603 - กลับสู่โลกภายนอก
603 - กลับสู่โลกภายนอก
เย่ฟ่านกำลังจะจากไป แต่ก่อนหน้านั้นเขาปีนขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าและขุดรากศักดิ์สิทธิ์เก้าส่วนออกมา ของชิ้นนี้มีคุณค่าเขาสามารถนำมาช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย
นอกจากนี้น้ำพุแห่งชีวิตทั้งเก้าแห่งก็สามารถยืดชีวิตของผู้คนซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ และเขาจะไม่มีวันลืมน้ำพุเหล่านั้นโดยธรรมชาติ
เขานำขวดหยกมาทั้งหมดเก้าขวด ซึ่งเพียงพอสำหรับเก็บน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าแห่งโดยไม่ปล่อยให้พวกมันปะปนกัน
ขวดหยกทั้งเก้าขวดเป็นเพียงภาชนะธรรมดาทำให้มันไม่สามารถกักเก็บน้ำพุได้มากมายเท่าไหร่
ถึงอย่างนั้นเย่ฟ่านก็พอใจมาก เขาได้รับรากยาศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งผลไม้มากมายยังมีอะไรที่เขาไม่พอใจอีกบ้าง?
ตั้งแต่สมัยโบราณ ปรมาจารย์เก่าแก่จำนวนมากได้เข้าสู่พื้นที่ต้องห้ามของชีวิตในวัยชราราวกับแมลงเม่าเข้ากองไฟ เคยมีผู้ใดปรากฏออกสู่โลกอีกครั้ง?
บางทีเมื่อรวมกับเย่ฟ่านเข้าไปแล้ว ผู้คนที่สามารถออกจากที่นี่อาจจะมีจำนวนไม่เกินนิ้วในมือข้างเดียวด้วยซ้ำ
"ได้เวลาออกเดินทางแล้ว..."
เย่ฟ่านยืนอยู่บนก้นเหวโบราณ จ้องมองที่แท่นบูชาห้าสีในความมืด เขาหักห้ามใจตัวเองไม่ให้กระโดดลงไปในแท่นบูชา 5 สีนั้น ใครจะรู้ว่ามันสามารถพาเขากลับสู่โลกใบเดิมได้หรือไม่?
ผ่านไปนานในที่สุดเย่ฟ่านก็ไม่สามารถตัดใจได้ เขาเดินทางกลับไปที่บ่อน้ำพุเพื่อกักเก็บน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ให้มากกว่าเดิม แต่แล้วสายฟ้าจากสวรรค์ก็ฟาดลงมาอย่างรุนแรง!
ปัง!
“ข้านึกว่าพวกเราสนิทกันแล้ว ทำไมสวรรค์ถึงต้องขัดขวางข้าในทุกๆเรื่อง!” เย่ฟ่านสาปแช่ง
ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เทือกเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่ถูกกระทบจนสั่นสะเทือน และภูเขาในบริเวณนี้พังทลายกลายเป็นฝุ่นโดยสายฟ้าทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างแห้งแล้งลงทันที
เช่นเดียวกับครั้งสุดท้ายเย่ฟ่านรู้ดีว่าสายฟ้าพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเขาโดยตรง สวรรค์เพียงแสดงความไม่พอใจที่เขาไม่รู้จักพอและคิดจะเก็บสมบัติล้ำค่ามากกว่านี้
พื้นที่ภูเขานี้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ มันเป็นเหมือนฉากสิ้นสุดของโลก ยกเว้นเย่ฟ่านที่ยืนอยู่เพียงลำพัง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดแม้กระทั่งทาสรกร้างก็ยังหนีหายจนหมดสิ้น
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร คราวนี้เขาได้รับการเปลี่ยนแปลงร่างกายครั้งใหญ่ สายฟ้าเหล่านี้ไม่สามารถสร้างผลกระทบให้เขาได้
เมื่อทุกอย่างสงบลง เขาก็เขย่าร่างของตัวเองเบา ๆ และร่างกายที่บาดเจ็บก็ฟื้นขึ้นมาทันทีด้วยสีมงคลที่ผลิบานไปทั่วร่างกาย
“มันควรจะเบาสบายมากกว่านี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของข้ายังไม่เพียงพอ…”
เย่ฟ่านไม่พอใจเท่าไหร่ หากผู้อื่นมาได้ยินคำพูดของเขา คนๆนั้นคงกระอักเลือดด้วยความแค้นใจอย่างแน่นอน
โชคดีที่สถานที่แห่งนี้ยังอยู่ห่างจากโลกภายนอกพอสมควร มิฉะนั้นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้จะดึงดูดผู้คนจำนวนมาก หากผู้คนรู้ว่าเขาได้เก็บเกี่ยวผลศักดิ์สิทธิ์มากมายมันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
เย่ฟ่านเดินเข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์ เมื่อเดินผ่านกำแพงหินเย่ฟ่านก็หยุดและนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอันไกลโพ้น
เพื่อนร่วมชั้นที่มายังโลกนี้ด้วยกันตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เขาถอนหายใจเบา ๆ และหายเข้าไปในป่า
ข้างหน้าระยะทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีตำหนักเซียนปรากฏขึ้น วังขนาดมหึมานั้นซ้อนกันอยู่ในก้อนเมฆเป็นความงามที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง
เย่ฟ่านพยายามจะเข้าใกล้ แต่เช่นเดียวกับในอดีต วังโบราณนั้นยังคงเว้นระยะห่างจากเขาเท่าเดิม ไม่ว่าเขาจะใช้ความพยายามเท่าไหร่ระยะทางก็ดูเหมือนจะไม่ใกล้เข้ามาแม้แต่น้อย
เย่ฟ่านจากไปสามเดือนแล้ว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นช่วงนี้ คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาตายแล้ว และเขาต้องการออกไปโดยเร็วที่สุด
เมื่อเขากำลังจะออกจากป่าโบราณ เขาพบผู้ฝึกตนบางคนและพวกเขาก็ปิดกั้นสถานที่นั้นไว้
เย่ฟ่านประหลาดใจและหลีกเลี่ยงอย่างเงียบๆ เขาไม่ต้องการสร้างปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตามในบริเวณใกล้เคียงกับมีใครบางคนตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ไว้ ซึ่งมันเปิดเผยตัวตนของเขาทันที
“เจ้า... มานี่!”
ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองในป่ายืนอยู่ไม่ไกลและตะโกนบอกเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านชำเลืองมองฝ่ายตรงข้ามด้วยหางตา เขาไม่สนใจคนโง่เหล่านี้และเดินออกจากป่าอย่างสง่าผ่าเผย
“ข้าบอกให้เจ้ามานี่ หูแตกหรือยังไง!” ชายหนุ่มโกรธและตะโกนใส่เย่ฟ่าน
“เจ้าเป็นใคร เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาตะโกนต่อหน้าข้า” เย่ฟ่านมองเขาอย่างเย็นชา
ชายหนุ่มตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นเขาก็เยาะเย้ยโดยกล่าวว่า
“นิกายสูงสุดหลายแห่งปิดกั้นสถานที่อย่างนี้อย่างแน่นหนา ทุกคนรู้ในโลกต่างก็รู้เรื่องนี้ดี แต่เจ้ากล้าที่จะบุกเข้ามา เจ้าคงรำคาญในการมีชีวิตอยู่!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่ฟ่านก็เผยรอยยิ้มเล็กๆ โดยไม่กล่าวอะไรเพิ่มเติม
“ความตายใกล้เข้ามาแล้ว เจ้ายังกล้าหัวเราะอยู่!” ชายหนุ่มเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ช่างเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ป่าบนภูเขาแห่งนี้เป็นดินแดนที่ไม่มีเจ้าของ เมื่อข้าเดินเข้ามา ข้ายังต้องเกรงใจใครอีก” เย่ฟ่านกล่าวอย่างใจเย็น
“เด็กน้อยที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย! เจ้าไม่รู้จริงๆเหรอ? นิกายหยินหยางและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตงหวง(ดินแดนรกร้างตะวันออก)ได้ร่วมมือกันปิดกั้นสถานที่เพื่อให้ผู้คนเข้ามาคัดเลือกยาศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากล้าฝ่าฝืนคำสั่งของพวกเขา!”
