เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 110
ตอนที่ 110
“ระมัดระวังให้ดี แค่หักแขนขาของพวกเขาก็พอ พวกเขามันเป็นทรัพยากรที่มีค่านัก มันไม่ง่ายเลยที่จะตามรวบรวมคนเหล่านี้จากหลากหลายที่มาและอาณาจักรเช่นนี้”
“ห้ามมิให้มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น นอกจากพวกอัจฉริยะแล้ว สังหารที่เหลือให้สิ้น อย่าเหลือไว้แม้แต่ชีวิตเดียว!”
“รับทราบ!”
เหล่าคนชุดดำทั้งหลายต่างตอบรับด้วยความนอบน้อม หมอกทมิฬรอบกายของพวกเขาปรากฏขึ้นพร้อมกับแววตาเย็นชาที่กวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนที่เสียงชักอาวุธจะปรากฏขึ้น และคนเหล่านั้นก็กระจายกันไปตามที่ได้รับมอบ!
ไม่นาน เปลวเพลิงก็ลุกโหมไปทั่วทุกที่ในวังลอยฟ้าแห่งนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างออกมาจากที่พักของตนและเบาะขึ้นสู่ท้องฟ้า สีหน้าของพวกเราเกรี้ยวกราดและตกตะลึง
“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่? ไม่รู้หรือว่าที่นี่คือสถานที่เช่นไร? ที่วังเหว่ยต้าเต๋าแห่งนี้เป็นอาณาเขตของราชวงศ์อมตะ! พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรจึงได้ก่อความวุ่นวายขึ้นมา? เจ้าอยากตายหรืออย่างไร?”
“หน้าโง่!” ร่างในชุดสีดำตะโกนออกมา เขายกอาวุธในมือขึ้นก่อนฟาดฟันมัน ศีรษะหลุดปลิวและโลหิตสาดกระจาย!
ท่ามกลางสายฝนโหมกระหน่ำ กองกำลังรวมทั้งตระกูลต่างๆ จากทั่วทั้งอาณาเขตเหนือครามมองเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาเต็มได้ด้วยโทสะและความตกใจ
“เจ้าต้องการจะตายจริงๆ? เจ้าต้องรู้อยู่แล้วว่าที่นี่คือวังเหว่ยต้าเต๋าของราชวงศ์อมตะ พวกเจ้าไม่เกรงกลัวการล้างแค้นจากราชวงศ์หรืออย่างไร?”
ทว่า พริบตาต่อมา สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เพราะแสงจากสายฟ้าเบื้องบนส่องประกายและทำให้พวกเขามองเห็นว่ามีคนของราชวงศ์อมตะยืนอยู่กลางอากาศ
“อะไรกัน?”
ทางด้านร่างสีดำทั้งหลายหาได้ปล่อยให้พวกเขาทันมีปฏิกิริยาใดๆ พวกมันล้วนแต่เป็นผู้บ่มเพาะในระดับไม่ธรรมดา คนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในแดนหมุนวนทะเลปราณ ยิ่งกว่านั้น พวกมันเคยปฏิบัติภารกิจสังหารทุกรูปแบบมาเนิ่นนาน กระทั่งการลอบสังหารในที่ลับก็เป็นหน้าที่ของพวกมัน ความแข็งแกร่งย่อมเหนือล้ำกว่าคนทั่วไป มิใช่สิ่งที่เหล่าคนเบื้องล่างจะสามารถต่อต้านได้!
ขนนกสีดำกระจัดกระจายไปทั่ว ศีรษะนับไม่ถ้วนลอยหลุดออกจากร่าง โลหิตสีแดงคล้ำหยดลงบนพื้นหินที่ปูไปทั่วบริเวณ อาบย้อมทั้งวังลอยฟ้าแห่งนี้ให้กลายเป็นสีเลือด
ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งจากอาณาจักรอื่นคำรามก้องฟ้า เขาเป็นชายแก่ร่างกำยำ แสงเจิดจ้าเปล่งออกมาตามพลังปราณที่ปะทุขึ้น การบ่มเพาะของเขาย่อมมิใช่สามัญ เขาป้องกันการโจมตีของร่างสีดำ แต่เพียงไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
นี่เพราะว่าเบื้องล่างของเขาในห้องที่พังทลาย รุ่นเยาว์สองคนถูกนำตัวออกมาจากในนั้นด้วยชายชุดดำคนหนึ่ง
มันไม่ลังเลที่จะตัดมือและเท้าของเด็กทั้งสองให้ขาดออกในทันที!
รุ่นเยาว์ทั้งคู่ยังมิทันได้รับรู้ว่ากำลังเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้กรีดร้องออกมา ลิ้นของพวกเขาก็ถูกตัดเช่นกัน ปากของทั้งสองท่วมไปด้วยเลือด
“บัดซบ! พวกเจ้าต้องการสิ่งใด? ปล่อยอัจฉริยะตระกูลข้าเดี๋ยวนี้!”
ดวงตาของชายชรากลางเป็นสีแดงก่ำ เพียงพริบตาเขาสะบัดร่างสีดำทั้งหมดที่ล้อมรอบอยู่ออกไป ระดับบ่มเพาะแดนอาณาเขตม่วงของเขาระเบิดขึ้นเต็มกำลังด้วยต้องการจะช่วยเหลือเด็กน้อยทั้งสองของตน
ทว่า ร่างชุดดำผู้หนึ่งก็พุ่งเข้ามา ในมือของมันมีกระบี่เล่มยาวที่เปล่งประกายสีดำก่อให้เกิดเสียงหวีดหวิวของสายลม ทันใดนั้นประกายคมกระบี่ก็ปรากฏขึ้นราวกับสายฟ้า ก่อนที่จะตัดผ่านร่างชายชราคนนั้นจนกลายเป็นสองส่วน!
“เจ้าลูกเต่าบัดซบ! หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าเป็นใคร? ต้องการสิ่งใด?”
ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงโปร่งในชุดคลุมสีทองคำรามออกมา ดวงตาคล้ายราชสีห์ของเขาเต็มไปด้วยโทสะ แสงสีทองเปล่งประกายก่อนจะห่อหุ้มร่างของเด็กหญิงด้านหลังของตน ในมือเขามีอักขระสีทองเจิดจ้า ในยามที่พุ่งไปด้านหน้าดูคล้ายพระอาทิตย์ขนาดใหญ่!
หากแต่เบื้องหน้าเขา ร่างชุดดำอีกสองปรากฏขึ้นและพุ่งมาขัดขวาง สัญลักษณ์แปลกประหลาดประการหนึ่งก่อตัวขึ้นกลางฝ่ามือของพวกมัน ก่อนที่มันจะตบดวงอาทิตย์ด้านหลังของชายผู้นั้นจนกลายเป็นชิ้นๆ ชายชุดทองกระอักเลือดออกมาและกระเด็นถอยหลังไป หน้าอกของเขามีรูโหว่เกิดขึ้น และอยู่ห่างจากความตายเพียงก้าวเดียว!
“ท่านลุงคุน!” ดรุณีน้อยใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา วินาทีถัดมา เส้นเอ็นมือและเท้าของนางถูกตัดจากร่างสีดำ ก่อนที่นางจะหมดสติลงไปทันที
แคร้ง!
ระลอกแสงกระจายออกมา ในอาคารหลังหนึ่งที่มีคนของอาณาจักรชี่อาศัยอยู่ปรากฏร่างอันแข็งแกร่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า เขาอยู่ในชุดเกราะสีแดงและกวัดแกว่งหอกสีเขียวในมืออย่างต่อเนื่อง ร่างนั้นดูคล้ายกับเป็นทายาทเทพสงครามที่มากำเนิดบนผืนดิน ฉีกกระชากร่างสีดำมากมายเป็นชิ้นๆ
นี่คือทักษะอันน่าหวาดเกรงที่เป็นทักษะประจำสายเลือดของเขา เมื่อบ่มเพาะถึงจุดสูงสุด พวกเขาสามารถถล่มสวรรค์ทลายยุคสมัย!
“สายเลือดของสีชาน? พวกเจ้าประมาทคู่ต่อสู้เกิดไปแล้ว!”
ชายในชุดขาวทองปรากฏขึ้นก่อนจะจู่โจมอย่างกะทันหัน
พละกำลังของเขาช่างน่าหวาดผวา เขาเพียงยื่นมือขวาของตนออกมาคล้ายกับคมมีด แสงสว่างเจิดจ้าส่องประกายไปทั่วทั้งฟ้าดิน ทั่วร่างล้อมรอบด้วยขนนกแห่งแสง แฝงด้วยพลังเต๋าอันยิ่งใหญ่ในทุกอณู กลิ่นอายของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ระดับตำนานแผ่ไพศาล คล้ายจะทุบแผ่นฟ้าทำลายผืนดินจะสูญสลาย!
แคร๊ง!
ปรากฏเป็นกระบี่ด้านยาวที่แหลมคมยิ่งนัก กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นเหล่านั้นกระจายออกมาจากมัน ราวกับเป็นสิ่งที่มาจากยุคบรรพกาล แฝงไปด้วยแรงกดดันมหาศาล!
ทางด้านชายในชุดเกราะสีแดงที่ถือหอกสีเขียวนั้น แม้ว่าเขาจะทรงพลังเพียงใด แต่ต่อหน้ากระบี่เล่มนี้ก็มินับเป็นสิ่งใดได้ ชุดเกราะและหอกของเขาแหลกสลายไปและทั้งร่างก็ระเบิดเป็นหมอกโลหิตในที่สุด!
“สังหารพวกมันทั้งหมด อย่างให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
ชายผมทองกลางท้องฟ้า ยู่ต้านคุน สีหน้าของเขาเรียบเฉยยิ่งนักในระหว่างที่กำลังบดขยี้กระดูกสันหลังของอัจฉริยะวัยเยาว์ผู้หนึ่ง
“ช่างน่าเบื่อนัก พวกเราไม่อาจฆ่าใครได้ คงจะสนุกดีหากว่าข้าได้สังหารอัจฉริยะเหล่านี้”
“อย่าได้บ่นให้มากความ หลังจากที่ใช้พวกมันทั้งหมดเพื่อชำระล้างหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว ความแข็งแกร่งของราชวงศ์อมตะเราย่อมต้องเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะสังหารใครก็ได้ตามที่ต้องการ” เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งกายคล้ายกับยู่ต้านคุน ชายเสื้อของเขาก็ปรากฏบุปผาม่วงหกดอกเช่นกัน
บัดนี้ เทศกาลสังหารบังเกิดขึ้น ขนนกดำเริงระบำบนฟากฟ้า อัจฉริยะมากมายถูกทุบตีจนบาดเจ็บสาหัส!
วังเหว่ยต้าเต๋ายังคงบินตรงไปอย่างต่อเนื่อง ทว่ามันมิได้มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยเต๋าแต่อย่างใด ท้ายที่สุด มันมาปรากฏอยู่ที่แท่นบูชาโบราณแห่งหนึ่ง
แท่นบูชาแห่งนี้กินพื้นที่ใหญ่โต แทบจะเรียกได้ว่าไร้จุดสิ้นสุด รอบด้านล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันมากมาย
พืชพันธุ์เขียวชอุ่ม เสียงคำรามของอสูรปิศาจดังก้องไปทั่ว ในตอนนี้ ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ไม่มีใครสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน ทว่า เมื่อบังเกิดสายฟ้าขึ้นคราหนึ่ง กลับสามารถสังเกตได้ถึงบางส่วนของแท่นบูชาที่ยังไม่สมบูรณ์ดี และโครงสร้างบางส่วนของมันเต็มไปด้วยผู้คนและทรัพยากรนับไม่ถ้วน!
ใจกลางแท่นบูชาขนาดยักษ์ กลุ่มก้อนของเปลวเพลิงสีแดงเลือดกำลังลุกไหม้อยู่ แม้กระทั่งสายฝนก็ไม่สามารถจะดับมันลงได้ หากสังเกตให้ดีจะพบว่าเปลวเพลิงนั้นกำลังล้อมรอบหม้อสามขาชิ้นหนึ่งซึ่งมีขนาดราวสามสิบฉื่อทั้งด้านกว้างและสูง ด้านล่างเป็นภูเขาลูกหนึ่งที่ถูกฝ่าตรงกลางออก หินหลอมเหลวม้วนตัวอยู่ภายในภูเขาลูกนั้น ประกายไฟส่องแสงระยิบระยับ
สิ่งนี้คือหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า และมันตั้งอยู่ในเขตแดนทางใต้ของราชวงศ์อมตะ!