608 - คนคุ้นเคยที่ไม่คุ้นเคย
608 - คนคุ้นเคยที่ไม่คุ้นเคย
“อะไรนะผู้อาวุโสหม่าหยุนถูกขับไล่ออกจากสำนักเพราะช่วยเหลือเจ้า”
เย่ฟ่านและจางเหวินชางมีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับอดีต เมื่อได้ยินข่าวเรื่องนี้แม้แต่ตัวเขาก็ยังรู้สึกหดหู่
เขาถอนหายใจครู่หนึ่ง ชะตากรรมของผู้ฝึกฝนเส้นทางเซียนนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ชีวิตและความตาย โชคและวาสนาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
หลังจากนั้นเย่ฟ่านพาจางเหวินชางเดินไปรอบๆสำนักเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆเนื่องจากตัวเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอด
"นั่นหลี่เสี่ยวม่านเหรอ?” จางเหวินชางประหลาดใจและชี้ไปที่หญิงสาวชุดขาวซึ่งกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า
เย่ฟ่านพยักหน้าและไม่พูดอะไร หลี่เสี่ยวม่านเป็นลูกศิษย์ของยอดเขาดวงดาวที่อยู่ติดกัน แน่นอนว่าพวกเขาจะมีโอกาสพบกันเป็นบางครั้ง แต่เย่ฟ่านไม่ได้แสดงความตื่นเต้นแต่อย่างใด
"ศิษย์น้องเล็ก คนคนนั้นคือสหายเก่าของเจ้า... เย่ฟ่าน! "
“ใช่แล้ว ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเคยเป็นลูกศิษย์นิกายไท่ซวนของเรา”
"พี่ใหญ่ฮั่วไม่ธรรมดาจริงๆ ในครั้งนี้เขาสามารถเชิญร่างศักดิ์สิทธิ์จากทั้งจงโจวและตงหวงมาร่วมสนทนาเต๋า หากเขารู้ว่าร่างเซียนอยู่ที่นี่ เขาจะต้องมาเชิญด้วยตัวเองอย่างแน่นอน”
ด้านข้างของหลี่เสี่ยวม่านชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า
"ข้าจะไปบอกพี่ใหญ่อวิ๋นเฟย” หลังจากนั้นเขาก็บินออกไปตามลำพัง
หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองกลับมาที่เย่ฟ่านและจางเหวินชาง ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า
"ไม่ได้เจอกันนาน”
เย่ฟ่านยิ้มและเดินไปพร้อมกับจางเหวินชาง เขามองดูอดีตหญิงสาวคนรักด้วยสีหน้าแปลกๆคล้ายกับว่าพวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
"หลี่เสี่ยวม่านคือนางจริงๆ เราไม่ได้เจอกันมาห้าหรือหกปีแล้ว..."
จางเหวินชางไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ ชีวิตของเขาช่างมืดมนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และความหวังเดียวของเขาก็อยู่ที่การได้พบกับเพื่อนเก่าที่เดินทางมาจากอีกฟากหนึ่งของทะเลดวงดาวด้วยกัน
"จางเหวินชางสบายดีไหม ข้าไม่ได้ยินข่าวคราวจากเจ้านานแล้ว" หลี่เสี่ยวม่านในชุดขาว ดูสวยสง่า ปราศจากมลทิน นางให้ความรู้สึกสูงส่งและยากที่จะเข้าถึง
“ข้าไม่เป็นไร” จางเหวินฉางตอบด้วยน้ำเสียงทึมทื่อ ชีวิตของเขาขมขื่นเกินไปและเขาไม่ต้องการพูดถึงมัน
“ข้าได้ยินข่าวของเจ้า เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย” หลี่เสี่ยวม่านมองที่เย่ฟ่านอย่างใจเย็น
“ไม่เป็นไร คนดีมักอายุสั้น คนชั่วแบบข้าจะตายง่ายๆได้อย่างไร” เย่ฟ่านยิ้ม
ในเวลานี้ลูกศิษย์ของยอดเขาดวงดาวหลายคนบินเข้ามาพบเย่ฟ่าน ทุกคนล้วนมีท่าทีสูงศักดิ์พวกเขาคือลูกศิษย์ระดับสูงของนิกายไท่ซวน
“พี่เย่ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะกลับมานิกายไท่ซวน”
แม้ว่าคนเหล่านี้จะกระตือรือร้น แต่ก็มีร่องรอยของความกลัวที่ปิดไม่มิด ย้อนกลับไปในตอนนั้น เย่ฟ่านลงมือทุบตีทุกคนอย่างไม่ไว้หน้า พวกเขาไม่รู้ว่าครั้งนี้เย่ฟ่านจะมาดีหรือมาร้าย
“ราชาหนุ่มจากจงโจวมาถึงแล้ว และพี่ฮั่วไม่สามารถปลีกตัวได้ เขาเกรงว่าพี่เย่จะจากไปก่อน พี่ฮั่วเลยให้เรามารั้งตัวพี่เย่ไว้แล้วเขาค่อยจะมาเชิญพี่เย่ไปร่วมสนทนาเต๋าด้วยตัวเอง” มีคนกล่าวอย่างนอบน้อม
