บทที่ 457 ล้มเหลวคือตาย (แถมฟรี)
บทที่ 457 ล้มเหลวคือตาย
(ผู้แปล - แถมฟรีจ้า บทสั้นไปไม่ถึงเกณฑ์)
หลังจากเหลียงชูหยินได้รับชัยชนะ การต่อสู้ในพื้นที่อื่นก็ใกล้สิ้นสุดลงเช่นกัน
ไม่มีข้อสงสัยในการต่อสู้ระหว่างเสินถังกับฮงป๋อ แต่เย่จงหมิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับ ‘สมาชิก’ ที่เข้าร่วมเล่นในครั้งนี้ของเสินถัง นั่นก็คือไส้เดือนดินระดับ 6
ในมุมมองของเย่จงหมิง นี่ควรเป็นผู้รับผิดชอบงานเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสัตว์ประหลาดสำหรับเป็นพาหนะ แม้แต่เสินถังยังนิยามมันว่าเป็นรถไฟ มิฉะนั้น ‘ห้องคนขับ’ คงไม่ถูกติดตั้งอยู่บนหัวของมัน ซึ่งถ้าต้องต่อสู้ สิ่งนี้จะเป็นสิ่งเกะกะ
แต่ความจริงกลับทำให้ตกใจ นั่นคือลีลาการต่อสู้ที่ดุเดือดของไส้เดือนดินตัวนี้ ความสามารถในการป้องกันและพลังอันยิ่งใหญ่ของมัน แทบเรียกได้ว่าเป็นความผิด ทั้งหมดนี้ทำให้มันมีความได้เปรียบเมื่อต่อสู้กับผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาว แม้จะไม่ได้ใช้ความสามารถใดๆ ก็ตาม เพียงแค่โจมตีฮงป๋อด้วยร่างกายของมันเท่านั้น แต่ก็สามารถบดขยี้หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างเหลากู่โถวจนเละเป็นเนื้อบด
การโจมตีที่ฮงป๋อเคยภาคภูมิใจ ไม่ระคายแม้แต่ผิวหนังของไส้เดือนดิน และจากโลกนี้ไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่โหยหวนที่สุด
ด้วยการสังหารฮงป๋อกับผั่งเฉิง การต่อสู้จึงจบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามีความเข้าใจกันโดยปริยาย สมาชิกของกองกำลังอิสระราชาเขาเดี่ยวบางคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจะกลายเป็นเครื่องสังเวยสำหรับบันไดขั้นต่อไป (ผู้แปล – ปล่อยสมาชิกบางคนไว้เพื่อให้ครบ 5 ทีม)
การต่อสู้บนบันไดขั้นที่สองเป็นการต่อสู้ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด จนถึงตอนนี้มากกว่าครึ่งของผู้ที่ถูกดูดเข้ามาในสนามแข่งขันรูเล็ตมรณะได้เสียชีวิตลง แม้แต่ผู้ยังเหลือรอดเมื่อตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ก็ยังรู้สึกหนาวจนจับขั้วหัวใจ
นี่แค่บันไดขั้นที่สองนะ แล้วอีกสองขั้นที่เหลือล่ะ?
ด้วยสภาพจิตใจดังกล่าว ทำให้สายตาที่มองไปยังอวิ๋นติ่งวิลล่าและเย่จงหมิงไม่ดีมากยิ่งขึ้น
อันที่จริง ในระหว่างการต่อสู้ คนเหล่านี้ได้เข้ามาหาเรื่องอวิ๋นติ่งเล็กน้อย แต่ทั้งสองฝ่ายได้ถูกยับยั้งไว้ จึงไม่มีการต่อสู้ขนาดใหญ่
เมื่อตรงตามเงื่อนไขแล้ว บันไดที่นำไปสู่บันได้ขั้นที่สามก็ปรากฏขึ้น แล้วกองกำลังที่เหลืออยู่ก็ก้าวขึ้นไป นั่นรวมถึงสมาชิกที่เหลืออยู่ของกองกำลังอิสระราชาเขาเดี่ยวที่ร้องไห้คร่ำครวญเหมือนเมียน้อยผู้น่าสงสาร
เช่นเดียวกับบันไดสองขั้นแรก สิ่งแรกที่ปรากฏคือรูเล็ตเลือกความยากที่ทุกคนคุ้นเคย แม้จะรู้ถึงอันตราย แต่ก็จำเป็นต้องเลือก คนที่พยายามหนีถูกกำจัดโดยตรง ซึ่งแย่ยิ่งกว่ารูเล็ตอาชีพ
ความยากของอวิ๋นติ่งครั้งนี้คือสีเขียว ตามกฎแล้วการท้าทายที่ได้จะมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นบันไดขั้นที่ 3 มันจึงยังคงยากอยู่ แต่โชคดีที่ความแข็งแกร่งของนักรบอวิ๋นติ่งดีขึ้น และความแข็งแกร่งโดยรวมยังสมบูรณ์ที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะเสร็จสิ้นการท้าทายลงอย่างปลอดภัย
แต่โชคของกองกำลังอื่นไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าพวกเขาจะเลือกความยากระดับสีแดงที่บันไดขั้นที่สองแล้วก็ตาม แต่หลายคนยังคงต้องเลือกระดับสีเหลือง และไปพบกับสัตว์ประหลาดที่อันตรายมาก ซึ่งเป็นผลให้เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นมีหลายคนต้องเสียชีวิตลง
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นติ่งวิลล่าแทบไม่มีการสูญเสียเลย กองกำลังอื่นก็ถึงกับกัดฟันด้วยความเกลียดชัง
แต่คราวนี้รางวัลที่ได้แปลกมาก ทุกคนได้ของสามอย่าง
หนึ่งคือยาระบายความร้อนเต็มรูปแบบ (ผู้แปล - ทำให้ทักษะที่ใช้ไปแล้วเย็นลงเพื่อให้ใช้ได้ใหม่ได้เร็วขึ้น) อีกหนึ่งคือยาฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณ และสุดท้ายคือแผ่นป้ายที่มีตัวเลขอยู่ด้านบน
ทุกคนไม่รู้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ และไม่รู้ว่าทำไมรางวัลครั้งนี้ถึงเป็นของพวกนี้ ซึ่งเป็นรางวัลแบบเดียวกันทั้งหมด มีเฉพาะระดับของยาฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณกับตัวเลขบนป้ายเท่านั้นที่ต่างกัน หลายคนมองดูแล้วเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ และพบว่าตัวเลขบนหน้าอกของผู้วิวัฒนาการระดับหนึ่งดาวคือ 1 และผู้วิวัฒนาการระดับหกดาวคือ 6
“ช่วงเวลาโบนัส: ล่าสมบัติ”
ราวกับรู้คำถามของคนเหล่านี้ รูเล็ตจึงเริ่มให้คำแนะนำ แต่พอได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของทุกคนก็ยิ่งไม่ค่อยดี
“โบนัสเวลา: คะแนน”
“กฎข้อที่ 1 สมบัติที่ร่วงหล่นแสดงถึงคะแนนที่แตกต่างกันตามระดับ รับสมบัติเพื่อรับคะแนนที่เกี่ยวข้อง”
“กฎข้อที่ 2 ทุกครั้งที่ฆ่าสมาชิกทีมอื่น จะได้รับคะแนน”
“กฎข้อที่ 3 คะแนนที่ได้รับจะแสดงไว้ที่ป้ายบนหน้าอก กองกำลังที่มีคะแนนรวมมากที่สุด จะเข้าสู่ความท้าทายสูงสุดของสนามแข่งขันรูเล็ตมรณะ”
“กฎข้อที่ 4 เวลาสะสมคะแนนคือสองชั่วโมง ล้มเหลวคือตาย”
เสียงเตือนดังขึ้นในใจของทุกคน ซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึงมากยิ่งขึ้น มีเพียงเย่จงหมิงที่ยืนกอดอกอยู่เท่านั้นที่รู้ล่วงหน้า จึงไม่แสดงท่าทางใดๆ ราวกับว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา
“เวลาเตรียมตัวคือ 5 นาที เริ่มนับถอยหลัง…”
เสียงของรูเล็ตดังขึ้นอีกครั้ง เพื่อเริ่มต้น และร่างกายของหลายคนก็เริ่มสั่นสะท้าน
บันไดขั้นนี้ มีเพียงกองกำลังเดียวเท่านั้นที่จะผ่านไปได้ ส่วนที่เหลือต้องตาย!
ตอนที่คนเหล่านี้มาที่อวิ๋นติ่ง พวกเขามาด้วยท่าทีแห่งผู้มีชัย พวกเขามีข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง ด้วยไพ่ลับหลายใบที่สามารถทำให้ผู้คนหมดหวัง แต่ใครจะคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น!
ยกเว้นกองกำลังเดียวที่จะรอด ส่วนที่เหลือทั้งหมดต้องตาย… แต่กองกำลังเดียวที่รอดชีวิตยังต้องเผชิญกับความท้าทายสุดท้ายที่ไม่มีใครรู้จัก แม้แต่คนโง่ยังรู้ว่าการท้าทายนั้น จะต้องเป็นการท้าทายด้วยชีวิตและความตายอย่างแน่นอน
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของคุณด้วยใช่ไหม?”
เฉิงเทียนจี้ผู้ที่เกือบพูดได้ว่าหวงคำพูดราวกับทองคำ เดินไปข้างหน้าแล้วถามเย่จงหมิง เย่จงหมิงที่อยู่ไม่ไกลยิ้มเยาะเล็กน้อย ในเวลานี้ภายในดวงตาของผู้นำกองทัพเหยาที่ห้าอันรุ่งโรจน์มีความตกใจอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดไม่ถึงว่าชายผู้คืนชีพออกมาจากอาณาจักรลับจะโหดร้ายต่อตัวเองและโหดเหี้ยมต่อผู้อื่นยิ่งกว่า!
เย่จงหมิงยักไหล่ยอมรับ
โฉ่วจื่อซ่งกับดร.เหอก็มองมาเช่นกัน แล้วพวกเขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆเฉิงเทียงจี้ และพากันมองดูชายหนุ่มที่ผลักพวกเขามาจนสุดขอบเหว
“แกกลับมาตั้งหลายวันแล้ว แต่จงใจไม่ปรากฏตัว เพียงเพื่อส่งพวกเราและตัวแกรวมถึงลูกน้องของแกมายังพื้นที่แห่งความตายนี้ แน่ใจหรือว่าคนสุดท้ายที่ได้ออกไปจากที่นี่คืออวิ๋นติ่งวิลล่าของพวกแก?”
ในเสินถัง ดร.เหอถูกเรียกว่าหมอบ้า นอกเหนือจาก BOSS ใหญ่แล้ว ดร.เหอคือหมายเลข 2 ครั้งนี้ที่เขามายังอวิ๋นติ่งนอกเหนือจากคำเชื้อเชิญกับความแค้นครั้งก่อนแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การทดสอบความสามารถและรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมของสัตว์ประหลาดดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งสัตว์ประหลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลงานของเขา
แต่ใครจะคิดว่าเขาจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้ ตอนนี้เขาต้องยอมรับว่าชายหนุ่มคนนี้บ้ายิ่งกว่าเขาและยังเป็นตัวตนที่บ้าจนถึงแก่น
ตัวตนแบบนี้ ดร.เหอกับคนอีกจำนวนไม่น้อยต่างคุ้นเคยดี ผู้คนไม่มากก็น้อยที่อยู่รอบตัวในเวลานี้ ต่างมีตัวตนแบบนี้อยู่ในตัว เพราะผู้รอดชีวิตเหล่านี้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด ซอมบี้ และความตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งทำให้จิตใจเปลี่ยนจากความเฉยเมยกลายเป็นสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้าคลั่งสุดขั้ว ดุร้ายสุดขั้ว เด็ดเดี่ยวสุดขั้ว แต่ก็ไม่มีใครบ้าถึงขนาดเย่จงหมิง
ราวกับว่า… เขาเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในวันโลกาวินาศมาเป็นเวลานาน และถูกตัวตนแบบนี้เข้าครอบครองโดยสมบูรณ์ แล้วมาเกิดใหม่ในปัจจุบัน