแต่เด็ก!
‘อัจฉริยะ’ในเรือนกระจกอย่างกู่ฉางเกอไม่มีวันเทียบได้กับเขา ผู้ผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน
ด้วยความคิดเหล่านี้ในหัว เย่เฉินจึงเดินออกเมืองโบราณ ตรงไปวิหารโบราณ
...
[ตอนนี้ ในลานตระกูลหลิน]
เด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดามีใบหน้าเย็นชาราวกับหินกำลังยุ่งกับการปรุงยาบางชนิด เขาถือพัดไว้ในมือและคอยพัดไฟใต้หม้อยาอย่างระมัดระวังเพื่อควบคุมขนาดและความรุนแรงของไฟ
“ข้ายังขาดสมุนไพสามอย่างที่ต้องการเพื่อหลอม[เม็ดยาวิญญาณบรรเทาต้นกำเนิด] ไม่คิดเลยว่าราชาเทพที่แข็งแกร่งสุดอย่างข้าจะมีช่วงเวลาที่น่าสมเพชถึงขั้นไม่มีวัตถุดิบปรุงยาพอจะเสริมร่างกายที่อ่อนแอของข้า.”
เขาพึมพำเสียงเย็น และนี่ก็ไม่ใช่ใครนอกจากหลินเทียน
ทันทีทันใด เขาส่ายหัวและพูด“ยังไงซะ!เนื่องจากสวรรค์มอบโอกาสใหม่ให้ข้า ข้าก็จะไม่ยอมให้เรื่องเล็กน้อยพวกนี้มาขวางความสำเร็จของข้า”
“ก่อนอื่น ข้าต้องสร้างรากฐานร่างกายนี้ก่อน ไม่งั้นข้าคงไปไม่ถึงอาณาจักรทะเลวิญญาณ”
ใบหน้าของเขาแดงก่ำตอนเขานึกถึงคำพูดอวดที่บอกว่าจะทะลวงเป็นทะเลวิญญาณภายในครึ่งวัน แต่ตอนนี้ เขายังไม่มีแม้แต่วัตถุดิบ
หลินเทียนอดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดของเขา!
‘การเป็นศิษย์สายตรงของตระกูลหลินโบราณดียังไงถ้าแม้แต่วัตถุดิบปรุงยาก็ยังขอไม่ได้?มันดูเหมือนฐานะของเด็กนี่ในตระกูลจะไม่ดี..’
‘เด็กนี่ไม่ได้แค่โดนรังแกและโดนดูถูก..เขายังไม่มีสิทธิ์ขอวัตถุดิบเหมือนคนอื่นด้วย น่าสมเพชนัก..’
หลินเทียนรู้สึกหงุดหงิดพอนึกถึงสายตาของคนในตระกูลที่เต็มไปด้วยความตกใจและเหลือเชื่อตอนเขาไปขอวัตถุดิบ
เขา ผู้เคยเป็นราชาเทพผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีแต่ดูถูกคนไม่ว่าจะไปไหนกลับโดนซะเอง!นี่ทำให้เขาไม่พอใจมาก
ถ้าเขามีพลังเดิม เขาคงตบหน้าพวกระยำนี่จนตายไปแล้ว
มันแค่การปรุงยาธรรมดา แต่พวกมันกลับบอกว่าเขาทำไม่ได้?พวกมันยังเยาะเย้ยเขาด้วยว่าการให้วัตถุดิบกับเขาไม่ต่างอะไรกับการเอาของไปทิ้งเล่น
ใบหน้าของหลินเทียนน่าเกลียดพอเขานึกถึงคำพูดเหล่านั้น ตอนเขาเคยเป็นราชาเทพ ผู้สังหารสวรรค์ เขาเคยเจอกับการดูถูกแบบนี้ที่ไหน?
ตอนนี้ เสียงเท้าดังมาจากทางเข้าลาน คนสองคน เด็กชายกับเด็กสาวอายุประมาณ14หรือ15เดินเข้ามา
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วตอนเห็นหลินเทียนยุ่งอยู่กับการปรุงยาและพูด“หลินเทียน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?!ท่านผู้นำเรียกรวมสมาชิกทุกคนให้ไปทำความเคารพบรรพชนนะ!”
“แม้กระทั่งขยะอย่างเจ้าก็ยังอยากหลอมเม็ดยาแล้ว?ขยะอย่างเจ้าเนี่ยนะ?ไม่ใช่ว่าเจ้าควรเรียนรู้พื้นฐานของการหลอมโอสถก่อนจะมาลงมือหรือ?”
เด็กสาวข้างเด็กชายพูดจาถากถาง
คนที่ไม่สามารถแม้แต่จะบ่มเพาะกลับเปลี่ยนใจและเริ่มหลอมเม็ดยา...นี่มันเรื่องตลกอะไร?!
แม้เขาจะเป็นลูกชายขยะของผู้นำ แต่ความจริงคือเขาก็ยังเป็นทายาทสายตรงของตระกูลที่ไม่อาจทิ้งได้ เขาไม่สามารถไม่อยู่ตอนบรรพชนกำลังกลับมา!
สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำถากถาง เขาคือราชาเทพ!ตัวตนที่ยิ่งใหญ่จนเหล่ามนุษย์ต่างบูชา!
ทำความเคารพบรรพชน?
นั่นมันสุนัขตัวไหน?คู่ควรหรือไง?
“ข้าได้ยินว่ามีนายน้อยคนหนึ่งมากับบรรพชนด้วย!นายน้อยผู้นั้นดูเหมือนจะมีภูมิหลังน่ากลัวมาก แม้แต่บรรพชนก็ยังเคารพเขา..”
“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน!ต้นกำเนิดของนายน้อยผู้นั้นต้องเป็นอะไรที่เราจินตนาการไม่ถึงแน่..”
ทั้งสองไม่สนใจสีหน้าของหลินเทียนและเอาแต่คุยกันต่อ
**กลุ่มลับเปิดแล้วน้า ใครสนใจเข้ากลุ่มติดต่อได้ที่เพจ ลิ้งอยู่หน้านิยายน้า**