600 - เขายังไม่ตาย
600 - เขายังไม่ตาย
ขุมนรกรกร้างโบราณและผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่มาตั้งแต่ก่อนยุคโบราณด้วยซ้ำ?
อะไรอยู่ภายใต้หุบเหวไร้สิ้นสุด? มันเป็นสิ่งมีชีวิตทรงพลังชนิดหนึ่งหรือไม่ ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างชัดเจน บางทีอาจมีเพียงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โบราณเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้
แท่นบูชาห้าสีแขวนอยู่ด้านล่างอย่างเงียบๆโดยไม่มีความผันผวนใดๆ เย่ฟ่านก็ไม่รู้ว่ามีพลังอะไรคอยค้ำจุนให้มันลอยอยู่กลางอากาศเช่นนี้ได้
เย่ฟานอยากกระโดดลงไปหาแท่นบูชาห้าสีนี้จริงๆ บางทีมันอาจจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับบ้านของเขา ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาเหนื่อยมากเกินไปแล้ว เมื่อไหร่การเดินทางครั้งนี้จะสิ้นสุดสักที?
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรวบรวมความกล้าได้ เพราะพลังรกร้างเริ่มโจมตีร่างกายของเขาอีกครั้ง เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยกลับไปยังน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้ๆกับโลงศพทองแดง
จากนั้นจึงเติมน้ำศักดิ์สิทธิ์ในขวดหยกสะอาดและกลับเข้าไปพักผ่อนในโลงศพทองแดงอีกครั้ง
ตัวเลือกของเย่ฟานนั้นถูกต้อง หลังจากที่ท้องฟ้ามืดลง เหวรกร้างโบราณก็น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงคำรามยังคงเขย่าท้องฟ้าและสร้างความสั่นสะเทือนให้กับสวรรค์และปฐพี
เย่ฟ่านซ่อนตัวอยู่ในโลงศพทองแดงพร้อมกับเฝ้าสังเกตสิ่งที่อยู่ภายในหุบเหวลึก มันมีสิ่งมีชีวิตอะไรถูกขังอยู่ในเหวนั้น?
“หรือว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากยุคโบราณ?”
สุดท้ายเขาเลิกคิดเรื่องนี้ชั่วคราวและเลือกที่จะแช่เมล็ดพันธุ์กิเลนรวมทั้งหินก้อนเล็กๆหลากสีสันในขวดหยกสะอาดเพื่อหล่อเลี้ยงพลังชีวิตของพวกมันคืนให้กลับมา
จากนั้นเขาก็นำหยกโบราณของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นออกมาวางไว้ด้านหน้าและเฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวัง
หลังจากนำชิ้นส่วนหยกจักรพรรดิ์ทั้งสี่ชิ้นมารวมกันเป็นครึ่งวงกลม เขาก็มองเห็นแผนที่ครึ่งหนึ่งของภูเขาสีม่วงรวมทั้งทั้งเก้าที่เส้นเลือดมังกรที่ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
ในที่สุดเย่ฟานก็เปิดหม้อขนาดเล็กและหยิบผลไม้สีชมพูออกมา มันมีลักษณะเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กๆที่มีความน่ารักสดใส เพียงกลิ่นหอมของมันก็ทำให้เขามึนเมาแล้ว
เย่ฟ่านกัดผลไม้หยกสีชมพูและทั้งตัวของเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงอันงดงาม เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางปุยเมฆ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีชมพู
เขาไม่ได้กินมันทั้งหมดในคราวเดียวแต่เริ่มนั่งสมาธิเพื่อดูดซับเอาแก่นแท้ของผลไม้โดยไม่คิดจะปล่อยให้มันสูญเสียส่วนสำคัญไปแม้เพียงเศษเสี้ยว
ในชั่วพริบตา ร่างกายของเขาก็เกิดความร้อนราวกับตกลงไปในหม้อหลอมโลหะ แสงสีแดงสดใสปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทำให้บรรยากาศในโลงศพทองแดงร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นี่คือ…”
เย่ฟานรู้สึกประหลาดใจ บาดแผลที่เกิดจากเต่าผู้ยิ่งใหญ่ค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ แม้ว่าจะไม่ได้หายไปทันที แต่มันก็ทำให้เขาเกิดความหวังในชีวิตอีกครั้ง
เย่ฟานใช้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์สำรวจร่างกายของตัวเองและเขารู้สึกว่าทุกส่วนในร่างกายของเขาเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากเขาใช้มันในตอนที่ยังไม่ถึงอาณาจักรสี่สุดขั้วร่างกายของเขาอาจจะระเบิดในทันที
การมีอยู่ของพลังประเภทนี้ ทำให้เขามีร่องรอยของพลังชีวิตในรอยแผลที่เกิดจากเต๋าผู้ยิ่งใหญ่สมานเข้าหากันอย่างช้าๆ นี่เป็นสัญญาณที่ดี ถ้ากินผลศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเขาอาจจะหายเป็นปกติได้เลย
