ตอนที่ 683+684 นานแค่ไหน
ตอนที่ 683 นานแค่ไหน
ผู้อาวุโสตู้แม้จะอยากช่วยลูกสาวของเขา ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“คุณวางแผนจะส่งจูเฉียนหลานเข้าคุกด้วยอย่างนั้นเหรอคะ” เจียงเหยาถามเพราะพวกเขาถูกอีกฝ่ายพยายามจะลักพาตัว
“ผมไม่ใช้อุบายแบบเดิมซ้ำหรอก แล้วไม่คิดจะใช้อุบายเดิมซ้ำด้วย” ลู่ชิงสีหัวเราะ
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกอันธพาลเหล่านั้นก็เป็นคนของบริษัทตระกูลจู คงจะลำบากมาก หากพวกเขาเปลี่ยนคำให้การ หากเราต้องการจัดการกับจูเฉียนหลาน เราต้องเริ่มจากอีกมุม”
ตระกูลจู!
เจียงเหยานึกถึงตระกูลจูโดยไม่รู้ตัว เมื่อลู่ชิงสีแยกกับผู้กำกับเยว่ เขาถามผู้กำกับเยว่ถึงข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลจู ลู่ชิงสีคงต้องการจัดการกับจูเฉียนหลาน โดยเริ่มจากตระกูลจู?
เจียงเหยาไม่รู้ข้อมูลของตระกูลจู เจียงเหยาเดาว่าลู่ชิงสีเองก็คงไม่รู้จะจัดการด้วยวิธีไหนเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ถามต่อ
เธอหันกลับมาและถามเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ที่ลู่ชิงสีฝึกฝน “ตอนที่คุณเรียนวิทยาลัยเตรียมทหาร คุณได้เรียนเกี่ยวกับจุดอันตรายของร่างกายทุกจุดที่ร่างกายไม่สามารถต้านทานได้ด้วยใช่ไหมคะ การโจมตีของคุณแม่นยำมากเลยค่ะ”
เขาต้องการทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้มาก เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการฆ่าพวกนั้น จุดที่เขาพาดลงไปนั้นแม่นยำจริง ๆ
“ใช่ หลังจากที่ผมเข้าร่วมกองทัพ ผมก็ได้รับการฝึกพิเศษด้วย” ลู่ชิงสีเล่า “ผมเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่อันตรายและได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ก็พวก การทำอีกฝ่ายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้”
ทุกปีในการแข่งขัน เขาเป็นแชมป์ทุกการแข่งขัน
“อันธพาลในปัจจุบันไม่ใช่คนชั่วร้าย แม้ว่าเขาอยากจะลักพาตัว แต่ก็ไม่สมควรตาย พวกเขายังมีครอบครัว ภรรยา ลูก และพ่อแม่ ผมเลยเบามือและเปลี่ยนวิธีใช้ท่าอันตราย”
การโจมตีของลู่ชิงสีนั้นร้ายกาจจริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้จงใจฆ่าใครสักคน
วิธีการที่เขาได้เรียนรู้ในวิทยาลัยเตรียมทหารและจากกองทัพถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับอาชญากรที่ชั่วร้ายและผู้ร้ายที่ร้ายกาจ พวกมันไม่เหมาะกับการนำมาใช้กับคนธรรมดาทั่วไป แม้ว่าเขาจะเลือดเย็น... แต่เขาไม่ใช่คนเลือดเย็นจริง ๆ นี่คือเหตุผลที่เขาไม่โจมตีคนเหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยม
อย่างไรก็ตาม หากใครก็ตามที่พยายามลักพาตัวเจียงเหยาไป วันนี้คงเป็นวันโชคร้ายของพวกเขา และโชคดีที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรในวันนี้
“ค่ะ” ริมฝีปากของเจียงเหยาโค้งเป็นรอยยิ้มเบา ๆ ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักเป็นคนที่ฉลาดและมีเหตุผลมาก
ลู่ชิงสีอาจใช้ความอดทนทั้งหมดกับเธอในชีวิตนี้
ความโง่เขลาทั้งหมดของเขาในชีวิตนี้คงถูกเธอใช้ให้เกิดประโยชน์
โชคดีที่เธอเป็นข้อยกเว้นที่สวยงามในชีวิตของเขา
ทั้งสองขับรถตรงจากซอยไปยังสนามบิน คราวนี้ลู่ชิงสีเร่งความเร็วรถอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาคิดว่ากู้ฮ่าวอวี้จะสามารถไปถึงก่อนไม่ว่าเขาจะหลงทางสักแค่ไหน
แต่เจียงเหยาและลู่ชิงสีกลับมาถึงก่อน พวกเขาโทรหากู้ฮ่าวอวี้ และรู้ว่าเขายังอยู่บนถนน
เจียงเหยาหัวเราอย่างไร้ความปราณีผ่านโทรศัพท์และถามว่า พี่รอง ต้องการให้ฉันกับชิงสีไปรับไหมคะ?”
