ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 87 เทศกาลบุปผาเมืองเมเปิ้ล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 89 สถานะของหลู่หยุนเหอ

MDB ตอนที่ 88 ขอบคุณที่ไม่แต่งงานกับเขา


กำลังโหลดไฟล์

"นี่เจ้า!" ซูคานเริ่มหงุดหงิด

เขาจำหญิงสาวคนนี้ได้ เธอคือเฉินหยวนหยวนซึ่งมักจะมีเรื่องขัดแย้งกับน้องสาวของเขา ซูหยิงหยิง ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของเฉินเหวินหลินแห่งห้องโถงยาเฉิน เธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยเสียมาตลอด เธอมีบุคลิกที่เย่อหยิ่งและเจ้าอารมณ์

เมื่อพูดถึงห้องโถงยาเฉิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลที่โดดเด่นภายในเมืองเมเปิ้ลอย่าง ตระกูลซูหรือตระกูลเกาได้แต่พวกความนับหน้าถือตาพวกเขาก็ไม่ไกลจากสองตระกูลนี้มากนัก

ในแง่ของทรัพย์สิน ห้องโถงยาเฉินเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดและมีฐานะร่ำรวย สิ่งเดียวที่พวกเขาขาดคือภูมิหลังอันสูงส่ง

ท้ายที่สุด บรรพบุรุษของตระกูลเฉินนั้นเป็นคนจนและเป็นเพราะความสามารถของเฉินเหวินหลินที่ทำให้ธุรกิจของตระกูลเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้

ตอนนี้หลายคนกำลังจับตาดูอยู่ ในฐานะผู้ชาย ซูคานไม่สามารถโต้เถียงกับผู้หญิงอย่างเฉินหยวนหยวนในที่สาธารณะได้ ดังนั้นเขาจึงสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่ใส่ใจ

“ฮึ! ข้าขอปฏิเสธที่จะโต้เถียงกับคนไม่ปกติเช่นเจ้า”

จากนั้น ซูคานก็หันมาถามหลินจินอย่างเงียบ ๆ ว่า "พี่หลิน ท่านมีความแค้นกับเธอหรือไม่?"

หลังจากใช้นึกเพียงสักครู่ หลินจินก็ส่ายหัว ย้อนกลับไปในตอนนั้น เฉินเหวินหลินทำหน้าที่เป็นผู้จับคู่ของพวกเขา แถมยังเป็นตระกูลเฉินที่ยกเลิกงานหมั้น หากจะมีความแค้นจริง ๆ มันควรจะเป็นเจ้าของร่างเก่าต่างหากที่มีความขุ่นเคืองต่อพวกเขา

“แล้วพี่หลิน รู้จักกับเธอได้อย่างไร?” ซูคานรู้สึกสับสน

เป็นเรื่องยากสำหรับหลินจินที่จะอธิบาย หากพูดอย่างเคร่งครัด เรื่องของพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขา

"ไปกันเถอะ!" หลินจินรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีหัวไว้กั้นหู เธอเป็นมีอารมณ์ขึ้นลงไม่ต่างจากคนบ้า กล่าวอีกนัยหนึ่งการพยายามให้เหตุผลกับคนบ้าจะเป็นการเสียเวลาเปล่า สิ่งเดียวที่ต้องทำคือควรอยู่ให้ห่างจากเธอ

อย่างไรก็ตาม เฉินหยวนหยวนจะไม่ยอมให้เรื่องจบลงแบบนี้

“หลินจินยืนตรงนั้น! เจ้าจงอธิบายสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของเจ้าทำกับเจียงจวินของข้าเมื่อก่อนหน้านี้เดี๋ยวนี้! ตั้งแต่นั้นมา เจียงจวินของข้าก็หดหู่มากจนแม้แต่เสียงเล็กน้อยก็ทำให้มันตกใจ มันไม่สามารถกินหรือนอนหลับได้ สาเหตุที่ทำให้มันเป็นเช่นนี้ มันเป็นเพราะเจ้าทำอะไรกับมันใช่หรือไม่? เจ้าคิดว่าจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ง่าย ๆ อย่างงั้นหรือ? ถ้าเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับข้าล่ะก็ เจ้าอย่าคิดที่จะไปไหน!”

หลินจินไม่ได้ทำอะไรเลยในครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกัน หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งหลินจินก็ตระหนักว่าเสี่ยวฮั่วต้องใช้ทักษะการกำราบสัตว์วิเศษระดับสามของมันเพื่อทำให้จิ้งจอกแผงคอที่ดุร้ายเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเป็นลมหมดสติไป

อย่างไรก็ตาม มันเป็นผลลัพธ์จากการที่ผู้หญิงคนนี้ได้สั่งการให้สัตว์เลี้ยงของเธอทำร้ายเขา

เขาควรจะยืนอยู่ที่นั่นและปล่อยให้สัตว์ร้ายกัดเขางั้นหรือ?

ผู้หญิงคนนี้ยังคงยั่วยุเขาอย่างไม่ลดละและหลินจินก็ไม่หวั่นไหว

ใช่ เธอเป็นผู้หญิงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะพูดเรื่องไร้สาระได้ไม่สิ้นสุด

เพียงเพราะหลินจินปฏิเสธที่จะท้าทายผู้หญิงโรคจิตผู้นี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลัวเธอ

“เฉินหยวนหยวน เจ้าส่งจิ้งจอกแผงคอของเจ้ามาโจมตีข้าด้วยความเย่อหยิ่งและไร้เหตุผลแต่ยังดีที่สัตว์วิเศษที่ไร้ประโยชน์ของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ มันตกใจกับออร่าของสัตว์วิเศษของข้า เจ้าสามารถตำหนิใครในเรื่องนี้ได้บ้าง? แต่ถึงกระนั้น ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้เรียนรู้บทเรียนของเจ้าเลย เมื่อเห็นว่าเจ้ายังยืนอยู่ตรงนี้และตั้งใจยั่วยุข้า ข้าจะพูดเจ้าฟังตรง ๆ อย่างไร้ความปรานีและแนะนำให้เจ้าเลิกทำเช่นนี้เสียก่อนที่มันจะสายเกินไป หยุดปล่อยให้ความผิดพลาดของเจ้ากองพะเนินเทินทึกได้แล้ว!”

ด้วยศีรษะของเขาที่สูง ท่าทางและน้ำเสียงของเขาทำให้ดูเหมือนว่าหลินจินกำลังสอนรุ่นน้อง

เขาทำมันโดยตั้งใจ

ไม่อย่างนั้นเขาควรจะโต้เถียงกับเธอแทนดีหรือไม่?

เธอสมควรได้รับความสนใจจากเขามากขนาดนั้นเลยหรือ?

อย่างไรก็ตาม เฉินหยวนหยวนแสดงท่าทีโกรธเคืองทันทีที่หลินจินพูดจบ

“หลินจิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้ามาสั่งสอนข้า? เจียงจวินกัดเขา!” เฉินหยวนหยวนต้องการส่งสัตว์วิเศษของเธอจู่โจมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง แต่ทว่าเจียงจวินยังคงบอบช้ำจากการเผชิญหน้ากับเสี่ยวฮั่วและเหตุการณ์นั้นผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มันจะเอาความกล้าจากไหนไปโจมตีหลินจินอีกครั้ง

ดังนั้น ไม่ว่าเฉินหยวนหยวนจะสั่งกี่ครั้ง เจ้าจิ้งจอกแผงคอก็ยังคงอยู่กับที่

เฉินหยวนหยวนลุกขึ้นด้วยความโกรธ เธอคิดว่าเจียงจวินจงใจทำให้เธออับอาย เธอหยิบแส้และฟาดฟันใส่สัตว์วิเศาของเธออย่างโหดเหี้ยม