“ศิษย์น้องเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย” ใครบางคนทักทาย
“พวกท่านไปก่อนเถอะ ข้าจะพาเขาไปพบศิษย์พี่ฮั่วทีหลัง” เห็นได้ชัดว่าอัตลักษณ์ของหลี่เสี่ยวม่านนั้นไม่ธรรมดา ผู้คนเหล่านี้ค่อนข้างเชื่อฟังคำพูดของนาง
แม้ว่าจางเหวินชางจะดูโง่เขลาแต่ในความเป็นจริงเขาฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถดำรงชีวิตมาจนถึงปัจจุบันได้
เมื่อเห็นสถานะอันสูงส่งของหลี่เสี่ยวม่านเขาก็รู้ได้ทันทีว่าสหายเก่าเปลี่ยนไปแล้ว
ดวงตาของหลี่เสี่ยวม่านสว่างราวกับน้ำ นางจ้องมองไปที่เย่ฟ่านอย่างเงียบๆและพูดว่า
" เจ้าใกล้จะตายจริงๆหรือ? "
“ไม่ใช่ว่าข้าต้องตาย ตอนที่ข้าอยู่ในดินแดนทางเหนือราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าได้เชิญหมอศักดิ์สิทธิ์มารักษาข้าด้วยตัวเอง เขาบอกว่าตราบใดที่ข้าลดระดับการฝึกฝนลงมา บาดแผลของข้าจะสมานตัวทันที”
“จากนั้นก็เป็นมนุษย์และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข” หลี่เสี่ยวม่านเสนอแนะ
ในระยะไกลมีแสงสีครามวาบวับปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นฮั่วอวิ๋นเฟยที่หล่อเหลาสง่างามก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
ความสง่างามของฮั่วอวิ๋นเฟยนั้นไม่มีผู้ใดเทียบได้อย่างแท้จริง แม้แต่ตัวของเย่ฟ่านก็ยังรู้สึกอิจฉาใบหน้าฟ้าประทานของฮั่วอวิ๋นเฟย
แต่เรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ของตงหวงกำลังทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่เพื่อสร้างชื่อให้กับตัวเอง แต่ยอดฝีมือผู้ทรงพลังอย่างฮั่วอวิ๋นเฟยกลับซ่อนตัวอยู่ในภาคใต้และพยายามทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงน้อยที่สุด
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หมายมั่นในการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ควรทำอย่างแน่นอน เย่ฟ่านไม่เคยเชื่อว่าฮั่วอวิ๋นเฟยเป็นคนรักความสงบ สิ่งที่เขาทำจะต้องมีเจตนาบางอย่างที่ไม่อาจเปิดเผยได้
“พี่เย่ยินดีต้อนรับกลับ”ฮั่วอวิ๋นเฟยทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
เย่ฟ่านก็แสดงรอยยิ้มสดใสและกล่าวว่า "พี่ฮั่วดูเหมือนจะสง่างามยิ่งกว่าเมื่อก่อนซะอีก"
"ข้าจะเปรียบเทียบกับพี่เย่ได้อย่างไร ตอนนี้ชื่อของเจ้าโด่งดังไปทั่วทั้งโลกอำพรางสวรรค์(แปลมา 1 ใน 3 เพิ่งรู้ที่มาของชื่อเรื่อง) ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเจ้า" ฮั่วอวิ๋นเฟยเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
"ในอดีตเจ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่ แม้ว่าเจ้าจะจากไปแล้ว แต่นิกายไท่ซวนของเรายังเป็นบ้านของเจ้าเสมอ"
"พี่ฮั่วรู้ซึ้งถึงใจของผู้น้องจริงๆ” เย่ฟ่านประสานมือแสดงความเคารพอีกครั้ง แต่แล้วเขากลับกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
“พี่เย่ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” ฮั่วอวิ๋นเฟยก้าวไปข้างหน้าและถามอย่างกังวลใจ
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา” เย่ฟ่านส่ายหัวและเช็ดเลือดจากมุมปากของตัวเองด้วยผ้าขนหนูสีขาว
ฮั่วอวิ๋นเฟยหันไปหาหลี่เสี่ยวม่านและพูดเบาๆว่า
"ศิษย์น้องเล็ก รีบไปเอายาศักดิ์สิทธิ์ของข้ามา"
"ยาศักดิ์สิทธิ์?" หลี่เสี่ยวม่านรู้สึกประหลาดใจ
“มันเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งที่ปรมาจารย์ไท่ซวนมอบให้ข้า ข้าคิดว่ามันสามารถบรรเทาอาการบาดเจ็บของพี่เย่ได้” ฮั่วอวิ๋นเฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน
หลี่เสี่ยวม่านพยักหน้าเหลือบมองเย่ฟ่านและบินออกไป
“ไม่จำเป็นสำหรับเรื่องนี้ อาการบาดเจ็บของข้าไม่ร้ายแรง” เย่ฟ่านส่ายหัว แต่ขณะพูดเขาก็กระอักเลือดสีทองออกมาอีกครั้ง
