589 - ราชาหนุ่มแห่งแดนมรณะ
589 - ราชาหนุ่มแห่งแดนมรณะ
ขณะนี้เจ้าของเรือจิตใจสั่นสะท้านและสั่งให้คนเร่งออกจากเรือ
เมื่อเผชิญหน้ากับราชาหนุ่มแห่งแคว้นภาคกลางร่างกายของเขาก็เย็นเยียบ และเขาไม่ต้องการให้เรือของเขาถูกทำลายในครั้งนี้
ผู้บ่มเพาะทุกคนไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก พวกเขามีพลังเท่าๆกันกับชายหนุ่มที่ถูกสังหารเมื่อสักครู่ การโจมตีเพียงครั้งเดียวของฝ่ายตรงข้ามพอเพียงพอจะฆ่าพวกเขาได้นับสิบครั้ง
เย่ฟ่านยืนอยู่บนเรือลำใหญ่อย่างสงบ เขาไม่ได้พูดอะไร เขาไม่ต้องการสร้างปัญหา แต่จิตใจของเขาเปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้
หากสองราชาจากภาคกลางคิดจะเข้าไปในดินแดนหวงห้ามแห่งชีวิตด้วยชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอย่างนั้นชุดเกราะนี้เขาจะขอยืมก็แล้วกัน
"หวังชงเซียว เจ้าจะมากเกินไปแล้ว" เสียงของเย่ฮุ่ยหลิงนุ่มนวลแต่ก็มีความหนาวเย็นที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องของข้า เจ้ากับข้าจะมีการต่อสู้ที่ต้องจบลงด้วยความตายรออยู่!”
หวังชงเซียวไม่ขยับ เสียงของเขาไม่แยแส ทวนสีดำในมือของเขาชี้ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวและปลดปล่อยไอสังหารอันท่วมท้น
เย่ฮุ่ยหลิงงดงามราวหยกสลัก ดวงตาของนางเหมือนอัญมณีสีดำ จมูกของนางโด่งสวย ในมือของนางตอนนี้ถือขลุ่ยหยกเลาหนึ่งและเริ่มปลดปล่อยไอสังหารเช่นกัน
ภายใต้แสงจันทร์ที่เจิดจ้า นางเปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่เหนือโลก สง่างามและไม่มีตัวตน เสียงของขลุ่ยนั้นชัดเจนในจิตวิญญาณ เช่นน้ำพุหวานที่ไหลออกมาจากทะเลทรายอันแห้งแล้ง
“ฮึ่ม!”
หวังชงเซียวพ่นเสียงเย็นและทวนในมือของเขาก็สั่นเล็กน้อย นี่เป็นอาวุธชั่วร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน ไอสังหารที่น่าสะพรึงกลัวและรัศมีที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาบรรจบกันในเวลาเสี้ยวลมหายใจ
หากเสียงขลุ่ยที่งดงามแสดงถึงพลังชีวิตอันงดงาม รัศมีของเขาก็แสดงถึงความตายไร้สิ้นสุด ซึ่งตรงกันข้ามกันมาก เมื่อทวนเคลื่อนที่พืชพรรณทั้งหมดก็ก็เหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็ว
หวังชงเซียวจ้องไปที่เรือใหญ่ในแม่น้ำด้วยสายตาเยาะเย้ย
"ข้าพูดไปแล้วไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มองการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าไม่ได้ยินเหรอ?"
เขากลายเป็นลำแสงสีดำและโฉบลงมาจากท้องฟ้า บรรยากาศบนเรือตึงเครียดอย่างยิ่ง และทุกคนก็ตกอยู่ในอันตราย เพราะกลัวว่าราชาหนุ่มผู้มีอำนาจจะกระทำการบางอย่าง
ในเวลาเดียวกันเย่ฮุ่ยหลิงลอยตัวช้าๆแต่มาถึงก่อน นางยื่นมือออกมาขวางหน้าเย่ฟ่านและกล่าวว่า
"อย่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น นี่เป็นเรื่องของพวกเรา"
หวังชงเซียวหยุดและยืนบนท้องฟ้ายามราตรีมองลงไปที่เย่ฟ่านอย่างเฉยเมยและกล่าวว่า
"ข้าพูดไปหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าไม่เคารพ เจ้ายังคงมองข้าด้วยสายตาแบบนี้ เจ้ายั่วยุข้าเหรอ"
"ความจริงข้าไม่ต้องการสังหารเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าบังคับข้าลงมือเอง เจ้าก็ควรโทษสวรรค์ที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอข้าในวันนี้"
แม้ว่าเย่ฟานไม่ต้องการสร้างปัญหา แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมสยบให้กับคนรุ่นเดียวกัน
"หึ เจ้ามีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการต่อสู้หรือ" หวังชงเซียวหัวเราะเบาๆ
เย่ฟ่านไม่พูดอะไรมากเขาก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยจังหวะที่มั่นคง
“ชิ้ง”
ลำแสงสีดำพุ่งเข้าหาเย่ฟาน มันเป็นจุดสายฟ้าที่เต็มไปด้วยไอสังหารอันไม่สิ้นสุด
“บูม”
เย่ฟ่านสะบัดแขนเสื้อเพียงเล็กน้อยก็เบี่ยงเบนคมทวนที่หมายมุ่งเอาชีวิตอย่างง่ายดาย
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไป ไม่คิดว่าเจ้าจะมีฝีมือขนาดนี้” หวังชงเซียวใบหน้าบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็สะดุดตอไม้แข็งแกร่งเข้าให้แล้ว!
คนอื่นๆบนเรือลำใหญ่ก็ประหลาดใจเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะขัดขวางการโจมตีของราชาหนุ่มแห่งแคว้นภาคกลางได้
เย่ฟ่านมีใบหน้าสงบและกล่าวว่า
“เจ้าควรไปต่อสู้กับบรรดาร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆไม่ใช่ว่าจะมารนหาที่ตายตรงนี้”
“ข้าเดินทางมาไกลแล้ว หรือว่าผู้ฝึกตนของดินแดนรกร้างตะวันออกรู้จักแต่จะเอาชนะทางคำพูดเท่านั้น” หวังชงเซียวเยาะเย้ย
“ชิ้ง”
ลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา และทำให้เสียงโลหะสั่นสะเทือน ทวนสีดำของเขาหมายมุ่งจะแทงทะลุศีรษะของเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านเหยียดแขนเสื้อของเขาอีกครั้ง ด้วยการสะบัดเบาๆเงาสีดำก็ถูกกระแทกออกไปด้านข้าง ท่าสังหารอันภาคภูมิใจของราชาหนุ่มจากภาคกลางถูกยึดไว้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้ใครๆก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มธรรมดาที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือยอดฝีมือระดับสูงของดินแดนรกร้างตะวันออก แม้แต่เย่ฮุ่ยหลิงก็ก้าวถอยหลังด้วยความระมัดระวัง
“เจ้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงหรือไม่?” หวังชงเซียวประหลาดใจ เขาคิดว่านี่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
"ไม่" เย่ฟ่านตอบอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่ใช่ร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ ไม่ใช่ร่างอสูรสวรรค์ ไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง แล้วเจ้าเป็นใคร ?”
"ตึง"
กำแพงสีดำปรากฏขึ้นข้างหลังเขา เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ และเต็มไปด้วยหมอกสีดำที่เต็มไปด้วยรัศมีแห่งความตาย
ชุดเกราะเหล็กบนร่างของหวังชงเซียวมีแสงสีดำไหลออกมา เขาค่อยๆดึงกระบี่สีดำเล่มหนึ่งออกมาจากผนังที่อยู่ทางด้านหลัง!
ทันทีหลังจากนั้น กระบี่ของเขาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า สายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่ตกลงโดยมีเป้าหมายคือเย่ฟ่าน
ไอสังหารถูกปล่อยออกมานั้นไม่มีที่สิ้นสุด และแม้แต่ผู้ฝึกตนของอาณาจักรสี่สุดขั้วก็สามารถถูกฆ่าได้อย่างง่ายดาย
“ชั้วะ”
เย่ฟ่านไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากนัก เขายืนตระหง่านเหมือนภูเขา แต่ดอกบัวสีครามได้ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าเพื่อปิดกั้นการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามทันที
“ดอกบัวสีครามแห่งความโกลาหล!”
มีคนอุทานด้วยความตกใจ ทุกคนมีแววตาที่นึกไม่ถึง
“นี่เจ้า!”
หวังชงเซียวสะดุ้งนึกอะไรบางอย่างได้ จากนั้นจึงถอยออกห่างด้วยความกลัวอย่างรวดเร็ว
“ใช่ ข้าเอง”
เย่ฟ่านก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนทีละก้าว แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับราชาหนุ่มแห่งภาคกลางท่าทางของเขายังคงสงบนิ่งราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุม
“เขาคือร่างเซียนเย่ฟ่าน เขามาที่นี่ ข้าไม่คาดคิดมาก่อน”
“เขาจะเผชิญหน้ากับราชาหนุ่มแห่งแคว้นภาคกลาง!”
ทุกคนบนเรือใหญ่อุทาน เย่ฟ่านได้พบกับราชาแห่งแคว้นภาคกลางทันทีที่เขาออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นพายุลูกใหญ่ที่สร้างความสนใจให้กับผู้คนทั่วทั้งดินแดนรกร้างตะวันออก
เย่ฟ่านไม่ต้องการทำสิ่งนี้เช่นกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาเข้มข้นที่จะต่อสู้กับเขา ซึ่งเขาไม่สามารถปล่อยผ่านได้
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังจะตายในไม่ช้า”
หวังชงเซียวดูเย็นชาแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ถอยห่างอีกครั้งโดยไม่กล้าที่จะต่อสู้กับเย่ฟ่านในระยะประชิด
เย่ฟ่านยิ้มและพูดว่า
“เจ้าไม่อยากต่อสู้กับข้าเหรอ ไปยืนไกลขนาดนั้นทำไม”
ทุกคนพูดไม่ออก มีในโลกกล้ายืนหยัดต่อสู้กับเขาในระยะใกล้? ร่างกายของเย่ฟ่านแม้แต่อาวุธระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถเทียบได้ มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าวัสดุของอาวุธระดับเซียนไปแล้ว
“ร่างเซียนเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ วันนี้การฆ่าเจ้าจะเป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับข้าอีกครั้ง!” หวังชงเซียวตะโกนออกไป
ข้างหลังเขากำแพงเทพเจ้าสีดำปรากฏขึ้นอีกครั้งและเปิดช่องว่าง ทันใดนั้นไอสังหารและแรงกดดันก็พุ่งออกมา
ดูเหมือนว่าจะเชื่อมต่อกับดินแดนใต้พิภพด้วยวิธีการที่แปลกประหลาด ข้างในนั้นมีสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครเทียบได้ถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา
"กำแพงของราชาแดนมรณะ!"
“อะไรนะ นี่คือกำแพงของราชาแดนมรณะ ปรากฎว่าเขาคือร่างศักดิ์สิทธิ์ราชาแดนมรณะ เขาเป็นราชาแห่งแคว้นภาคกลางจริงๆ!”
ผู้คนบนเรือลำใหญ่ต่างอุทานด้วยความกลัว พวกเขานึกถึงตำนานมากมาย