Chapter 256 (อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6)
เมื่อคาลลาร์กกำลังจะปฏิเสธ โซลสโตนในมือของซอดก็ส่องแสงสีทองขึ้นมา.
จากนั้นสายตาของคาลลาร์กก็สับสันและหม่นหมอง.
ซอดใช้พลังของฟินิกซ์และโซลสโตนพวกกับพลังจิตเข้าไป 3 เท่า ทำให้เขามีพลังมากพอที่จะสัมผัสได้ทุกสิ่งของสุริยะจักรวาล
คาลลาร์กไม่อาจต้านทานกระแสจิตของเวทย์มนต์ นอกจากนี้ฝ่ายของซอดยังมีสมบัติของจักรวาล(อินฟินิตี้สโตน) มันง่ายที่จะควบคุมเขา
"ฝ่าบาท!"
ดังนั้น จากหัวหน้าทหารหลวงของจักรวรรดิชีอาในความทรงจำของคาลลาร์กก็ได้กลายเป็นหัวหน้าทหารหลวงของจักรวรรดิคริปโตเนียน!
"ทหารอันดับหนึ่ง!"
"หัวหน้าทหาร!"
"ท่านคาลลาร์ก!"
ชาวอาณาจักรชีอาที่เหลือเมื่อเห็นฉากนี้ก็ตะลึงทันที.
คาลลาร์กได้ทรยศจักรวรรดิชีอา?
ไม่ มันต้องเกิดเพราะสิ่งที่จักรพรรดิคริปตอนทำอะไรกับเขา.
ซอดเคลื่อนย้ายพวกเขาไปยังดาวซาคาท์ของแกรน์มาสเตอร์อย่างสบายๆและแก้ไขความทรงจำของพวกเขา.
คาดเดาได้ว่าแม้ว่าจักรวรรดิชีอาจะพบพวกเขา แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.
"นี่คือทหารเอกที่นายกำลังมองหา?"
อีกฝ่ายมองดูการต่อสู้ระหว่างคาลลาร์กและซอดด้วยความสนใจ.
"ใช่ อย่าประมาทเขาไป เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา."
ซอดพูด.
เป็นไปไม่ได้ที่ชาวคริปโตธรรมดาจะเอาชนะคาลลาร์กที่เพิ่มพลังได้ด้วยความเชื่อมั่น แม้แต่เอเธอร์ที่มียีนทหารคริปโตเนียนก็ตาม.
แต่ตอนนี้ ซอดได้ทำให้คาลลาร์กมีความมั่นใจสูงอยู่เสมอ.
"อย่างนั้น ก็เข้ามาสู้กับฉัน."
เอเธอร์พูดทันที.
คาลลาร์กมองไปที่ซอด.
"เธอเป็นแม่ทัพใหญาของจัพรวรรกิ และตำแหน่งของเธอก็สูงกว่านาย ฟังคำสั่งของเธอ."
ซอดพูด.
จากนั้นคาลลาร์กก็มองไปที่เอเธอร์
"ท่านนายพล เข้ามา."
เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงมากในเวลานี้ เขารู้สึกว่าเขาเป็นรองแค่ฝ่าบาทเท่านั้น.
ใครจะรู้ว่าเอเธอร์ต่อยเขากระเด็นด้วยหมัดเดียว
หมัดที่เร็วสลับช้าที่ถูกปล่อยออกมาไม่ปล่อยให้เขามีเวลาหายใจเลย มันใช้เวลาไม่ถึงกระพริบตา เงาหมัดมากมายก็ต่อยเข้าที่หน้าอกของคาลลาร์ก แรงมันของมันสามารถทำลายภูเขาได้ คาลลาร์กระเบิดพลังออกมาเพื่อหลบเลี่ยงได้เท่านั้น.
คาลลาร์กกระเด็นกลับหัวกลับหางและกระแทกไปยังอุกกาบาตก่อนที่จะหยุดลง และเมื่อเขากระแทกอุกกาบาต อุกกาบาตลูกนี้ก็กระเด็นไปด้านหลังทันที
เอเธอร์ตามไปราวกับเงา พุ่งไปบนอวกาศด้วยความสูง
โดยไม่มีการหลบเลี่ยงใดๆ ร่างแสงของคาลลาร์กก็หมุนไป พลังงานมากมายพุ่งเข้ามาที่แขนของเขาและรวมเข้าที่หมัดก่อนที่พลังงานแสงเหล่านั้นจะไหลลามไปตามแขนของเขา
หมัดของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง และค่อยๆกลายเป็นละอองเพลิง เกิดการเผาไหม้แม้ว่าจะอยู่ในที่ๆเป็นสูญญากาศ
หมัดเดียวจอด!
น้ำหนักของหมัดนี้หนักถึงขนาดทำลายโลกได้ พลังงานทั้งสองกลายเป็นแสงและเปลวไฟก็ปะทุขึ้นตามผิวอุกกาบาต อุกกาบาตที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 300 ไมล์ก็ถูกพลังงานทั้งสองทำลายทันที
อุกกาบาตกลายเป็นฝุ่นและกระจายไปทั่ว มันระเบิดอย่างเงียบๆในพื้นที่สุญญากาศและเศษหินนับไม่ถ้วนก็กระจายออกไป.
เมื่อดูจากผลกระทบทางด้านพลังแล้ว การปะทะกันรอบนี้ไม่เกี่ยวกับเทคนิคใดๆเลย
แรงดีดได้ส่งให้คาลลาร์กกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็วและร่างกายของเขาก็ทะลุฝุ่นผงออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะบินกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง
เอเธอร์ที่ใช้น้ำแข็งป้อนกันแรงกระแทกก็ตรงเข้าต่อสู้กับคาลลาร์ก.
คาลลาร์กไม่พอใจอย่างมาก ก่อนที่จะรวมพลังไปที่มือทั้งสองข้าง แสงของมันสว่างทะลุฝุ่นผงด้านหน้า ราวกับไฟหน้ารถที่กำลังเดินทางผ่านหมอกที่หนาจนมองไม่เห็นนิ้วมือของตัวเอง
ฝุ่นผงกระจายออกไป และเศษหินมากมายระหว่างทางไม่ละลายก็แตกเป็นเสี่ยงๆ! จากนั้นลำแสงสีทองสองสายที่พุ่งออกมาจากคาลลาร์กก็เข้ามาอีกรอบ
ตาเลเซอร์ของเขาก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง และเอเธอร์ก็ใช้ตาเลเซอร์สู้กลับ.
แต่เธอไม่คิดว่าลำแสงสีทองสองเส้นนี่จะระเบิดทันทีที่ปะทะกัน แสงสีทองที่แตกกระจายราวกับดอกไม้ไฟในความมืด และพลังงานที่ระเบิดออกมาก็ห้อมล้อมตัวของเอเธอร์ทันที
เอเธอร์รู้สึกแสบร้อนอยู่บ้างและการหายใจของเธอก็สั้นและกระชับ เมื่อเธออาการดีขึ้นเธอก็เห็นว่าคาลลาร์กพุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วและกระชั้นชิดเกินไป
ไม่ต้องพูอะไรอีก เอเธอร์ได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณในการต่อสู้กับคาลลาร์กทันที แม้ว่ามันจะมีการโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนเป็นภาพติดตา จนตอนหลังก็กลายมาเป็นการดวลด้านพลังงาน. .
และคาลลาร์กที่ต่อสู้เอาจริง ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
เขายกมือและรวบรวมพลังไว้ที่กำปั้นของเขา พลังงานทั้งหมดของเขารวบรวมอยู่ในมือของเขา มันทรงพลังจนดูเหมือนว่าเขากำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดย่อมๆเอาไว้ ก่อนที่จะต่อยออกไป.
เขาทุ่มสุดตัว! แสงสีทองที่เกิดจากหมัดของเขารู้สึกได้ราวกับระเบิดขนาดหลายหมื่นตัน.
ร่างกายของเอเธอร์จมอยู่ภายใต้แสงสีทองทันที ราวกับว่าเธอกลายเป็นดาวตกที่ตกมาจากชั้นบรรยากาศ.
ดาวตกที่ตกมาจากชั้นบรรยากาศ ลอยผ่านเมืองคริปตอนและกระแทกพื้นอย่างแรงจนดูเหมือนว่าจะถูกมิสไซต์ยิงลงมาจากดาวเทียม.
เช่นเดียวกับดาวตกที่ตกลงสู่ทะเล คลื่นฝุ่นขนาดใหญ่ก็พัดพาขึ้นมาก่อนที่จะกระจายไปกว่าครึ่งดาวเคราะห์นี้.
ควันและฝุ่นผงกระจายเหมือนถูกระเบิดนิวเคลียร์ หลังจากที่ลอยไปถึงชั้นบรรยากาศแล้ว หลุมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ไมล์ก็ปรากฏขึ้น.
พลังงานที่ประทุออกมาจากร่างกายาของคาลลาร์ได้ห้อมล้อมเขาและทำให้เสื้อคลุมสีแดงของเขาโบกสะบัดไปมา.
จากนั้นคาลลาร์กก็บินออกไปด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง.
ร่างกายของเขากลายเป็นภาพติดตาและเขาก็ปรากฏอยู่เหนือหัวของเอเธอร์ราวกับเทเลพอต และชกเข้าที่หน้าผากของนางด้วยแรงทั้งหมด!
แรงของหมัดนั้นทำลายพื้นดินด้านหลังหัวของเธอทันทีพร้อมกับเสียงดังราวกับฟ้าผ่า.
คลื่นกระแทกกวาดไปรอบๆ พื้นดินสั่นและดาวเทียมทั้งหมดก็ส่ายไปมา.
เอเธอร์ตอนนี้ไม่มีแรงที่จะสู้แล้ว คาลลาร์กเหนือกว่าเธอในทุกๆด้าน.
"เอาหล่ะ."
ซอดหยุดคาลลาร์กไม่ให้สู้ต่อ และเอเธอร์ก็ลุกขึ้นมาอย่างอับอาย.
ร่างกายของเธอเป็นเหล็ก ดังนั้นจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่การแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก.
มีเพียงเธอที่รู้ว่าช่องว่างระหว่างตัวเธอและคาลลาร์กมากแค่ไหน และเธอรู้สึกว่าเธอสามารถมาหาเขาได้หลังจากที่เธอแข็งแกร่งได้มากกว่านี้
ซอดปลอบเอเธอร์อยู่ 3 ชั่วโมง จากนั้นก็ปล่อยให้เธอไปหลังจากที่เธอนอนนิ่ง.
จากนั้นซอดก็เริ่มจัดการบางอย่างใหม่.
เขาไม่ได้สร้างคนใหม่มานานแล้ว คราวนี้เขาเลยวางแผนที่จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาและยังเป็นกำลังพลได้ในคราวเดียว.