ตอนที่ 693+694 มีอะไรอีกไหม
ตอนที่ 693 มีอะไรอีกไหม
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาเป็นผู้จัดการตัวเล็กอยู่ที่ร้านอาหาร ผู้จัดการซุนไม่เคยคาดหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะทำงานหนักร่วมกับเด็กสาวอายุเพียง 19 ปี แล้วสักวัน..เขาจะกลายเป็นผู้จัดการของบริษัทใหญ่ที่มีเลขานุการถึงสองคนและผู้ช่วยอีกสองคน
อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเขาเจอปัญหากับอดีตเจ้านาย เขาจะต้องจัดการกับอีกฝ่ายอย่างใจเย็น เขาจะให้เงินอดีตเจ้านายไปสองพันหยวนให้มันจบ ๆ ไปตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง
เจียงเหยามองความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขา ตอนนี้เธอยืนอยู่เคียงข้างเขา เขาไม่สามารถทำให้เธออับอายและทำให้ฉางกังกรุ๊ปอับอายได้
“ก็แค่เงิน 2000หยวน ตอนนี้ผมเป็นผู้จัดการของฉางกังกรุ๊ป แค่นี้ทำไมจะจ่ายไม่ได้ล่ะครับ” ผู้จัดการซุนหยิบเงินสดกองหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วยื่นให้เธอ “นี่ครับคุณเหลียว นับดูก่อนนะครับ”
ผู้จัดการซุนให้เงินเธอไปอย่างง่ายดาย เหลียงถิงที่ดื่มมากจนเมาถึงกับตกตะลึงอยู่นาน
ไม่มีคำร้องขอใด ๆ ที่เธอคาดหวังว่าผู้จัดการซุนจะทำ และไม่มีเสียงคำรามโกรธที่เธอคาดหวังให้ผู้จัดการซุนทำเช่นกัน จากความคิดทั้งหมดที่อยู่ในสมองของเธอในตอนนี้ มีเพียงฉากเดียวเท่านั้นที่ผู้จัดการซุนให้เงินกับเธอได้อย่างง่ายดาย
“คุณเหลียวที่นี่ก็มีความสุขแล้วสินะคะ ช่วยรับไปด้วยค่ะ หรือจะนับก่อนว่าครอบ 2พันไหม? ถ้าไม่นับจะมาทวงผู้จัดการซุนภายหลังไม่ได้นะคะ” เจียงเหยาเห็นว่าเหลียวถิงตกตะลึงและไม่เคลื่อนไหว ทั้งยังไม่ได้เอื้อมมือออกไปรับเงิน
อันที่จริง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเหลียวถิงไม่ได้ขาดเงิน แต่เอจงใจต้องการสร้างความลำบากให้กับผู้จัดการซุน เธอคงคิดว่าอีกฝ่ายยากจนเกินกว่าที่จะจ่ายไหว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้รับผิดชอบของทางโรงแรมจึงรีบรับเงินไปจัดการเรื่องโดยเร็ว จากนั้นเธอก็นับเงินทีละใบต่อหน้าทุกคน หลังจากนับเงินเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยื่นให้กับเหลียวถิงพร้อมกับพูดว่า “คุณผู้หญิงค่ะ ฉันนับให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สองพันหยวนไม่ขาดไม่เกินค่ะ นี่ค่าตอบแทนที่คุณซุนชดใช้กับคุณ โปรดเก็บมันไว้ด้วยค่ะ”
เหลียวถิงเอื้อมมือออกไปหยิบกองเงินทั้งหมดด้วยท่าทางเขินอาย สีหน้าของเธอมกังวล “อะไรคือผู้จัดการของฉางกังกรุ๊ป? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้ในเมืองหนานเจียงมาก่อน กรุ๊ป? หึ เป็นไปได้ไหมว่าคุณเปิดบริษัทหลอกลวงเพื่อโกงเงินเอามารักษาอาการของลูกสาวคุณน่ะ”
“คุณผู้หญิงโปรดระวังคำพูดด้วยค่ะ” ก่อนที่ใครจะพูด คนดูแลพื้นที่ของโรงแรมรีบพูดขึ้นก่อน
“ข่าวของฉางกังกรุ๊ป คนที่อ่านหนังสือพิมพ์และข่าวต่างก็เห็น ตอนนี้ทุกคนต่างทราบดีว่าฉางกังกรุ๊ปเป็นบริษัทใหม่ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ผู้จัดการซุนเป็นผู้จัดการของฉางกังกรุ๊ปค่ะ ทุกคนในโรงแรมของเราต่างก็รู้จักผู้จัดการซุน”
“ในเมื่อคุณรับเงินไปแล้ว ก็แยกย้ายกันเถอะนะครับ หากคุณอยากจะใช้วิธีนี้เพื่อโกงเงินในครั้งต่อไป ก็ขอให้สวมเสื้อผ้าที่แพงที่สุดที่มีนะครับ” ผู้จัดการซุนกังวลว่ากู้ฮ่าวอวี้และคนอื่น ๆ จะรอนาน ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเสียเวลามากเกินไปกว่านี้ และหายใจทิ้งไปกับเรื่องของเหลียวถิงอีกต่อไป
วันนี้เป็นวันโชคร้ายของเขา เขาใช้เงินเพื่อกำจัดภัยพิบัติ ในอนาคตเมื่อพวกเขาอยู่ในเมืองหนานเจียง เขามีโอกาสอีกมากมายที่จะแก้แค้น
เหลียวถิงไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเส้นทางให้ เธอคิดว่าผู้จัดการซุนไม่สามารถจ่ายได้ แต่ผู้จัดการซุนกับให้เงินไม่ขาดไม่เกินกับเธอ เธอเยาะเย้ยตัวตนของผู้จัดการซุนว่าเป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า แต่ผู้จัดการของโรงแรมอธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผู้จัดการซุนแล้ว
เหลียวถิงไม่ได้ให้ความสนใจกับข่าวใด ๆ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเมืองหนานเจียงมีฉางกังกรุ๊ปเพิ่มขึ้นมาอีก เธอกำลังคิดเกี่ยวกับกลุ่มฉางกังและต้องการจะตรวจสอบในภายหลัง แต่เมื่อเธอได้ยินผู้จัดการซุนขอให้เธอหลีกทาง เธอทำได้เพียงกัดฟันและขยับไปด้านข้าง
“เดี๋ยว!”
“เดี๋ยวก่อน!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนขึ้น
__
ตอนที่ 694 ทำไมถึงไม่เอาแล้วล่ะ
ก่อนที่เจียงเหยาจะพูดอะไร เธอมองไปที่ต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่ากู้ฮ่าวอวี้กำลังยืนมองอยู่ไม่ไกลจากต้นนั้น
กู้ฮ่าวอวี้ยืนฟังอยู่ด้านข้างเป็นเวลากว่าสองนาทีแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรกระทั่งผู้จัดการซุนและเจียงเหยาเดินจากไป เขาไม่คิดว่าเจียงเหยาจะพูดอะไรด้วยเช่นกัน
เขายิ้มให้กับเจียงเหยาและเดินเข้ามา เขาสวมสูทเนื้อดี โดยสอดมือทั้งสองเข้าในกระเป๋ากางเกงของตน เขายืนอยู่ต่อหน้าเหลียวถิงและพูดด้วยเสียงที่อบอุ่น
“ในเมื่อผู้จัดการซุนให้เงินกับคุณไปสองพันหยวน เสื้อผ้าบนร่างกายของคุณก็เป็นของผู้จัดการซุนไปแล้วนะครับ ตอนนี้คุณรับเงินไปแล้ว โปรดถอดเสื้อผ้าและมอบให้ผู้จัดการซุนด้วยครับ ส่วนจะจัดการยังไงกับเสื้อผ้าชุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดการซุนแล้วล่ะ ผมไม่คิดว่าผู้จัดการซุนจะยอมยกเสื้อผ้าที่เขาซื้อด้วยเงินสองพันหยวนให้กับคุณ หลังจากที่คุณสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับเขาหรอกนะครับ อา ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณก็สามารถใช้อุบายเดิม ๆ เพื่อไปชนคนอื่นและหาเงินเพิ่มได้อีกสองพันหยวนอย่างนั้นสิครับ”
คำพูดของกู้ฮ่าวอวี้ไม่น่าฟังเอาเสียเลย เขาขอให้เหลียวถิงถอดเสื้อผ้าของเธอหลังจากที่เธอรับเงินไปแล้ว จากนั้นก็ใช้คำพูดของเขาเพื่อล้อเลียนเหลียวถิงที่ใช้วิธีดังกล่าวโกงเงินคนอื่น
“อย่ามาพูดไร้สาระ ใครโกงเงินหะ! ใครโกง! เขาทำเสื้อผ้าฉันสกปรก ผิดหรือยังไงที่ฉันจะขอให้เขาชดใช้” ใบหน้าของเหลียวถิงเปลี่ยนเป็นสีเขียว เธอตะโกนอย่างฉุนเฉียว “แล้วนี่ใครอีกล่ะเนี้ย? คุณเป็นใครถึงได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของคนอื่น”
“ผมเป็นพี่รองของประธานฉางกังกรุ๊ป แล้วผู้จัดการซุนเป็นผู้จัดการของฉางกังกรุ๊ป ในเมื่อเป็นธุรกิจของครอบครัวผม ทำไมผมจะเข้ามายุ่งด้วยไม่ได้ล่ะครับ” แม้ว่ากู้ฮ่าวอวี้กำลังพูดอยู่ เขาก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า คนที่ไม่รู้จักเขาและเห็นผ่าน ๆ คงคิดว่าเขากลังคุยกับใครเพื่อนเก่า
เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา เจียงเหยาเป็นภรรยาของน้องชายเขาและทุกคนต่างเรียกเขาว่าพี่รอง เจียงเหยาเองก็เรียกเขาว่าพี่รองด้วยไม่ใช่หรือ?
“ก็อย่างที่คุณพูด คุณรับเงินสองพันหยวนจากผู้จัดการซุนต่อหน้าทุกคนไปแล้ว ของได้รับการชำระเงินไปแล้ว ก็หมายความว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของคุณเป็นของผู้จัดการซุนแล้วสิครับ อ้อ รวมถึงชุดชั้นในที่คุณยอมรับว่ารวมไว้ตั้งแต่แรกด้วย ดังนั้น คุณผู้หญิง โปรดถอดเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของคุณออกด้วยครับ”
หลังจากที่กู้ฮ่าวอวี้พูดจบ เขายืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าเขากำลังรออย่างอดทนเพื่อให้เหลียวถิงทำในสิ่งที่เขาพูด
เจียงเหยายืนอยู่ข้าง ๆ หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความปีติยินดี
กู้ฮ่าวอวี้เป็นคนนิสัยแย่มาก มากถึงแก่นแท้ของหัวใจเลยทีเดียว! เธอคิดเหมือนกันตั้งแต่แรกแล้ว! นั่นคือแผนของเธอ ดังนั้นเธอจึงถามย้ำเหลียวถิงซ้ำว่า สองพันหยวนนี่รวมชุดชั้นในแล้วใช่หรือไม่
ผู้หญิงที่ดุร้ายแบบนี้ไม่อยากจะมอบหน้ามากนัก
เมื่อเห็นสิ่งนี้...เจียงเหยาโบกมือให้ผู้จัดการพื้นที่นี้ของโรงแรมและกล่าวว่า “ไปหาอะไรมาคลุมตัวให้แขกของคุณเสียหน่อยสิคะ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าม่าน อะไรก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ให้คนของโรงแรมไปส่งที่เธอให้ถึงบ้านด้วยนะคะ หลังจากนั้น คุณก็ค่อยให้คนขับรถขอของของโรงแรมคืนด้วยนะคะ อ้อ อย่าลืมล่ะ ผ้าปูโต๊ะหรือผ้าม่านที่ให้ผู้หญิงประเภทนี้สวม หากยังไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อย่านำมาใช้เด็ดขาดนะคะ”
ทันทีที่เจียงเหยาพูดจบ ผู้คนที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอนนั้นเองที่พวกเขาตระหนักว่าคำพูดของชายที่ดูอ่อนโยนนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทุกคำพูดที่เขาพูด คือเขาต้องการบังคับให้เธอออกไปจากโรงแรมตัวเปล่า
คนฟังดูอึ้งไปครู่หนึ่ง พวกเขาคงจะตกใจมากจริง ๆ เดิมทีมันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถจัดการโดยพูดเพียงคำขอโทษออกมา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องแบบนี้ไปเสียได้
“ฉันไม่ต้องการเงินนี้แล้ว! ฉันไม่ต้องการเงินแล้ว!” เหลียวถิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง หลังจากผ่านไปนาน เธอกลัวที่จะร้องไห้ เธอรีบยัดเงินกลับเข้าไปในมือของผู้จัดการโรงแรม เธอผลักคนรอบข้างและเดินกะเผลกด้วยรองเท้าส้นสูง พร้อมกับร้องไห้ไปตลอดทาง