“ไม่จำเป็น ยังไม่สายเสียหน่อย ไม่เกินสิบนาทีก็ถึง” กู้ฮ่าวอวี้วางสายหลังจากพูดแบบนั้น
เขาอาจจะคุ้นเคยกับการเยาะเย้ยของเจียงเหยา น้ำเสียงของเขาจึงไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย และไม่มีความไม่พอใจใด ๆ อยู่ในนั้น
“พี่รองว่าไงบ้าง” ลู่ชิงสีหยุดรถแล้วหันไปมองเจียงเหยา
“เขาบอกว่าอีกสิบนาทีถึงค่ะ” เจียงเหยาตอบ
__
ตอนที่ 684 ทีม
ลู่ชิงสีพาเจียงเหยาลงจากรถและวางมือบนศีรษะของเธอ เขาคงกลัวว่าศีรษะของเธอจะชนกับหลังคารถ จากนั้นเขาก็พูดว่า “แต่ผมคิดว่าคงใช้เวลาอีกอย่างน้อย ๆ 15 นาที”
ลู่ชิงสีหัวเราะคิกคัก “ถ้าบนถนนมีทางแยก ก็คงจะช้าเพิ่มไปอีกสามนาทีไ
เจียงเหยาหัวเราะอย่างหนักจนดวงตาของเธอหยี ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธออยากจะเห็นว่ากู้ฮ่าวอวี้เป็นอย่างไรเมื่อเขาหลงทาง เธออยากรู้จริง ๆ ว่าเขาจะถามทางด้วยใบหน้าที่ไม่เป็นอันตรายของเขาได้อย่างไร
ลู่ชิงสีพูดไว้ว่า 15 นาที และกู้ฮ่าวอวี้ก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจริง ๆ
เมื่อเขาลงจากรถ เขายังคงยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับลู่ชิงสี และใบหน้าล้อเลียนของเจียงเหยา เขายังถามอย่างสุภาพว่า “รอนานไหมครับ”
“ไม่นานค่ะ” เจียงเหยาส่ายหน้า เดิมทีเธอต้องการจะเยาะเย้ยเขาอีกหน่อย แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา เธอก็ไม่สามารถพูดคำเหล่านั้นได้
ดังนั้น นอกจากถามทางแล้ว รูปลักษณ์อันประณีตของกู้ฮ่าวอวี้อาจจะหยุดการเยาะเย้ยจากคนอื่นได้อีกด้วย
เครื่องบินมาตรงเวลา ทั้งสามคนรออยู่ที่สนามบินนานกว่าสิบนาทีก่อนจะเครื่องบินจะลงจอด
ในทีม ทั้งห้าคนมาถึงก่อน แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินจากกู้ฮ่าวอวี้ว่าเจ้านายในอนาคตของพวกเขาเป็นหญิงสาวที่อายุน้อยมาก ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับเจียงเหยา พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเป็นเพียงนักศึกษาปีหนึ่ง
“นี่คือเจ้านายในอนาคตของพวกคุณ เจียงเหยา” กู้ฮ่าวอวี้แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน หลังจากแนะนำเจียงเหยา เขาได้แนะนำอีกสองคนที่อายุมากที่สุดในทีม “นี่คือแอ็บบ็อท..”
“แอ็บบ็อทอะไรกัน? ชื่อพวกนั้นเป็นชื่อต่างประเทศ กลับบ้านเรา ก็ต้องเรียกชื่อเดิมสิ! สวัสดีครับ ประธานเจียง ผม หลินไท่เฉิงครับ”
หลินไท่เฉิงขัดจังหวะคำพูดของกู้ฮ่าวอวี้โดยตรง จากนั้นก็ยิ้มและยืนมือไปทางเจียงเหยา “ตอนที่พ่อผมตั้งชื่อนี้ให้ผม เขาหวังว่าผมจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์เป็นพิเศษ ในอนาคตผมขอฝากความจริงใจนี้ไว้กับประธานเจียงและสถาบันวิจัยฉางกังครับ!”
“ประธานเจียง! พี่ไท่เฉิงนี่เก่งเรื่องประจบจริง ๆ!” ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าเขาขยิบตาให้เจียงเหยาและทำหน้าล้อเลียน
“ไปให้พ้นเลย” หลินไท่เฉิงผลักเด็กหนุ่มไปด้านหลังและดึงภรรยาของเขา และแนะนำต่อ “นี่ภรรยาของผม หงเก๋อ ข้าง ๆ ภรรยาของผมคือสาวสวยของทีมเรา เสี่ยวอัน ข้าง ๆ เธอเสี่ยวอันเป็นหนุ่มหล่อชื่อเสี่ยวหยวน ข้าง ๆ เสี่ยวหยวน เจ้าลิงป่านั่นชื่อ ฉงฮุ่ย ครับ”
“นี่มันความแค้นส่วนตัวนี่!” ฉงฮุ่ยโกรธมากเมื่อได้ยินเขาแนะนำเช่นนั้น “ฉันจะเป็นลิงป่าได้ยังไง ฉันเองก็มีพ่อมีแม่นะ ยังไงก็เถอะ ฉันก็มีครอบครัวนะ”
“เอาล่ะ ฉันเป็นแค่ลิงเฉย ๆ นะ” ฉงฮุ่ยพูด ทำเอาหลินไท่เฉิงยักไหล่
เพียงแค่แนะนำตัวเอง เจียงเหยาก็รู้สึกว่านี่เป็นทีมที่น่าสนใจมากและเป็นทีมที่มีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่นมาก
ในบรรดาห้าคนในทีม คนที่อายุมากที่สุดคือหลินไท่เฉิง ปีนี้เขาอายุ 34 ปี และหงเก๋อที่เป็นภรรยาของเขา เจียงเหยาได้อ่านข้อมูลแล้ว และรู้ว่าปีนี้ หงเก๋อ อายุ 32 ปี
ทั้งห้าคนจบมาจากที่เดียวกันและเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกัน ทำให้พวกเขานับถือกันเป็นเพื่อนและพี่น้อง
น้องคนสุดท้องคือเจ้าลิงป่า ฉงฮุ่ย คนที่หลินไท่เฉิงแนะนำ เขาอายุเพียงยี่สิบสามปี เขาเป็นอัจฉริยะที่ทรงพลังมาก เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตอนอายุเพียงสิบหกปี และจบการศึกษาระดับปริญญาเอกเมื่ออายุ 22 ปี เป็นนักเรียนหัวกะทิที่เป็นเหมือนปาฏิหาริย์ในโลกใบนี้