598 - ก้อนหินสุดวิเศษ
598 - ก้อนหินสุดวิเศษ
ไม่มีทาสรกร้างตัวไหนกล้าเข้าใกล้โลงศพโบราณ เย่ฟ่านรู้ดีว่าเส้นทางที่เขาเลือกนั้นถูกต้อง ก่อนเข้าสู่ดินแดนต้องห้ามรกร้างโบราณ เขาได้วางแผนเรื่องนี้ไว้แล้ว
แม้ว่าตอนนี้กฎแห่งกาลเวลาจะไม่กัดเซาะเขาอีกต่อไป แต่สภาพของเขาแย่มาก อาการบาดเจ็บของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ดูเหมือนจะกำเริบมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งกว่านั้นในเวลานี้ร่างกายของเขาแก่ชรา เลือดเนื้อของเขาเหี่ยวแห้งและเขาอาจจะตายได้ตลอดเวลา
หากไม่ใช่เพราะเมล็ดพันธุ์กิเลนศักดิ์สิทธิ์พลังชีวิตของเขาคงแห้งเหี่ยวไปตั้งแต่แรก และกิเลนสีม่วงซึ่งมีขนาดเล็กกว่ากำปั้นของทารกก็ดูเหมือนจะตายสนิทไปแล้ว
นี่เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย โดยเอาชีวิตของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีวันตายมาต่อสู้กับกาลเวลา เขาน่าจะเป็นคนเดียวในโลกที่กล้าทำมัน
“เจ้าต้องรอด ข้าจะหาทางช่วยเจ้า...” เย่ฟานรู้สึกผิดเล็กน้อย ยาศักดิ์สิทธิ์อมตะนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลก และเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเกิดใหม่เมื่อถูกทำลายไป
เย่ฟ่านมองออกไปด้านนอกของโลงศพทองแดง ชายผมขาว สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ รวมทั้งทาสรกร้างคนอื่นไม่ทราบว่าจากไปตั้งแต่เมื่อใด
“โลงศพโบราณนี้ยับยั้งพวกมันได้จริงๆ?”
แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่แก่นแท้ของชีวิตของเขาก็เหือดแห้งอย่างสมบูรณ์ เขาไม่รู้ว่าต้องใช้วิธีใดถึงจะเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาได้
“ไม่ ข้าต้องขึ้นไปที่นั่น ไม่มีเวลาให้รอแล้ว ไม่เช่นนั้นข้าต้องฝังกระดูกไว้ที่นี่ตลอดไป” เย่ฟานเต็มไปด้วยความกังวล
ถ้าเขามีพลังศักดิ์สิทธิ์เพียงพอ เขาสามารถยกโลงศพทองแดงเพื่อต้านทานการทำลายล้างของเวลา แต่ตอนนี้แม้จะเดินไปข้างหน้าก็ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา
“จะทำอย่างไร เมล็ดพันธุ์กิเลนเริ่มแห้งแล้ว เป็นการยากที่จะสกัดพลังปราณแห่งชีวิต ข้าจะขึ้นไปได้อย่างไร” เย่ฟานอับจนหนทางอย่างหนัก
ความตายใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเขาอาจจะไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ของรุ่งอรุณวันใหม่ก็ได้
เย่ฟ่านยืนขึ้นด้วยความยากลำบากและมองออกไปภายนอก ซากมังกรขนาดใหญ่ในป่าโบราณนั้นเปรียบเสมือนกำแพงเหล็ก พวกมันยังคงไม่เสียหาย แสงสีดำริบหรี่ยังคงเต็มไปด้วยพลัง
“นี่คือมังกรที่แท้จริงหรือไม่?”
เสียงของเขาสั่นเทา ซากศพทั้งเก้านั้นดูเหมือนกันทุกประการกับมังกรที่แท้จริงในตำนาน
แต่เมื่ออยู่ในโลกนี้มานานหลายปี ข้อเท็จจริงมากมายต่างแสดงให้เห็นว่าในโลกนี้ไม่มีมังกรที่แท้จริง ดังนั้นเขาจึงเกิดความลังเลอยู่เล็กน้อย
“บางทีนี่อาจจะเป็นมังกรวารีที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้”
เย่ฟานกัดฟันและรีบวิ่งออกไปพร้อมกับเมล็ดพันธุ์กิเลนในมือ เขาต้องการดื่มเลือดของมังกร ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะวิ่งขึ้นไปบนยอดเขา
ประกายไฟฟุ้งกระจายไปทั่ว นิ้วมือของเย่ฟานไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับเกล็ดของมังกรด้วยซ้ำ
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำลายซากของมังกร แต่ร่างกายของเขากลับแก่ชรามากขึ้นเรื่อยๆจนเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปที่โลงศพอีกครั้ง
“ข้าจะตายจริงๆเหรอ?”
เย่ฟานเศร้าโศก ที่นี่ห่างไกลจากบ้านเกิดของเขามาก การตายโดยที่ไม่มีใครรับรู้นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจยอมรับได้
“ถ้าข้าตายแบบนี้จะมีใครเสียใจจากการตายของข้าหรือไม่...”
เขาไม่สามารถแม้แต่จะสั่งเสียใครได้ สิบหรือร้อยปีต่อมาร่างกายของเขาอาจจะเหลือเพียงกระดูกไม่กี่ชิ้น
เย่ฟ่านไม่อยากตายแบบนี้ เขาจึงเริ่มตรวจสอบของสำคัญในร่างกายอีกรอบ
ในตอนนี้เขามีคัมภีร์เต๋าสีทอง ตำราต้นกำเนิดสวรรค์ เมล็ดโพธิ์...และยังมีสมบัติอีกมากมาย แต่นอกจากเมล็ดพันธุ์กิเลนที่เหี่ยวเฉา ก็ไม่มีของอย่างอื่นที่สามารถเติมเต็มพลังชีวิตของเขาได้
"ติง"
ทันใดนั้นก้อนหินเจ็ดสีก้อนเล็กๆก็ตกลงมาที่พื้น
“เด็กน้อย…” เมื่อเห็นหินก้อนเล็กๆนี้ เย่ฟานก็นึกถึงเด็กน้อยผู้น่าสงสารที่ไม่ทราบที่มา
เขาก้มลงเก็บก้อนหินเล็กๆขึ้นมาถือไว้ แต่ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆในจิตใจ
“นี่คือ…”
เขาแทบไม่อยากเชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ ก้อนหินเล็กๆจะมีพลังชีวิตอันมากมายมหาศาลได้อย่างไร?
เย่ฟ่านพยายามค้นหาความลับของก้อนหินเล็กๆนี้ มันไม่ใช่ยาศักดิ์สิทธิ์อมตะ แต่พลังชีวิตที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นต่อให้เป็นเมล็ดพันธุ์กิเลนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีทางเทียบได้
"เด็กน้อย..."
เย่ฟานไม่ได้คาดหวังว่าหินก้อนเล็กๆที่ดูเหมือนจะไม่มีค่ากลับช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ได้จริงๆ
หินก้อนเล็กๆหลากสีสันเป็นประกายระยิบระยับและโปร่งแสง สวยงาม แม้เย่ฟ่านจะรู้สึกว่ามันเป็นของที่ไม่ธรรมดาแต่พลังชีวิตอันมากมายมหาศาลนั้นก็ยังทำให้เขาตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เย่ฟ่านกรีดฝ่ามือของเขาให้เป็นแผล หลังจากนั้นเขาก็ยัดก้อนหินเล็กๆเข้าไปในรอยแผลเพื่อเติมเต็มพลังชีวิตของตัวเอง
นี่คือพลังชีวิตอันบริสุทธิ์ไร้มลทิน ทันทีที่มันเข้าสู่ร่างกายของเขามันก็ฟื้นฟูพลังชีวิตของเย่ฟ่านให้ย้อนคืนกลับมามากกว่าสิบปีซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง!
ต้นกำเนิดของเด็กคนนั้นคืออะไร? หินก้อนเล็กๆก้อนนี้ทำให้เขาจมอยู่ในภวังค์ที่ไม่สิ้นสุด และเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักต้องมีความลับอันน่าอัศจรรย์
เดิมทีไฟแห่งชีวิตของเย่ฟ่านเป็นเหมือนเทียนขี้ผึ้งในสายลม พร้อมที่จะดับได้ทุกเมื่อ ตอนนี้หลังจากได้รับการหล่อเลี้ยงจากหินก้อนเล็กๆมันทำให้วิกฤตความเป็นความตายของเขาถูกขยายเวลาออกไปชั่วคราว
เขายืนขึ้นและมองไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างหน้า เขาไม่มีเวลาให้เสียอีกต่อไปแล้ว บาดแผลที่เกิดจากเต๋ารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าหินก้อนเล็กๆจะฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาชั่วคราว แต่สุดท้ายมันก็ต้องหมดไปในเวลารวดเร็ว!
บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ ทาสรกร้างหายไปหมดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกมันจะกลับเข้าสู่หุบเหวรกร้างที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ไม่มีเสียงอื่นใดเย่ฟ่านไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่อยู่ใกล้ๆ ราวกับว่าเขามาถึงจุดจบของโลก เขากัดฟันและรีบวิ่งขึ้นไปบนภูเขาก่อนที่ก้อนหินเล็กๆจะละลายจนหมด
“ชู่”
ไม่ไกลจากโลงศพ กลิ่นอายรกร้างโบราณพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เย่ฟ่านไม่สามารถหลบเลี่ยง
ชุดสมบัติคลุมนภาและชุดหินบนร่างกายของเขาได้พังทลายไปนานแล้ว กลิ่นอายรกร้างที่โหมกระหน่ำเข้ามานั้นเพียงพอที่จะสังหารเขาได้นับสิบครั้งอย่างแน่นอน
“วืด!”
แต่แล้วหินก้อนเล็กๆที่อยู่ในมือของเขาก็สั่นไหว แสงเจ็ดสีอันตระการตาถูกยิงออกไปข้างหน้าทำให้ชายผมขาวซึ่งเป็นเจ้าของกลิ่นอายรกร้างนั้นถอยกลับด้วยความกลัว
เย่ฟานรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าหินก้อนเล็กๆสามารถปิดกั้นพลังทำลายล้างจากกาลเวลาและกลิ่นอายรกร้างได้
"ใช่แล้ว..." เย่ฟานเข้าใจทันที
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เด็กน้อยคนนั้นจะยังมีสภาพเหมือนเดิมแม้ว่าจะผ่านไปนานกว่าสามปีแล้วก็ตาม มันเป็นเพราะหินก้อนเล็กๆนี้ที่สามารถปิดกั้นพลังแห่งกาลเวลาในตัวนางได้
แต่พลังแห่งกาลเวลาคือสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก ต่อให้หินก้อนนี้สามารถปิดกั้นพลังแห่งกาลเวลาได้ แต่ในที่สุดมันก็ต้องหมดไปเช่นกัน
เย่ฟานตกใจมาก นี่คือไพ่ใบสุดท้ายของเขา ถ้าเขาไม่สามารถไปถึงภูเขาศักดิ์สิทธ์ได้ เขาจะกลับไปเป็นผงธุลีจริงๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อุดมไปด้วยพืชพันธุ์ หินแปลกตาสวยงาม แต่เย่ฟ่านไม่ได้สนใจพวกมันมากนัก เวลาของเขามีจำกัด สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือค้นหาบ่อน้ำพุที่อยู่บนยอดเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ยิ่งใกล้ยอดเขามากเท่าไหร่ กลิ่นอายรกร้างก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น แม้จะมีพลังป้องกันของหินก้อนเล็กๆที่อยู่ในฝ่ามือ แต่กลิ่นอายอันชั่วร้ายก็ยังแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเย่ฟ่านตลอดเวลา
เมล็ดพันธุ์กิเลนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือของเขาก็เหี่ยวเฉาอย่างสมบูรณ์แล้ว พลังชีวิตของพวกมันถูกดูดออกมาโดยเย่ฟ่าน และเขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูชีวิตให้กับมันได้หรือไม่
ในที่สุดเย่ฟานก็มาถึงยอดเขา!
ที่นี้เป็นศูนย์กลางของเขตต้องห้ามของชีวิต เก้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์เชื่อมต่อกันจนเกิดเป็นขุมนรกขนาดใหญ่
ที่ด้านหน้าไม่ไกลเท่าไหร่คือเหวไร้ก้นที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับเก้าพิภพ กลิ่นอายน่าขนลุกที่แผ่ซ่านออกมาทำให้หินก้อนเล็กๆมีขนาดเล็กลงมากกว่าเดิมหลายเท่าอย่างรวดเร็ว
“แกรก”
เย่ฟ่านดูเหมือนจะได้ยินเสียงรอยแตกในร่างกายของเขา กระดูกหลายชิ้นในร่างกายของเขาย่อยสลายไปแล้ว อาการบาดเจ็บของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ปะทุขึ้นมาพร้อมกัน
ในเวลานี้แก่นแท้ปราณแห่งชีวิตไม่มีให้เขาได้ดูซับอีกต่อไป และพลังศักดิ์สิทธิ์ในทะเลแห่งความทุกข์สีทองก็ไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้เช่นกัน
“ฟู่”
ในขณะที่เย่ฟ่านกำลังตะเกียกตะกายเข้าหาบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ความหวังของเขาก็สิ้นสุดลงทันที เพราะชายผมขาวคนนั้นไม่ทราบว่ามาปรากฏตัวอยู่ข้างบ่อน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่!