ตอนที่ 681+682 เขาไม่เคยไปที่นั่น
ตอนที่ 681 เขาไม่เคยไปที่นั่น
ลู่ชิงสีได้เปิดฝาขวดน้ำอีกครั้ง เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเจียงเหยา เขาไม่รู้ว่าควรเยาะเย้ยหรือดุเธอดี
เขาบอกเธอแล้วว่าอย่ายั่วเขากลางถนนแบบนี้ หากเขาไม่สามารถทนไหว แล้วเข้าไปกอดและจูบเธอ เธอคงไม่มีความสุขอีกครั้ง!
ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลานาน นอกจากตอนที่พวกเขาแยกทางกันที่สนามบินครั้งล่าสุด เมื่อเจียงเหยาสวมกอดเขาและเรียกเขาว่า สามี สองสามครั้ง
เขาก็ไม่ได้ยินเธอเรียกเขาแบบนั้นอีกเลย คืนนั้นบนเตียง ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้เธอเรียกเขาเช่นนั้นได้อีกเลย
“เหยาเหยา เด็กดี” ดวงตาของลู่ชิงสีมืดลง “เงียบเถอะน่า ไม่อย่างนั้นภายในไม่กี่นาที คุณอาจจะโกรธขึ้นมาก็ได้”
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังใช้ความอดทนเป็นอย่างมากที่จะกดเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและจูบเธอ
เธอมองตาที่เร่าร้อนและบ้าคลั่งของเขา เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขากำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่สินะ
“...”
เจียงเหยากัดริมฝีปากของเธอและเหลือบมองไปที่ลู่ชิงสี
“ฉันจะไม่กวนคุณแล้ว แต่ตอนนี้ฉันมีคำพูดมากมายอยู่เต็มท้อง ถ้าคุณไม่ให้ฉันพูด...” เจียงเหยาทำหน้าบึ้ง “ฉันทำไม่ได้หรอกนะ”
จากนั้นเธอก็พูดกับเขาและถามว่า “ฉันอยากรู้ ดูเหมือนว่าคุณจะคุ้นเคยกับตรอกซอกซอยแถวนี้นะ คุณเคยมาที่นี่มาก่อนเหรอคะ”
เธออาศัยอยู่ที่หนานเจียงมาหลายปี เธอพอจะรู้ทุกตรอกซอกซอย แต่เธอไม่รู้ว่าถนนสายไหนจะพาไปถึงถนนสายไหน
อย่างไรก็ตาม ลู่ชิงสีสามารถขับรถวนไปรอบ ๆ ตรอกซอย ในที่สุดเขาก็สามารถปิดกั้นทางของกลุ่มอันธพาลได้ เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้ เพราะลู่ชิงสีมาที่เมืองหนานเจียงเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น อีกอย่างเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะไปนั่นไปนี่โดยไม่มีเหตุผล
“โอ้ ซอยนั้นเหรอ...” ลู่ชิงสีพูดต่อ “อ่า” ความรู้สึกเริ่มสบายขึ้นมาบ้างแล้ว
“ผมไม่เคยไปหรอก เมื่อสองวันก่อน ที่ผมกำลังหาซื้อบ้าน ผู้จัดการซุนได้เปิดแผนที่เมืองหนานเจียงให้ผมดู ผมเห็นแผนที่ของบริเวณตรอกนั้นและคิดว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ ดังนั้นจึงดูมันน่ะ”
ความจำของลู่ชิงสีนั้นดีมาก ไม่กี่นาทีที่เขาได้ยินผู้จัดการซุนพูดถึงถนนอู่เฉียว เขาก็เหลือบมองพื้นที่นั้นอีกครั้ง และจดจำแผนที่ของเมืองนี้ เขายังจำเส้นทางของซอยนั้นได้ด้วย
เขาเป็นคนที่ช่างจดจำเส้นทาง ซึ่งต่างไปจากกู้ฮ่าวอวี้ที่ไม่มีความจำเรื่องเส้นทางเลย เขามีพรสวรรค์ในเรื่องการจดจำเส้นทางมาตั้งแต่เด็ก และความจำของเขาก็ดีด้วยเช่นกัน หากเพียงได้ดูแผนที่ เขาก็จำทางได้
ลู่ชิงสีตอบอย่างไม่เป็นทางการราวกับว่าเขาไม่สนใจเลย นี่ไม่ใช่อะไรสำหรับเขา แต่เจียงเหยารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินเรื่องนี้
สมองของชายคนนี้ถูกสร้างโดยสวรรค์จริง ๆ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเก่งกว่าคนทั่วไปล่ะสินะ?