เย่ฟ่านตกใจมาก สามเดือนผ่านไปชั่วพริบตา นิกายหยินหยางยังคงไม่ยอมแพ้พวกเขาเลือกที่จะร่วมมือกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์สามแห่งในตงหวงเพื่อทำการใหญ่ให้ลุล่วง
“ในเมื่อเจ้าคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งโดยไม่เจียมตัว เจ้าก็ไปลงนรกเถอะ!”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นและเปิดใช้งานค่ายกลในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสังหารเย่ฟ่าน
“ชัว”
เย่ฟ่านใช้ทักษะความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่เดินตัดผ่านประตูมิติและเข้าประชิดตัวชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
ปัง!
ฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่ของเขาบดขยี้ชายหนุ่มคนนั้นจนแหลกละเอียดไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะส่งเสียงร้องเป็นครั้งสุดท้าย
"เกิดอะไรขึ้น?”
ชายชราคนหนึ่งพาชายหนุ่มเจ็ดคนบินเข้ามาในป่าด้วยท่าทางร้อนรน
“เจ้าเป็นใคร?”
ชายชราเห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมืออาณาจักรลึกลับแปลงมังกร ใบหน้าของเขามืดลง เขาเดินเข้าหาเย่ฟ่าน พลิกฝ่ามือแล้วตบออกไปเบาๆ
เย่ฟ่านหัวเราะอย่างกะทันหัน มีใครบางคนกล้าที่จะต่อสู้กับเขาในระยะประชิด เรื่องนี้เขายินดีน้อมสนองอยู่แล้ว
"ปัง!”
ฝ่ามือสีทองของเขากระแทกเข้าใส่กำปั้นของชายชราจนทำให้แขนของฝ่ายตรงข้ามแหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ และร่างกายของชายชราคนนั้นก็กระเด็นออกไปไกลกว่าสิบลี้โดยไม่ทราบชะตากรรม!
ชายชราคนนี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพราะการประเมินตัวเองที่สูงส่งมากเกินไปจนเป็นเหตุให้เขาพบกับความอัปยศในครั้งนี้
“เจ้าเป็นใคร?”
คนอื่นๆหน้าเปลี่ยนสี ผู้อาวุโสอาณาจักรแปลงมังกรถูกทำร้ายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ความแข็งแกร่งของคนคนนี้จะไม่น่ากลัวเกินไปหรือ?
“พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นสีทอง เขาคือ เขาคือ... ร่างกายศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ!”
“อะไรนะ เขายังไม่ตายอีกเหรอ?”
เด็กหนุ่มเหล่านั้นอุทานด้วยความกลัวก่อนจะแยกย้ายกันหนีโดยไม่ต้องส่งเสียงเตือน
"ปัง ปัง!"
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถหนีไปได้ไกล มือใหญ่ของเย่ฟ่านดันขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่คนเหล่านี้จะวิ่งออกไปหลายสิบก้าว พวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็นหมอกเลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายวางแผนจะก่อการใหญ่ที่นี่ น่าเสียดายที่พวกเขาต้องล้มเหลว” เย่ฟ่านหัวเราะเบาๆ
“ชู”
เขาหายตัวเข้าไปในป่าทึบ และเข้าไปในเมืองหลวงเอี๋ยนหลังจากนั้นไม่นาน
เมื่อเย่ฟ่านกลับมาที่เมือง เขาได้ยินข่าวมากมายและหลายคนก็พูดถึงเรื่องนี้
นอกจากนิกายหยินหยางและสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ราชวงศ์ฮั่วก็ยังไม่จากไป รวมทั้งนิกายสำคัญอื่นๆต่างก็จับจ้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตาเป็นมัน
“ข้าไม่เชื่อว่าเด็กน้อยนั่นจะตายแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ต้องกลับมาอยู่ดี...”
ในร้านเหล้าของจางเหวินชาง จี้ฮุยเดินเข้ามาด้วยไม้ค้ำยันและกวาดตามองจางเหวินชางอย่างดูถูก
“ไม่นึกว่านางเฒ่านี้จะมารนหาที่ตายด้วยตัวเอง!”
ทันทีที่เย่ฟ่านปรากฏตัว ไอสังหารของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว