ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 146 หนอนบ่อนไส้(ฟรี)
สถาบันฝึกทหารจักรพรรดิเงียบผิดปกติ
ทางเดินแทบจะทุกทางเดินเงียบกริบ ชั้นภารกิจของนักเรียนที่มีระดับ 3 เป็นต้นไปแทบจะไม่มีใครเหลืออยู่
ในวิทยาเขตอันกว้างใหญ่มีนักเรียนกลุ่มนึงกำลังอยู่ในห้องฝึกซ้อม
เพราะว่าปีสองและปีสามออกไปทำภารกิจกำจัดที่ซ่อนของพวกอะบิซอลกันหมด
มีแค่นักเรียนปีหนึ่งเท่านั่นที่ยังใช้ชีวิตอยู่ในสถาบันอย่างปกติ
เข้าเรียนชั้นเรียนทั่วไปเพื่อหาความรู้ต่างๆ แต่เมื่อเร็วๆนี้พวกเขานักเรียนปีหนึ่งได้รับการสอนเกี่ยวกับคู่มือการเอาชีวิตรอดในกรณีที่ติดอยู่ในดันเจี้ยนเพียงลำพัง
กลวิธีที่พวกเขาสอนนักเรียนก็คือ: ใช้แกนสัตว์เวทมนตร์เป็นเหยื่อล่อเพื่อล่าศัตรู ศึกษาเรื่องสมุนไพรต่างๆไว้ในกรณีที่โดนพิษหรือไม่สบาย และเรียนรู้วิธีที่จะซ่อมระบบการสื่อสารขั้นพื้นฐานเอาไว้
แล้วก็มาถึงวิชาพิเศษ ผู้สอนได้อธิบายสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้เกี่ยวกับเส้นทางของพวกเขาอย่างเจาะจงไปแล้ว เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นระดับ 2 และบางส่วนเป็นระดับ 3 แต่ถึงแม้ว่าผู้สอนจะอธิบายอย่างละเอียดแต่การอธิบายก็กินเวลาไปไม่นาน
สิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อไปคือการฝึกฝน
ผู้สอนผู้ปลุกพลังร่างกายพานักเรียนไปยังดันเจี้ยนต่างๆ อะบิสกระจกกลวงและพาไปใช้เครื่องฝึกซ้อมต่างๆในสถาบัน
นักเรียนถูกสอนให้ทำงานเป็นทีมในขณะที่มีบางคนที่แยกออกไปฝึกคนเดียวเพื่อเหตุผลส่วนตัว
ตัวอย่างเช่น บางคนจดจ่ออยู่กับการควบคุมประสาทสัมผัสเพื่อที่ว่าเมื่อไปถึงระดับ 4 พวกเขาจะตื่นขึ้นในเส้นทางสายควบคุมของตัวเอง
คลาสการต่อสู้เป็นไฮไลท์ของวันเสมอ มีการดวลกันมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
นาร์ซิส ไรอันและอาดีร์ เป็นสามอันดับแรกอยู่เสมอและพวกเขาก็ใกล้ถึงขึ้นเป็นระดับ 4 ขึ้นทุกทีแล้ว
ซึ่งไม่ได้มีแค่ระดับของพวกเขาเท่านั่นที่เพิ่มขึ้นประสบการณ์ในการต่อสู้ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่พวกเขายังคงเป็นกบในกะลา พวกเขาไม่เคยเจออันตรายอะไรเลย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั่นที่พวกเขาเคยเจอกับอันตรายที่แท้จริงนั่นคือการถูกปล่อยไว้ในเดม่อนอะบิสในการสอบเข้า
ด้วยพลังการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ความมั่นใจก็เพิ่มมากขึ้นพวกเขาเริ่มที่จะรับภารกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งนี้เป็นเรื่องปกติทุกปีและมันไม่เคยมีปัญหาพวกเขาจะรับภารกิจที่ต้องเข้าไปในดันเจี้ยนและทำได้สำเร็จอยู่เสมอ
แต่ปีนี้นั่นแตกต่างออกไป ดันเจี้ยนเต็มไปด้วยผู้คนเนื่องจากผู้ปลุกพลังแทบทุกคนต้องการเข้าไปเพื่อฆ่าล้างบางพวกอะบิซอลที่อยู่ในดันเจี้ยน ภารกิจที่ต้องเข้าไปในดันเจี้ยนจึงแทบไม่มีเหลืออยู่
ดังนั้นคนที่ประสานงานของอาคารภารกิจจึงปวดหัวอย่างมาก ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้เขาจะหาภารกิจสำรองให้พวกนักเรียนปีหนึ่งได้ยังไง?
ผู้ชายชุดดำทั่งตัว เขาเหลือบมองไปที่ภารกิจที่ลดน้อยลง จากนั่นเขาก็จดจ่ออยู่กับข้อความที่นักสร้างฝันส่งมา
{กุญแจนี้สามารถให้คุณเข้าถึงที่ซ่อนใดก็ได้ของพวกอะบิซอล วิธีการสร้างถูกเข้ารหัสเอาไว้ที่ด้านหลังของกุญแจ ฉันหวังว่าคุณจะใช้มันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ฉันให้พลังที่คุณไม่อาจฝันถึงได้ แสดงให้ฉันเห็นเพื่อนมนุษย์ พวกคุณคุ้มค่าที่จะให้ฉันช่วยชีวิตไหม?
นักสร้างฝัน}
“ผู้ชายคนนี้คิดว่าเขาเป็นฮีโร่จริงๆงั้นเหรอ?” อันเวียร์กัดฟัน “ไอ้หมอนี่คงโชคดีที่ประดิษฐ์ของแบบนี้ขึ้นมาได้เท่านั่นแหละ ไอ้คนพวกนี้มันรู้ไหมว่ามันทำให้คนอย่างฉันใช้ชีวิตได้ยากขึ้นเป็นเท่าตัว”
ก๊อกๆ
"เข้ามา" อันเวียร์โบกมือด้วยความรำคาญ
เลขาสาวของเขาก้าวเข้ามาและโค้งคำนับเบาๆ “ท่านค่ะ ตระกูลแอสเตอร์เห็นด้วยกับข้อเสนอของท่าน พวกเขาจะอนุญาตให้เราเข้าไปที่เกาะของพวกเขาที่มีสัตว์เวทมนตร์ระดับ 3 ได้ค่ะ”
"นั่นถือเป็นข่าวดีสำหรับฉัน" อันเวียร์ถอนหายใจ
"ตระกูลแอสเตอร์จะได้รวบรวมข้อมูลนักเรียนเพื่อเอาไปใช้ในอนาคต ตระกูลมาร์ตินกับกันโบลด์เราก็ยื่นข้อเสนอให้กับมันไปแล้วถือว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมาก" อันเวียร์เลิกคิ้วขึ้นและคิดในใจ
เขาใช้เวลาเกือบทั้งสัปดาห์กับลูกสาวที่น่ารักของเขาและตัดขาดจากโลกภายนอก เขาฉลองวันเกิดของลูกสาวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์..
อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่าเขาขอให้ส่งเรื่องไปหาทั่ง 3 ตระกูลนี้ก่อนที่จะไปหาลูกสาวถึง 1 อาทิตย์
'ตระกูลมาร์ตินจะแอบทดสอบยาของพวกเขากับนักเรียนที่บาดเจ็บของเรา ตระกูลกันโบลด์จะใช้พวกนักเรียนเพื่อเดินเปิดเส้นทางในเหมืองขนาดใหญ่ที่อันตราย'
“ท่านค่ะ แต่ตระกูลมาร์ตินและตระกูลแกนโบลด์” คำพูดของเลขาทำให้เขาล่นลาน
'เวรเอ้ย มีอะไร!' อันเวียร์ตะโกนออกมา
'มีบางอย่างเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ฉันไม่อยู่สินะ พวกเขาปฎิเสธข้อเสนอของฉันงั้นหรอ' อันเวียร์พูด
“ตระกูลมาร์ตินและตระกูลกันโบลด์ไม่ใช่กองกำลังชั้นหนึ่งอีกต่อไปแล้ว” เสียงของเลขายังคงไม่มั่นใจ เธอเองก็ไม่อยากเชื่อคำพูดของตัวเองเหมือนกัน
"อะไรนะ?!" อันเวียร์กระแทกโต๊ะของเขาในขณะที่เขากำลังจ้องไปที่เลขา แสงสีแดงส่องลงบนมือของเขา “แกคิดว่าแกจะหลอกฉันได้ยังงั้นหรอ!”
แรงกดดันของผู้ปลุกพลังไฟระดับ 7 กดทับเลขาในทันที ความร้อนไม่ได้ทำให้เสื้อผ้าของเธอไหม้แต่กลับทำร้ายผิวหนังของเธอโดยตรง
ผิวหนังของเธอไหม้อย่างรวดเร็วและเลือดของเธอก็ระเหยก่อนที่จะหยดถึงพื้นด้วยซ้ำ
“ทะ ท่านค่ะ ดู..ข่าวสิค่ะ” เธอทรุดตัวลงกับพื้นและอ้อนวอน
อันเวียร์หยุดการใช้พลังชั่วคราวและอุณหภูมิก็เย็นลง เขาเช็คข่าวในระบบการสื่อสารของเขาโดยที่ไม่สนใจเลขาเลยสักนิด
{ตระกูลมาร์ตินกับล้มละลายทางการเงินอย่างหนัก
ตระกูลกันโบลด์เผชิญกับภัยพิบัติที่ไม่เคยเจอมาก่อน}
อันเวียร์ลงบนเก้าอี้และโลกของเขาก็มืดมน
“ไม่!ไอ้เวรเอ้ย!” เขากำผมแน่นไว้แน่นและเห็นเลขาคุกเข่าอยู่ข้างหน้าเขา
ตอนนี้เขากำลังโกรธอย่างมาก เขาจึงใช้มือตบไปในอากาศ
ตู้ม!
ฝ่ามือไฟทุบเธอลงกับพื้นขณะที่ร่างของเธอกระตุกด้วยความเจ็บปวด ผิวหนังของเธอกำลังละลายและการหายใจของเธอก็เกือบจะดับลง
อันเวียร์รู้ว่าเขาไม่สามารถฆ่าเธอได้เพราะถ้าฆ่าไปแล้วจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
"ช..ช..ช่วย"
แต่เขากลับต้องการที่จะระบายอารมณ์มากกว่านี้
ในขณะที่ฝ่ามือไฟอีกอันกำลังจะทุบใส่เธอ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
อุณหภูมิลดลง เขารู้สึกง่วงและร่างกายของเขาก็เย็นลงด้วย
"อาร์ก" เขาพยายามกระตุ้นร่างกายด้วยไฟและทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้ผล
เขาเห็นผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาทางประตู คนนึงเป็นวัยรุ่นอีกคนนึงเป็นวัยกลางคนเดินเข้ามาก่อนที่เขาจะสลบไป
“ชะ...ชะ..ช่วยด้วย..”
ซาร่าห์ถอนหายใจและหยิบยารักษาออกมา
ก่อนที่เธอจะก้าวไปให้ยากับผู้หญิงคนนั่น แอนนาก็ชิงตัดหน้าให้ยาเธอก่อนซาร่าห์
ซึ่งยาที่แอนนาให้นอกจากจะมียารักษาแล้วยังมียาสลบผสมอยู่ด้วย
แอนนามองดูใบหน้าที่งงงวยของซาร่าห์และหัวเราะ “เรามาที่นี่อย่างลับๆ มันจะดีกว่าถ้าเธอจะสลบจนกว่าเราเปิดโปงมันได้นะคะ”
แม้ว่าซาร่าห์จะไม่ชอบวิธีการนี้สักเท่าไร แต่เธอก็รู้ว่าการทำแบบนี้คือสิ่งที่ถูก
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปตามทางลับและกลับไปที่คฤหาสน์ของซาร่าห์ คฤหาสน์มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกทุกอย่าง
สิ่งที่ทำให้คนอื่นอิจฉามากที่สุดก็คงจะเป็นบริเวณนั่นเป็นบริเวณที่มีความเข้มข้นของออร่ามากกว่าที่อื่นถึงสามเท่า
แน่นอนว่ามีเพียง 10 อันดับแรกของ พลอยม่วงเท่านั้นที่จะได้อาศัยอยู่แบบนี้
หลังจากล็อคผู้หญิงที่บาดเจ็บและให้ AI ดูแลเธอแล้ว พวกเขาก็มาถึงห้องใต้ดินของคฤหาสน์
แอนนาโยนร่างของอันเวียร์ลงกับพื้นและมือของเธอกลายเป็นสีฟ้า
ผั๊วะ!
แส้น้ำแข็งปรากฏในมือของเธอและฟาดใส่อันเวียร์
“อ๊ากกกก!”
ขณะที่อันเวียร์ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เสียงที่ไร้ความปราณีก็ทักทายเขา
"อันเวียร์ คุณเปิดเผยข้อมูลภารกิจล่าสุดให้ใครฟัง"