“ยาศักดิ์สิทธิ์อมตะสมแล้วที่เป็นสมบัติสวรรค์ของโลก มันมีชิ้นส่วนของกฎแห่งสวรรค์และปฐพีซึ่งไม่สามารถค้นหาได้จากสมบัติสวรรค์ชิ้นอื่นๆ…”
เย่ฟานรู้ว่านี่เป็นยาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการกระทำของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เกือบตลอดทั้งคืนนั้นเขาใช้เวลาทั้งหมดในการกลั่นกรองแก่นแท้จากผลไม้เพื่อฟื้นฟูร่างกายของตนเอง
"บูม"
โลกทั้งใบก็เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เย่ฟานตื่นขึ้นด้วยเสียงระเบิดที่ดังมาจากหุบเหวลึกในบริเวณใกล้เคียง
“เคร้ง”
เสียงโซ่เหล็กดังกระทบกันราวกับจะพลิกคว่ำภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าลูก โซ่เหล็กอันน่าสยดสยอง เสียงแห่งความตายมาพร้อมกับไอสังหารอันไม่สิ้นสุด
เย่ฟ่านตกใจกลัว ไอสังหารที่ถูกปลดปล่อยออกมาแม้แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซูก็ยังไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในโลงศพทองแดง ร่างกายของเขาอาจถูกฉีกเป็นชิ้นไปแล้ว
เย่ฟานยื่นใบหน้าออกจากโลงศพอย่างช้าๆ สิ่งที่เขาเห็นคือปราณชีวิตสีแดงเข้มซึ่งกำลังปะทุขึ้นมาจากหุบเหวลึกที่ไม่สิ้นสุด
สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงร่างกายใหญ่โตขนาดเท่าภูเขากระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า แผ่นหลังของมันถูกมัดไว้ด้วยโซ่สีดำเส้นใหญ่ทำให้มันไม่สามารถหลบหนีจากหุบเหวนรกได้!
"นั่นคืออะไร?"
เย่ฟานพึมพำกับตัวเอง เมื่อพวกเขามายังโลกนี้เป็นครั้งแรกเขาเคยมองเห็นสิ่งมีชีวิตตัวนี้มาแล้ว ในตอนนั้นความรู้ความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกใบนี้ยังค่อนข้างตื้นเขินเขาจึงไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้แข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าต้องอยู่ในระดับผู้อมตะอย่างแน่นอน เพราะรัศมีพลังที่มันปลดปล่อยออกมา ต่อให้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวผู้อมตะหลายร้อยคนก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้
เย่ฟานกลับไปที่ส่วนลึกของโลงศพทองแดงและทำการกลั่นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป
ในระหว่างนี้เขาใช้เวลาสามวันสามคืนเพื่อดูดซับพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากผลไม้โดยไม่ปล่อยให้เศษเสี้ยวของมันหลุดรอดออกไปอย่างเปล่าประโยชน์
บาดแผลที่เกิดจากเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ของเขาได้รับการฟื้นฟูมากกว่าครึ่ง พลังชีวิตของเขาก็แข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายเท่าเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าผลไม้เพียงชนิดเดียวจะไม่สามารถรักษาบาดแผลที่เกิดจากเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ทั้งหมด”
เย่ฟานพึมพำกับตัวเอง อาการบาดเจ็บของเขาดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นมากกว่านี้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน มันทำให้เขารู้สึกอับจนปัญญาเล็กน้อย
อันที่จริงในดินแดนต้องห้ามรกร้างโบราณนี้มียาศักดิ์สิทธิ์อมตะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าอย่างที่อยู่รอบๆย่อมไม่ใช่อย่าศักดิ์สิทธิ์อมตะที่แท้จริง
แต่ถ้าเขาสามารถรวบรวมผลไม้ทั้งเก้าชนิดได้ทั้งหมด ความล้ำค่าของมันจะไม่เป็นรองยาศักดิ์สิทธิ์อมตะอย่างแน่นอน
เมื่อผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่สามารถซ่อมแซมอาการบาดเจ็บทางร่างกายของเขาได้อีกต่อไป เขาจึงปิดผนึกมันไว้ในภาชนะหยกและเริ่มออกค้นหายาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
“อย่าพบเจอทาสรกร้างอีกเลย”
นี่คือความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเย่ฟ่าน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเปลี่ยนอันตรายให้กลายเป็นความปลอดภัยทุกครั้ง บางทีครั้งต่อไปเขาอาจจะถูกฆ่าก็ได้
เย่ฟานเดินมาถึงส่วนลึกของโลงศพทองแดงและกอดโลงศพเล็กๆที่อยู่ภายในพร้อมทั้งเขย่ามันด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ความคาดหวังของเย่ฟานก็ต้องล้มเหลว มันไม่มีทางที่เขาจะขยับโลงศพเล็กๆนี้ได้
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองเท่านั้น”
เย่ฟ่านถอนหายใจและเทน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในขวดหยกสะอาดเข้าปากของตัวเอง
หลังจากนั้นเขาก็หยิบเมล็ดพันธุ์กิเลนศักดิ์สิทธิ์และหินก้อนเล็กๆหลากสีสันออกมาพร้อมกับเดินทางไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างเคียงอีกแห่ง
ภูเขาเก้าศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้ค่อนข้างเงียบสงบ แม้ว่ารัศมีที่รกร้างจะยังแข็งแกร่ง แต่ก็ต่ำกว่าตอนกลางคืนมาก เย่ฟ่านยังคงดื่มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และดูดซับพลังชีวิตจากเมล็ดพันธุ์กิเลนและหินก้อนเล็กๆเพื่อป้องกันร่างกายไปพร้อมกัน
เขากำลังเดินทางไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยขึ้นไปมาก่อน และทันทีที่เขาเหยียบย่างเข้าไปในภูเขาเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านรีบวิ่งไปข้างหน้าและเจอต้นไม้เล็กๆเจ็ดต้นอยู่ใกล้ๆบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง ต้นไม้พวกนี้มีขนาดเล็กสูงประมาณหนึ่งจ้างเท่านั้น
แม้ว่าพวกมันจะมีลำต้นสีขาวเหมือนกันแต่ใบของต้นกลับมีสีแตกต่างกันทั้งหมด บางต้นเป็นสีคราม บางต้นก็มีสีทอง สีเงิน รวมทั้งสีอื่นๆ
เย่ฟ่านหยิบหม้อหยกออกมาและทำการเก็บผลศักดิ์สิทธิ์รูปดวงจันทร์จากต้นไม้เล็กๆทั้งเจ็ดก่อนจะปิดผนึกอย่างระมัดระวัง
วันนี้โชคของเขาค่อนข้างดี ทาสรกร้างไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเขาจึงคิดจะลองเสี่ยงไปเก็บผลไม้จากภูเขาต้นอื่นในช่วงที่ยังมีเวลาเหลือ
เมื่อเขามาถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง เขาก็มองเห็นต้นหลิวเล็กๆ ห้าต้นที่มีผลไม้รูปหัวใจสีแดงสดใสแกว่งไกวไปมา มันทำให้จิตใจของเขาตื่นเต้นราวกับได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
เย่ฟานหยิบมันลงมาอย่างรวดเร็วและกำลังจะพุ่งไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง แต่เมื่อเท้าของเขาเหยียบย่างเข้าไปในภูเขาลูกนั้นใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
ในตอนนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์กำลังพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านด้วยความเร็วที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับสี่สุดขั้วแบบเขายังรู้สึกสิ้นหวัง
เย่ฟานหันหลังได้ก็วิ่งหนีด้วยความเร็วทั้งหมดเท่าที่ร่างกายจะเอื้ออำนวย ปราณโลหิตสีทองในทะเลแห่งความทุกข์ของเขายังคงเต็มเปี่ยมและตอนนี้มันก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองได้ และนางบินมาขวางหน้าของเย่ฟ่านในเวลาไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
ในตอนนี้นางไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด นางเพียงแค่จ้องไปที่เท้าของเย่ฟ่านด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง เขาพยายามหลบหนีอีกครั้งโดยแสดงทักษะการเคลื่อนไหวของชายชราผู้บ้าคลั่งไปด้วย
อย่างที่เขาคาดไว้ สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ยังคงไล่ตามเขามาเช่นเดิม แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าความสนใจของนางจะอยู่ที่การเคลื่อนไหวของเขา และนางไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางการหลบหนีของเขาอีกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เย่ฟานมาถึงทางเข้าของโลงศพทองแดง สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์หยุดยืนอยู่ในที่ห่างไกล และสายตาของนางเต็มไปด้วยความสับสนคล้ายกับกำลังฟื้นฟูความทรงจำของตัวเอง
“เขายังไม่ตาย ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกับท่านแต่แม้จะผ่านไปหกพันปีแล้ว เขาก็ยังรอท่านอยู่...” เย่ฟานส่งเสียง
สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์พยักหน้าเบาๆคล้ายๆกับเป็นการตอบรับว่านางทราบแล้ว หลังจากนั้นนางก็หันหลังอย่างช้าๆและเดินกลับไปยังขุมนรกอันไม่สิ้นสุดด้วยสีหน้าเรียบเฉย