เขาไม่เคยมาแถวนี้เสียด้วยซ้ำ เพียงแค่จำจากแผนที่และเครื่องหมายบนแผนที่
เจียงเหยาอดทนที่จะไม่ชมเขาอีก
“เมื่อกี้คุณได้ยินเสียงตะโกนของหัวหน้าทีมหรือเปล่า” ลู่ชิงสีไม่รู้ว่าเจียงเหยากำลังคิดอะไรอยู่ สำหรับคนที่จำทิศทางได้ ตั้งแต่เด็ก ก็ไม่มีอะไรน่าพูดถึง
ตอนนี้ก่อนที่เจียงเหยาจะพูดอะไรอีก เขาก็จำได้ว่าเขามีบางอย่างที่ต้องอธิบายกับเธอ
“คุณกำลังพูดถึงหัวหน้าทีมที่เรียกคนให้มาจับฉันเหรอคะ?” เจียงเหยาพยักหน้า “ฉันได้ยินเขา เขาตะโกนเสียงดังจนคนหูหนวกยังได้ยินเสียงเขา”
ยิ่งไปกว่านั้น การได้ยินของเธอก็ปกติดี
__
ตอนที่ 682 ต้องไม่ให้เกิดเรื่องเข้าใจผิด
“เขากำลังพยายามสร้างสถานการณ์เบี่ยงเบนความสนใจ เขาเรียกคนของเขาให้มาจับคุณ แต่ผมประเมินความคล่องตัวของคนของเขาแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำร้ายคุณได้ ผมเลยไม่ได้คิดจะจัดการเขาเป็นอันดับแรก แต่จับความสนใจไปที่หัวหน้าทีมแทน” ลู่ชิงสีอธิบาย “ไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจคุณหรอกนะ”
เขากลัวว่าเจียงเหยาจะมีปมในใจเมื่อเธอนึกถึงเรื่องนี้ เธอคงรู้สึกว่าเขาได้เลือกที่จะจัดการกับหัวหน้าทีมในช่วงเวลาวิกฤต แม้ว่าความจริงจะพิสูจน์แล้วว่าหัวหน้าทีมกำลังคิดวางแผนเรื่องนี้ไว้ก่อน เธอก็อาจจะคิดว่าเขาไม่ใส่ใจเธอมากพอก็เป็นได้
ลู่ชิงสีไม่ต้องการให้เจียงเหยาเข้าใจผิดอะไรที่เกี่ยวกับเขา บางครั้งหลายสิ่งหลายอย่างหากไม่รีบอธิบาย อาจเปลี่ยนจากความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย กลายเป็นความเหินห่าง จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป มันจะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นทีละนิด
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาและเจียงเหยาที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างในปัจจุบัน เขาไม่ต้องการที่จะให้ความสัมพันธ์กลับไปเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นอีก
“อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ค่ะ ฉันรู้” เจียงเหยาไม่ได้เข้าใจอะไรเขาผิด เพราะเธอรู้ชัดในใจแล้วว่าลู่ชิงสีห่วงใยเธอมากแค่ไหน
เมื่อเห็นว่าเขาเป็นกังวลจริง ๆ เธอจึงพูดต่อ “ฉันเชื่อในการตัดสินใจของคุณ คุณมีความคิดของคุณและฉันเองก็ไม่ใช่แจกันที่บอบบางเสียหน่อยนี่คะ”
ลู่ชิงสีมองย้อนไปที่ผู้หญิงที่ยิ้มอยู่ข้าง ๆ เขา สักพักเขาก็ผ่อนคลายลง
