479 จบบริบูรณ์ เปิดตอนฟรี
5/5
Ep.479 (จบบริบูรณ์)
“อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีความผิด ถ้าไม่อยากตาย หน้าที่ขัดขวางดาวเคราะห์อสูรไม่ให้รุกรานเข้ามาขอฝากไว้กับแก” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ได้ยินคำนี้ ในใจเฟลิซาบังเกิดความรู้สึกขื่นขม
ต้องรู้นะว่า พลังรบโดยรวมของดาวเคราะห์อสูรนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าโลกของเขาเลย
อย่างไรก็ตาม เฟลิซาไม่อาจปฏิเสธ ทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำยอม “น้อมรับคำสั่งนายท่าน”
ฉู่เซวียนพยักหน้า ก่อนฉีกมิติและออกจากสถานที่แห่งนี้ไป
เหม่อมองไปยังทิศทางที่ฉู่เซวียนจากลา เฟลิซาไม่ได้เอ่ยคำใดเป็นเวลานาน
“นายท่าน พวกเราควรทำอย่างไรดี?” ในที่สุด โครงกระดูกสีทองที่เหมือนจะเป็นผู้นำกองทัพค่อยๆลอยเข้ามาใกล้เฟลิซา เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“พวกเราจะทำอะไรได้อีก” เฟลิซาบ่นอย่างไม่พอใจ “ระดมกองทัพขุมนรกและพวกอมนุษย์ทั้งหมด เดินหน้าบุกดาวเคราะห์อสูรกับฉัน!”
“ยินดีทำตามพระประสงค์ท่าน!” เปลวไฟวิญญาณในเบ้าตาโครงกระดูกสีทองกระพริบไหว ขยับตัวล่าถอยออกไป
“อิลลา ที่แท้เธอก็ทิ้งไพ่ตายนี้เอาไว้ ฉันขอยอมแพ้ ...”
เฟลิซากระพรือปีกขนนกสีดำเบื้องหลัง แล้วร่างของเขาก็หายไป ทิ้งไว้เพียงเสียงทอดถอนหายใจดังก้องในอากาศ
...
เมื่อฉู่เซวียนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เจียงชิงเซว่และคนอื่นๆต่างถอนหายใจโล่งอก
“ตอนนี้ทุกอย่างกำลังถูกแก้ไข” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันนึกออกแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง หลังอานที่เงียบไปนานได้โพล่งออกมา แววตาดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนต่างอยากรู้ในสิ่งที่มันเอ่ย
“ว่ายังไง นายจำอะไรได้?” ฉู่เซวียนเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ตัวตนของฉันในชาติที่แล้ว แท้จริงคือผู้รับใช้ของเทพธิดา หน้าที่ฉันคือดูแลหินคริสตัลที่เทพธิดามอบให้ แต่ฉันดันทำมันหาย” หลังอานกล่าวด้วยท่าทีเก้อเขินเล็กน้อย
“ส่วนหอคอยแห่งการทดสอบนี้ ที่จริงแล้วมันคืออาวุธของเทพธิดา พลังอำนาจของมันไม่อาจมองข้าม อีกทั้งยังมีความลับบางอย่างที่เทพธิดาทิ้งเอาไว้”
ฉู่เซวียนพอเข้าใจอยู่บ้าง คาดว่าหินคริสตัลที่หลังอานพูดถึงคงเป็นระบบ แต่งั้นเรื่องหอคอยแห่งการทดสอบเล่า?
ฉู่เซวียนเอ่ยถามอย่างสงสัย “แล้วฉันจะรับเอาอาวุธของเทพธิดามาใช้งานได้ยังไง?”