“พี่เย่เป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอำพรางสวรรค์เรา ข้าเชื่อว่าอาการบาดเจ็บเพียงเท่านี้จะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้” ฮั่วอวิ๋นเฟยถอนหายใจเบาๆเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อมั่นว่าเย่ฟ่านจะมีโอกาสหาย
“ศิษย์พี่ฮั่ว สตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมาถึงแล้ว” เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมากระซิบฮั่วอวิ๋นเฟย
“พี่เย่ เจ้าอย่าเพิ่งรีบไป ในครั้งนี้ข้าเชิญยอดฝีมือรุ่นเยาว์หลายคนมาร่วมสนทนาเต๋า นั่นรวมถึงเทพธิดาเหยาซีซึ่งเป็นสหายเก่าของเจ้าอีกด้วย”
ฮั่วอวิ๋นเฟยกล่าวคำว่าสหายเก่า ย่อมหมายถึงความขัดแย้งที่เย่ฟ่านและเหยาซีมีต่อกัน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้เย่ฟ่านปะทะกับหญิงงามในการชุมนุมของเขา
“พี่ฮั่วสบายใจได้ พวกเราไม่มีเรื่องขัดแย้งกันถึงขนาดนั้น” เย่ฟ่านยิ้มและเดินตามไปอย่างช้าๆ
ฮั่วอวิ๋นเฟยทรงพลังเพียงใดมันยากที่จะบอกได้ ก่อนหน้านี้เขาเคยต่อสู้อย่างดุเดือดกับจี้ฮ่าวเยว่ การต่อสู้ดำรงอยู่นานและในที่สุดร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลจี้ก็เอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิว
ในท้ายที่สุดจี้ฮ่าวเยว่ก็เป็นถึงราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยของตระกูลขุนนางโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ตระกูลจี้ลงทุนกับเขาอย่างมากมายมหาศาลการที่เขาได้รับชัยชนะก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
จี้จื่อเยว่กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางบอกว่าในตอนนั้นฮั่วอวิ๋นเฟยอาจจะยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ
ต่อมาฮั่วอวิ๋นเฟยเก็บฝึกฝนอย่างสันโดษมาเป็นเวลากว่าสองปีแล้ว หากทั้งสองมีโอกาสได้ต่อสู้กันอีกมันคงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าใครจะเป็นคนได้รับชัยชนะ
ดวงตาของเย่ฟ่านกะพริบด้วยความสดใส เขากำลังใช้ความคิดอยู่กับตัวเองทำให้ฝีเท้าของเขาล้าหลังฮั่วอวิ๋นเฟยค่อนข้างไกล
“เขาแข็งแกร่งหรือไม่?”
จางเหวินฉางถาม เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์มาบ้าง แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อฮั่วอวิ๋นเฟย
นี่คือคนที่กล้าวางแผนฆ่าจี้ฮ่าวเยว่และน้องสาว คนคนนี้จะมีความแข็งแกร่งระดับธรรมดาได้อย่างไร แต่น่าเสียดายที่เย่ฟ่านไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับจางเหวินชางได้ มิฉะนั้นมันจะทำให้เขาเกิดหายนะครั้งใหญ่
“เจ้าอาศัยอยู่ในนิกายไท่ซวน เจ้าควรจะหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลมากที่สุด ทางที่ดีคืออย่าลงจากเขาหากไม่มีความจำเป็น”
ในความเห็นของเย่ฟ่าน ฮั่วอวิ๋นเฟยมีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเหยากวงแน่ๆ การพ่ายแพ้ต่อจี้ฮ่าวเยว่ในอดีตยากที่จะกล่าวได้ว่าเป็นเจตนาของเขาหรือไม่
“ไม่มีคัมภีร์โบราณในนิกายไท่ซวน แต่เขากลับสามารถฝึกฝนรากฐานของตัวเองให้แข็งแกร่งทัดเทียมบุตรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดของตงหวงได้ เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ…” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
นอกจากฐานการบ่มเพาะแล้ว บุคคลนี้ยังซ่อนเจตนาที่แท้จริงของตัวเองไว้ ในอดีตเขาเคยไล่ล่าสังหารจี้จื่อเยว่โดยปราศจากความเกรงกลัว นั่นแสดงให้เห็นว่าเขามีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งเช่นกัน