เธอไม่ได้เข้าใจผิดจริง ๆ คำตอบนี้ทำให้เขามีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก
“โอ้ ใช่แล้ว ครั้งนี้คุณจะจัดการกับจูเฉียนหลายยังไงคะ?” เจียงเหยาไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมจูเฉียนหลานถึงให้ใครมาสะกดรอยตามเธอ
เธอไปทำอะไรให้จูเฉียนหลานงั้นเหรอ? ดูเหมือนเธอไม่ได้ทำอะไรเลยตั้งแต่ต้นไม่ใช่หรือ
ตลอดเวลามีแต่จูเฉียนหลานเป็นฝ่ายกระทำฝ่ายเดียว สิ่งเดียวที่เจียงเหยาทำคือปฏิเสธคำขอของจูเฉียนหลานเพื่อช่วยเธอ
แต่ในความจริง เจียงเหยาไม่ควรปฏิเสธเธอหรอกหรือ? เป็นใคร ใครบ้างจะไม่ปฏิเสธเธอ ในเมื่อเธออีกฝ่ายไม่เคยทำดีกับตัวเองและยังเกลียดเธออีก
ทำไมจูเฉียนหลานต้องใช้คำพูดเยาะเย้ยและถากถางเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วยังมาพูดเรื่องไร้สาระกับลู่ชิงสีอีก? เจียงเหยาต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและช่วยเธอด้วยรอยอย่างนั้นหรือ?
“เพียงเพราะฉันปฏิเสธที่จะช่วยเธออย่างนั้นเหรอคะ ถึงกับต้องหาคนมาลักพาตัวฉันเลยเหรอ? ผู้หญิงอย่างจูเฉียนหลานนั้นไร้เหตุผลสิ้นดี” เจียงเหยาเยาะเย้ย “เธอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ สินะแล้วคงอยากให้ทุกคนตอบรับเธอไปเสียหมด”
“ไม่ใช่หรอก” ลู่ชิงสีกล่าวอย่างแผ่วเบา “เพราะผมบังคับให้เธอออกไปจากเมืองหนานเจียง”
ดังนั้นจูเฉียนหลานจึงหมดหวังและทำสิ่งนี้ด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตามลู่ชิงสีไม่คิดว่าเขาทำผิด และไม่เสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
เขาไม่ได้อยู่ในเมืองหนานเจียง ทำไมเขาจะต้องปล่อยให้จูเฉียนหลานอยู่ในเมืองนี้ต่อเพื่อทำให้เจียงเหยาไม่สบายใจด้วย? แล้วยังจะลากเจียงเหยาและหวงเฉิงจิ้งให้อยู่ด้วยกันอีก ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้สาระและโง่เขลา
วิธีการของเขารวดเร็วและเด็ดขาดอยู่เสมอ
“คุณทำอะไรนะ?” เจียงเหยาประหลาดใจกับคำตอบของลู่ชิงสี “ผมคิดว่าคนอย่างจูเฉียนหลาน ใจแคบ เพียงเพราะฉันปฏิเสธที่จะช่วยเธอ เธอถึงทำท่าทางดูถูกเหยียดหยามเสียอีก”
เธอไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดอีกครั้ง
แม้ว่าลู่ชิงสีจะไม่ตอบ เจียงเหยาก็เดาได้ว่า หากลู่ชิงสีเคลื่อนไหว คงไม่มีที่ว่างให้อีกคนขยับตัว
เช่นเดียวกับคุณนายโจวในเมืองหลวง หากเขาไม่เคลื่อนไหว คุณนายโจวคงใช้กำลังทั้งหมดของเธอเพื่อเข้ามายุ่งยาก เมื่อเขาลงมือ ก็ทำให้คุณนายโจวถูกส่งตัวเข้าคุกโดยตรงและในที่สุดก็ถูกตระกูลโจวทอดทิ้ง