547 - ในที่สุดก็ถึงบ้าน
1857 - ในที่สุดก็ถึงบ้าน
“เฮ้เจ้าหนูทำไมเจ้ามาขวางทางเราล่ะ? อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการหาเรื่องเรา”
แม้ว่าจะเป็นผู้อาวุโส แต่อารมณ์ของเขาก็ร้อนแรงและส่งเสียงดังออกมา
"โอ้ข้าขอโทษ เราเพิ่งผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น” สือฮ่าวพยักหน้าไปทางบุคคลที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
สิงโตสีทองกลอกตา ถ้ามันเป็นฝ่ายตอบสนองมันก็คงจะบดขยี้เรือรบทั้งลำด้วยกรงเล็บเดียว ตอนนี้ใครกันแน่ที่เป็นคนขวางทาง?
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวได้เตือนมานานแล้วว่าหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรกระทำอย่างเลวร้ายในอาณาจักรที่ต่ำกว่า
“ลุงเฟิงเป็นอะไรไป?” เสียงอ่อนโยนดังขึ้น สาวใช้หลายคนเดินตามหญิงสาวคนหนึ่งมาที่ด้านหน้าของเรือ
หญิงสาวคนนี้งดงามมากนางสวมชุดสีทองตอนนี้ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเรือ เมื่อลมจากภายนอกพัดมาเสื้อผ้าของนางก็พริ้วไหวช่างเป็นภาพที่งดงามบาดตา
มีรอยประทับสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนระหว่างคิ้วของนาง รวมทั้งนางยังมีเขาหยกคู่หนึ่งทำให้นางมีลักษณะคล้ายกับสตรีมังกรเป็นอย่างมาก
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเรือลำใหญ่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งและเมื่อได้เห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนหัวเรือลำนั้นทำให้นางอ้าปากค้างไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
“เจ้า เจ้ากลับมาแล้ว…”
หลังจากหลายปีผ่านไปชายหนุ่มคนนั้นก็ยังคงบอบบางและน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง แค่โตขึ้นอีกนิดดูองอาจสง่างามมากกว่าเดิม แต่แววตาคู่นั้นยังคงสุกใสไม่เปลี่ยน
“สือฮ่าว!” ในที่สุดนางก็ตะโกนออกมาด้วยความมั่นใจ!
“สือฮ่าวนั่น สือฮ่าวในตำนานนั่นเหรอ?”
“ศิลาน้อยในตำนาน?”
ที่หัวเรือมีคนสองสามคนส่งเสียงร้องเตือนทันทีทุกคนจ้องมองไปที่ชายหนุ่มบนเรือลำใหญ่
“ถูกต้องเขาคือ…ศิลาน้อย!”
“ไม่มีข้อผิดพลาดข้าเคยเห็นเขาในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่ามันคือเขาแน่นอน!”
“สวรรค์มันคือศิลาน้อยจริงๆ! ทำไมเขาถึงปรากฏตัว? เขากลับมายังอาณาจักรที่ต่ำกว่าหรือ?”
“ข้าเคยพบเขาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ เขาคือศิลาน้อยจริงๆ!”
ที่หัวเรือมีเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันด้วยความตกใจและตื่นเต้น
แม้แต่ผู้อาวุโสที่ถูกเรียกว่าลุงเฟิงก็ยังตกตะลึงด้วยความไม่เชื่อในขณะที่เขาจ้องมองเจ้าเด็กนั่น
“องค์หญิงเฉียนเฉียนไม่เจอกันนาน” สือฮ่าวกล่าวพร้อมกับเผยให้เห็นสีหน้าตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอเพื่อนเก่าเร็วขนาดนี้
ดินแดนลึกลับแม้แต่นิกายตะวันตกและภูเขาอมตะก็ยังก่อตั้งนิกายของพวกเขาที่นี่ในอาณาจักรที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นแล้วมันเหนือกว่าอย่างชัดเจน
องค์หญิงเฉียนเฉียนเป็นหนึ่งในสิบหญิงงามของอาณาจักรที่ต่ำกว่านี้ ในตอนนั้นนางเคยมีปัญหากับทายาทของตระกูลฉินแห่งภูเขาอมตะและได้รับความช่วยเหลือจากสือฮ่าว
หลังจากหลายปีผ่านไปองค์หญิงเฉียนเฉียนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก นางยังคงเป็นสตรีที่งดงามเช่นเดิม
ตอนนี้นางยังไม่หายตกตะลึงลักษณะท่าทางคล้ายกับนางมองเห็นผีในเวลากลางวันแสกแสก
“เจ้าไม่ได้อยู่ในอาณาจักรด้านบนอย่างนั้นหรือ? เจ้ากลับมาได้อย่างไร” นี่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ใบหน้างดงามของนางเต็มไปด้วยความงุนงง
"ข้าเป็นใคร? ในโลกนี้มีที่แห่งใดบ้างที่ข้าไม่สามารถไปได้? ในเมื่อข้าคิดถึงบ้านข้าก็แค่กลับมาเท่านั้น” สือฮ่าวกล่าวอย่างไร้สาระ
ตอนนี้คนเหล่านั้นเชื่ออย่างสมบูรณ์ นี่คือศิลาน้อยในตำนาน ใบหน้าของเขาหนาอย่างยิ่งรวมทั้งเขายังชอบอวดโอ่ต่อหน้าสตรีที่มี 'ความอ้วนเป็นพิเศษ'
หลังจากนั้นไม่นานองค์หญิงเฉียนเฉียนก็ออกจากความงุนงง นี่มันน่าตกใจเกินไป! ศิลาน้อยในตำนานกลับมาอีกครั้งหลังจากเข้าสู่อาณาจักรที่สูงขึ้น
“ศิลาน้อยข้าต้องการเชิญเจ้าเข้าร่วมตระกูลของเราในฐานะแขก” ดวงตากลมโตขององค์หญิงเฉียนเฉียนฉายแววแพรวพราว เชิญชวนให้เขามาที่ตระกูลของนาง
“ข้าเพิ่งกลับมาในวันนี้เองจะอย่างไรก็ต้องกลับหมู่บ้านหินผาก่อน” สือฮ่าวบอก
เขาหัวเราะและพูดว่า“ถ้าเจ้ามีเวลาเมื่อไหร่ค่อยมาเยี่ยมข้าก็แล้วกัน”
“ตกลงข้าจะไปพบเจ้าในเร็วๆนี้!” องค์หญิงเฉียนเฉียนพยักหน้าแสดงความสุข
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็แยกจากกันเรือรบทั้งสองเคลื่อนผ่านความว่างเปล่าอีกครั้ง
ในวันนั้นข่าวการกลับมาของศิลาน้อยแพร่กระจายไปทั่วแปดดินแดนด้านล่างทำให้ทุกตระกูลและนิกายต่างตกตะลึง นี่เป็นข่าวที่น่าเหลือเชื่อเกินไป!
เรือรบแล่นเร็วมากราวกับแสงที่ส่องผ่านท้องฟ้า เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกปลดปล่อยออกมามันทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นดาวตก
หลังจากนั้นไม่นานเรือรบก็ฉีกทะลุกำแพงอาณาจักรเริ่มข้ามผ่านภูมิภาคอื่น
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นที่รกร้างและกลับสู่ดินแดนที่คุ้นเคยนี้
เรือรบหยุดลอยอยู่บนท้องฟ้า
สือฮ่าวยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเรือและมองเห็นโลกอันยิ่งใหญ่ที่ไร้ขอบเขต ผืนดินกว้างใหญ่ต้นไม้โบราณสูงตระหง่านจากป่าภูเขาดึกดำบรรพ์
นี่เป็นถิ่นทุรกันดารที่ยิ่งใหญ่ของแดนร้างในแปดอาณาจักร
สือฮ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเทียบกับอาณาจักรที่สูงกว่าแก่นแท้ทางจิตวิญญาณนั้นเบาบางมากไม่สามารถบำรุงร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้อย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวไม่ได้รู้สึกผิดหวังแม้แต่น้อยหัวใจของเขาสงบรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข
เป็นเพราะในที่สุดเขาก็กลับมา!
นี่เป็นความรู้สึกคุ้นเคย มันคือบ้านเกิดเมืองนอนที่เขาหวงแหน
เขาได้จากโลกที่ยิ่งใหญ่นี้ไปหลายปี เมื่อเขาคิดคำนวณให้ดีก็น่าจะสิบปีไปแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังคงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในจิตใจของเขา จะมีกี่แห่งในโลกที่สามารถเรียกว่าบ้านได้
ชัว!
ร่างของสือฮ่าวบินออกจากหัวเรือพุ่งเข้าสู่พื้นดินด้านล่างพร้อมกับยกก้อนหินก้อนใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่าแสนจินขึ้นเหนือศีรษะ
“ข้ากลับมาแล้ว!”
สือฮ่าวคำรามออกมา แม้ว่านี่จะเป็นถิ่นทุรกันดารที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังคงเป็นพรมแดนของอาณาจักรหินเช่นเดียวกับเส้นทางที่เขาเคยเดินผ่านมาก่อนซึ่งเชื่อมต่อกับหมู่บ้านหินผานั้นเอง
“พวกเจ้าค่อยๆตามมา ข้าจะล่วงหน้าไปก่อน” สือฮ่าวตะโกนจากนั้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในป่า
เป็นเพราะเขากลัวว่าเรือรบขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้าจะรบกวนหมู่บ้านหินผา นั่นคือดินแดนบริสุทธิ์เป็นที่ปลอดภัยห่างไกลจากเรื่องทางโลก ชาวบ้านเรียบง่ายและติดดิน
เขาปรารถนาให้สถานที่แห่งนั้นสงบสุขชั่วนิรันดร์นี่คือบ้านที่แสนอบอุ่นในหัวใจของเขา
ที่ชายแดนของถิ่นทุรกันดารมันเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์มีนกดุร้ายและสัตว์ป่าจำนวนมากสัญจรไปมา พวกมันทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นทายาทของสัตว์ร้ายโบราณที่อาศัยอยู่ในแถวนี้
ย้อนกลับไปตอนที่สือฮ่าวยังเป็นเด็กเขาได้ข้ามถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้เป็นการส่วนตัวทั้งยังเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายและความเป็นความตายทุกประเภท
ตอนนี้เมื่อเขาเดินผ่านถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แทน ฝูงนกศักดิ์สิทธิ์และสิ่งมีชีวิตตัวอื่นล้วนหลบลี้หนีห่างเขา
อ๋าว!
ลิงศักดิ์สิทธิ์ที่มีปีกสีทองกระโดดออกมาร่างกายของมันใหญ่โตและสูงหลายจ้าง มีปีกสีทองคู่หนึ่งอยู่ข้างหลังปากกว้างเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม มันพุ่งเข้าหาสือฮ่าว
นี่คือราชาสัตว์ร้ายไม่มีใครเทียบได้ในระยะนับพันลี้ บรรดานกและสัตว์ร้ายต่างก้มศีรษะลงต่อหน้ามัน
เมื่อมันเห็นมนุษย์ที่ชั่วร้ายกำลังเดินผ่านสถานที่แห่งนี้ทำให้สัตว์ทุกตัวลุกลี้ลุกลนมันก็กระโจนออกมาโจมตีสือฮ่าว
“แม้แต่ลิงตัวเล็กๆก็ยังกล้าแสดงความโอหังออกมาต่อหน้าข้า เจ้าควรถูกจับไปที่หมู่บ้านหินผาเพื่อทำหน้าที่ผู้พิทักษ์” สือฮ่าวเอื้อมมือออกไปจับกุมมันโดยตรง
เขาตรวจสอบมันอย่างละเอียดและสีหน้าของเขาก็เผยให้เห็นถึงความตกใจ เขาจำสิ่งมีชีวิตนี้ได้!
ย้อนกลับไปตอนที่เขากำลังผ่านเทือกเขานี้ เขาต้องซ่อนตัวจากมันด้วยซ้ำ ตอนนั้นเขาอ่อนแอสุดๆเพราะยังเป็นเด็กน้อยที่อายุเพียงห้าหกปีเท่านั้น
ตอนนี้เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เขากลับสามารถจับกุมมันได้อย่างง่ายดาย