ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 16
ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 16
จ้าวเฉียงและฉินเจี้ยนทำได้เพียงถอนหายใจให้กับสถานการณ์ของโหวเสี่ยวเทียน พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ขาดแคลนเงิน นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถใช้เงินในการแก้ปัญหา
เซี่ยเยี่ยนเผลอยกมือขึ้นมาลูบจี้หัวกะโหลกตรงหน้าอกโดยไม่รู้ตัว แต่หลังจากนั้นก็ส่ายศีรษะเบาๆ 'ตอนนี้ฉันยังไม่มีความสามารถนั้น!'
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งหลังจากหยิบยกหัวข้อนี้ขึ้นมาสนทนา พวกเขาไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกันอีก หลังจากนั่งดื่มอย่างเงียบๆอยู่ครึ่งชั่วโมง ทั้งสามก็เช็คบิลและจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป สายตาที่ดูมุ่งร้ายสองคู่จากโต๊ะที่อยู่ถัดจากโต๊ะที่พวกเซี่ยเยี่ยนเคยนั่งไปไม่กี่โต๊ะก็เบนออกจากร่างของเซี่ยเยี่ยน หากเซี่ยเยี่ยนได้เห็นหน้าของสองคนนี้ เขาก็คงจะจดจำได้ในทันที ทั้งสองก็คือโจรล้วงกระเป๋าที่เซี่ยเยี่ยนบังเอิญเจอบนรถบัสเมื่อเช้านี้
หลังจากเซี่ยเยี่ยนหายตัวไป ตรงที่เกิดเหตุก็ไม่หลงเหลือพยานหรือหลักฐานใดๆ ดังนั้นตำรวจจึงไม่ได้จับกุมคนทั้งสอง พวกเขาถูกปล่อยตัวมาหลังจากถูกตักเตือนไปสองสามคำ โจรทั้งสองที่อารมณ์ไม่ดีจึงคิดจะมาหาอะไรกินเล่นยามดึกหลังเพิ่งออกจากโรงพยาบาล คำแนะนำของหมอที่ไม่ให้รับประทานอาหารรสจัดย่อมถูกคนทั้งสองโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ
ทั้งสองเพียงบังเอิญผ่านมาที่ประตูทิศใต้และจดจำเซี่ยเยี่ยนได้ก็เท่านั้น
"อ้วนหวัง เอาไงดี?" ชายนักเลงกระซิบถามเสียงเหี้ยม
"ไอ้เด็กนี่มันแปลกๆ พวกเราสู้มันไม่ได้!" ความกลัวฉายชัดอยู่บนใบหน้าของอ้วนหวัง แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงใช้มีดแทงเพื่อนก่อนจะแทงตัวเองเมื่อตอนกลางวัน เขาพยายามนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น แต่ดูเหมือนว่าความทรงจำช่วงเช้าทั้งหมดของเขาจะหายไป นี่ทำให้เขารู้สึกกลัวมาก
"หรือพวกเราจะไปขอให้เฮียเป้าช่วยจัดการเจ้าเด็กนี่?" ชายนักเลงถาม
"เอ็งบ้ารึเปล่า?!" อ้วนหวังตะคอก "เป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญเฮียเป้ามาโดยไม่เสียเงินหลายพัน เอ็งมีเงินมากขนาดนั้น?"
"งั้นพวกเราจะปล่อยมันไปแบบนี้งั้นเหรอ?" ชายนักเลงพูดอย่างคับข้องใจ
"ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีก็ยังไม่สาย!" แม้อ้วนหวังจะไม่รู้ว่าลูกผู้ชายในวลีที่ว่านี้เป็นยังไง แต่เขาก็ยังคงพูดเสียงเข้ม "ยังไงก็เถอะ ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่ามันเป็นนักศึกษามหาลัยซีเหอ จากนี้พกวเราจับตามันไว้ก็พอ ข้ามั่นใจว่าพวกเราต้องมีโอกาสล้างแค้นแน่!"
"อืม!" ชายนักเลงพยักหน้า "ถ้ามันมีแฟน พวกเราก็ไปจัดการแฟนของมัน ถึงตอนนั้น...หึหึหึ....."
"กล้ามาล่วงเกินพวกเราสองพี่น้อง มันต้องไม่ตายดี!"
...................
