ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 150 ตระกูลแอสเตอร์ (ฟรี)
แอสเตอร์เป็นตระกูลที่มีตระกูลอื่นคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างมากมาย
เช่นเดียวกับตระกูลออร์โธดอกซ์ ตระกูลหลักมีที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวเพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่และสุกสาขาย่อยก็หวังที่จะได้เข้ามาอยู่ในสำนักงานใหญ่
เมื่อวาเรี้ยนกำลังมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่ วาเรี้ยนก็ยิ้มให้กับใบหน้าใหม่ของเขาที่สะท้อนอยู่ในหน้าต่างรถ มันเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาและมีวุฒิภาวะและดูเหมือนอายุประมาณ 20 ปี
รถแท็กซี่บินผ่านเส้นขอบฟ้าของย่านพรีเมียมของซานาซิตี้ มีการเฝ้าระวังอยู่ทุกที่ โดรนถูกกำหนดเวลาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อไม่ให้มีส่วนไหนถูกมองข้ามเลย
การเฝ้าระวังเป็นเรื่องปกติในทุกเขตของทุกเมืองแต่ที่นี่การเฝ้าระวังหนาแน่นกว่ามาก
เขตนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของตระกูลแอสเตอร์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไหมถึงมีการเฝ้าระวังอย่างหนาแน่น
ที่พักหลักของตระกูลแอสเตอร์อยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่ร้อยไมล์
'แกเก่งมากบู สามารถผลิตเครื่องแปลงหน้าได้โดยใช้เวลาแค่แปปเดียว' วาเรี้ยนไม่ลืมที่จะลูบหัวของมันเบาๆ
ไม่มีใครเดาได้ว่ายานอวกาศขนาดใหญ่ที่มีความจุของพื้นที่มหาศาลจะสามารถกลายเป็นแหวนวงเล็กๆในนิ้วของวาเรี้ยนได้
'ฮิฮิ ผมรู้หน่าว่าผมเก่ง แต่มาสเตอร์ชมผมให้มากกว่านี้ก็ได้นะ' บูพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูไร้เดียงสา
"โปรดยืนไว้อาลัยให้ตระกูลมาร์ตินและกันโบลตอย่างเงียบๆ" เสียงประกาศดังขึ้นและเสียงทั้งหมดในย่านนั้นก็หายไป
เสียงแตรดังขึ้นและเมื่อเสียงแตรจบลงทุกสิ่งทุกอย่างเงียบไปหมดไม่มีเสียงอะไรเลย
ราวกับว่าทุกคนกำลังคร่ำครวญถึงผู้จากไปของทั้งสองตระกูล
ตึกสูงเฉียดฟ้าทั้งหมดในเขตนั่นยังฉายภาพโฮโลแกรมขนาดใหญ่ไว้ทุกข์อีกด้วย
จากตึกทั้งหมด มีตึกหนึ่งที่ดูโดดเด่นมันใหญ่โตและสูงมากความกว้างเท่ากับสนามกีฬาและความสูงของมันสูงขึ้นไปจนทะลุเมฆ
มีตึกแบบนี้ออยู่หลายแห่งแต่ตึกนี่ดูโดดเด่นที่สุด
โฮโลแกรมขนาดใหญ่พร้อมตัวอักษรที่สวยงามอ่านว่า "AHQ" พร้อมกับดอกไม้ไว้ทุกข์
AHQ สำนักงานใหญ่ของแอสเตอร์
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่เขากำลังเศร้าโศกที่มีใครบางคนตาย
ช่างน่าขัน
'และน่าพอใจ' วาเรี้ยนยิ้มอย่างพอใจ
'ถ้าฉันเจอเธออีก ฉันอยากจะขอบคุณอีนิกม่าจริงๆ ไม่ว่าเธอจะมีเหตุผลอะไรในการฆ่าพวกมันก็ตาม'
วาเรี้ยนอยากเป็นเหมือนเธอ เธอไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด เธอไม่ใช่ระดับ 9 ด้วยซ้ำแต่เธอก็สามารถฆ่าใครก็ได้และไปไหนก็ได้อย่างอิสระ
'แต่ฉันไม่ทำไม่ได้... ไม่จนกว่าฉันจะรู้ว่าใครคือเซียและแอสเตอร์มีความเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ยังไง'
วาเรี้ยนในปัจจุบันไม่สามารถต่อสู้กับตระกูลไหนทั้งสามตระกูลได้เลย ซึ่งเขาไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้ว
เป้าหมายคือพ่อบ้านของตระกูลแอสเตอร์ ไม่ใช่หัวหน้าหรือรองหัวหน้าของตระกูลแอสเตอร์
ถึงอย่างนั้นเขาก็เกือบที่จะเจอกับความวุ่นวายอีกครั้ง
'ตอนนั้นฉันหุนหันพลันแล่น ถ้าไม่ใช่เพราะบู อะไรๆคงจะซับซ้อนมากกว่านี้' วาเรี้ยนทำหน้างง
คำพูดสุดท้ายของชายอ้วนคือ "พ่อบ้านของตระกูลแอสเตอร์"
แล้วพ่อบ้านคนไหน?
ที่พักของสาขาหลักมีสมาชิกตระกูลแอสเตอร์อย่างน้อยสามร้อยคน ประมาณร้อยคนจากสามร้อยคนมีพ่อบ้านส่วนตัวกันหมด
วาเรี้ยนควรที่จะเพ่งเล็งไปหาใคร?
โชคดีที่บูได้ค้นหาเรื่องราวชีวิตของชายอ้วนคนนี้อย่างละเอียดจนเจอว่าใครคือพ่อบ้านคนนั้น
'แกเก่งที่สุดแล้วบู' วาเรี้ยนยิ้มอีกแล้ว
'ฮิฮิ.' ผีตัวน้อยกำลังยิ้มอย่างเขินอายเพราะคำชม
หลังจากยืนยันว่าบูปิดกั้นการมองเห็นจากกล้องวงจรปิดภายในห้องโดนสารแท็กซี่แล้ว วาเรี้ยนก็เปิดข้อมูลของพ่อบ้านที่เป็นเป้าหมาย
(ไมเคิล แอสเตอร์
พ่อบ้านชั้นหนึ่ง
อายุ: 36
เส้นทางร่ายกายระดับ 6 สูงสุด สายเสริมแกร่ง
ข้อมูล : เป็นบุคคลที่มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งสองครั้งเมื่อปีที่แล้ว จากพ่อบ้านชั้นสามไปถึงพ่อบ้านชั้นหนึ่ง ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากกับการเลื่อนตำแหน่ง
เขาฝึกฝนตัวเองจากระดับ 5 สูงสุดจนเป็นระดับ 6 สูงสุดได้ในเวลาเพียงหนึ่งปี มีข่าวลือว่าเขาพบของเหลววิเศษในรูนทำให้เขาสามารถพัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดด
ศัตรูและคนที่เขาไม่ชอบหน้าหายไปในชั่วข้ามคืน พ่อบ้านชั้นสองที่สร้างความบาดหมางกับเขาตายอย่างน่าสยดสยอง แม้แต่สมาชิกในครอบครัวของเขาก็ไม่เว้น
ตอนนี้เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการตามเช็ดงานสกปรกของตระกูลแอสเตอร์และเขายังดูแลบริษัทที่เกี่ยวกับ 'ความปลอดภัย' ด้วย บริษัทรักษาความปลอดภัยเหล่านี้เป็นทหารเอกชนของตระกูลแอสเตอร์โดยตรง
เขาปรารถนาที่จะเป็นหัวหน้าพ่อบ้าน การรับสมัครคนรับใช้ในครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถของเขาให้ทุกคนเห็น
หมายเหตุ: เขาและหัวหน้าพ่อบ้านดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่สนิทกันอย่างมาก
วาเรี้ยนศึกษาข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่รถแท็กซี่จะส่งเขาลงที่สนามขนาดใหญ่
เท่าที่เขามองเห็น มีเพียงหญ้าสีเขียวและทิวเขาที่กว้างใหญ่ที่มีทะเลสาบเล็กๆอยู่
'นี่คืออะไรสวนสาธรณะหรือไง?' เขาสงสัย
มีการพูดคุยเล็กน้อยจากผู้สมัครที่อยู่ในสนาม
ด้วยการได้ยินระดับ 4 สูงสุดวาเรี้ยนได้ยินคำว่า 'ด่านตรวจสอบความปลอดภัย' บ่อยที่สุด
แต่เขาไม่รู้ตัวว่าในขณะที่กำลังจะมาถึงเขาก็โดนตรวจสอบไปแล้ว เมื่อรถแท็กซี่เข้ามาในพื้นที่นี่ โดรนรักษาความปลอดภัยก็สแกนห้องโดยสาร ตรวจสอบม่านตาของเขาและเปรียบเทียบเขากับบัตรประจำตัว เพื่อเช็คว่าเขาเป็นตัวปลอมหรือเปล่า
แต่พิมพ์ม่านตาเป็นเหมือนดีเอ็นเอที่ไม่เหมือนใครแล้วเขาจะไม่ถูกจับได้ได้บังไง?
บูสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นเขาจึงถูกปล่อยเข้าไปในพื้นที่นี่พร้อมกับคนอื่นเป็นพันคนโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาปลอมตัวมา
ต้องขอบคุณบูอีกครั้งที่ทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้นมาก
บูสามารถปลอมหน้าตาของเขาเพื่อปลอมเป็นคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างของเขาได้
บูจึงต้องค้นหาจากฐานข้อมูลทั้งหมดของมนุษย์บนโลกกว่าหมื่นล้านคน
โชคดีที่ตัวกรองสามารถช่วยลดขอบเขตการค้นหาได้มาก
ข้อแรกเลยคือต้องเป็นผู้ชายแค่การที่รู้ว่าต้องเป็นผู้ชายก็สามารถลดขอบเขตไปได้ถึง 50% จึงทำให้เหลือแค่ 5 พันล้านคน
ข้อที่สองคือขนาดทางกายภาพควรตรงกัน นี่เป้นเกณฑ์ที่ค่อนข้างที่จะหาให้ตรงกันยากจึงทำให้ตัวเลือกเหลือแค่ 2 ล้านคน
ข้อที่สามคือเส้นทางแห่งสวรรค์ของพวกเขา พวกเขาต้องมีอย่างน้อย 1 เส้นทางจาก 4 เส้นทางที่ตื่นขึ้นของวาเรี้ยน
นี่เป็นเกณฑ์ที่ยากเช่นกัน จึงทำให้ตัวเลือกเหลือเพียง 200,000 คนเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์
และข้อสุดท้ายพวกเขาต้องถูกฆ่าตายอย่างเงียบๆโดยที่ไม่มีใครมายืนยันว่าพวกเขาตายแล้ว
ตอนนี้ตัวเลือกของเขาแคบลงจนเหลือเพียง 10 คนเท่านั้น
วาเรี้ยนจึงเลือกคนที่ชื่อ โนวา รีฟส์ ซึ่งคนนี้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดจากสิบคนที่เขาต้องเลือก
ตัวตนของเขาในตอนนี้คือ โนวา รีฟส์ เด็กกำพร้าอายุ 20 ปีที่พ่อแม่ถูกฆ่าตายในดันเจี้ยนระหว่างภารกิจ 'กำจัดที่ซ่อนของพวกอะบิซอล' ในปัจจุบัน
โนวาเป็นผู้ปลุกพลังคู่ในเส้นทางอวกาศและเส้นทางมอร์เฟอร์
เขาไปถึงระดับ 2 ทั้งสองเส้นทางและรอเซอร์ไพรส์พ่อแม่ของเขา แต่ความตายของพ่อแม่ของเขากระทบจิตใจของเขาอย่างแรงและเขาก็ฆ่าตัวตายด้วยโรคซึมเศร้า
ก่อนที่จะมาที่นี่วาเรี้ยนได้ฝังศพของเขาและขอให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นในชาติหน้า
เวลาผ่านไปและจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นวาเรี้ยนรู้สึกบางอย่างและเงยหน้าขึ้นมอง
รถโฮเวอร์บางคันพยายามจะลงมาจอดแต่ก็ล้มเหลว มียางอย่างปิดกั้นพวกเขาทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้ามาได้
'นั่นต้องเป็นสมับติดวงดาว! มันเป็น 6 ดาวหรือ 7 ดาว?' วาเรี้ยนตกใจกับความฟุ่มเฟื่อยของพวกเขา กว่าจะครอบคลุมทุ่งกว้างขนาดนี้มันต้องแพงมากแน่ๆ
บูม! บูม!
หลังจากพยายามสักพักรถโฮเวอร์ส่วนใหญ่ก็ขับออกไป
เหลือเพียงไม่กี่คันที่ยังคงพยายามอยู่
วาเรี้ยนรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นรถโฮเวอร์ที่มาสาย 'มาช้ากันจังนะ ฉันไปหลุมศพของคนอื่นมาฉันยังสายไปแค่ไม่กี่นาทีเลย'
ขณะที่เขาเหลือบมองรถโฮเวอร์ด้วยความสงสาร รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงทันที
บูม!
ไฟสีแดงกระพริบและในชั่วพริบตา รถที่ลอยอยู่ก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
อึก!
'บู ตอบฉันตรงๆ ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรเราจะหนีได้ใช่ไหม'
'ใช่มาสเตอร์ แม้ว่าผมจะอยู่ไม่ถึงจุดสูงสุด แต่ของพวกนี้ไม่พอที่จะหยุดเราได้หรอกต่อให้เป็นระดับ 9 ก็จับพวกเราไม่ได้หรอก'
'ฉันไว้ใจแก' เขาปรับลมหายใจของเขาและยืนอยู่ที่ท้ายแถวสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีผู้สมัครกำลังต่อแถวกัน
'แค่ให้สัญญาณทางจิตแก่กับผมแล้วเราจะหนีไปในทันที มาสเตอร์ไม่ต้องกังวล' การมีบูอยู่นั่นทำให้วาเรี้ยนสบายใจขึ้นมาก
โว้ว!
โฮโลแกรมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น มีพ่อบ้านสองคนมองลงมาที่พวกเขา
วาเรี้ยนเห็น ไมเคิล แอสเตอร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเขาพร้อมด้วยหัวหน้าพ่อบ้าน
หัวหน้าพ่อบ้านซึ่งเป็นชายผมหงอกมองดูผู้สมัครและพูดด้วยน้ำเสียงเหหมือนกำลังออกคำสั่ง
“สามพันห้าร้อยหกสิบเจ็ดคนที่กำลังยืนอยู่บนสนามนี้ มีเพียงสามสิบคนเท่านั้นที่จะถูกเลือก”
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในทันที..