585 - นิพพาน
585 - นิพพาน
ในวังหยกหลังใหญ่ เย่ฟ่านนั่งอยู่หน้าโต๊ะหยกขาวดื่มชาอย่างสงบ ในสายตาของเขามีเพียงหญิงงามที่ไม่มีผู้ใดเทียบ
อันเหมียวอี้ยังคงงดงามอ่อนหวานเหมือนเช่นทุกครั้ง นางมองดูเย่ฟ่านด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวว่า
“เด็กน้อย เจ้าทำข้าเสียใจ” คำพูดของนางไม่ได้เจอคนอารมณ์ใดๆราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ
“ถึงข้าจะทำลายคำสาปได้ แต่เวลาของข้าก็มีอยู่อย่างจำกัด เจ้าอยากฆ่าข้าด้วยมือของเจ้าเองไหม” เย่ฟ่านยิ้ม
" ข้าบอกว่าถ้าเจ้าล้มเหลว ข้าจะเป็นคนแรกที่จะฆ่าเจ้า แต่เจ้าเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะทนได้อย่างไร "
อันเหมียวยี่ยิ้มอ่อนหวานแต่ในดวงตาของนางมีร่องรอยของความเศร้าโศกปรากฏขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรชายที่อยู่ตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง ความตายของเขาจะทำให้นางรักษาความสงบได้อย่างไร
“ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่ตาย แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่มีข้อยกเว้น ข้าแค่เสียใจที่ไม่สามารถกลับไปยังบ้านเกิดได้” เย่ฟ่านถอนหายใจเล็กน้อย
“ทำลายคำสาปได้แล้วชัดๆเหตุไฉนสวรรค์จึงไม่ยอมเลิกรา”
อันเหมียวอี้มีสีหน้าโกรธแค้นอย่างยิ่ง สุดท้ายนางก็ถอนหายใจและกล่าวว่า
"แผนของเจ้าคืออะไร"
“คืนนี้ข้าจะอยู่กับเจ้า พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปลาราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้อาวุโสหลังจากนั้นจะออกจากเมืองทันที” เย่ฟ่านกล่าว
“เจ้าจะยอมแพ้แบบนี้” อันเหมี่ยวอี้มีรอยยิ้มลึกลับปรากฏขึ้น
“ข้าจะยังทำอะไรได้ มันไม่ใช่ว่าข้าอยากตายสักหน่อย?” เย่ฟ่านยักไหล่
อันเหมี่ยวอี้ยิ้มแล้วยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า
“ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย”
เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไร เขาทำได้เพียงมองผู้หญิงของเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“ข้าอยากให้เจ้ารอด” อันเหมียวอี้เดินกลับมาพร้อมคัมภีร์โบราณและยื่นมันให้เย่ฟ่าน
“สิ่งนี้มอบให้เจ้า”
"นี่คืออะไร?"
“พันกว่าปีก่อน พระสาวกขององค์ศากยมุนีประทับอยู่ที่ตำหนักสราญรมย์ของเรา”
“เจ้ากำลังพูดถึงสาวกของพระพุทธเจ้า?” เย่ฟ่านลุกขึ้นยืนทันที
“คืนนี้จ้าพักผ่อนที่นี่เถอะ” อันเหมี่ยวอี้นวดไหล่ให้เขาเบาๆ
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นกระหน่ำด้วยความตกใจ เขารู้ดีว่าตำราเล่มนี้ล้ำค่าแค่ไหน มันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้เขารอดชีวิตก็ได้
“นี่คือพระสูตรนิพพานของพระพุทธองค์?” หัวใจของเขาสั่น
"ข้าไม่รู้ว่ามันจะช่วยเหลือเจ้าได้หรือไม่ แต่ในอดีตบรรพบุรุษของตำหนักสราญรมย์เคยใช้มันในการรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง นี่เป็นตำราที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง" อันเหมียวอี้ให้ความมั่นใจ
มีอักขระโบราณมากมายบนม้วนกระดาษโบราณสีเหลืองซึ่งอัดแน่นไปด้วยตัวหนังสือโบราณที่ไม่มีทางพบเห็นจากโลกนี้ แต่โชคดีที่ยังมีตัวอักษรขนาดเล็กซึ่งน่าจะเป็นคำแปลของคัมภีร์เล่มนี้
เนื้อหาภายในอธิบายความลึกลับของชีวิตและความตายรวมทั้งวิธีการเกิดใหม่จากเถ้าถ่าน
เย่ฟ่านสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว เขาพยายามอ่านทุกตัวอักษรเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งอย่างแท้จริง
แม้สิ่งนี้จะเรียกว่าพระสูตรนิพพานซึ่งทำให้ผู้คนเกิดใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ แต่ก็เป็นเพียงข้อเปรียบเทียบเท่านั้น
ในโลกนี้ไม่มีใครที่สามารถอยู่ได้ตลอดกาล? แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โบราณก็ไม่สามารถหนีความตายพ้น
แต่พระสูตรนิพพานนี้สามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างแน่นอน
มันไม่ใช่สิ่งที่ใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บ แต่มันคือบางสิ่งบางอย่างที่ใช้ในการฟื้นคืนชีพและนำวิญญาณออกจากวัฏสังขาร
แม้ว่าการฝึกฝนพระสูตรนี้จะยากลำบากแต่หากฝึกฝนได้สำเร็จ มันจะมีส่วนช่วยเหลือต่อการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเขาอย่างยิ่ง
ในช่วงเวลาแห่งการรู้แจ้ง ร่างกายของเย่ฟ่านก็ผลิบานอย่างสดใส ปราณโลหิตสีทองพลุ่งพล่าน มันวิ่งไปทั่วร่างกายของเขาทำให้เกิดปราณที่สดใสและมงคล
"ด้วยความไม่รู้เหตุ จิตใจก็กระทำ ความชั่วร้ายจึงเกิดขึ้น เมื่อรู้แจ้งในเหตุแห่งทุกข์ความทุกข์ก็จะหมดไป นี่เป็นแก่นแท้ของการนิพพาน..."
"นิพพาน" เป็นศิลปะสวรรค์ชั้นสูงแห่งทะเลทรายตะวันตก ซึ่งเปรียบได้กับคัมภีร์โบราณหลายเล่มของดินแดนรกร้างตะวันออก
ด้วยความลึกลับของมันจะสามารถศึกษาให้รู้แจ้งภายในเวลาคืนเดียวได้อย่างไร?
ในตอนนี้ร่างกายของเย่ฟ่านได้ปรากฏแสงสีทองออกมาห่อหุ้ม ต่อจากนั้นดอกบัวสีครามทั้งสามก็กลายเป็นฐานในการนั่งสมาธิของเขา
ร่างกายสีทองอมตะนั้นพร่างพราวไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของเย่ฟ่านหลับลงอย่างช้าๆและเข้าสู่สมาธิอย่างสมบูรณ์
อันเหมียวอี้มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความตกใจเล็กน้อย
นางไม่คาดหวังว่าเย่ฟ่านจะไม่เพียงมีร่างกายแข็งแรงปราศจากผู้ทัดเทียมเท่านั้น ความเข้าใจในเต๋าของเขาก็ลึกล้ำไม่แพ้กันอีกด้วย
นางเคยศึกษาตำราโบราณเล่มนี้อย่างละเอียดมาแล้วและนางรู้ดีว่าความลึกล้ำของตำราเล่มนี้เมื่อเทียบกับคัมภีร์อันยิ่งใหญ่เล่มอื่นๆมีแต่จะเหนือกว่าไม่มีทางเป็นรองอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านนิ่งเงียบ ปราณโลหิตสีทองมีปริมาณมากขึ้น มันห่อหุ้มเขาไว้อย่างแน่นหนา ทั่วทั้งร่างของเขาเบ่งบานด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ และร่างกายสีทองที่ไม่เสื่อมสลายนั้นเกือบจะโปร่งใสราวกับถูกเคลือบด้วยผลึกอีกชั้น
“ปัง!”
พลังโลหิตอันพุ่งพ่านระเบิดออกมาจากปากคลองเย่ฟ่าน ถ้าไม่ใช่เพราะอันเหมียวอี้วางค่ายกลป้องกันไว้ แม้แต่ตำหนักสราญรมย์ก็อาจจะพังพินาศในทันที
เย่ฟ่านกระอักเลือดออกมาอีกครั้งและเขาล้มเหลวในการรักษาตัวเองด้วยคัมภีร์โบราณ แม้แต่ญาณวิเศษอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถรักษาบาดแผลที่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่สร้างไว้
อันเหมียวอี้ประคองเย่ฟ่านจากทางด้านหลังและกล่าวว่า
"อย่าเพิ่งยอมแพ้!"
เย่ฟ่านนั่งนิ่งราวกับอยู่ในศาลสวรรค์โบราณที่เต็มไปด้วยฝุ่น พร้อมกับเข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว
“ปัง”
แรงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง เย่ฟ่านกระอักเลือดอย่างหนักและเลือดที่ถูกบ้วนออกมาก็มีสีทองปะปนอยู่เล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่การล้มเหลวสองครั้งซ้อนนี้ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนยากที่จะประคับประคองตัวเองให้ยืนขึ้นได้
เย่ฟ่านลืมตาและถอนหายใจ ทักษะศักดิ์สิทธิ์นี้มีความลึกล้ำไม่สิ้นสุด เขาเชื่อว่ามันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บจากเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่แน่นอนว่ามันย่อมไม่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม
"อย่ายอมแพ้ เจ้าต้องทำมันจนกว่าจะสำเร็จ" เหมียวอี้ไม่เต็มใจ
เย่ฟ่านส่ายหัวและพูดว่า: "มันยากเกินไป นี่คือการใช้แก่นแท้ของเลือดเพื่อบรรลุนิพพาน หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปข้าอาจจะตายก่อนพ้นคืนนี้"
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร… พระสาวกขององค์ศากยมุนีพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ว่าคัมภีร์โบราณแห่งการนิพพานเป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยในการรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าบาดแผลใดๆมันก็สามารถรักษาให้หายขาดได้..”
“พระสาวกของศากยมุนีพุทธเจ้าคือใคร”
เย่ฟ่านอยากรู้เรื่องนี้มาก เขาต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพระตถาคต
“ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” อันเหมียวอี้ส่ายหัว
ตำหนักสราญรมย์เดิมเป็นนิกายในทะเลทรายตะวันตก พวกเขามีมรดกทางพระพุทธศาสนาที่สูงส่งหาที่เปรียบไม่ได้
ต่อมานิกายของพวกเขาถูกแบ่งแยกสอง และตำหนักสราญรมย์ก็ถือหลักของวิชาการบ่มเพาะคู่จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นตำหนักสราญรมย์ตั้งแต่นั้น
พันปีมาแล้ว พระสาวกขององค์ศากยมุนีเดินทางกลับมาจากการท่องเที่ยวในดินแดนรกร้างตะวันออก เมื่อเขาผ่านดินแดนของตำหนักสราญรมย์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเดียวกันเขาก็แวะเข้ามาพักผ่อน
ในระหว่างนั้นเขากล่าวว่าวิธีการฝึกฝนของตำหนักสราญรมย์มีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้างจึงได้ทิ้งตำราเล่มนี้ไว้ก่อนจะเดินทางจากไป
“เจ้ารู้เรื่องของพระพุทธเจ้าหรือไม่” เย่ฟ่านถาม
“ข้ารู้เพียงว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยถึง” อันเหมี่ยวอี้ส่ายหัว
"อาการบาดเจ็บของสุดยอดเต๋ารักษาไม่หาย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้" เย่ฟ่านลุกขึ้นยืน
อันเหมียวอี้กอดเขาจากด้านหลังและกล่าวว่า
“พระสูตรนิพพานบวกกับวิธีการฝึกฝนคู่สูงสุดแห่งตำหนักสราญรมย์ของเรา ข้าไม่เชื่อว่าด้วยวิธีการนี้จะยังช่วยชีวิตเจ้าไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ยอมแพ้”