591 - ดินแดนที่จากมา
591 - ดินแดนที่จากมา
เรือลำเดียวแล่นไปตามแม่น้ำ คลื่นในแม่น้ำมีแสง และบางครั้งปลาก็กระโดดขึ้นจากน้ำสาดละอองน้ำขึ้นสู่ด้านบน
ภูเขาขนาดใหญ่ทั้งสองข้างของช่องแคบ เสียงร้องของลิงและเสียงคำรามของเสือรบกวนความสงบในยามค่ำคืนและเพิ่มความสดใสของธรรมชาติ
เย่ฮุ่ยหลิงยืนอยู่ข้างเย่ฟ่าน ผิวพรรณของนางขาวผ่องราวกระจกเนื้อดีในขณะที่ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย
นางหัวเราะและยอมรับว่านางมาเพื่อยาศักดิ์สิทธิ์ แต่ถึงแม้จะสวมชุดสมบัติคลุมนภา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในเขตต้องห้ามเจ็ดชีวิต น้อยคนในโลกจะทำได้
นอกจากนี้เย่ฟ่านได้รับข่าวร้ายมา ผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคใต้ ทะเลทรายตะวันตก รวมทั้งคนภาคกลางเองต่างก็ชุมนุมกันอยู่ที่นี่
"ทำไมเป็นอย่างนี้"
“แก่นแท้แห่งชีวิตของจักรพรรดิผู้เฒ่าแห่งราชวงศ์ภาคกลางได้เหือดแห้งไปแล้ว ร้อยสำนักของภาคกลางนั้นก็ไม่สามารถทดแทนความแข็งแกร่งของจักรพรรดิผู้เฒ่าได้ ดังนั้นผู้คนมากมายจึงค้นหายาเพื่อต่ออายุให้เขา”
เย่ฟ่านคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แคว้นภาคกลางกำลังปั่นป่วน และจักรพรรดิผู้หาที่เปรียบมิได้กำลังจะตาย ดังนั้นผู้คนมากมายจึงค้นหายาล้ำค่าเพื่อต่อชีวิตให้ชายชราคนนี้ ไม่อย่างนั้นภาคกลางจะตกต่ำลงอย่าคาดไม่ถึง
เขาต้องเตรียมพร้อม ไม่เช่นนั้นหากช้าไปเพียงหนึ่งก้าว ยาศักดิ์สิทธิ์ต้นนั้นอาจจะตกเป็นของคนอื่นและชีวิตของเขาก็จะร่วงหล่นไปเช่นกัน
“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ตั้งแต่สมัยโบราณนอกจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้วแทบจะไม่มีผู้ใดสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนั้นได้”
ดวงตาของเย่ฮุ่ยหลิงราวกับอัญมณีสีดำ ซึ่งดูเหมือนจะสามารถรับรู้ความคิดของผู้อื่นได้ นางมีลมหายใจแห่งความศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือโลกและรอยยิ้มของนางงดงามสดใสทำให้จิตใจของเย่ฟ่านเต้นระทึก
“มันยังยากสำหรับข้าที่จะเลือกยาศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนแห่งนั้น แต่การที่เจ้าให้ยืมชุดเกราะสมบัติคลุมนภานั้นจะเป็นเรื่องที่แตกต่างกันออกไป หากข้าได้รับยาศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่เราตกลงกันไว้จะไม่บิดพริ้วอย่างแน่นอน”
แน่นอนว่าไม่มีใครในโลกนี้จะให้ยืมสิ่งของล้ำค่าโดยไม่มีเหตุผล เย่ฮุ่ยหลิงก็มาเพื่อยาศักดิ์สิทธิ์ แต่นางรู้ดีว่าสถานที่ต้องห้ามที่น่ากลัวนั้น คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้
“สำหรับร่างกายของเจ้า หากเจ้าสวมชุดสมบัติคลุมนภา โอกาสก็ยังมีอยู่” แก้มของเย่ฮุ่ยหลิงเป็นประกาย
เย่ฟ่านยังหัวเราะ ส่ายหัวและพูดว่า
"ทุกคนรู้ว่าข้ามีบาดแผลที่เกิดจากเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ต่อให้ข้าได้รับยาศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตอย่างเต็มที่แล้วก็คงเป็นเรื่องยากที่จะรักษามัน เส้นทางที่จะดำเนินต่อไปข้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี"
“ในโลกนี้ยากที่คนเราจะดำเนินชีวิตไปด้วยความสมบูรณ์พร้อม ข้าหวังว่าเจ้าจะโชคดี” เย่ฮุ่ยหลิงมีรอยยิ้มที่บริสุทธิ์
เย่ฟ่านไม่ได้บอกว่าเขาต้องการไปเขตหวงห้ามแห่งชีวิต ไม่อย่างนั้นฝ่ายตรงข้ามคงไม่มีทางให้เขายืมสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงเย่ฮุ่ยหลิงไม่ต้องการให้เขายืมสมบัติชิ้นนี้ แต่ในเมื่อนางไม่มีทางเลือกอื่นนางจึงได้แต่ไว้ใจเขาให้ทำภารกิจแทนนาง
ในโลกใบนี้มีเจ็ดเขตต้องห้ามชีวิตอันยิ่งใหญ่ เป็นสถานที่เจ็ดแห่งสุดท้ายที่ยาศักดิ์สิทธิ์โบราณอาจมีอยู่ สำหรับเขตหวงห้ามแห่งชีวิตอื่นๆมันเป็นไปไม่ได้ที่เย่ฟ่านจะมีชีวิตรอดกลับมาได้
เพราะถึงแม้เขตหวงห้ามแห่งชีวิตทั้งเจ็ดจะมีข่าวลือเรื่องยาศักดิ์สิทธิ์อมตะ แต่ก็เป็นสถานที่ๆมีคนเห็นในยุคโบราณเท่านั้น ไม่เหมือนกับภูเขาเซียนที่อยู่ในภาคกลาง
แม่น้ำกลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทั้งสองข้างของช่องแคบไม่สามารถหยุดเรือได้และเรือได้ผ่านภูเขาหมื่นลูกแล้ว
บนผืนน้ำมีหน้าผาหลายพันแห่ง และเรือก็ล่องลอยเหมือนลูกศร เย่ฮุ่ยหลิงโบกสะบัดแขนเสื้อเบาๆก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายสาบสูญไปอย่างรวดเร็ว
นางตกลงว่าจะนัดพบกับเย่ฟ่านอีกครั้งที่ทางเข้าของภูเขาเซียน หากผู้อาวุโสของนางให้การยอมรับในเรื่องนี้นางจะนำชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์มาด้วย
เย่ฟ่านรู้ดีว่าเวลาของเขามีอยู่อย่างจำกัดดังนั้นเขาจึงนำแท่นเคลื่อนย้ายที่จักรพรรดิ์ดำมอบให้ออกมาอีกครั้ง ด้วยต้นกำเนิดสวรรค์เป็นจำนวนมากเขาทำการเคลื่อนย้ายไปยังภาคใต้ในทันที!
ห่างออกไป 1.5 ล้านลี้ ซึ่งอยู่ไกลจากจุดหมายปลายทางมาก เย่ฟ่านข้ามประตูมิติมาสู่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง
เขากลับมายังภาคใต้ด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อกลับเข้าไปในดินแดนต้องห้ามโบราณที่รกร้าง เขาต้องการเข้าไปในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้า ดื่มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และกินผลไม้วิเศษทั้งหมดที่อยู่ที่นี่
เขาไม่รู้ว่าพื้นที่จำกัดแห่งชีวิตอื่นๆมียาเซียนจริงๆหรือไม่ แต่ดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิตที่อยู่ในภาคใต้นั้นเขาเคยได้รับยาวิเศษมาแล้วหลายครั้ง เขาค่อนข้างมีความมั่นใจต่อการค้นหาในครั้งนี้
แน่นอนเขาไม่กล้าบอกกับผู้ใด เพราะตามความเข้าใจของคนอื่นดินแดนต้องห้ามที่รกร้างโบราณนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ซึ่งมันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้คนจะต้องการตัวเขาเพื่อเอาไปสกัดตัวยา
ในบรรดาสหายทั้งหมดมีเพียงผังป๋อและจักรพรรดิดำเท่านั้นที่รู้เรื่อง
ผังป๋อเองก็มีประสบการณ์มากมาย เขามีโอกาสได้อ่านคัมภีร์โบราณในเผ่าพันธุ์อสูร เขาทราบถึงเหตุผลว่าทำไมมังกรเก้าตัวที่ดึงโลงศพจึงตกลงบนยอดเขาในอดีต
มันเป็นคำสาปของยอดคนที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้นั่นเอง!
หลายปีที่ผ่านมาเย่ฟ่านไม่รู้ว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ได้หรือไม่หากได้กลับไปบริเวณที่โลงศพทองแดงตกลงมาอีกครั้ง
เขาเกิดความกลัวอยู่เล็กน้อย กลัวว่าสุดท้ายจะรู้ความจริงที่ว่าเส้นทางการกลับบ้านของเขาไม่มีอยู่อีกแล้ว
เมื่อกลับมาที่ภาคใต้เย่ฟ่านก็ตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นในอดีตพบเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นไร หลินเจี๋ย โจวยี่ หลิวอี้อี้ หลี่เสี่ยวม่าน เพื่อนร่วมชั้นของเขายังอยู่ดีหรือไม่
การที่จี้ฮ่าวเยว่รู้ว่าตัวเขามาจากอีกฟากหนึ่งของทะเลแห่งดวงดาวนั้นย่อมหมายความว่าเขาได้รู้ข้อมูลนี้จากใครบางคนนั่นเอง
พวกเขาทั้งหมดมาที่โลกนี้ด้วยกัน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป และบางทีพวกเขาอาจจะได้พบกันอีกในไม่ช้านี้
เมื่อเดินผ่านนิกายไท่ซวนในภาคใต้ เย่ฟ่านยืนอยู่บนภูเขาสูงและมองออกไปในระยะไกล
มียอดเขาหลัก 108 แห่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์โบราณ ยอดเขารกร้าง, ยอดเขาดวงดาว, หลี่รั่วหยู จี้จื่อเยว่ ฮั่วอวิ๋นเฟยหลี่เสี่ยวม่าน... มีเรื่องราวที่ผ่านมาด้วยกันมากมายที่นี่
เขาไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เขาไม่ควรปรากฏตัวก่อนที่จะได้ยาศักดิ์สิทธิ์ มิฉะนั้นอาจจะสร้างปัญหาได้มากมาย
ในวันนั้นเย่ฟ่านเข้าสู่แคว้นเอี๋ยนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับพวกตั้งแต่ข้ามมิติมายังโลกนี้
สองพันลี้จากเหนือจรดใต้และสามพัลี้จากตะวันออกไปตะวันตก อาณาเขตดังกล่าวในดินแดนรกร้างตะวันออกนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากดินแดนทุรกันดาร
เหตุผลที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือดินแดนต้องห้ามโบราณซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของภาคใต้
ตั้งแต่สมัยโบราณ มันทิ้งตำนานไว้มากเกินไป และเขาไม่รู้ว่ามียอดฝีมือระดับสูงสุดมากมายเท่าไหร่เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ แม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ก็ยังถูกทำลายล้างทั้งสำนัก!
เมื่อก้าวเข้ามาในดินแดนแห่งนี้เย่ฟ่านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาต้องการไปหาเพื่อนร่วมชั้นในอดีต
เย่ฟ่านเข้าสู่เมืองหลวงแคว้นเอี๋ยน เมื่อมองดูความคึกคักในเมืองเขาก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นอีกครั้ง
"ปีกไก่หอมกรอบ ไม่อร่อยไม่ต้องเสียเงิน"
“ซาลาเปาของลุงจางแป้งบางใส้ฉ่ำอร่อยมาก มาลองชิมดู”
เย่ฟ่านยิ้มทุกอย่างยังคงเหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาไม่เคยจากไป
" พี่ใหญ่...ข้าหิวแล้ว ช่วยซื้อซาลาเปาให้ข้ากินที ได้โปรด"
ทันใดนั้น เสียงอ้อนวอนและน่าสงสารก็ดังขึ้น มีคนกำลังดึงกางเกงของเขาเบาๆ
นางอายุเพียงสามหรือสี่ขวบ เสื้อผ้าของนางขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของนางเปื้อนด้วยฝุ่นและโคลน มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่งดงามสดใส
“ข้าหิวมากเลย พี่ใหญ่”
เด็กหญิงตัวเล็กๆขี้กลัวมาก สภาพของนางน่าสงสารเหลือทน ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว
เย่ฟ่านเจ็บปวดใจเล็กน้อย เขาซื้อเกี๊ยวและซาลาเปาให้นางชุดใหญ่พร้อมกับกล่าวว่า
“กินช้าๆ ระวังอย่าให้ลวกปาก”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินจากไป เขามีหลายอย่างมากเกินไปที่จะจัดการ แม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสารในใจ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพานางไปยังดินแดนต้องห้ามที่รกร้างโบราณ
เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกขอบคุณมาก เมื่อเห็นเขาหายตัวไป ดวงตาโตของนางเต็มไปด้วยน้ำตา ไม่ว่าความร้อนของซาลาเปาและเกี๊ยวจะมีมากแค่ไหนแต่นางก็ยังกลืนมันลงไปในคำเดียว
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็หยุดกะทันหัน เขารู้สึกว่าฉากเมื่อกี้คุ้นเคยเกินไป มันคือเมืองเดียวกันเมื่อสามปีที่แล้ว และยังคงเป็นถนนเส้นเดิม
ร่างกายของเขาตอนนี้แข็งทื่อ เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำรอยนั้นหากเป็นโลกใบเดิมของเขาอาจจะยังพอพิจารณาได้ว่าเป็นความบังเอิญ
แต่เมื่อได้อยู่ในโลกลึกลับใบนี้เขาสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดทันที
"นี่คือเด็กหญิงตัวเล็กๆเมื่อสามปีก่อน" ใบหน้าของเย่ฟ่านซีดขาวไร้สีเลือด
สามปีผ่านไป และนางไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย นางยังคงเศร้าโศกและตัวเล็กเหมือนเดิม เป็นไปได้อย่างไร? !
เย่ฟ่านรีบวิ่งไล่ตามเด็กหญิงตัวเล็กๆอย่างรวดเร็ว เขาไม่เชื่อว่าหลังจากผ่านไปสามปี เด็กๆจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ธรรมดา!
เขารู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้ไม่ได้ถูกใครปลอมแปลงขึ้น แต่เขาไม่เชื่อว่านางเป็นเด็กธรรมดาอย่างแน่นอน
ในตอนที่ไล่ตามอยู่นั้นสุดท้ายเย่ฟ่านจำเป็นต้องปล่อยให้เด็กหญิงตัวเล็กจากไปเพราะสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่อาจใช้งานได้ในบริเวณนี้
ที่ด้านหน้าของเขามีชายวัยกลางคนที่มีปราณมังกรไหลเวียนอยู่รอบกาย ศีรษะของพวกเขาสวมมงกุฎมังกรสีม่วงครามอันงดงามทุกก้าวเดินของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยพลังอันน่าเกรงขาม
เมื่อฐานการบ่มเพาะมาถึงอาณาจักรนี้ พวกเขาไม่สนใจที่จะปกปิดมันและไม่จำเป็นต้องปกปิดมัน
พวกเขาเป็นเหมือนจักรพรรดิสวรรค์ที่เสด็จลงมายังโลก มนุษย์ทุกคนต้องแสดงความเคารพพวกเขาด้วยความกลัว
คนพวกนี้คือราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ฮั่วโบราณ! เย่ฟ่านเคยพบพวกเขาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคือคนที่เคยซื้อรากยาเซียนของเย่ฟ่านในราคาต้นกำเนิด 410,000 จิน
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็ตระหนักได้ว่าเมื่อผู้ปกครองสูงสุดของราชวงศ์ภาคกลางกำลังจะตาย คนพวกนี้จึงทำทุกวิถีทางเพื่อออกค้นหายาศักดิ์สิทธิ์ในเขตหวงห้ามแห่งชีวิตทุกแห่ง
“พวกเจ้าเลิกตามข้าได้แล้ว!”
ด้านหน้ามีเสียงอันไพเราะจากเด็กสาวคนหนึ่ง เสียงของนางเต็มไปด้วยความรำคาญใจ
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นมาก เขาไม่คิดว่าเพียงกลับมายังภาคใต้ไม่กี่วันเขาจะพบกับจี้จื่อเยว่ที่นี่ นางยังคงสวมชุดสีม่วงเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา
รอบตัวนางผู้คนมากมายล้อมนางไว้ตรงกลาง และทำให้การก้าวเดินไปข้างหน้าของนางเต็มไปด้วยความยากลำบาก
“โอ้เย่ฟ่านอยู่ที่นั่น!” จี้จื่อเยว่ร้องออกมาและชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
ผู้คนรอบข้างของนางดูเหมือนจะพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้เป็นประจำพวกเขาจึงไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของเด็กสาว
"เลิกซนได้แล้ว!" จี้ฮุยหญิงชราที่ไม่รู้จักตายของตระกูลจี้ตำหนิอย่างไม่พอใจ
ใบหน้าของเย่ฟ่านจมลง เขาเห็นนางเฒ่าจี้ฮุยผู้ที่มีความแค้นกับเขานานัปการ
ในตอนแรกเขาคุ้มครองจี้จื่อเยว่กลับมาหาคนตระกูลจี้ แต่สุดท้ายจี้ฮุยกลับตอบแทนความดีด้วยความชั่วร้าย เมื่อพบกับศัตรูเก่าเช่นนี้ดวงตาของเย่ฟ่านจึงเปล่งประกายขึ้นทันที!