“ต้องผ่านทั้ง 100 ชั้น” หลังอานตอบกลับ
ฉู่เซวียนพยักหน้า ด้วยพลังรบในปัจจุบันของเขา การผ่าน 100 ชั้นของหอคอยง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก
หลังจากนั้น ฉู่เซวียนได้บอกเล่าทุกคนถึงเรื่องที่เขารู้มา
พวกเจียงชิงเซว่หลังจากได้ยิน ว่าฉู่เซวียนแท้จริงแล้วเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดในอวกาศ ตอนแรกเธอตกใจ แต่หลังจากได้ฟังถึงแผนการตลอดหลายปีที่ผ่านมาของอิลลา คนอื่นๆต่างพากันถอนหายใจด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“พวกเราต้องบอกสิ่งมีชีวิตที่เหลือบนโลกให้รู้ถึงเรื่องนี้” ปิงเหลียนกล่าวเสียงขรึม
ฝูงชนพยักหน้าเห็นด้วย
เนื่องจากฉู่เซวียนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดแล้ว พวกจักรพรรดิยมโลก จักรพรรดิกระดูกและคนอื่นๆจึงพากันออกจากที่นี่ เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเขา
เมื่อฉู่เซวียนและพรรคพวกของเขากลับออกมาด้านนอกหอคอยแห่งการทดสอบ ก็พบว่ามีผู้แข็งแกร่งมากมายมารอที่นี่อยู่ก่อนแล้ว
แม้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน อย่างไรก็ตามข่าวลือได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว
เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายที่ฉู่เซวียนปล่อยออกมา ความรู้สึกตกใจอย่างแรงกล้าปรากฏขึ้นในสายตาของเหล่าผู้แข็งแกร่งในที่นี้
ภายใต้กลิ่นอายดังกล่าว พวกเขาไม่สามารถต่อต้านใดๆได้เลย
ฉู่เซวียนลอยอยู่บนฟ้า หันมองไปรอบๆ ประกาศก้อง “ทุกท่าน เวลาที่พวกเราต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอย่างแท้จริงได้มาถึงแล้ว”
จากนั้น ฉู่เซวียนได้เล่าให้พวกเขาฟังว่ามีหลายโลกกำลังคิดรุกรานโลกมนุษย์
เป็นไปตามคาด พอได้ยินข่าวนี้ แววตาของพวกซอมบี้ มนุษย์ และสัตว์กลายพันธุ์ล้วนเกิดความไม่เชื่อถือ เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นไม่หยุด
“อย่ามาล้อเล่นนะ! โลกอื่น? ฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก!”
“วันสิ้นโลกยังเกิดขึ้นแล้ว เรื่องพวกนี้ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล”
ปฏิกิริยาของเหล่าผู้แข็งแกร่งเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่เหนือความคาดหมายของฉู่เซวียน
เห็นแค่เพียงเขาโบกมือ รูปแบบชีวิตที่ดูเหมือนจะประกอบขึ้นจากโคลนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา มันคือปีศาจจากห้วงอเวจี
ปีศาจตนนี้ ฉู่เซวียนรวบมันเข้ามาในพื้นที่เก็บของระบบตอนไปเจอกับเฟลิซา มันมีระดับอยู่ประมาณเลเวล 5 ก็จริง ทว่าด้วยรูปลักษณ์อันน่าสยดสยองของมัน ทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัว นิ่งงันไม่กล้าขยับตัว
“นี่คือรูปแบบชีวิตของอีกโลกหนึ่ง” ฉู่เซวียนชี้ไปยังปีศาจโคลนจากโลกอเวจีแล้วกล่าว
จริงดังคาด หลังจากได้เห็นมัน ในที่สุดก็เริ่มมีเหล่าผู้แข็งแกร่งเชื่อคำพูดของฉู่เซวียน
“แต่ถึงมันจะเป็นเรื่องจริง แล้วพวกเราจะทำอะไรได้?”
“นั่นสิ หลายโลกบุกเข้ามา แล้วอาศัยแค่พวกเราจะต้านทานมันได้อย่างไร?”
เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับคำตอบของคำถามนี้ รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนใบหน้าฉู่เซวียน
เขารู้ดี ว่าตราบใดที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้เชื่อมั่น พวกเขาจะสามารถปกป้องโลกได้อย่างแน่นอน
“เนื่องจากรากฐานกฏเกณฑ์ของแต่ละโลกไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากสิ่งมีชีวิตจากโลกอื่นบุกเข้ามาที่นี่ พลังรบของพวกเขาจะอ่อนแอลงหลายระดับอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราคือผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติวันสิ้นโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมมีความสามารถในการต่อสู้มากกว่าพวกเขา” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยิ้ม
ได้ยินแบบนั้น เหล่าผู้แข็งแกร่งมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างเห็นเจตนารมณ์แห่งการต่อสู้ลุกโชนในสายตา
ถูกต้อง!
