ตอนที่ 671+672 เขาเป็นคนดีจริง ๆ
ตอนที่ 671 เขาเป็นคนดีจริง ๆ
ในตอนแรก ลู่ชิงสียังติดอยู่กับความคิดที่ว่า หวงเฉินจิ้ง ผู้เป็นพ่อนั้นไม่น่าพึงพอใจเท่าไหร่ แต่ลูกสาวของเขาน่าพอใจ วินาทีถัดมา เมื่อเขาได้ยินประธานหวงกล่าวว่าครอบครัวหวงอยู่ติดกับบ้านหลังนี้ และจะกลายเป็นเพื่อนบ้านกันในอนาคต สีหน้าของเขาก็หยุดนิ่ง
ดังนั้นเขาจึงเลือกบ้านที่เขาพอใจอย่ามาก ในท้ายที่สุดกลับกลายเป็นการทำให้ลู่อี้ชิงได้ใกล้ชิดกับคนที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นอย่างหวงเฉิงจิ้งหรือนี่?
“โอ้” มุมปากของลู่ชิงสีกระตุก “ผมมีธุระต้องไปต่อ ขอตัวก่อนนะครับ” หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็เรียกผู้จัดการซุนและขับรถออกไป
ประธานหวงมองออกว่าลู่ชิงสีนั้นเป็นคนเลือดเย็นอย่างมาก นางเซี่ยอาวุโสเห็นท่าทางของเพื่อนบ้านเก่า เธอจึงรีบอธิบาย
“ชายหนุ่มคนนั้นไม่ค่อยพูด ตอนดูบ้าน คนที่เจรจาก็เป็นชายที่ชื่อซุน แต่เขาก็ดูเป็นคนดีนะ” ในสายตาของคุณย่าเซี่ย ผู้ชายที่รักภรรยาของตนเองมักจะไม่ใช่คนไม่ดี
“เขาเป็นทหาร” ประธานหวงพยักหน้า “พ่อของเฉินเฉินเคยพูดถึงเขาบ้างแล้วล่ะครับ ภรรยาของเขาเป็นคนช่วยชีวิตผมไว้ พี่สาวของเขาก็เป็นคนที่ช่วยเฉินเฉิน เจ้าเด็กน่ารำคาญคนนี้”
“นั่นล่ะโชคชะตา!” ชายชราที่ไม่ได้พูดอะไรมากมีความยินดี “ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ขายบ้านหลังนี้ผิดนะ! ในอนาคตพวกคุณก็เป็นเพื่อนบ้านกัน คุณจะได้มีโอกาสตอบแทนพวกเขาด้วย”
หากหวงเฉิงจิ้งอยู่ที่นี่ เขาจะพูดอย่างแน่นอนว่าเพื่อนบ้านจะไม่ใช่เพียงเพื่อนบ้าน ทว่าตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่ยากจะพูดออกมา
นั่นเป็นเรื่องจริง หลังจากขับรถออกไป ใบหน้าของลู่ชิงสีก็เย็นชาตลอดเวลา
“ทำไมคุณไม่บอกว่า ตระกูลหวงอยู่บ้านข้าง ๆ?” ลู่ชิงสีถามผู้จัดการซุน
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” ผู้จัดการซุนไม่เข้าใจว่าทำไมคุณชายลู่ถึงได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ได้เห็นประธานหวง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและสอบถามไปว่า “จริง ๆ แล้ว มีเพื่อนบ้านเป็นตระกูลหวงก็ไม่เลวนะครับ ครอบครัวนี้ทุกคนน่ารักมากและมีชื่อเสียงในเมืองหนานเจียง ประธานเจียงและประธานลู่ก็รู้จักพวกเขาด้วย ถ้าคุณชายลู่ไม่อยู่ เพื่อนบ้านจะได้ช่วยดูแลพวกเขาไปด้วย”
“หาบ้านที่อื่น ให้ห่างจากที่นี่ให้มากที่สุด!” ลู่ชิงสีสูดลมหายใจ “บ้านหลังนี้ก็ขายไปซะ ไม่สำคัญหรอกว่าจะเสียเงินไปเท่าไหร่?”