เมื่อพวกเซี่ยเยี่ยนกลับมาถึงหอพัก โหวเสี่ยวเทียนก็ยังคงนอนอยู่บนเตียง แม้จะไม่รู้ว่าเขาหลับอยู่หรือไม่ ทั้งสามคนก็ไม่ได้เข้าไปกวนเขา หลังจากอาบน้ำกันแล้วพวกเขาก็เข้านอน
หลังจากที่จ้าวเฉียงและฉินเจี้ยนหลับใหลไปแล้ว จี้หัวกะโหลกที่คล้องคอเซี่ยเยี่ยนอยู่ก็มีไฟสีฟ้ากระพริบขึ้นวูบวาบ
ธาตุอันเดดอันหนานแน่นที่เขาดูดซับเก็บไว้จากเมื่อคืนยังคงอยู่ภายในนั้น เซี่ยเยี่ยนอยากจะค่อยๆเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นพลังเวท
ธาตุอันเดดเหล่านี้เป็นสิ่งคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตอื่นเหมือนกับภูตผีวิญญาณร้าย แต่สำหรับเซี่ยเยี่ยนนั้น มันก็คืออาหารเสริมที่ดีที่สุดที่จะใช้ในการเพิ่มพลังเวทให้กับเขา
ไม่นานหลังจากที่เซี่ยเยี่ยนกลับไปที่มหาวิทยาลัย ความโกลาหลก็บังเกิดขึ้นภายในบ้านตระกูลหลิว
ย้อนกลับไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน....
เนื่องจากผู้อาวุโสหลิวเป็นทหารที่ผ่านประสบการณ์ในสมรภูมิเลือดมา ตัวเขาจึงไม่เชื่อเรื่องภูติผีวิญญาณ ที่เขาพูดกันเซี่ยเยี่ยนอย่างรุนแรงนั้นก็เพราะคิดว่าเขาเป็นฝ่ายถูก ยิ่งกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าเซี่ยเยี่ยนเป็นบุคคลที่สามารถพูดจาด้วยเหตุผลและสามารถชักนำเขากลับสู่เส้นทางอันถูกต้องได้
แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเยี่ยนดูเหมือนจะไม่มีท่าทางจะกลับตัวกลับใจ และนี่ทำให้ผู้อาวุโสหลิวรู้สึกท้อแท้ใจ
เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเช่นนี้ ผู้อาวุโสหลิวก็มักจะชอบไปเล่นซอตัวโปรดเพื่อผ่อนคลาย และสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุดในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็คือคางคกที่แกะสลักจากไม้มะเกลือ
คางคกไม้มะเกลือนี้ไม่ใช่สมบัติล้ำค่าในหมู่ของสะสมของผู้อาวุโสหลิว แต่เขาได้รับมันมาหลังจากที่จับตาดูมันมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภูมิใจและชื่นชอบมันอย่างมาก
คางคกไม้มะเกลือนี้ถูกวางไว้บนชั้นวางของที่ตั้งอยู่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของห้องรับแขก แต่เนื่องจากผู้อาวุโสหลิวมีอคติต่อเซี่ยเยี่ยน เขาจึงไม่ได้ถือคำพูดของเซี่ยเยี่ยนเป็นจริงเป็นจัง เขาเดินไปหยิบคางคกไม้มะเกลือขึ้นมา ขณะที่เขาสัมผัสพื้นผิวที่เรียบเนียนของมัน จิตใจของเขาก็รู้สึกสงบจนหลับตาลง
................
หลังจากที่ปู่ของเธอได้คืนสิ่งของที่ซื้อมาจากเซี่ยเยี่ยนกลับไป อารมณ์ของหลิวเสวี่ยเอ๋อร์ก็ขุ่นมัวอย่างมาก หลังจากที่เห็นว่าปู่ของเธอไม่ฟังคำแนะนำของเซี่ยเยี่ยนและเดินไปที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ในใจเธอรู้สึกกระสับกระส่ายราวกับกำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
ความกระสับกระส่ายที่เกิดขึ้นทำให้เธอหมดอารมณ์ที่จะฟังเพลงอยู่ข้างบน หลังจากเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้อง เธอก็ตัดสินใจว่าจะลองไปเกลี้ยกล่อมปู่ของเธอดูอีกครั้ง ตอนที่เธอเดินลงมา เธอก็เห็นว่าปู่ของเธอเลิกลูบคางคกไม้ตัวนั้นแล้ว แต่ไม่เพียงแค่นั้น ปู่ของเธอไม่แม้แต่จะขยับนิ้วเพื่อลูบไล้มัน ปู่ของเธอยืนแข็งทื่อขณะที่เหม่อมองข้างหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่า
"ปู่!...." หลิวเสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเขาพลางส่งเสียงเรียก
ทันใดนั้นคางคกไม้มะเกลือก็ลื่นหลุดจากมือของผู้อาวุโสหลิวและตกลงบนพรมหนา ควันสีดำที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าลอยออกมาจากปากที่มีขนาดเท่ารูเข็มของคางคกไม้และไหลเข้าไปในรูจมูกของผู้อาวุโสหลิว