"เจ้าขยะ! กัดเขา! ลุกขึ้น ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

แส้ยังคงแผดเสียงต่อไปและในไม่ช้า สัตว์วิเศษของเธอก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ผู้ชมรู้สึกไม่สงบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่หลินจินก็ส่ายหัวในขณะที่เขารำพึงว่าจิ้งจอกแผงคอตัวนี้โชคไม่ดีที่อยู่กับเจ้าของที่ไร้ความปรานีเช่นนี้ ช่างน่าเสียดาย มันจิ้งจอกแผงคอมีความแข็งแกร่งปานกลางและไม่ใช่สัตว์หายาก ดังนั้นมันจึงไม่อาจทำลายพันธสัญญาโลหิตของมันด้วยตัวเขาเอง มันทำได้เพียงถูกกระทืบอย่างน่าสมเพชเท่านั้น

"ไปกันเถอะ!" หลินจินไม่สามารถทนดูฉากนี้ได้อีกต่อไป

ทันใดนั้น เฉินหยวนหยวนก็โยนแส้ของเธอทิ้งและหันไปหาหลินจินและตะโกนว่า

“เจ้าขยะหลินจิน! เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมตระกูลเฉินของเราจึงเลือกที่จะยกเลิกการหมั้นในตอนนั้น? มันเป็นเพราะข้าไม่ได้คิดพิศวาสอะไรกับเจ้า แม้เจ้าจะเป็นผู้ประเมินแต่เจ้ากลับถูกดูหมิ่น อ่อนแอและปฏิเสธที่จะพัฒนาตนเอง ถ้าข้าแต่งงานกับเจ้า ข้าคงกลายเป็นตัวตลก สามีที่ข้า เฉินหยวนหยวนต้องการคือคนที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศแก่ข้าได้ เขาต้องเป็นคนที่สามารถนำครอบครัวเฉินของข้าไปสู่ความสำเร็จได้และเจ้าเป็นเพียงผู้แพ้ที่ไม่มีใครต้องการ!”

เธอกัดฟันและตะโกนออกมา ผู้หญิงคนนี้ช่างมีจิตใจที่แน่วแน่อย่างแท้จริง

เธอเพิ่งสร้างความเสียหายแบบเดียวกันนี้ให้กับตัวเองด้วยการทำเช่นนี้ไม่ใช่หรือ

สมองของเธอคงจะมีปัญหาจริง ๆ ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่โพล่งเรื่องส่วนตัวแบบนี้ต่อหน้าคนจำนวนมากได้

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนี้สร้างความเสียหายได้ค่อนข้างมาก หากเป็นหลินจินคนก่อน เขาอาจจะกระอักเลือดด้วยความโกรธ ท้ายที่สุด การมีอดีตคู่หมั้นทำให้คุณต้องเสียชื่อเสียงในที่สาธารณะ เยาะเย้ยคุณด้วยการเรียกคุณว่าไร้ค่าและไร้ความสามารถ แม้แต่ชายที่อดทนมากที่สุดในโลกก็ไม่สามารถรับการโจมตีได้ขนาดนี้โดยปราศจากการตอบโต้

แม้แต่หลินจินในปัจจุบันก็ยังรู้สึกรำคาญ

หลินจินคนปัจจุบันคือเขาและเขาคือหลินจิน

ทันใดนั้น กลิ่นหอมฟุ้งเมื่อมีคนเข้ามาจับแขนของหลินจิน แล้วพูดว่า “พี่หลิน พี่บอกว่าพี่จะรอข้าแต่ทำไมพี่ถึงมาก่อนล่ะเจ้าคะ?”

ดวงตาของซูคานเบิกกว้าง แม้แต่หลินจินก็ยังมึนงง

ผู้หญิงคนนี้ที่เกาะติดกับหลินจินมีเสียงที่ไพเราะและท่าทางที่ดูอ่อนช้อย เธอดูดีกว่าเฉินหยวนหยวนอย่างเทียบไม่ติดและไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลู่เสี่ยวหยุน

หลินจินรู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาชา 'เดี๋ยวนะ เสี่ยวหยุน เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?'