สัญญาซื้อขายบ้าน ได้ลงนามไปแล้ว เงินก็น่าจะถูกโอนไปแล้วเช่นกัน คงจะสายเกินไป หากจะขอคืนเงิน
ดังนั้นลู่ชิงสีจึงต้องการขายบ้าน
ไม่ว่าในกรณีใด เขาไม่สามารถอนุญาตให้พี่สาวของเขามีความสัมพันธ์กับตระกูลหวง โดยเฉพาะหวงเฉิงจิ้งที่มีลูกสาวอยู่แล้ว ใครจะไปเป็นแม่เลี้ยงกันได้ง่าย ๆ
พี่สาวของเธอถูกทำร้ายจากตระกูลจ้าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องถูกทำร้ายในบ้านของคนอื่นอีกต่อไป
ผู้จัดการซุนพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าคุณชายลู่ไม่อยากจะเป็นเพื่อนบ้านกับตระกูลหวง ความคิดนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาเข้าใจผิดไปเอง
อารมณ์ของลู่ชิงสีไม่ดีตลอดทั้งวัน เมื่อเขาไปรับเจียงเหยากลับโรงแรมในตอนกลางคืน เขาเห็นว่าเจียงเหยามีความสุขเพียงใด เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นเพื่อนบ้านกับหวงเฉินเฉิน ทำให้เขายิ่งรู้สึกเศร้าไปใหญ่
“ผมขอให้ผู้จัดการซุนขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว” ลู่ชิงสีนั่งไขว่ห้างบนโซฟา พร้อมกับหมุนแก้วในมือของเขาไปด้วย “หวงเฉินเฉินเป็นเด็กน่ารักก็จริง แต่เธอมีพ่อที่ไม่เหมือนใคร”
“คุณนี่ใจแคบจริง ๆ เพียงเพราะหวงเฉิงจิ้งชอบพี่สาวของคุณนี่นะ?” เจียงเหยากลอกตา
“ไม่ใช่ว่าฉันเข้าข้างหวงเฉิงจิ้งนะคะ อันที่จริง ฉันคิดว่าหวงเฉิงจิ้งเป็นคนดีทีเดียว เขามีชื่อเสียงในเมืองหนานเจียง เป็นคนอบอุ่น ดีต่อคนอื่น และเป็นคนที่มีคุณธรรม”
ลู่ชิงสีซึ่งเดิมทีก็เกลียดชังหวงเฉิงจิ้งอยู่แล้ว พอได้ยินเจียงเหยายกเลิกหวงเฉิงจิ้งติดต่อกันถึงสองสามคำ เขาก็ยังไม่ชอบหวงเฉิงจิ้งเพิ่มไปอีก
__
ตอนที่ 672 ความขุ่นเคือง
“เหยาเหยา คุณไม่เคยยกย่องผมแบบนี้บ้างเลย” ลู่ชิงสีกัดฟัน
คำพูดของเจียงเหยาขาดหาย เธอหุบปากไปทันที
หากเธอพูดต่อ เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่าครั้งต่อไปที่ลู่ชิงสีได้เจอกับหวงเฉิงจิ้ง เขาจะลุกไปต่อยอีกฝ่ายทันทีหรือไม่
ชายคนนี้แหลมยังกับเข็ม
“อ้อใช่ พี่รองบอกฉันว่า เที่ยวบินของทีมวิจัยจะมาถึงเมืองหนานเจียงประมาณหกโมง ฉันได้ตกลงกับพี่รองว่าพรุ่งนี้เช้า เราจะขับรถสองคันเพื่อนไปรับเขาไปส่งที่โรงแรม” เจียงเหยาเปลี่ยนเรื่องอย่างชาญฉลาด “คืนนี้เราก็นอนกันเร็วหน่อยดีกว่า พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปกับคุณ”
ลู่ชิงสีดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง เขาพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้อง
เพิ่งจะสามทุ่ม สถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองหนานเจียงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น
ในคลับเฮ้าส์ส่วนตัวแห่งหนึ่งของเมืองหนานเจียง จูเฉียนหลียงส่งแขกกลับไป เขามองไปที่จูเฉียนหลานที่กำลังหน้าซีด หันกลับมา จุดบุหรี่และเริ่มสูบบุหรี่
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “คืนนี้ก็รีบกลับบ้านให้เร็วหน่อย จะได้ไปเก็บของ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายออกไปจากหนานเจียงพร้อมกับฉัน”
“ฉันรับไม่ได้!” จูเฉียนหลานกำหมัดแน่น “ทำไมฉันต้องไปจากที่นี่ด้วย? ทำมฉันถึงไม่สามารถอยู่ในเมืองใหญ่แบบนี้ได้”
“แต่ฉันปล่อยให้เธอตาบอดอยู่ที่นี่ไม่ได้” จูเฉียนเหลียงมองไปที่จูเฉียนหลาน ซึ่งยังคงทำท่ากระตุกพร้อมกับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ถ้าเธอไม่ไป ธุรกิจของตระกูลจูทั้งหมดจะต้องหายไปจากเมืองหนานเจียง เศรษฐกิจของเมืองหนานเจียงกำลังพัฒนาไปด้วยดี เธอหรือไหม? ถ้าปู่รู้ว่าเป็นเพราะเธอ ที่ครอบครัวจูต้องถอนตัวจากตลาดเมืองหนานเจียง เธอคิดว่าปู่จะลงโทษยังไง”
จูเฉียนเหลียงสูบบุหรี่ของเขาอย่างโกรธจัดและตบลงที่โต๊ะ “เธอเข้าใจสิ่งที่คนคนนั้นพูดในตอนนี้ใช่ไหม? ฉันไม่จำเป็นต้องพูดย้ำกับเธออีก? คุณชายลู่ขอให้เธอออกไปจากเมืองหนานเจียง อย่าอยู่ขวางหูขวางตาภรรยาของเขาอีก! ตอนที่มาเมืองหนานเจียงแรก ๆ พ่อกับแม่บอกอะไรเธอ? ท่านบอกแล้วนี่ว่าให้เธอถ่อมตัวลง ครอบครัวจูไม่ใช่คนท้องถิ่นเมืองหนานเจียง!”
“เราเริ่มต้นธุรกิจที่นี่จากศูนย์”
“แล้วเธอเล่า?”
“ถ้าเธอรู้จักฟังคำสอบของพ่อแม่ เธอจะถูกไร้ออกจากเมืองหนานเจียง ด้วยวิธีไร้ยางอายไหม!”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัทของตระกูลจูมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จูเฉียนเหลียงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจัดการกับมัน
คืนนี้ เขาเพิ่งทราบจากคนอื่น ๆ ว่าเหตุผลเป็นเพราะมีคนเตือนตระกูลจู ว่าหากพวกเขายังให้จูเฉียนหลานอยู่ในเมืองหนานเจียงต่อไป พวกเขาจะจัดการให้บริษัทจูทั้งหมดออกไปจากเมืองหนานเจียง
เมื่อได้ยินว่าทั้งหมดเกิดจากจูเฉียนหลาน จูเฉียนเหลียงก็โกรธมากจนเขาอยากจะต่อว่าพี่สาวคนนี้ที่ได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขา
เมื่อคำพูดนั้นออกมาจากออกมาจากปากเขาคนนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าซีดของจูเฉียนหลาน จูเฉียนเหลียงจะไม่มีกระจิตกระใจจะต่อว่าเธอ เขาแค่บอกให้เธอเก็บของแล้วออกไปจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด
เมื่อเห็นว่าจูเฉียนหลานยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้จูเฉียนเหลียงโกรธมากและอดไม่ได้ที่จะต่อว่าเธอ
“เจียงเหยา มีสิทธิ์อะไร...” จูเฉียนหลานนั่งอยู่ที่เดิม ดวงตาของเธอแดงด้วยความโกรธ “มันไล่ฉันออกจากเมืองหนานเจียงด้วยเหตุผลอะไร!”
“เหตุผลที่พี่ไปทำให้เธอโกรธไง เหตุผลที่สามีของเธอมีความสามารถด้วย!” จูเฉียนเหลียงเยาะเย้ย “พี่ ถ้าฉันเป็นเจียงเหยา ฉันก็จะทำแบบเดียวกัน”
หลังจากที่รู้ถึงการกระทำอันโง่เขลาของจูเฉียนหลานที่เมืองรงแล้ว จูเฉียนเหลียงก็ไม่มีอารมณ์ที่จะตำหนิเธออีกต่อไป