พวกเราเคยผ่านประสบการณ์วันสิ้นโลกมาแล้ว ถ้าโลกอื่นคิดครอบครองโลกมนุษย์ พวกเขาต้องถามก่อนว่าพวกเราเห็นด้วยหรือไม่!
“ต้องชนะ ... ต้องชนะ ...”
ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเริ่มตะโกน แต่คำๆนี้ค่อยๆดังขึ้น สุดท้ายกลายเป็นคำประกาศก้อง กังวานไปทั่วฟ้า
“แสดงให้โลกอื่นได้เห็น ว่าศักดิ์ศรีของโลกเราเป็นอย่างไร!” ฉู่เซวียนตะโกนลั่น
ภายใต้คำสั่งเขา เหล่าผู้แข็งแกร่งทยอยกันออกจากแอตแลนติส เดินทางกลับมายังโลก และเริ่มกระจายกองกำลังกันออกไปตามแผน
...
ณ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
รอยแยกมิติสีดำสนิทเริ่มอ้าออกจากส่วนลึกของมหาสมุทร น้ำทะเลมหาศาลถูกสูบเข้าไปข้างใน
ขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตที่ทำทั้งตัวทำจากโลหะก้าวออกมาจากมัน
ทว่าในวินาทีถัดมา ร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นจากในความมืดมิดใต้ท้องทะเล ตรงเข้าฉีกกระชากร่างโลหะเป็นชิ้นๆ
ในพริบตา เกิดเสียงระเบิดและประกายไฟวูบวาบไปทั่ว
และภายใต้แสงสว่างในช่วงเวลาสั้นๆนี้ มันได้เผยให้เห็นถึงร่างของสัตว์กลายพันธุ์ทางทะเลนับไม่ถ้วน มาดักโจมตีอยู่หน้าทางออกในจุดนี้
โดยผู้นำทัพของพวกเขา คือจักรพรรดิมารอมตะ เวลานี้เขาอยู่ในรูปลักษณ์ของปลาหมึกยักษ์ที่มีขนาดลำตัวยาวหลายกิโลเมตร อีกทั้งบนผิวชั้นนอกยังปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำสนิท
“ฆ่า!”
ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูด เสียงคำรามฮู้มมมม ดังขึ้น
ต่อจากนั้น สัตว์กลายพันธุ์ทางทะเลนับไม่ถ้วน กรูกันเข้าโจมตีศัตรูผู้มาเยือนอย่างบ้าคลั่ง
หนวดยักษ์ของจักรพรรดิมารอมตะโบกสะบัด ทุบทำลายสิ่งมีชีวิตจักรกลเละเป็นชิ้นๆ
...
อีกด้านหนึ่ง ณ เขาคุนหลุน , หุบเหวมรณะ , วัดมายัน และสถานที่อื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องลึกลับของโลก ได้เกิดรอยแยกมิติขึ้น
อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่มีคำสั่งของฉู่เซวียน สถานที่เหล่านั้นจึงได้รับการปกป้องโดยเหล่าผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกจากเผ่าซอมบี้ เผ่ามนุษย์ และเผ่าสัตว์กลายพันธุ์
อ้อ แล้วยังมีเผ่าเซิร์กที่ฉู่เซวียนเคยชุบเลี้ยงไว้เช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป เผ่าเซิร์กเหล่านี้ได้เกิดการพัฒนา กลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่ทรงพลังที่สุดในโลก
แน่นอน ฉู่เซวียนตระหนักดีถึงธรรมชาติของใจมนุษย์ที่แสนบิดเบี้ยว ดังนั้นเขาส่งหลังอานไปจับตามองตั้งแต่เนิ่นๆ
ตกอยู่ภายใต้สายตาของผู้แข็งแกร่งอย่างหลังอาน ไม่มีการทรยศหรืออุบัติเหตุใดๆเกินขึ้น
ส่วนฉู่เซวียน เขาทำการฉีกมิติ ฝ่ากำแพงกั้นระหว่างสองโลก แวะเข้าไปเยี่ยมเยือนโลกที่บุกเข้าโจมตีโลกมนุษย์ทีละโลก ทีละโลก
ภายใต้พลังรบอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของเขา สุดท้ายทุกสิ่งเป็นไปตามปรารถนา แม้จะเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ก็สามารถขจัดเหล่าทวยเทพที่ไม่ยอมศิโรราบได้สำเร็จ
แน่นอน ในบรรดาทวยเทพเหล่านั้น ก็ยังมีบางคนที่พูดจารู้เรื่อง หลายคนก็ไม่ใช่คนเลว พอได้ยินเรื่องการเสียสละของอิลลาต่างก็เศร้าเสียใจ พวกเขายอมรับในความผิดพลาด ว่าถูกบังคับให้ไม่มีทางเลือกนอกจากบุกโลกมนุษย์
...
ชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปหลายปีอย่างสงบ
ณ ขณะนี้ สงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว
ฉู่เซวียนอาศัยพลังอำนาจของสิ่งมีชีวิตจากอวกาศของเขา หลอมรวมทุกจักรวาลที่เขาเคยสร้างขึ้นในอดีตชาติเข้าด้วยกัน
และดาวเคราะห์โลก ได้กลายเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้
ส่วนอิลลา ฉู่เซวียนสามารถฟื้นคืนชีพเธอได้สำเร็จ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอคือเทพธิดาแห่งการรังสรรค์ของจักรวาลนี้ แม้เธอจะเสียสละตัวเอง แต่สุดท้ายก็ยังเหลือร่างโคลนทิ้งไว้ หรือก็คืออี้อี้นั่นเอง
นอกจากนี้ ในหอคอยแห่งการทดสอบ ฉู่เซวียนยังค้นพบเศษเสี้ยววิญญาณที่อิลลาทิ้งไว้ เมื่อมีทั้งร่างโคลนและเศษเสี้ยงจิตวิญญาณ การฟื้นคืนชีวิตจึงเป็นเรื่องง่ายมาก
...
ณ โลกมนุษย์
ตรงตำแหน่งเดิมซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเมืองตงเฉิง เวลานี้มันมิใช่ซากปรักหักพังเหมือนอย่างในอดีตอีกต่อไป
ตัวเมืองได้ถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นพื้นที่กว้างขวาง ทั้งยังดูไซไฟเหมือนกับในหนัง
ช่วงเวลานี้ สิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ได้มารวมตัวกัน ใบหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุข
ทุกสายตาต่างจ้องมองไปยังอาคารหลังหนึ่งที่ดูคล้ายปราสาทตั้งอยู่ใจกลางเมืองด้วยแววตาปิติยินดี
เพราะในวันนี้ คือวันคำสัญอย่างการแต่งงานของราชาเทพเจ้าฉู่เซวียน!
เทพหลายสิบองค์เฝ้ามองดูจากสองฟากฝั่ง ร่วมเป็นสักขีพยานในช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในจักรวาล
“ฉู่เซวียน คุณยินดีรับเจียงชิงเซว่และอันหยุนหลานเป็นภรรยาหรือไม่?”
“เจียงชิงเซว่ อันหยุนหลาน พวกคุณสองคนยินดีรับฉู่เซวียนเป็นสามีหรือไม่?”
วิญญาณมังกรในชุดสูทสีดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
หลายปีก่อน ฉู่เซวียนได้สร้างร่างใหม่แก่เขาแล้ว เวลานี้เขาอยู่ในรูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนที่เปี่ยมไปด้วยบารมี
“ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ทั้งสามเต็มใจจะอยู่ร่วมกันหรือไม่?”
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา หลังอานได้เอ่ยขัดจังหวะวิญญาณมังกร “เพ้ย! นายพูดเรื่องอะไร ฉู่เซวียนยังจะมีโอกาสได้ยากจนอยู่เรอะ?”
“ก็นั่นสินะ!”
ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะครืนดังขึ้นอย่างสามัคคี
ใบหน้าวัยกลางคนของวิญญาณมังกรแดงเรื่อ “ก็ในหนังสือมันเขียนแบบนี้ จะให้ฉันพูดยังไง! ได้ยินมาว่านี่คือหนึ่งในประเพณีแต่งงานของโลกมนุษย์ ....”
“ฉันตกลง!”
“ฉันตกลง!”
“ฉันตกลง!”
ฉู่เซวียน เจียงชิงเซว่ อันหยุนหลาน มองหน้ากัน ทุกคนต่างเห็นประกายของความสุขจากแววตาของกันและกัน
----จบบริบูรณ์----