แต่ไม่นานนักที่เขาจะสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ในดวงตากลมโตที่สวยงามของหลู่เสี่ยวหยุน

'เข้าใจแล้ว.'

หลินจินยิ้มและยอมรับการเคลื่อนไหวของเธออย่างใจเย็น

จากนั้นหลู่เสี่ยวหยุนก็มองอย่างภาคภูมิใจไปที่เฉินหยวนหยวนที่กำลังอ้าปากค้างและกล่าวว่า “บางคนไม่มีรสนิยมดีจริง ๆ และเพียงแค่พลาดในท้ายที่สุด เจ้าอิจฉาความสำเร็จของพี่หลินของข้าสินะ เจ้าเลยต้องการเขากลับไปใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำไม่ได้เลยใช้ทุกวิถีทางเอาตัวเขากลับไปสินะ ไม่อย่างนั้น เจ้าคงไม่ไร้ยางอายถึงขนาดพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ในที่สาธารณะหรอก เจ้าบอกว่าหลินจินไร้ค่า? หลินจินของข้าเป็นถึงผู้ประเมินระดับสองที่มีอนาคตกว้างไกล เจ้าคงไม่สามารถใช้เขาเป็นบันไดสู่ความสำเร็จดั่งที่เจ้าต้องการได้อีกแล้ว แม้ว่าเจ้าจะต้องการมากแค่ไหนก็ตาม”

ซูคานสูดอากาศเย็นเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เมื่อแลกเปลี่ยนสายตากับหลินจิน พวกผู้ชายก็เข้าใจจากสายตาของกันและกัน

'การต่อสู้ของผู้หญิงช่างน่ากลัวอย่างแท้จริง พระเจ้า…มันช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้!’

ใบหน้าของเฉินหยวนหยวนซีดลงด้วยความโกรธ จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “นังผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหนมีเทือกเถาเหล่ากอมาจากอะไร ทำไมถึงกล้าพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ออกมาได้? คนอย่างหลินจินน่ะเหรอ? เป็นผู้ประเมินระดับสอง ด้วยทักษะอันน้อยนิดของเขา ถ้าเขาเป็นผู้ประเมินระดับสองได้ พระอาทิตย์ต้องขึ้นจากทิศตะวันตกและหมูก็คงโบยบินไปแล้ว!”

สีหน้าออกของหลู่เสี่ยวหยุนมืดลงและเธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อไปตบหน้าของเฉินหยวนหยวนอย่างเต็มแรง

เสียงตบนั้นชัดเจน คมชัดและแม่นยำ

เฉินหยวนหยวนตกตะลึง

“นี่สำหรับปากเน่า ๆ ของเจ้า หลินจินเป็นผู้ชาย เขาจึงไม่เต็มใจที่จะจัดการกับผู้หญิงเช่นเจ้าแต่ถ้าเจ้ายังไม่ระวังปากอยู่อย่างนี้ล่ะก็ ระวังตัวให้ดีเพราะข้าอาจทำให้เจ้าเจ็บตัวได้”

ด้วยท่าทางที่เย็นชาของเธอ หลู่เสี่ยวหยุนเป็นเหมือนเสือดาวตัวเมียที่กินเนื้อเป็นอาหาร

“นอกจากนี้ ข้าบอกคุณบางอย่างในนามของหลินจิน ไม่ใช่ว่าเขาไม่คู่ควรกับเจ้าแต่เป็นเจ้าต่างหากที่คู่ควรกับเขาและสุดท้าย ข้าต้องขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่เจ้าได้ทำ ขอบคุณที่แสดงความเมตตาต่อเขาโดยที่ไม่แต่งงานกับเขา!”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด